ตอนที่ 6

1152 Words
สิงหาปรายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือก่อนที่คิ้วดกเข้มจะขมวดเข้าหากันอีกครั้ง ความหงุดหงิดตีตื้นเพียงแค่คำนวนตัวเลขกลมๆ ของเวลาที่อีกคนไม่ยอมกลับมาสักที ความห่างระหว่างบ้านและที่ทำงานมันไม่ได้ไกลขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงแม้ฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ตาม “ทำไมถึงทำให้หงุดหงิดได้ขนาดนี้วะพาย” หนุ่มหล่อสบถพร้อมกับคว้าโทรศัพท์มือถือมากดโทรออกหาคนที่ยังกลับไม่ถึงบ้าน โทรกี่สิบครั้งพระพายก็ไม่รับสาย ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ในตอนนี้คือการปั่นหัว กวนประสาท หรือตั้งใจจะทำสงครามอะไรกับเขากันแน่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เธอกลับมาถึง เขาจะสั่งสอนให้หลาบจำ เธอจะได้จำใส่หัวซ้ำๆ ว่าอย่าทำให้คนอย่างเขาต้องหงุดหงิด อย่าเป็นแบบนี้ อย่ามาอวดดี! “แม่ง!” สิงหาเกือบจะกระชากตัวออกจากบ้านหากภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ปรากฎภาพเคลื่อนไหวของคนที่ร่างกายเปียกปอน ดวงตาคมกริบหยุดมองที่ภาพนั้น มองพระพายเปิดประตูและเดินเข้ามา สองแขนกอดร่างกายของตัวเองเอาไว้แน่น สภาพดูไม่ได้ แต่ยังอวดดีไม่ลดละ เธอคิดว่าคนอย่างเขาจะทนใจดีกับเธอได้มากแค่ไหน หรือสิ่งที่เขาพยายามทำให้เธอรู้สึกมันยังน้อยไป เธอเลยทำเหมือนยังเจ็บไม่พอ “หายหัวไปไหนมา!” สิงหากระชากตัวเขาหา ฝ่ามือกระชากข้อมือเล็กจนร่างบางปลิวเข้า กระแทกอกกว้าง ดวงตาคมกริบเผลอกวาดมองเรือนร่างสมส่วน เผลอมองหาบาดแผลหรือสิ่งที่เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอกลับช้าอย่างไม่รู้ตัว “สนุกนักเหรอ เธอคิดจะเอาคืนฉันด้วยวิธีนี้ใช่ไหมพาย” “เอาคืน? อะไรคือคำว่าเอาคืนงั้นเหรอ เอาคืนเรื่องอะไร เรื่องที่นายตั้งใจทิ้งฉันงั้นเหรอสิงหา” “อย่ามาเล่นลิ้นจะดีกว่า แค่จากบริษัทกลับมาที่บ้านเธอใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง จะบอกว่าเธอเดินมาหรือไง” ดวงตากลมตวัดขึ้นมองสบตาจนสิงหามองเห็นบางอย่างในตากลมสวยแกมเศร้า พอได้คำตอบว่าสิ่งที่เขาคาดเดาเมื่อสักครู่คือความจริง กรามบดเข้าหากันทันที “อวดดี!” “พอใจแล้วไม่ใช่เหรอ ต้องการแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” “แล้วทำแบบนี้เพื่ออะไร เรียกร้องความสนใจหรือเรียกร้องความสงสาร ทั้งที่เธอรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเธอไม่มีวันได้รับความรู้สึกนั้นน่ะเหรอ” “รู้ว่าไม่มีทางได้รับความรู้สึกนั้น ไม่จำเป็นต้องย้ำก็ได้ ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูดถ้าพอใจแล้วก็ปล่อย” พระพายสะบัดแขนหวังจะให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ยิ่งเธอทำแบบนั้นมันก็ยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ “แค่บอกมาว่าเพลงพิณมุดหัวอยู่ที่ไหนทุกอย่างก็จบแล้วไหม แค่เธอพูดตัวเธอเองก็จะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องทน ไม่ต้องเจ็บ ระหว่างเราก็ไม่ต้องทนมีเรื่องบาดหมางอยู่แบบนี้แล้ว สิ่งที่ฉันย้ำเตือนกับเธอตลอดเวลามันเข้าใจยากตรงไหนวะ” “ฉันยังไม่พร้อม” คนบอกหลุบตาลงต่ำ มันก็ยิ่งกระตุ้นให้ความร้อนรุ่มในอกของอีกคนลุกโชน “อะไรคือคำว่าไม่พร้อมของเธอวะฮะ เธอจำเป็นต้องต้องใช้ความพร้อมเรื่องอะไร” “ฉันรับปากว่าสักวันฉันจะบอกความจริงทุกอย่าง จะบอกทุกเรื่องที่นายอยากรู้ แต่ตอนนี้ขอให้เราอยู่กับแบบสงบสุขได้ไหมสิง อย่างน้อยๆ เราสองคนก็เคยเป็นเพื่อนกัน ยิ่งเราเอาแต่แรงใส่กันทุกอย่างมันก็จะยิ่งแตกหัก นายต้องการให้มันเป็นแบบนั้นเหรอ” คนถามสบตากับคนที่เอาแต่ร้ายใส่นิ่ง พยายามอ่อนข้อก็แล้ว ยอมก็แล้ว แต่สิงหาไม่แคร์เลย “มันแตกหักตั้งแต่วันที่เธอเลือกที่จะปกปิดฉันแล้ว ถ้าเธอเห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่มีระหว่างเราเธอต้องไม่ทำแบบนี้ดิ เธอต้องไม่ช่วยให้เพลงพิณหนีไปแบบนั้น เธอต้องไม่ยัดเยียดตัวเองมาเป็นเจ้าสาวที่ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ถ้าเธอเห็นแก่ความเป็นเพื่อนจริงๆ เธอจะไม่มีวันทำแบบนี่ พระพาย” “แล้วถ้าฉันบอกว่าเหตุผลที่ฉันทำแบบนี่มันเป็นเพราะฉันอยากชดเชยให้นายล่ะสิงหา” “ชดเชยงั้นเหรอ อะไรคือคำว่าชดเชยของเธอ” “ก็ทุกอย่างที่ฉันทำ เหตุผลที่ฉันยอม ฉันแค่อยากชดเชยทุกอย่างให้นาย” “แล้วถ้าฉันบอกว่าสิ่งที่เธอตั้งใจชดเชยให้ฉันมันไม่เคยมีความหมายกับฉันเลยล่ะ” “นาย… ว่าไงนะ” พระพายกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก ความจุกตีตื้นขึ้นมาทันทีที่เขาย้ำความจริงจากหัวใจ “ถ้าเธอตั้งใจจะบอกว่าที่เธอยอมเป็นเมียฉัน ยอมนอนกับฉัน มันเป็นเพราะเธอตั้งใจชดเชยเพราะหวังจะลบล้างสิ่งที่น้องเธอทำล่ะก็ บอกเลยว่ามันไม่มีความหมาย เพราะฉันไม่เคยแคร์เธอ” คนฟังเม้มริมฝีปากที่มันแห้งผาก ความหนาวที่มีในตอนแรกถูกกระตุ้นอีกครั้งจนร่างกายสั่นสะท้าน เพิ่งรู้ในตอนนี้ว่าเธอกำลังร้องไห้ อีกแล้วที่เธอต้องมีน้ำตาเพราะเขา เป็นครั้งที่เธอต้องเจ็บทั้งที่คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว “ถ้าเป็นแบบนั้นเราเลิก….” “ขึ้นไปอาบน้ำซะ อย่ามายืนต่อหน้าฉันในสภาพแบบนี้” สิงหาตัดบทคนที่กำลังจะพูดคำว่าเลิก จากนั้นก็หันหลังให้ ไม่มองหน้าคนที่กำลังยืนร้องไห้เพราะคำพูดของเขาอีกต่อไป พระพายกลับขึ้นมาบนห้องนอน ปลดกระเป๋าสะพายข้างทิ้งลงบนพื้นก่อนจะพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งตัวลงบนพื้นปล่อยให้น้ำจากฝักบัวไหลลงมาชะโลมร่างกาย เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ ต่างจากหัวใจในตอนนี้ที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ มันบอบช้ำจนไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป “พอแค่นี้ดีไหมพาย ที่ผ่านมาแกทำเพื่อคนอื่นพอหรือยัง ตอนนี้พร้อมที่จะพอหรือยัง” “พยายามที่จะประคองความรู้สึกของคนอื่น สุดท้ายก็เป็นตัวของแกเองที่ต้องเจ็บปวด แกพอแล้วหรือยัง” เป็นการถามตัวเองแบบไม่มีวันได้รับคำตอบ เช่นเดียวกับน้ำตาที่เปื้อนสองแก้ม ไม่ว่าคนที่ทำให้เธอร้องและต้องเสียน้ำตาคือใครสุดท้ายก็ต้องเป็นเธอที่ต้องเช็ดมันเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD