แต่เขาก็ชอบดักดานเป็นพนักงานธรรมดามากกว่าจะไต่ไปสูงกว่านั้น
อาจจะเป็นเพราะลูกสาวบ้านนี้ไม่มีสวยมากกว่านี้แล้ว ถึงแม้มีสองคน คนโตก็แต่งงานออกเรือน เหลือแต่เพียงคุณผกาย ซึ่งเขาไม่แยแสแน่
เพียงแต่เขาอยากจะใช้หล่อนเป็นเครื่องมือ เพื่อไปให้ถึงแสงมุกดา นึกขันในคำพูดของปลายศกที่เอ่ยเหมือนเย้ยหยันเขา
“กูเจ๋งที่ได้หล่อนเป็นเมีย”
เมียเน่าดอกไม้ชอกช้ำนะสิ เต็มไปด้วยคาวราคี
ไอยวุธเคยค่อนวิจารณ์ตามหลัง
“ระวังเถ๊อะ หล่อนจะได้มองเห็นแกเป็นแค่กางเกงในตัวหนึ่ง”
“ทำไมวะ”ปลายศกเคยเกาหัวอย่างุนงง
“อ้าว เกิดหล่อนอยากเปลี่ยนกางเกงในใหม่ ผู้หญิงอย่างหล่อนก็คงสลัดนายทิ้ง อย่างไม่แยแสเหมือนกัน”
“นึกหรือว่าฉันจะแคร์”
ปลายศกพูดด้วยความนะนองปาก
“ไม่แคร์ก็คอยดูไป มันไม่มีอะไรหรอก ไอ้ปลาย วันข้างหน้ามีคำตอบให้แกแน่..ว่าระหว่างที่แกอยู่กับหล่อน มันจะออกหัวหรือก้อย”
อีกฝ่ายชักสีหน้าไม่พอใจที่เพื่อนไม่ส่งเสริม
“เอ๊ะ นายนี่ ส่งเสริมก็ไม่ส่งเสริม ยังจะพูดจากระแทกเยาะเย้ยอีก”
ไอยวุธเงียบ แล้วนึกขำตัวเองที่เพื่อนโกรธ
แต่ไอยวุธก็ชอบที่จะพูดความจริงและเดาออก
พูดจาที่ฟังแล้วเสียดแทงใจเขา
แต่ไอยวุธยังทนได้
เขาไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองเสียฟอร์มหรือผิดหวังต่อหน้าปลายศกเด็ดขาด
เพราะปลายศก ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่เขาคิด
และตัวเขาเอง ไอยวุธก็ไม่คิดว่า ดิบดีมาจากไหน
ประเด็นนี้ สิ่งสำคัญ คือผู้หญิงมากกว่าต่างหาก
ว่าหล่อนชอบเอาของเน่าเหม็นสกปรกมาบูชา
หรือสิ่งที่มีค่าควรบูชา คือการเป็นคนดี
เรื่องนี้ก็คงต้องอยู่ที่คำตอบของผกายรุจี
ที่ไอยวุธคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ สามารถตอบคำถามของตัวเองได้แน่
และเขาก็มองข้าม
เขาไม่ได้เห็นผกายรุจีวิเศษสุด หรือเป็นสิ่งที่เขาต้องโหยหา
คนอื่นต่างหาก
ผู้หญิงคนนั้นไง ที่เขาได้พบแล้ว
หล่อนเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าหวานคมและดูแกร่ง แม้จะปากจัดเท่าที่เห็นด้วยสายตาก็ตาม
แต่หล่อนก็น่าสนใจอย่างมาก
มากกว่าผกายรุจี
เพราะผกายรุจี เคยตะล่อมพุดจาให้เขา เพื่อตกเป็นเหยื่อของหล่อน
แต่เขาไม่พิศวาสด้วยความใคร่กับผกายรุจี
หล่อนเป็นผู้หญิงที่สกปรกสำหรับเขา ไม่กล้าเข้าใกล้
แต่ปลายศกดุ่มเดินเข้าไปหาได้ เพื่อเติมความร้อนแรงในดีกรีสวาทให้หล่อน
คงเป็นการมัดใจที่ถูกทาง และถูกรสชาติของหญิงสาวกระหายสวาทอย่างผกายรุจี
เขาไม่ได้คิดว่า ปลายศกโชคดี
อย่างที่ปลายศกชอบขบคิดนักหนา
เพื่อข่มให้ดูว่าเหนือเขาตลอด
สัตว์มนุษย์มันจะมีอะไรเล่า ถ้าไม่แผ่สันดานดิบ อยู่บนกองกาม กองเกียรติ และอาหารการกิน สิ่งบริโภค ความสุขสบาย
บางทีการตกเป็นหนูที่อยู่ในยุ้งฉางข้าวสารขนาดใหญ่
อาจจะทำให้หนูอย่างปลายศก ต้องร้อนก้น วิ่งจนหางจุกตูกก็ได้ เมื่อถูกน้ำร้อนราดรด
พิศวาสและเงื่อนเสน่หาของผกายรุจี ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ที่หล่อนพึงพอใจ
นั่นอาจจะเป็นผลประโยชน์มหาศาลที่หล่อนต้องการก็ได้
กลับบ้าน เขาก็ต้องเก็บตัวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ที่พอจะอยู่ได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด
เป็นห้องหนุ่มโสด ที่ร้างเปลี่ยวสาวๆ
และไม่ได้ต้อนรับผู้หญิงคนไหน ขึ้นมานอนบนเตียงง่าย
เหตุผลเพราะ? เขาไม่ใช่คนมักง่ายทางเพศ
แม้แต่คนมักง่ายทางเพศและร้อนแรงอย่างผกายรุจี ลับสายตาปลายศก หล่อนพยายามจะให้ท่า เขาถึงห้าครั้ง
แต่ไม่สำเร็จ
เขานึกขำๆ
“ผู้หญิงบ้าอะไรวะ บ้าเซ็กซ์ มากกว่าผู้ชายอีก”
ไอยวุธคิดอะไรเล่นๆเพลิน แต่ใจของเขาก็ไพล่ไปนึกถึงภาพสาวสวยหน้าหวานและท่าทางคมกริบ
สืบดูแล้ว ว่าหล่อนมีอาชีพเป็นทนาย
ถึงได้ปากจัด
เขาอยากจะเจอหล่อน แสดงตัวออกมา
หล่อนชื่อ ชฎาเดือน
ก็ได้รับโทร.จากปลายศกอีกครั้ง
“เฮ้ย วันหยุดนี้ นายไม่ไปเที่ยวที่ไหนหรือ ส่วนของฉันปลอดโว้ย คุณรุจีเดินทางไปพักผ่อนที่พังงา และดูกิจการที่โรงแรมที่นั่น เผอิญว่า ฉันไม่อยากจะไป ใครจะอยากไปโว้ย ทางใต้ออกจะไกล ร้อนก็ร้อน ฉันอยากหลบอากาศร้อนอยู่เมืองไทยดีกว่า สบายใจดี”
เสียงของปลายศกตอบเหมือนเขามีอารมณ์นัก
เหมือนรื่นเริง คล้ายกับแมวไม่อยู่หนูร่าเริง
“นายจะพาฉันไปเที่ยวไหนอีก”
ไอยวุธถามออกไป ชักจะไม่พอใจกับอารมณ์และท่าทางเหมือนคนที่ตีปีกพั่บๆเหมือนนกร่อนเวหา เมื่อจะได้อิสระ
จึงย้อนถาม
“นี่นายสุขกายสบายใจมากใช่ไหม ตอนที่ คุณผกายรุจีไม่อยู่”
แต่ก็ได้คำตอบจากปลายศก
“ก็ใช่วะ หล่อนอยู่ตามคุมฉันแจ”
“อ้าว ก็หล่อนจับนายตีทะเบียบเป็นผัวแล้วไม่ใช่หรือ”
ไอยวุธตอบเพื่อน อย่างแค่นๆในอารมณ์
เพราะพอจะรู้นิสัย และความชอบของเพื่อนคนนี้
“ก็แหง๋ล่ะ ฉันไม่ชอบไปไหนมาไหน แล้วให้ใครตามคุมแจแบบนี้”
ปลายศกเถียงออกไป อย่างรู้สึกรำคาญไอยวุธเหมือนกันที่ถามเรื่องนี้ เกี่ยวกับผกายรุจี
“ฉันไม่อยากให้นายถามถึงหล่อนในเวลานี้”
แต่ไอยวุธย้อนเสียงเข้มกลับไป
“ฉันอยากจะได้ยิน ผู้หญิงอย่างคุณผกายรุจี ได้ยินนายพูดเวลานี้เหลือเกิน”
“เฮ้ย นายจะต่อความยาวสาวความยืดไปทำไมวะ ไอ้วุธ”
ปลายศกถึงกับไม่พอใจ จนเขาต้องบ่นห้าม
“ฮึ”
ไอยวุธทำเสียงเยาะในลำคอ
“แล้วตกลงนายจะไปหรือไม่ไป”
ปลายศกถามอีก
ไอยวุธเงียบไปครู่จึงตอบ
“ไม่ไป”
“เออ ไม่ไป ก็แค่นี้ล่ะ ที่ฉันอยากรู้ แค่ไม่ไปก็บ่นถามมากมาย ชวนให้ฉันอารมณ์เสียแต่ค่ำ”
ปลายศกบ่นลากเสียงยาว
แล้วก็ไม่พอใจอย่างมาก บ่นงึมงำคนเดียวอีก
ซึ่งไอยวุธปิดเครื่อง ไม่รับฟังเสียงจากเพื่อนคนนี้แล้ว
คดีที่ชฎาเดือนทำอยู่ คือปรึกษาว่าความเรื่องคดีสามีภรรยาที่ต้องการหย่า
กับฝ่ายหนึ่งต้องการจับชู้ของอีกฝ่าย
เพื่อเป็นเหตุผลของการหย่าร้าง
พร้อมหลักฐานทางภาพ
เพื่อเป็นเหตุผลที่ลูกความจะชนะคดี
เพราะศาลยึดเอาตามหลักฐานและเหตุผล
ชฎาเดือนทำงานแบบนี้ หล่อนรู้ว่ามันเครียด
แต่ก็ต้องทำ เพราะมันเป็นอาชีพ
และอาชีพของหล่อนก็มีความเสี่ยงสูงไม่น้อย
จากความไม่พอใจของฝ่ายตรงกันข้าม
ที่เหมือนหล่อนเข้าไปลิดรอนสิทธิส่วนตัว ในการจับเอาภาพมาประจาน ซึ่งเป็นการได้รับความอับอาย
จากฝ่ายที่ถูกกระทำมากกว่า
แต่หล่อนต้องทำงานไปตามเหตุผลของคดีและกลไกในหน้าที่ ที่ทนายความอย่างหล่อนทำได้
หล่อนจึงไม่รู้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก
หล่อนยังนั่งอยู่ที่สำนักงาน แม้จะค่ำสนิทแล้ว
เพราะงานที่เป็นแฟ้มเอกสารมากมายเหลือเกิน
ถ้าหากหล่อนไม่สะสาง คงค้างเติ่งเป็นดินพอกหางหมู
ซึ่งหล่อนจะมานั่งปวดหัวมากกว่าเดิมในภายหลังทนายความฝึกหัดที่ ชื่อพิพจน์ หล่อนเพิ่งรับเข้ามา เขาก็พอช่วยได้
แต่ว่าเขาก็กลับไปก่อน
จะทำงานต่อไปอีกสักพักหนึ่ง ไม่ถึงหนึ่งทุ่ม หล่อนก็คงจะกลับ ชฎาเดือนคิดไว้แบบนั้น
วันนี้อยากจะทานข้าวรสฝีมือแม่ คุณรัชยา
แต่ก็ทำให้ชฎาเดือนต้องออกไปข้างนอก
เมื่อพบว่ามารดาออกไปทำธุระข้างนอก ยังไม่กลับเข้าบ้าน
แถมดาวียาเพื่อนรักโทร.ชวนให้ไปทานข้าวด้วยกัน