ชฎาเดือนจึงได้อาบน้ำแต่งตัวใหม่
แล้วขับรถออกจากบ้าน
และพี่ชายของหล่อนก็ยังไม่กลับมาเช่นกัน
นี่เขาไปเมาหัวราน้ำหรือไปนอนที่บ้านใคร
พี่ชายของหล่อน ประกัลย์
เขาหลงรักนางแบบสาวชื่อดัง ที่หล่อนชื่อวไลยรันดา
แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้หยุดความรัก อยู่ที่แค่ผู้ชายเพียงคนเดียว ชฎาเดือนคิด
หล่อนกำลังคิดหาทางป้องกันที่จะไม่ให้พี่ชายไปมั่วหรือยุ่งเกี่ยวกับนางแบบสาวเจ้าเสน่ห์
แต่หล่อนก็มีผู้ชายมากหน้ามาติดพัน
เพราะเกรงกลัวสิ่งเดียวว่า วไลยรันดาจะหลอกปอกลอกพี่ชายของหล่อนจนหมดตัว
ไปถึงที่นัดหมายก็พบว่า ดาวียานั่งรออยู่แล้ว
“ฉันมาช้าไปหรือเปล่า แล้วนี่เธอคอยฉันนานหรือเปล่า วียา”
ชฎาเดือนถามเพื่อนสาว ที่เป็นนางแบบเช่นกันกับผู้หญิงที่พี่ชายของเขาหล่อนไปยุ่งด้วย
“ก็ไม่ได้คอยนานหรอกจ้ะ ชฎาไม่ต้องคิดมากเลย อย่าซีเรียส ต้องอารมณ์ดีจ้ะ เพราะฉันไม่อยากให้เธอรีบแก่เกินอายุ”
คำที่ดาวียาเพื่อนสาวเอ่ย
ทำให้ชฎาเดือนยิ้ม
“ขอบคุณย่ะ คำที่หวังดี และพรที่ประเสริฐของเธอ ฉันคิดว่า ให้มันย้อนกลับไปหาผู้ให้อย่างเธอนี่ล่ะ ดาวียา”
ดาวียายิ้มอีกครั้ง
“ฉันก็ดีใจสิ รับได้เสมอ”
แล้วถามเพื่อนสาวอีก
“ว่าแต่เธอไม่เครียดแล้วนะ”
ที่ดาวียาถาม เพราะชฎาเดือนเป็นทนายความสาว
ซึ่งต้องพบเจอแต่เรื่องที่ผ่านมาแต่ละวัน ต้องเครียดๆสุด
เพราะบางครั้งก็เคยเห็นชฎาเดือนบ่นให้ฟัง
“ก็เครียดบ้าง ไม่ได้เครียดบ้าง แต่ฉันก็รับได้อยู่แล้ว เพราะทำงานจนชิน”
“ฉันก็คิดอย่างนั้นล่ะ”
ดาวียาตอบเพื่อน
ไม่ได้บ่อยครั้งนักที่หล่อนจะออกมาสนุกสนานกับเพื่อนจนเลยเถิดอย่างนี้
เนื่องจากว่า ชฎาเดือนห่วงงาน
งานที่หล่อนทำเป็นเจ้าของบริษัท รับว่าความทั่วราชอาณาจักร
เพียงแค่นี้ก็บ่งบอกว่าหล่อนแกร่งแค่ไหน
ทั้งศึกเหนือเสือใต้ นางสิงห์สาวอย่างหล่อนลุยไม่ยอมถอย
จนความสำเร็จทุกวันนี้ เป็นเพราะความอดทนและจริงใจ
ดาวียาไปชวนต่อ
เนื่องจากเพื่อนสาวอยู่ในวงการ รู้จักเพื่อนฝูงมากมาย
จากร้านอาหาร ทำให้ไปต่อที่ผับ
เวลานี้ทำให้ชฎาเดือน ลืมที่จะกลับไปทานอาหารฝีมือแม่ที่บ้าน
เพราะหล่อนอิ่มแล้ว
แต่การมาเที่ยวสนุกอย่างนั้น
ก็เป็นการคลายเครียดให้กับชีวิตประจำวันเป็นอย่างดี
หล่อนไม่เคยปลดปล่อยอะไรอย่างนี้
ทำให้รู้สึกโล่ง และไม่มีอะไรมากดดันสมอง เหมือนเมื่อตอนที่คร่ำเคร่งกับงานอย่างหนัก
สีหน้าของชฎาเดือนก็บอกถึงรอยยิ้ม
และหล่อนสนุกสนานสุดเหวี่ยงกับเพื่อน
โดยชฎาเดือนลุกออกไปเต้นรำ และสนุกสนานสุดเหวี่ยงกับดาวียาเพื่อนสาวและกลุ่มเพื่อน
และสายตาที่เพ่งมองมา คือหนุ่มสังคมที่เจ้าชู้
เขาคืออัครทิตย์
เขาไม่เคยว่างเว้นเลยที่จะมาผับหรูแห่งนี้
เพราะมีอะไรให้สนใจหลายอย่าง ทั้งผู้หญิง และสีสัน นอกจากนั้นมีอะไรที่เขาหาไม่ได้จากที่อื่น
โดยเฉพาะแจ่มแจ๋วทั้งนั้น
เป็นเหตุผลที่เสือราตรีอย่างเขาจะต้องมา
หญิงสาวที่ไม่เด่นมาก แต่เขาพบหล่อนคราวนี้ กลับสะดุดตา
หล่อนไม่ได้แต่งกายจัดจ้านเหมือนผู้หญิงบางคนแต่ดูเรียบร้อยอ่อนหวานในตัว
ที่สำคัญบุคลิกของหล่อน และนัยน์ตาที่หวานคม
ความจริงหล่อนไม่ใช่ใคร?
ชฎาเดือนนี่เอง
วันนี้ชฎาเดือนแอบเปรี้ยวนิดๆในสไตล์ของหล่อน
ที่เรียกว่า หล่อนสลัดภาพยัยเพิ้งที่เอาแต่บ้างานออกไปได้ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น
เพราะพรุ่งนี้เช้า ยัยเพิ้งที่บ้าแต่งานก็สิงสู่สมองและหัวใจของหล่อนเช่นเดิม
“เราไม่เคยเห็นชฎาทำอะไรอย่างนี้มานานแล้ว สุดๆเลยนะจ้ะ”
การชมของดาวียาเพื่อนรัก ที่มีต่อภาพที่ ชฎาเดือนเต้นโชว์สุดเหวี่ยงเมื่อครู่
เป็นเพราะจังหวะเพลงที่ครึกครื้น มันมากกว่า
ชฎาเดือนจึงมีอารมณ์พลอยสนุกสนานร่วมกับนักเต้นคนอื่นไปด้วย
และหล่อนก็เต้นของหล่อน ไม่ก่ายเกี่ยวกับใคร
และหล่อนไม่ใช่ดาวยั่ว?
ที่เต้นยั่วเหมือนผู้หญิงบางคน
มาดของหล่อนคงไม่ให้หรอก
เพราะหล่อนเป็นคนที่จริงจังในชีวิต แล้วก็บ้าแต่งาน อย่างที่เห็น
สามทุ่ม ที่ปลายศก เหมือนคนที่แมวไม่อยู่หนูร่าเริง ต้องโทรมาชวน ไอยวุธอีก
คราวนี้ไอยวุธปฏิเสธเพื่อนไม่ได้ ก็เลยต้องมาด้วย
และการมาของเขาก็ไม่ผิดหวัง
ที่จริงไอยวุธ จะล้มตัวลงนอน และง่วง
แต่ได้ยินเสียงปลายศกปลุก และเอ่ย
“เฮ้ย ไม่ต้องห่วงอะไรมากมาย พรุ่งนี้วันเสาร์ หยุดงานนี่ ไปเที่ยวให้ชุ่มปอดน่าจะดีกว่า”
และสายตาของเขาบอกว่า ไม่ผิดหวังเลย ที่ได้เจอกับคนที่อยากเจอมากที่สุด
ไม่รู้หล่อนหลงเข้ามาสถานที่แห่งนี้ได้ยังไง
เพราะภาพพจน์ของหล่อนดูเคร่ง และเอาจริงเอาจังกับงานนัก
แต่เขาได้มาเห็นภาพแบบใหม่
ที่หล่อนเต้นกระจาย และสนุกสุดเหวี่ยง
ทำให้เขาแอบคิดไปว่า ไม่นึกเลยว่าภาพที่ได้เห็นจะเป็นภาพที่หญิงสาวคนนี้
แอบเปรี้ยว ได้เหมาะเจาะขนาดนี้
ใบหน้าของหล่อนที่คมหวาน และออกจะดูคมกริบ ทำให้ผู้ชายคนไหนไม่กล้าเข้ามาใกล้
หรือแม้ผู้ชายคนไหนก็อยากเข้ามาใกล้
จำเป็นต้องถอยหลบ เพราะผู้หญิงคนนี้เอาจริง กับท่าทางและคำพูด
อีกอย่างที่เขาเห็น หล่อนแสนจะไว้ตัวนักหนา
ไอยวุธบอกกับตัวเอง ทำยังไง เขาถึงจะได้เข้าไปทำความสนิทสนมกับหล่อนใกล้ชิดถึงตัว
โดยที่ไม่ถูกหล่อนไล่อออกมา และแสดงการปฏิเสธ
เพราะท่าทางของทนายความสาว ท่าทางของหล่อนปากไว
อาจจะเป็นลักษณะจัดจ้านด้วยก็เป็นได้
เพราะหล่อนเป็นทนายความนี่
อาจจะต้องด่าคนเก่ง ควบคุมคนเก่ง
ไอยวุธคิดไปโน่น
แต่ก็ดีใจที่จะได้เดินตรงไปหาเธอ
เมื่อจบบทเพลงเธอก็ตรงเข้าไปนั่งที่โต๊ะตามเดิมกับเพื่อน
“เดี๋ยวก่อนครับคุณ”
คำที่เอ่ยเรียก เป็นเสียงผู้ชายคนหนึ่ง
ที่ชฎาเดือน ไม่เคยคุ้นและรู้จักหน้าด้วย
แต่หญิงสาวก็หันกลับมา เพราะเป็นมารยาท
“มีอะไรหรือคะ”
“เอ้อ มีสิครับ ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณตาเหลือเกิน”
ตอบทักแล้ว ไอยวุธเอ่ยต่อเช่นนี้
ด้วยเขานึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร
ทำให้ต้องตีสีหน้าแบบเนียนๆ ไม่ให้หล่อนจับผิด
ว่าเขาอึกอัก และนึกคิดอะไรไม่ได้ที่จะถามเธอออกไป
เพราะเป็นการพบกันอย่างซึ่งหน้า
และนี่เป็นการได้พบทักกันครั้งแรก
ย่อมประหม่า
ดังนั้นเขาต้องเตือนตัวเองว่า
“อย่าประมาทเด็ดขาดนาย ไอ เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวสวย ที่นาย อยากเจอนักหนา”
เวลานี้เหมือนโชคชะตาและเทพเบื้องบนจงใจลิขิตให้เขาได้พบเธอ
ผู้หญิงที่เป็นแบบอย่าง และนางในฝันของเขา
“ผมชื่อไอยวุธครับ เรียกผมสั้นๆว่า ไอก็ได้ ครับ”
การที่มีผู้ชายทัก และแนะนำให้หล่อนรู้จัก
ชฎาเดือนได้แต่มองหน้า
หล่อนกำลังตัดสินใจ พร้อมกับขมวดคิ้ว
“นี่ คุณมาแนะนำตัวเองให้ดิฉันทราบหรือคะ หรืออยากได้นามบัตรของฉัน”
ชฎาเดือนถามออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
ไอยวุธรีบตอบ
“ใช่ครับ และผมรู้ว่า คุณมีอาชีพอะไร ก็ชื่อคุณออกดังนี่ครับ”
ชฎาเดือนมองชายหนุ่มตรงหน้า ที่หน้าตาค่อนข้างดี
แต่เท่าที่คาดคะเนแล้ว เขาคงจะอ่อนกว่าหล่อนสองปี