ตอนที่ 7

1333 Words
@หลายวันต่อมา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “ขออนุญาตครับคุณสิงหา” เสียงคนเคาะประตูบอกกับคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งของผู้บริหารก่อนจะเข้าไปรายงานในสิ่งที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปทำ “ว่ามา ได้ความคืบหน้ายังไงบ้าง” “ไม่มีประวัติการรักษาของคุณเพลงพิณเลยครับ ผมใช้ชื่อและนามสกุลตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่มีประวัติการรักษาที่ไหนเลย แม้แต่การไปในสถานที่ราชการที่สามารถตรวจสอบได้ก็ไม่เคยพบเลยเช่นกัน มันเหมือนกับว่าคุณเพลงพิณไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าครับที่เขาจะออกต่างประเทศไปแล้ว” “มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงในเมื่อคนของเราตรวจสอบสายการบินอยู่ตลอด เพลงพิณไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น ผู้หญิงคนนั้นต้องอยู่ในไทยแค่ต้องอยู่ที่ไหนสักที่ที่เรายังตามไม่เจอ” ประกายตาของสิงหาแข็งกร้าว เอาจริงๆ มันมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้น คนที่ใจร้ายจนกล้าทิ้งงานแต่งงาน เป็นตายร้ายดียังไงเธอไม่เคยบอก มีเหตุผลอะไรที่ไม่สามารถแต่งงานได้เธอเลือกที่จะไม่พูด เธอเลือกที่จะปล่อยทุกอย่างเอาไว้แบบนี้ เลือกที่จะทิ้งเขา ทั้งที่เขารักเธอแทบตาย ผู้หญิงคนนั้นไม่ควรได้รับความรู้สึกดีๆ จากเขาอีกต่อไป สาบานว่าหากมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง เธอจะได้พบเขาในอีกมุมมองที่เธอไม่เคยเห็น สิงหาคนนี้จะไม่มีวันยอมเป็นคนโง่ที่ปล่อยให้ผู้หญิงหลอกได้อีกแน่นอน “เราเปลี่ยนไปตามคุณพระพายดีไหมครับ” “พระพาย? ทำไมถึงคิดแบบนั้น” “บางทีคนที่เราคิดว่าอาจจะให้ข้อมูลอะไรเราไม่ได้ อาจจะเป็นคนที่รู้ข้อมูลทุกอย่างก็ได้นะครับ” นัดสืบหนุ่มที่คอยทำงานให้สิงหาอยู่เงียบๆ เสนอความคิดเห็น เอาจริงๆ นับจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้เวลาก็ล่วงเลยไปที่สี่เดือนกว่า มันเป็นอะไรที่แปลกมากที่ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่างเลย มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนคอยเคลียร์ทุกอย่าง เพื่อไม่ให้พวกเราตามเจอ ตามจากคนที่บ้านก็แล้ว เพื่อนสนิทก็แล้ว คนเพียงคนเดียวที่เขาไม่ได้ติดตามก็คือพระพาย ผู้หญิงในตอนนี้อยู่ในสถานะภรรยาของเจ้านาย ต่อให้คนทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันแต่มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าที่เจ้านายของเขาอาจจะไม่ได้สังเกตเธอมากพอ “คุณคิดว่าพระพายรู้เรื่องนี้?” “ผมแค่สันนิษฐานดูครับ เอาจริงๆ มันก็มีความเป็นไปได้เพราะนับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องตอนนั้นเราเอาแต่คิดหาความจริงจากปากของคุณพระพายโดยที่เราไม่ได้ตามสืบเองเลยว่าเธอมีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า จริงๆ สิ่งที่เราคิดมันก็อาจจะไม่ได้ผิด เราคิดว่าคุณพระพายคือคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด ในเมื่อถามตรงๆ แล้วเธอเลือกที่จะไม่บอก งั้นเราตามสืบจากเธอดีไหมครับ” สิงหาคิดตาม สุดท้ายก็เลือกที่จะพยักหน้าออกมา “มันก็จริง เอาจริงๆ เราก็ประมาทพระพายเกินไป ถ้าอย่างนั้นก็ยกเลิกภารกิจที่ตามหาตัวเพลงพิณแล้วตามพระพายแทน” “ได้ครับนาย ว่าแต่ตอนคุณพระพายอยู่ที่บ้านมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ” “ที่ผิดปกติหมายถึงอะไร” “เธอหายไปไหนกับใครหรือแอบคุยกับใครนานๆ หรือเปล่า เพราะถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้ว่าสองคนนั้นแอบคุยกันและแอบส่งข่าวให้กันอยู่บ่อยๆ นะครับ” “เอาเป็นว่าเรื่องนั้นฉันจะสังเกตช่วยอีกแรงก็แล้วกัน” “ครับนาย ไว้ถ้ามีความคืบหน้าอะไรผมจะรีบกลับมารายงานครับ” “ขอบใจมาก” สิงหาพยักหน้าให้ลูกน้องที่ทำงานกับเขามานาน ทันทีที่อยู่คนเดียวเพียงลำพังก็นึกถึงดวงหน้าของคนที่อยู่ในฐานะภรรยาของเขา เอาจริงๆ ที่ผ่านมาเขาก็แทบไม่ได้ใส่ใจอะไรเธอเลย ไปไหน คุยกับใคร เขาแทบไม่ให้ความสนใจ ซึ่งบางทีช่วงเวลานั้นมันอาจจะทำให้เขาพลาดอะไรหลายๆ อย่างไปก็ได้ สิงหาต่อสายหาเลขาที่อยู่หน้าห้องอีกครั้ง รอไม่นานปานลนาก็รับสาย (ค่ะคุณสิง…) “พระพายอยู่ไหน” เดิมทีเขาเคยให้เธอไปช่วยงานในตำแหน่งที่เพื่อนของเธอทำงานอยู่ เพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงก็วันนั้นที่ให้เธอมาช่วยดูเอกสาร นับตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นที่เธอเปียกฝนกลับบ้านเราแทบไม่ค่อยได้คุยกัน บางครั้งเขาก็ไม่ได้อยากทะเลาะ ยอมรับว่าลึกๆ ก็ยังนึกถึงตอนที่เราทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ก็ไม่ได้อยากทำร้ายความรู้สึกไม่ได้อยากทำให้เสียใจ แต่ก็ยอมรับว่าอีกความรู้สึกคือยังโกรธที่เธอเลือกปิดบังทั้งที่เขาเองก็เป็นเพื่อนเธอเหมือนกัน (อยู่ที่ร้านกาแฟด้านล่างค่ะ) “ปกติพระพายไม่ดื่มกาแฟ” (เอ่อ…. พอดีว่าปานวานให้คุณพายลงไปซื้อกาแฟให้น่ะค่ะ) “ทีหลังก็อย่าทำเกินหน้าที่ อะไรที่ไม่ได้สั่งก็อย่าทำ” สิงหาเลือกที่จะตำหนิเลขาหน้าห้องอย่างตรงไปตรงมา รู้ว่าปันลนาพยายามที่จะทำเกินหน้าที่อยู่หลายครั้ง เขาไม่ได้ชอบ บางครั้งที่พูดดีด้วยก็เพราะตอนนั้นอยู่ต่อหน้าของพระพายเท่านั้น สิงหาลงไปที่ร้านกาแฟที่ว่าด้วยตัวเอง และไม่คิดเหมือนกันว่าจะบังเอิญเจอภาพที่เธอคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเขาอย่างธันวา ดูพูดคุยกันอย่างสนิทสนมทั้งยิ้มและหัวเราะต่างจากตอนที่อยู่กับเขาโดยสิ้นเชิง เห็นแบบนั้นสิงหาหลุดเสียงหัวเราะออกมาทันที “มึงมาทำอะไรที่นี่” สิงหาเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทของตัวเองพร้อมกับปรายสายตามองพระพายเล็กน้อย ก็นั่นแหละทันทีที่เจอหน้าเขารอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้าของเธอในตอนแรกมันก็หายออกไปทันทีเช่นกัน “อ้าวไอ้สิง บังเอิญจังเลยนะที่เจอกันที่นี่” “นี่มันบริษัทกู อะไรคือคำว่าบังเอิญของมึงไม่ทราบ” “ถ้าไม่ตึงตลอด กูจะคิดว่ามึงไม่พอใจที่เห็นว่ากูคุยอยู่กับพระพายแล้วนะ” ธันวาหยอกล้อพร้อมกับยิ้มมุมปาก เขาเข้าใจความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ดีถึงจะไม่ได้เห็นด้วยแต่ก็ใช่ว่าจะไปขัดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรมากมายได้ สิงหาไม่ได้เปิดรับ ไม่ได้ต้องการฟังความคิดเห็นของใครแม้แต่เขาที่เพื่อนสนิทก็ตาม “มีความจำเป็นที่กูต้องไม่พอใจเรื่องนั้น กูแค่ไม่คิดว่าจะลงมาแล้วเจอมึงที่นี่มากกว่า” “เออๆ เอาน่า ขี้เกียจทะเลาะกับมึงว่ะ กูตั้งใจจะมาหามึงนั่นแหละ แต่เจอพระพายเลยแวะร้านกาแฟก่อน” “เธอไม่มีงานทำเหรอ?” หันไปถามคนที่ธันวาให้ความสนใจ ยิ่งเห็นว่าตอนที่เขาพยายามคุยกับเธอแต่เธอทำหน้าเหมือนไม่อยากคุยกับเขาก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ “เลขาของนายใช้ฉันลงมาซื้อกาแฟ” “แต่เป็นคนรับใช้ปานลนาตั้งแต่เมื่อไหร่?” พระพายไม่ได้ตอบกลับ แต่เป็นเขาที่พูดทุกอย่างเอาเอง “ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใช่คนใช้ก็อย่าก้มหน้าให้คนอื่นใช้ ไม่ต้องแกล้งโง่เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างเธอไม่ได้โง่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD