ทำไมจิวซินถึงคิดได้อย่างนั้นน่ะหรือ
ก็เพราะว่าบุรุษผู้นี้มีผิวพรรณเนียนละเอียดลออ ใบหน้างดงามกระจ่างใส ดวงตาของเขาทอประกายอบอุ่น อาภรณ์ที่เขาใส่เป็นสีขาวสะอาดตาหาได้มีลวดลายรบกวนความขาวเนียนละเอียดทั้งเรือนร่างของเขาได้ไม่ ท่วงท่าของเขายามยืนก็ดูสงบเรียบนิ่งทั้งยังเยือกเย็นให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกมากมาย เย็นสบายนัยน์ตาอย่างที่สุด
ทุกอย่างของเขาจำลองมาจากพระอาจารย์ในอารามหลวงที่นางเคยไปนั่งสนทนาธรรมอยู่ด้วยกัน ความน่าเลื่อมใสนั้น...ยากล่วงล้ำนัก
อืม...กลิ่นกายของเขาให้ความรู้สึกสบายจมูกยิ่ง กลิ่นกายสะอาด ผิวพรรณสะอาด ดวงตาสะอาด อา...
“จะสิงร่างข้าหรือไร?” เสียงทุ้มต่ำพลันดังทำเอาจิวซินถึงกับผงะ
ผู้ถูกกล่าวหาจะสิงร่างผู้อื่นกำลังคิดเพลิดเพลินจนเดินเข้ามาเกือบจะแนบชิดกับแผงอกของบุรุษตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไร?
จิวซินถามตนเองในใจเมื่อได้สติกลับมา
เจ้าของประโยคเมื่อครู่เป็นบุรุษรูปงามราวเทพเซียนที่กำลังยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าของจิวซินนั่นเอง
หากเดาไม่ผิดเขาคงเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้อย่างแน่นอน
อืม...เช่นนั้นแล้ว เขาก็เป็นเจ้านายของนางอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อจิวซินคิดได้อย่างนั้นจึงส่งยิ้มเจิดจ้าแววตาสดใส จงใจประจบสอพลอเต็มที่ นางถอยหลังออกห่างเขาถึงสามก้าวอย่างสำรวม แล้วทำความเคารพด้วยท่าทางแข็งแรงเยี่ยงบุรุษผู้กร้าวแกร่ง
นางต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าในยามนี้ตนเองมิใช่สตรี
เมื่อจิวซินประสานฝ่ามือขึ้นเบื้องหน้าค้อมเอวโค้งกายทำความเคารพแล้วแต่ยังมิได้รับคำอนุญาตให้เงยขึ้น นางจึงยืนก้มหน้าสงบนิ่งแอบกลอกตาเล็กน้อยเพื่อระงับจิตใจมิให้ฟุ้งซ่านตื่นเต้นที่ต้องปลอมตัวเป็นบุรุษอย่างนี้
“ไม่ต้องมากพิธี”
เสียงทุ้มต่ำของนายน้อยแห่งคฤหาสน์ดังขึ้นประหนึ่งเสียงสวรรค์ จิวซินเร่งทำจิตใจให้สงบ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้านายหมาดๆ ของตนด้วยความมั่นใจ
แต่แล้วนางพลันต้องผงะ เมื่อสบสายตาเข้ากับบุรุษตรงหน้าที่เขาคล้ายกับว่าจ้องมองนางอยู่เป็นนาน จ้องอย่างกับต้องการมองให้ลึกไปถึงกระดูก ราวกับต้องการมองให้ทะลุปรุโปร่งไปทุกอณูความคิด
จิวซินเบิกตาโตอย่างคนตกใจ
เขาจะจับผิดนางได้หรือไม่?
คงไม่!
ไม่หรอกกระมัง!
จิวซินปลอบใจตนเองพลางจ้องมองสู้สายตาคมนิ่งงัน
บุรุษตรงหน้าจ้องมองนางด้วยสายตาคมดำสีนิลคล้ายรัตติกาลไร้แววทอประกายไม่ต่างจากก้นบึ้งของบึงใหญ่ ปราศจากคลื่นลมใดๆ
ท่วงท่าสงบนิ่ง บุคลิกเย็นชา ท่าทางดั่งรูปสลักรูปปั้น ไร้ใครหรืออะไรมาทำให้โอนอ่อนผ่อนตามได้โดยง่าย
จิวซินยิ่งมองยิ่งรู้สึกดี อา...น่าเลื่อมใสยิ่งนัก
น่าเลื่อมใสจริงๆ
เมื่อจิวซินคิดได้อย่างนั้นนางถึงกับคลี่ยิ้มออกมา
หญิงสาวมีนิสัยชอบเข้าวัดเฝ้าอาราม ชอบศึกษาธรรมะและนั่งสมาธิเป็นประจำ เพราะถ้าหากไม่ทำนางคงไม่แคล้วถูกบังคับให้ปักผ้าดีดพิณและนั่งๆ นอนๆ เป็นเพียงสตรีในห้องหอที่สุดแสนจะน่าเบื่อ!
“เจ้าจะยืนยิ้มคล้ายเมากำยานอีกนานหรือไม่?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอีกหนึ่งประโยคทำเอาจิวซินถึงกับผงะไปอีกครา
หญิงสาวถึงกับหุบยิ้มโดยพลัน นึกได้ว่ายังมิได้แนะนำตัว จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อมแสร้งห้วนใกล้เคียงกับเสียงของหนุ่มน้อย
“อะแฮ่ม! เอ่อ...บ่าว อาซิน ขอรับ คุณชาย”
บุรุษตรงหน้าเพียงหรี่ตามองพลางเอ่ยเสียงเย็น
“เจ้ามีนามว่าอาซินหรือ?”
จิวซินพยักหน้าหงึกหงักดวงตาสดใสคลี่ยิ้มจริงใจเจิดจ้ายิ่งนัก นางกล่าวต่ออย่างขึงขัง “บ่าวทำงานได้ทุกอย่างเลย ได้หมด ไม่มีเลือก ขอเพียงนายน้อยสั่งการมาขอรับ”
“ทุกอย่าง?” บุรุษตรงหน้าทวนคำ “ไม่เลือก?”
เขากล่าวพลางก้มหน้ามองนางด้วยแววตาที่ยากแก่การคาดเดา
“ขอรับ” จิวซินรีบตอบรับอย่างแข็งขันโดยไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มตรงมุมปากชั่วอึดใจของใครบางคนตรงหน้า
นางยังคงส่งยิ้มใสซื่อดวงตาทอประกายสดใสคล้ายกับเด็กน้อยกำลังเล่นสนุกอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อทำการแนะนำตนเองเสร็จสิ้น เจ้านายรูปงามของนางเพียงทำเสียงอืมในลำคอแสดงถึงความพึงพอใจออกมาเบาๆ
เขายังคงมองนาง สะท้อนภาพหนุ่มน้อยหน้าเนียนในแววตา “เอาล่ะ! หากทำได้ทุกอย่างดังวาจา ข้าจะรับเจ้าเข้าทำงาน”
จิวซินได้ยินถึงกับคลี่ยิ้มได้กว้างยิ่งขึ้น
งานอะไรก็ได้ ยกเว้นปักผ้า ดีดพิณ วาดภาพ เขียนกลอน ร่ายรำ งานพวกนั้นมารดาชอบบังคับให้นางทำ น่าเบื่อยิ่ง!
และแล้วเจ้านายรูปงามของจิวซินก็ไม่ทำให้จิวซินได้ผิดหวัง ทั้งซักผ้า ทั้งปัดกวาด ทั้งเช็ดถู มีแบกน้ำด้วย
อา...ช่างถูกใจยิ่ง
ยามอยู่ที่จวนหยาง บ่าวไพร่ไม่เคยให้นางได้ทำหรือแตะต้องงานเหล่านี้ จะหยิบจะจับอะไรก็มีแต่ถูกห้ามปราม กลัวนางจะเหน็ดเหนื่อย กลัวนางจะผิวเสีย กลัวนางจะสิ้นความงาม
ถึงแม้ว่าบิดากับมารดาจะไม่เข้มงวดเรื่องนี้กับนางก็ตาม แต่พวกท่านมักจะดูแลอย่างดีเยี่ยมเสมอมา กับบ่าวไพร่ยิ่งแล้วใหญ่ ดูแลนางดียิ่งกว่าอะไร ประหนึ่งนางเป็นไข่มุกในอุ้งมือกระนั้น
นางไม่แตกหักง่ายๆ เสียหน่อย จะอุ้มไว้ทำไมนักหนา
เวลาผ่านไปจนเกือบจะหมดวัน
จิวซินยังคงทำงานไปยิ้มไปอย่างร่าเริง ท่าทางราวกับได้รับอิสรเสรีมิใช่ได้รับงานหนักอันใดเทือกนี้
ผิดกับใครบางคนที่สั่งการให้นางทำงานอย่างสิ้นเชิง
เขาผู้นั้นกำลังยืนมองมาทางนางอย่างหงุดหงิดเหลือประมาณ ทั้งๆ ที่ตั้งใจสั่งงานหลายอย่างให้นางได้ทำ ทั้งงานหนักงานเบาเอาให้นางได้ถอดใจ แล้วดูเถิด...ดูนางทำ
ยิ้มไปทำไปนั่นคืออันใด?
ไยแม่นางถึงได้เบิกบานยิ่ง!