EP.9 อัศวิน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เรียกฉันว่าโรสเฉยๆ ก็ได้จ้ะ”
“โอ๊ย! ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นภรรยาของนายผู้ชาย ก็ต้องเรียกว่านายผู้หญิงสิคะ” เอื้อยปฏิเสธเป็นพัลวัน ไม่คุ้นชินที่จะทำตัวสนิทเสมอเจ้านาย การที่อัศวินดูแลคนงานทุกคนดีเหมือนญาติพี่น้อง ใส่ใจดูแลถามไถ่ทุกข์สุขทำให้คนงานทุกคนยิ่งรักและเทิดทูนอัศวินราวกับเป็นเจ้าชีวิตเลยทีเดียว
“ตามเอื้อยมาเลยค่ะ เดี๋ยวเอื้อยจะพานายผู้หญิงไปพักที่ห้อง”
“จ้ะ”
ห้องนอนขนาดใหญ่บนชั้นสองของตัวบ้านนั้นเรียบง่าย เครื่องเรือนทุกชิ้นทำด้วยไม้เนื้อดี ตกแต่งด้วยผ้าม่านสีฟ้าอ่อนสะอาดตา เตียงไม้สี่เสาตั้งตระหง่านกลางห้องตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้สีขาวพลิ้วไหวไปตามแรงลม เธอเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นของใช้ส่วนตัวของผู้ชาย
“นี่เป็นห้องใครกันจ๊ะ”
“ห้องนายผู้ชายค่ะ”
“อ้าวเหรอ...” จอมขวัญหน้าแดงก่ำ ลืมไปเลยว่าเธอต้องนอนร่วมห้องกับเขา เพราะเธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว
“จะอาบน้ำเลยมั้ยคะเดี๋ยวเอื้อยจะผสมน้ำอุ่นให้”
“จ้ะฉันเหนียวตัวมากเลย” หญิงสาวเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อพบว่าเสื้อผ้าทั้งกระเป๋ามีแต่สายเดี่ยวเสียวหลุด ชุดแต่ละชุดนั้นทั้งโป๊ทั้งวับๆ แวมๆ น่าอาย
“เธอพอจะมีเสื้อผ้าให้ฉันยืมใส่มั้ย”
“อ้าว! เสื้อผ้าของนายผู้หญิงก็มีตั้งเยอะตั้งแยะนี่คะ” เอื้อยถามออกไปตามประสาซื่อ มองการแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดของนายผู้หญิงด้วยสายตาชื่นชม เพราะดูทันสมัยสมกับเป็นสาวเมืองหลวง
“เอ่อ...ฉันหนาวน่ะเลยไม่อยากใส่เสื้อผ้าพวกนี้”
เมื่อสาวใช้ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงปลายฝนยังไม่เข้าฤดูหนาว แต่อากาศที่เชียงรายก็เริ่มเย็นลง หากนายผู้หญิงใส่เสื้อผ้าบางใสแจ๋วแบบนี้คงเป็นหวัดแน่ๆ “เดี๋ยวเอื้อยจะไปหาเสื้อผ้ามาให้ค่ะ”
“ฝากด้วยนะจ๊ะ”
เมื่ออยู่คนเดียวในห้องจอมขวัญก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วเดินไปทอดกายลงแช่ในน้ำอุ่นที่เอื้อยเตรียมเอาไว้ให้ นึกดีใจที่เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอนึกกลัว อัศวินไม่ใช่สามีใจร้ายจอมเผด็จการ หรือไร้มารยาทอย่างที่เธอวาดภาพไว้ กลับกัน...เขาสุภาพ อ่อนโยน และดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น
ว่าแต่เขาจะให้เธอเซ็นสัญญาอะไร...สัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอหรือเปล่านะ
“จะมาขอเสื้อกับผ้าถุงไปให้ใคร” อรอุมาเอ่ยถามเอื้อยด้วยความแปลกใจ เพราะโดยปกติแล้วผู้หญิงของบุตรชายแต่ละคนแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมหรูหรา ไม่มีใครคิดอยากใส่เสื้อผ้าพื้นเมืองเลยสักคน เพราะมองว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เชยและไม่ทันสมัย
“เอาไปให้นายผู้หญิงค่ะ”
“ใครกันนายผู้หญิง!” อรอุมาย้อนถามด้วยความแปลกใจ
“ก็ภรรยาของนายผู้ชายน่ะสิคะนายแม่ คนนี้สวยอย่างกับนางฟ้าเลยนะคะ เอื้อยเห็นตอนแรกนะตะลึงไปเลย สวยกว่าผู้หญิงทุกคนของนายผู้ชายที่เคยมาที่นี่เลยนะคะ” เอื้อยทำท่าเคลิบเคลิ้มเมื่อเอ่ยถึงภรรยาของเจ้านาย
“อะไรกันตาอัฐมีภรรยาแล้วเหรอ” อรอุมายกมือขึ้นทาบอก ไม่คิดเลยว่าการแกล้งป่วยเป็นมะเร็งจะทำให้บุตรชายยอมมีภรรยาจริงๆ ถ้ารู้แบบนี้เธอคงแกล้งป่วยเสียนานแล้ว จะได้ไม่ต้องคอยบ่นจนปากเปียกปากแฉะแต่จนแล้วจนรอดบุตรชายก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตกลงปลงใจกับผู้หญิงคนไหนเพื่อสร้างครอบครัวเสียที
“ลูกสะใภ้ฉันนิสัยเป็นยังไงบ้าง”
“ดูน่ารักนะคะ พูดเพราะ เสียงนี่หวานใสอย่างกับระฆังเลยค่ะ”
“แหม ดูท่าทางจะหลงใหลเสียเหลือเกินนะยะ” อรอุมาอดไม่ได้ที่จะค่อนขอดสาวใช้คนสนิท เอื้อยเป็นบุตรสาวของแม่นมที่เลี้ยงดูอัศวินมาตั้งแต่ยังแบเบาะ แต่น่าเสียดายที่แม่นมอายุสั้นมาด่วนจากไปเสียก่อน เมื่อเอื้อยโตเป็นสาวจึงทั้งรักและเทิดทูนอัศวิน คอยดูแลรับใช้ไม่เคยคลาดสายตา
ที่ผ่านมาไม่ว่าอัศวินจะพาผู้หญิงคนไหนมาที่ไร่ เอื้อยเป็นต้องขัดหูขัดตาหาเรื่องติผู้หญิงเหล่านั้น ทว่าผู้หญิงคนใหม่กลับไม่ถูกเอื้อยตำหนิเลยสักคำ อีกทั้งยังทำท่านิยมชมชอบจนออกนอกหน้าอีกด้วย สงสัยว่าเธอต้องรีบไปดูหน้าลูกสะใภ้เสียแล้ว
“ก็นายผู้หญิงเธอน่ารักจริงๆ นี่คะ” เอื้อยถูกใจจอมขวัญก็เพราะว่าจอมขวัญยิ้มและพูดกับเธอด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่ผู้หญิงคนอื่นๆ มักจิกใช้เธอราวกับเป็นทาส น้ำเสียง และท่าทางดูถูกเธออย่างเห็นได้ชัด
“นี่เสื้อผ้าสีหวานๆ แบบนี้น่าจะเหมาะกับสาวๆ” อรอุมาเลือกเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เป็นเสื้อผ้าที่เธอเคยใส่ตั้งแต่สมัยยังเป็นสาวแรกรุ่น ส่วนใหญ่ใส่ไม่กี่ครั้งก็พับเก็บ แล้วซื้อใหม่เสียจนมีตู้เสื้อผ้ากี่ใบก็ไม่พอ
“แล้วเดินไปบอกแม่ครัวให้ฉันหน่อยนะว่าทำอาหารเย็นเผื่อฉันด้วย ฉันจะไปกินอาหารที่บ้านนู้น ไปดูนายผู้หญิงแสนสวยของแกสักหน่อย ว่าจะสมกับราคาคุยของแกหรือเปล่า”
“รับรองว่านายแม่ต้องไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ” เอื้อยยิ้มกว้างก่อนจะรีบหอบเสื้อผ้ากลับไปยังเรือนใหญ่ทันที
อรอุมานั่งอมยิ้มอย่างมีความสุขที่บุตรชายมีครอบครัวเสียที แต่เดี๋ยวก่อน! เธอต้องสืบดูให้แน่ว่าบุตรชายไม่ได้ใช้แผนการหลอกให้เธอตายใจ แกล้งแต่งงานกับผู้หญิงเพียงเพราะเป็นคำขอร้องก่อนตายของเธอ
ไม่ได้การล่ะ! เห็นทีว่าเธอคงจะต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องในครอบครัวของบุตรชายเสียหน่อย ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาพลเกียรติและนายแพทย์ผู้ร่วมขบวนการทันที
เสียงหวานฮัมเพลงแผ่วเบาทำให้เจ้าของร่างสูงที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องนอนถึงกับชะงัก อย่าบอกนะว่าเอื้อยพาจอมเกล้ามาพักที่ห้องนอนของเขา เขากวาดตามองกระเป๋าและข้าวของของหญิงสาวแล้วก็ถึงกับกุมขมับ จริงสิ...ในเมื่อสวมบทบาทเป็นสามีภรรยา แม้จะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ต้องทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขารักจอมเกล้าและยกย่องเธอเป็นภรรยา ถ้าจะนอนแยกห้องคงไม่เหมาะและอาจถูกสาวใช้เอาไปนินทาได้
และที่สำคัญที่สุดคือ...ถ้าเรื่องถึงหูมารดา ท่านต้องสงสัยอย่างแน่นอน
อัศวินยืนอยู่กลางห้องก่อนจะเดินไปที่ตู้ใบเล็กข้างหัวเตียงเพื่อหยิบแท็บเล็ต ทว่าทันทีที่เจ้าของเสียงหวานก้าวออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ลืมไปเลยว่าเขาเข้ามาในห้องนอนทำไม