11

1104 Words
พสุธาหลับ ๆ ตื่น ๆ จนเก้าโมง ก็ค่อยเด้งตัว ลุกออกจากที่นอนเดินเข้าห้องน้ำ ลงมาที่ด้านล่าง อดสอดส่ายสายตาหาใครบางคนไม่ได้ ไม่เห็นมาคอยบริการเขาอย่างที่เคยสั่งเอาไว้เล่า นี่คิดลองดีกับเขาอยู่สินะ หลังจากที่พูดว่าเขาไปเมื่อคืนนี้แล้วก็ทิ้งช่วงให้เขาโหยหาอย่างนั้นใช่ไหม ไม่โว้ย เขาไม่ได้โหยหาใครทั้งนั้นแหละ แล้วส่งเสียงห้วน ๆ ถามลั่นบ้านขึ้นว่า “หายไปไหนกันหมดวะบ้านนี้” ต่องเดินหลบไม่ทันจำต้องเข้ามาหาเจ้าของไร่เทียมพสุธา ตอบเสียงสั่น ๆ ออกไปว่า “คุณน้อมอยู่หลังบ้านค่ะ กำลังทำ...” ยังตอบไม่ทันจบดีเลย พสุธาถามขัดขึ้น “แล้วคนอื่น” “พี่ฉุยไป...” ยังพูดไม่จบดี พสุธาก็ถามแทรกขึ้นอีก “แล้วคนอื่น ๆ” ต่องมองหน้าเขาด้วยสายตางุนงง อยากถามไปตรง ๆ เลยว่าเขาอยากจะถามหาใครแน่ แต่แล้วพสุธากลับโบกมือว่าให้ออกไปได้ ก่อนจะหรี่ตามองอาหารตรงหน้า ไม่มีแบบเมื่อวันนั้นแล้วหรือไง วันนี้มีข้าวต้มชามใหญ่วางเอาไว้แทนที่ แล้วนี่ไม่ต้องมาห่วงร่างกายของเขาแล้วหรือ ข้าวต้มนี่ดูดซับแอลกอฮอล์ในตัวเขาได้ไหม คิดอย่างเคือง ๆ พร้อมกับลากชามข้าวต้มเข้ามาจนน้ำในชามกระฉอกออกเกือบครึ่งชาม หยิบช้อนตักอาหารเข้าปากกินจนหมดแล้ว แต่ดันไม่รู้รสเลยสักนิด ทำไมถึงรู้สึกว่าร่างกายอยากได้ขนมปังแบบเช้าวันโน้นมากกว่าข้าวต้มก็ไม่รู้ ธัญญาหาร ซีเรียลอะไรก็ได้ แตงโมล่ะมีไหม ก่อนจะปัดชามข้าวต้มออกไปจากตรงหน้าพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไปที่รถ ช่างแม่ง! เขากินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ เมื่อวานนี้ผู้จัดการแผนกสั่งงานไว้ว่าให้เธอเข้ามาเร็วกว่าทุกวัน เพราะมีงานด่วนจะให้เธอช่วยทำ นึกกังวลใจไม่น้อย เพราะช่วงเช้าเธอต้องคอยบริการพสุธา แต่แล้วก็คิดว่าวันเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอก จึงได้ฝากต่องให้ช่วยอยู่คอยดูแล ยกอาหารมื้อเช้าให้เจ้าของไร่แทนเธอหนึ่งวัน เข้ามาถึงสำนักงานก็พบว่ายังเช้าอยู่มาก เธอมาก่อนป้าแม่บ้านเสียอีก แล้วถึงได้ช่วยเปิดอาคารแทน ก่อนจะไปรอที่โต๊ะ ไม่นานพี่ผู้จัดการก็วิ่งเข้ามาสั่งงานเธอ พอทำเสร็จก็วิ่งเอางานไปส่ง แล้วกลับมาที่สำนักงานอีกครั้ง ขณะยืนรอเอางานไปให้ที่แผนกอื่น อภิยาชวนพี่คนหนึ่งในสำนักงานคุย “ฟ้าครึ้ม ๆ นะคะวันนี้” “ตกบ่อยอยู่หรอกที่นี่น่ะ ฝนสลับแดด ต้นไม้ในสวนถึงได้งามขนาดนั้นไง” พี่คนนั้นตอบเสร็จ ส่งงานให้ “เออนี่ พี่วานเราที เดี๋ยวเราเอาแฟ้มนี้ไปส่งแล้ว กลับมาเอางานกองนี้ไปตรวจตามเช็กลิสต์นี้ให้พี่ทีนะ แล้วก็ถ่ายเอกสารสิบชุด เสร็จแล้วแยกเป็นแฟ้มแบบนี้ให้เรียบร้อย แล้วเอาไปส่งให้ที่แผนกงานช่างให้พี่ด้วยล่ะ แล้วถามเขาว่ามีงานอะไรจะส่งก็ให้ฝากเรามาเลย เข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ” “เยี่ยมมาก เดี๋ยวพี่จะรายงานคุณพุธว่าเด็กใหม่หัวไว ขยันขันแข็งด้วย” อีกฝ่ายหันหลังไปแล้วก็นึกบางอย่างได้หันกลับมาบอกเธอ “เออ พี่จะบอกหลายทีแล้วก็ลืมเลย จักรยานในโรงรถน่ะ เอาไปใช้ได้นะ คันที่ไม่มีโซ่คล้องแสดงว่าไม่มีเจ้าของ เราไปเลือกดู อันไหนพอใช้ได้ปัดทำความสะอาดหน่อยก็ใช้ปั่นไปกลับบ้านพักกับที่นี่ได้เลย” “จักรยานของใครหรือคะ” “คุณพุธแกซื้อไว้ให้พวกเราใช้นี่แหละ” “อ้อ ค่ะ” ตอบรับพร้อมกับนึกชมเจ้าของไร่ในใจ เขามีน้ำใจเอื้อเฟื้อกับลูกน้องดีอยู่นี่นา คนพูดจากไปแล้ว อภิยาก็เข้าไปเอางานมาทำทันที เธอไม่ได้อยากได้คำชมหรอก อยากได้งาน อยากได้ความไว้วางใจจากผู้ว่าจ้างต่างหาก รีบเอางานไปส่งที่หน่วยอื่น แล้วกลับมาเช็กงานตามลิสต์ที่พี่คนนั้นวาน ถ่ายเอกสาร แยกเข้าแฟ้มเรียบร้อยก็ลงไปที่โรงรถเพื่อหาจักรยานไม่มีเจ้าของ “จะไปไหนตัวเล็ก” เสียงแม่บ้านเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเธอหอบกระเป๋าเอกสารวิ่งเข้าออกสำนักงานสองรอบแล้วเช้านี้ อภิยายิ้มแล้วตอบแกไปว่า “เอางานไปส่งค่ะ” “ไม่รอพักกินข้าวเที่ยงก่อนหรือ แล้วบ่ายค่อยไป” แกท้วงด้วยสีหน้าเป็นห่วง ยิ้มรับ แล้วตอบแกไปว่า “กลับมาก็พักทันค่ะ หยินไปเดี๋ยวเดียวเอง” อภิยาปั่นจักรยานสุดแรงเท่าที่ขาจะพอมีไปยังหน่วยงานที่เป็นเป้าหมายส่งมอบรับงานกลับมาแล้ว ก็ค้อมตัวบังแฟ้มงานเอาไว้ไม่ให้ฝนไหลเปียกงาน พอจอดรถแล้วก็โล่งใจ หอบเอาข้าวของทั้งหมดเข้าไปในสำนักงานได้เป็นอันสำเร็จ “เปียกไหมหนู” พี่คนสั่งถาม ขณะตามองที่แฟ้มงาน เลยยื่นให้ทางนั้นด้วยเนื้อตัวเปียกปอน บอกพร้อมส่ายหัว “ไม่เปียกเลยค่ะ” “เก่งมาก” แกชมพร้อมยิ้มให้ เหลือบตามองนาฬิกาที่ห้อยตรงผนังห้อง เห็นว่าบ่ายครึ่งแล้วก็ทำหน้าหนักใจ “กินข้าวสิบห้านาทีทันไหมหนู” “ทันค่ะ เหลือเฟือเลย” “รีบเลย จะได้มาช่วยงานพี่ต่อ” อภิยาผงกหัวหงึก ๆ แล้วรีบตรงไปยังห้องพักด้านหลังเพื่อกินข้าว เธอใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็กินอิ่ม แล้วออกมาทำงานต่อ ทำไปได้พักใหญ่ ก็เริ่มหนาวเพราะข้างนอกฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งด้านในก็ยังเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่ตลอด คนอื่นคงเริ่มหนาว เพราะเห็นหยิบเสื้อคลุมมาใส่กันบ้างแล้ว และนั่งทำงานกันต่อ แต่เธอไม่มีเสื้อคลุม อีกทั้งตัวยังเปียก เลยนั่งหนาวอยู่คนเดียว ก่อนจะลุกเดินให้เยอะขึ้น ขยับตัวมากหน่อย เท่านี้ก็ไม่หนาวแล้ว ทำงานอีกพักใหญ่ ๆ ก็ใกล้เวลาเลิกงาน หญิงสาวรู้สึกหนักหัวเล็กน้อย จนได้เวลาเลิกงาน ค่อยเดินกลับบ้าน  ถึงได้เริ่มรู้สึกว่าอาการหนักหัวที่มีมันมากยิ่งขึ้น 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD