ครืน! “โอ๊ะ!” กัวเจียงเยว่คว้าแขนของจานเจิ้งเอาไว้ ร่างของคนทั้งสองละลิ่วหล่นลงไปในช่องลื่นๆ ที่เอียงเล็กน้อย ร่างของทั้งสองไถลไปตามพื้น ตุ๊บ! ตั๊บ! “โอ๊ย!” นางนอนทับอยู่บนร่างของชายหนุ่มในท่าคว่ำหน้า เมื่อทั้งสองลุกขึ้นก็พบว่ารอบข้างไม่ถึงกับมืดมิด จานเจิ้งมองหาช่องแสง “น่าแปลก ที่นี่เป็นช่องลับแต่กลับไม่มืดสนิท” หญิงสาวมองเห็นร่างลางๆ ของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า นางคว้าแขนของเขาเอาไว้ “ที่นี่ใช้แผ่นหินเรืองแสงทำผนังน่ะสิ นั่นอย่างไรล่ะ?” เมื่อนางหันไปก็พบว่าผนังข้างหนึ่งมีแสงเรืองๆ ออกมา ชายหนุ่มดึงพู่ไฟอันเล็กในสาบเสื้อออกมา เมื่อดึงสลักแล้วก็มีเสียงฟู่ ประกายไฟเล็กๆ ทำให้พวกมองหน้ากันได้ชัดขึ้น จานเจิ้งยกพู่ไฟขึ้นเหนือศีรษะมองไปรอบๆ ก็เห็นคบเพลิงเสียบอยู่ข้างผนังเขาจึงไปดึงลงมาจุด “ในนี้น่าจะเป็นห้องลับที่ใต้เท้าสวีใช้เก็บหลักฐานที่มั่นใจนักหนาว่าจะไม่มีผู้ใดหาเจอ เรารีบช่ว