“คุณรู้จักฉันมาก่อนด้วย”
เขารีบพยักหน้า
“ใช่ครับ คุณเป็นทนายความ”
การเดาของชายหนุ่มที่หน้าตาค่อนข้างดี คนนี้ถูกต้อง
และเขาไม่ได้มีกิริยารุ่มร่ามหรือเจ้าชู้กับหล่อน
ทำให้ชฎาเดือนยินดีที่จะตอบเขาด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น
“แสดงว่า คุณรู้จักฉันจริงๆ ใช่ค่ะ ฉันเป็นเจ้าของบริษัทสำนักงานกฎหมาย ที่รับว่าความทั่วราชอาณาจักร และเป็น
ทนายความ”
EP 05
ไอยวุธยิ้มให้หล่อน ด้วยใบหน้าที่กระจ่างใส
ปลายศกดูเหมือนจะตกตะลึง ที่เพื่อนของเขาที่ดูเหมือนจะเข้าไปทำความสนิทสนมกับผู้หญิงสวยคม คนนี้ได้สำเร็จ
เขาไม่นึกว่า ไอยวุธจะเก่งอย่างนี้ ในการตีสนิทกับสาวสวย
แต่ก็อดทึ่งไม่ได้
เขายอมรับว่า ไอยวุธหล่อเหลาคมคาย
แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบก็คือ มีใครชื่นชมไอยวุธที่หล่อมากกว่าเขา
เขาไม่อยากจะฟัง
เพราะเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี ในหัวสมองของเขา
ชฎาเดือนยังจ้องภาพนั้น
ผู้ชายคนนั้นที่หน้าตาค่อนข้างดี เขาจ้องมาทางหล่อน
เป็นใครกัน?
เมื่อเขาถามและหล่อนก็ตอบ รู้สึกว่าเขามีคำพูดที่สุภาพ น่าฟัง
และไม่ได้รุ่มร่าม
“ผมขอนั่งลงด้วยคนนะครับ คุณชฎา”
ชฎาเดือนมองหน้าเขานิดหนึ่ง
“เชิญค่ะ”
เมื่อเขาทรุดนั่งลงแล้ว ก็มองไปที่สาวตรงหน้า
ซึ่งเป็นดาวียาเพื่อนของหล่อน
จึงแนะนำ
“นี่ดาวียาเพื่อนของฉันค่ะ”
“เอ๊ะ ผมรู้สึกคุ้นหน้าตานะครับ”
ไอยวุธถามออกไป เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
คราวนี้หญิงสาวคนดังกล่าวเป็นคนบอก
“ใช่ค่ะ คุณอาจจะคุ้นหน้าของฉัน เพราะฉันทำงานในวงการบันเทิง ฉันชื่อ ดาวียา มีอาชีพเป็นนางแบบ”
“ใช่แล้ว ผมถึงคุ้นเคบกับหน้าตาของคุณ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณดาวียา ส่วนผมเรียกสั้นๆว่า ไอก็ได้ครับหรือวุธก็ได้ ผมมีสองชื่อ แต่ที่ผ่านมาก็มีเพื่อนเรียกทั้งสองชื่อเช่นกัน”
ไอยวุธบอกพร้อมยิ้มให้กับสองสาว
“เอ้อ คุณมากับใครล่ะคะ ดูเหมือนฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินตามมาด้วย”
เมื่อดาวียาถาม
ไอยวุธจึงตอบ
“เอ้อ เพื่อนครับ เขานั่งอยู่ทางโน้น”
ดาวียาเหลือบสายตามองอีกครั้ง
ที่หล่อนคิดว่าเป็นเพื่อนของเขา
แต่ดูจากสวายตาแล้วผู้ชายคนนี้เป็นคนเจ้าชู้
หล่อนก็พร้อมที่จะเบือนเมินไปทางอื่น
และท่าทางเช่นนั้น เหมือนจะยี้ใส่เขา ทำให้ปลายศกเดินเข้ามาที่โต๊ะอย่างไม่พอใจ
“คุณผู้หญิงมีท่าทางเหมือนไม่พอใจผมนะครับ”
กับคำพูดที่ชายหนุ่มตรงหน้ากล้าถาม
ดาวียานางแบบสาวสุดฮอต ก็กล้าที่จะตอบ
“ก็ใช่ค่ะ ฉันไม่พอใจ โดยเฉพาะลูกตาของคุณ”
จบคำของดาวียา
ปลายศกเถียงออกมา
“ลูกตาของผม มันเป็นยังไง มันเป็นอย่างนี้แล้วหนักหัวใครหรือเปล่า?”
ไอยวุธเห็นว่าเพื่อนของเขาพูดรุนแรงไป กับเพศที่อ่อนแอ
ไม่เหมาะสม และควรสุภาพมากว่า ซึ่งกลัวจะเกิดเรื่องหนัก จึงห้ามปราม
“เฮ้ย หยุดก่อน อย่าให้มันลามปามมากไปสิวะ ยังไงนายก็ต้องรู้ว่า คุยอยู่กับผู้หญิงเพศที่อ่อนแอ ก็ควรที่จะให้เกียรติแก่คุณสุภาพสตรีด้วย”
ไอยวุธตอบ
แต่ปลายศกเห็นเป็นขบขัน ทั้งหมั่นไส้เพื่อนที่เสนอหน้ามาเป็นพระเอก
เขาเลยได้สาดใส่คำพูดไปกระทบถึงไอยวุธ
“ฮึ นายมันสุภาพ อยากเป็นพระเอกหรือไง”
เมื่อปลายศกถามอย่างนี้
ด้วยคำพูดที่ไอยวุธนึกไม่พอใจ
สีหน้าของเขาเข้ม แต่พยายามระงับอารมณ์
ที่ปลายศกพูดด้วยโทสะ
คงเป็นเพราะเหล้าพาไป
“นายเมามากแล้ว ควรควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองไว้บ้าง”
ไอยวุธพูดเตือนด้วยความหวังดี
“อย่ามายุ่งเลยโว้ย”
ปลายศกออกท่าทางเหมือนอย่างนักเลง
ชฎาเดือนที่นิ่งฟังอยู่ด้วยชักจะเหลืออด
เพราะผู้ชายคนนี้ก้าวร้าว พาลเหมือนคนบ้า
ไม่ให้เกียรติหล่อน เหมือนกับเพื่อนของเขา
ที่เข้ามาทักทายหล่อน อย่างคนที่อยากจะรู้จัก
และวาจาของผู้ชายพาลคนนี้ หยาบและเหมือนสถุลเกินไป
นัยน์ตาของหล่อนจึงจ้องเข้ม และเม้มเรียวปากแน่นอย่างไม่พอใจ
“ถ้าคิดจะหาเรื่อง กรุณาไปที่อื่นเสียเถอะค่ะ ที่นี่ไม่ต้องการคนพาลสันดานหยาบมาบ่นใกล้หู”
ชฎาเดือนกรีดเสียงเข้มและคมกริบ
แววตาของหล่อนก็มาดร้ายอยู่ในที พร้อมที่จะสาดใส่
“อ้อ หาเรื่องใช่ไหม”
คำพูดของปลายศกยังพาลอีก
จนไอยวุธต้องฉุดดึงแขนเพื่อนออกเสียห่างๆ
ฝ่ายนั้นจึงโวยวาย เมื่อถูกเพื่อนรักฉุดแขนเหมือนไม่พอใจ
“เฮ้ยไม่ต้องฉุดกู จะมีเรื่องมีอะไรหรือเปล่า”
ซึ่งเมื่อเป็นคนพาลแล้ว สันดานก็ยังไม่เลิก
“ไอ้บ้า หยุดคำพูดของมึงเดี๋ยวนี้เลยนะ หุบปาก”
ไอยวุธก็สุดจะเหลือทนเลยด่าห้ามปรามเพื่อน
ต่อยไปที่หน้า เพื่อให้เพื่อนรู้สำนึก
ทำให้ปลายศกหน้าคะมำจมไปกับพื้น
แล้วไอยวุธจึงดึงฉุดร่างเพื่อนที่ล้มให้ลุกมายืน โดยเขาประคองร่างไปนั่งที่เดิม
สั่งบอกเพื่อน
“หายซ่าแล้วก็นั่งตรงนี้ก่อน อย่าเที่ยวหาเรื่องอีก เดี๋ยวฉันจะกลับมา”
ไอยวุธพูดจบก็เดินตรงไปที่โต๊ะของสองสาว
ซึ่งชฎาเดือนได้เห็นแล้ว ก็อยากจะขอบคุณเขา
“ขอบคุณนะคะ ที่คุณจัดการพวกเมาแล้วซ่าให้”
ไอยวุธทรุดนั่ง แต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา
เพราะเขารู้สึกเจื่อนซีด ที่ทำแบบนี้กับเพื่อน
แต่ว่าปลายศกก็สมควรโดนที่เมาแล้วพาลแบบนี้
ทำตัวเหมือนไม่ได้เป็นผู้เป็นคน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เพื่อนผมเอง”
ชฎาเดือนมองเขา
หล่อนเน้น
“เพื่อนของคุณหรือคะ ฉันนึกว่า สัตว์หลุดออกมาจากป่าเสียอีก”
คำพูดของหล่อนแรงด้วยคำที่คมกริบ
จนไอยวุธต้องระมัดระวังตัวและนิ่งเงียบ
ไม่อยากพูดจาอะไรออกไป โดยที่หล่อนเหน็บกลับมาอีก
“ผมเองก็อยากโทษตัวเองเหมือนกัน ที่ทำให้เพื่อนแสดงกิริยามารยาทที่ไม่ดีได้”
“อ้าว เรื่องนี้ มันอยู่ที่คนต่างหากค่ะ จะมาโทษตัวเองทำไมคะ ผู้ชายคนนั้น เขากับคุณ มันก็ต่างกัน”
เขาพยักหน้า
“แต่ว่าผมก็ต้องดูแลเขา”
“มันอยู่ที่ความเป็นคนของเขามากกว่า ว่าจะแสดงความเป็นคน หรือว่าเป็นอย่างอื่นออกมา”
ชฎาเดือนขอละไว้ในฐานะที่เข้าใจ
ซึ่งผู้ฟังก็เข้าใจ
จึงได้คิดว่า ผู้หญิงคนนี้ มีวาจาที่คมกริบ บาดอารมณ์นัก
แต่เขาก็ชอบคำพูดของหล่อน ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจโลก
สมควรที่จะกลับได้แล้ว แต่เขาก็อยากจะรั้งเวลาที่ได้อยู่กับหญิงสาวที่เพิ่งมาพบ ให้นานที่สุด
ทั้งชฎาเดือนเองก็เอมอิ่มกับบรรยากาศและรสชาติความสนุกในร้าน ที่มีเสียงเพลงคลอเคล้าในช่วงหลัง
ดับความโกรธของหล่อนลงได้บ้าง
อย่างที่เขาบอกกันไว้ว่า ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
สำหรับไอยวุธถือว่าโชคดีและเป็นบุญตาของเขา ที่ได้เจอหล่อน
และมันมีช่องทาง ที่เขาอยากจะสานสันพันธ์กับหล่อนมากกว่านี้
ก็ยังไม่รู้ว่าหล่อนมีใครหรือเปล่า
และเพิ่งคบหารู้จักหล่อน เขาไม่เอ่ยคำนี้แน่
ได้แต่ส่งยิ้มให้หล่อนอย่างสุภาพ
ในเมื่อเธอกับเพื่อนสาวขยับลุก เพื่อจะเดินออกไป
“หวังว่าเราคงได้เจอกันใหม่อีกครั้งนะคะ คุณไอ โชคดีค่ะเพราะดิฉันกับเพื่อนเห็นทีจะต้องกลับก่อน แล้วดึกแล้ว อยากนอนพักผ่อนเต็มที่ค่ะ”