18

1122 Words
“เดี๋ยว!” พสุธาส่งเสียงเรียกออกมาคำเดียว แต่ดังลั่นบ้าน หญิงสาวที่คุณน้อมสั่งให้ยกอาหารออกมาวางที่โต๊ะตัวสั่นเล็กน้อย จนเกือบทำถาดใส่อาหารหลุดออกจากมือ จึงรีบวางที่โต๊ะเสียก่อน แล้วถอยหลังไปยืนรอว่าเขาจะเอาอะไร อ้าปากจะถามเขา แต่แล้วเสียงเข้มก็สั่งขัดขึ้นเสียก่อน “ไปตามคนที่ชื่อหยินมา” “ค่ะ” หญิงคนนั้นรับคำสั่งอย่างไว แล้วรีบออกไปตามหาอภิยาอย่างรวดเร็ว ไปที่ในครัว หาไม่เจอ วิ่งไปทางหลังบ้าน ก็ค่อยเห็นว่ากำลังถากหญ้าที่ด้านหลังอยู่ เลยทำหน้าไม่พอใจใส่ ทุกทีก็เห็นไปยืนสะเหล่อ เสนอหน้ากับเจ้านายตลอด แล้วทำไมเวลานี้ไม่ไปเล่า นี่คงอ่อยจนนายติดกับจนต้องร้องหา แล้วก็หลบมาอยู่แถวนี้ล่ะสิ คิดอย่างหมั่นไส้ เดินไปตะโกนสั่งอีกทีว่า “นี่! คุณพุธเรียก” อภิยายกแขนเสื้อปาดเหงื่อ เห็นคนมาเรียกก็ร้องถามกลับไปว่า “เรียกหยินหรือ” “ก็ใช่น่ะสิ” ได้ยินว่าเขาเรียก สายตาคนอื่น ๆ แถวนั้นก็หันมามองที่เธอกันเกือบหมด อภิยาห้ามสายตา ห้ามความคิดของใครไม่ได้อยู่แล้วจึงวางงานที่ทำอยู่ เลี่ยงไปล้างมือแล้วค่อยตรงไปหาเขา งานที่คุณน้อมสั่งยังไม่เสร็จ และนี่ก็คงจะเลยมื้ออาหารของพสุธามาแล้ว แต่คุณน้อมก็น่าจะจัดการให้คนอื่นยกไปตั้งโต๊ะแล้วนี่นา คิดขณะเดินตรงไปยังห้องรับประทานอาหาร เห็นหัวดำ ๆ เด่นมาแต่ไกล พสุธานั่งตักอาหารกินเงียบ ๆ ไม่มองเธอแม้แต่หางตา ไปถึงแล้ว ยืนห่างจากเขาพอสมควร เพราะเนื้อตัวค่อนข้างสกปรกแล้วเอ่ยถามเขา “คุณพุธจะรับอะไรเพิ่มหรือคะ” เขามองเธอนิ่ง ๆ เห็นเนื้อตัวมอมแมมก็ถามขึ้นว่า “ไปช่วยป้าใจมาอีกหรือไง” “ค่ะ” “หน้าที่หรือไง แล้วทำไมไม่มายกอาหารตั้งโต๊ะ” “คือ...” “กินข้าวหรือยัง” เธอยังไม่ได้กินหรอก แต่แล้วก็ตอบไปสั้น ๆ แค่ “ค่ะ” “เจ้านายยังไม่กิน ก็กินก่อนได้เลยหรือไง” เธอเงียบไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไปอีก พสุธาก็ค่อยบอกขึ้นว่า “เดี๋ยววันเสาร์กลางเดือนหน้า ไปช่วยงานที่ข้างนอกหน่อย” เงียบไปอึดใจเดียว ถามเขากลับว่า “ช่วยงานที่ไหนคะ” “ที่...” พสุธาเอ่ยชื่อโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในอำเภอออกไป แล้วขยายความต่อ “ไปช่วยยกของลงรถ แล้วถ้าเขามีงานอะไรให้ช่วย ก็ไปช่วยเขา บ่าย ๆ ก็น่าจะเสร็จ” “ได้ค่ะ” ตอบรับง่าย ๆ แล้วยืนรอห่างเขาเป็นโยชน์ พสุธานั่งรอให้เธอพูดอะไรออกมาบ้าง เห็นเอาแต่ยืนเงียบ ก็หงุดหงิดใจจนสุดท้ายโบกมือให้ออกไปเสีย แล้วตักข้าวกินต่อหลังจากนั้น แต่ก็แทบไม่รู้รสชาติเท่าไรนัก ครุ่นคิดเงียบ ๆ ที่โต๊ะอาหารในตอนนั้นเอง ผู้หญิงคนนั้นพูดจากล่าวหาว่าเขาหัวงู แล้วยังมาทำตัวห่างเหินให้เขาโหยหาอีกด้วย เดี๋ยวก่อน! นี่เขาโหยหาแม่นั่นอีกแล้วหรือไง สองรอบแล้วนะที่เขาคิดว่าตัวเองโหยหาผู้หญิงคนนั้น พสุธาส่ายหัวแรง ๆ ปฏิเสธกับตัวเองไปว่าไม่หรอก ไม่น่าจะใช่ คิดทบทวนก่อนจะวางช้อนกินข้าวลง ยกมือขึ้นประสานกัน พร้อมกับคำถามผุดขึ้นในหัว ก็แล้วตอนที่ผู้หญิงคนนั้นไม่สบาย ตอนนั้นทำไมหัวใจของเขามันต้องกระวนกระวายด้วยเล่า อ้อ คงเพราะว่ากลัวแม่นั่นจะมานอนตายในไร่ของเขาน่ะสิ ก็แล้วตอนที่ไปถามว่าหายหรือยัง ผู้หญิงคนนั้นทำตัวรังเกียจใส่ด้วยการขยับหนี ทำไมจะต้องหงุดหงิดด้วย ก็เพราะเขาเกลียดคนจองหองพองขนไงเล่า มึงกำลังแก้ตัวใช่ไหมพุธ เสียงหนึ่งในหัวถามพร้อมกับเสียงขำขันอย่างจงใจยั่วยุ ไม่ใช่! มึงชอบแม่นั่นแล้วล่ะพุธ ไม่ใช่โว้ย! ไปดีกว่า เขาคงว่างงานมากจนคิดฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ บอกตัวเองไปแบบนั้นแล้วก็รีบลุกหนีออกจากโต๊ะอาหารไป คนงานในบ้านที่ยืนคอยรับคำสั่งของพสุธามีสีหน้าชอบกล เมื่อครู่นี้เจ้าของไร่เทียมพสุธาเป็นอะไร เห็นสะบัดหัวไปมาจนแทบหลุดออกจากคอ แล้วก็เอียงซ้ายทีขวาที พึมพำอะไรอยู่คนเดียวตั้งเป็นนาน ไม่ใช่ถูกเสน่ห์ของคนงานใหม่เข้าเล่นงานแล้วหรือ ต้องใช่แน่ ๆ คิดพร้อมกับได้เรื่องนินทาเรื่องใหม่ให้คนอื่น ๆ ในบ้านได้ฟังกัน พสุธาเดินออกจากบ้าน เดินไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมายเป็นครั้งแรกของชีวิตจนไปเจอศักดิ์ ลูกน้องคนสนิทกำลังนั่งปาก้อนหินลงในสระน้ำ ก็ให้นึกขึ้นได้ว่าเขาสั่งงานอีกฝ่ายเอาไว้นี่นา แล้วเลยตรงไปสมทบกับทางนั้น ถามขึ้นว่า “เรื่องที่กูสั่ง เรียบร้อยหรือยัง” ศักดิ์ตอบเสียงเอื่อยเฉื่อยกลับมา “เรียบร้อยแล้วครับ ขอโทษด้วยนะครับคุณพุธ ตอนนี้ผมกำลังเครียด ถ้าทำอะไรหรือพูดอะไรไม่ดีออกไปอย่าไล่ผมออกนะครับ” “เครียดอะไรของมึง” พอได้ที่ระบาย ศักดิ์ก็พูดโพล่งขึ้น “ผมนะ ไม่เข้าใจผู้หญิงแม่งเลย” “...” พสุธาเงียบรอฟังลูกน้องตัวดี ศักดิ์ทำหน้าตาบิดเบ้ราวกับเจ็บปวดหนักหนาก่อนออกปากเล่าต่อ “ชอบมาทำให้เราใจสั่น มาทำเล่น ๆ หยอก ๆ กับเรา แล้วพอเราจะเอาจริง จะเล่นด้วย แม่งก็หนีเราไปเฉย” ได้ยินลูกน้องบ่น อดขมวดคิ้วมองไปที่มันไม่ได้ ทำไมลูกน้องตัวแสบของเขา พูดเหมือนกับมันเข้ามานั่งอยู่ในใจของเขาเลยวะ ถามด้วยความสงสัยปนระแวง “แล้วทำไมเขาจะต้องทำแบบนั้นด้วยวะ” ศักดิ์มองที่นายก่อนจะเผยรอยยิ้มแบบซังกะตาย “คุณพุธไม่ต้องช่วยอินกับผมขนาดนั้นหรอกครับ” “กูไม่ได้อิน” พสุธาบอกอย่างหงุดหงิด ถามต่อด้วยความอยากรู้ “แล้วสรุปว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องทำแบบนั้นด้วยเล่า” “บางทีเขาอาจจะลองใจเราอยู่ ผมว่า ผมจะบอกเธอคนนั้นไปตามตรงเลยดีกว่าว่าผมชอบเธอ” เขามองลูกน้องตัวดีด้วยสายตาสงสัย “แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่ามึงชอบเขา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD