บทที่ 1 ผู้ชายกะหลั่ว 1

2519 Words
หยาดฟ้าเที่ยวถามแม่บ้านว่ารู้จักไอ้ดิน หรือ ‘นายดิน’ ที่เธอเรียกหรือไม่ แม่บ้านดูจะงุนงงไปครู่ แต่เมื่อหญิงสาวเล่าว่าเป็นเขาเป็นคนงานที่โรงสีข้าวห่างจากบ้านเธอไปไม่กี่ไร่ แม่บ้านสาววัยกลางคนก็ร้องอ๋อออกมาทันที “ทำไมจะไม่รู้จักล่ะคะ ก็นั่นเป็นคนดังของหมู่บ้านเลยนี่นา” “คนดัง?” “คุณฟ้าไม่รู้อะไร พ่อหนุ่มนั่นน่ะ ผู้หญิงทั้งสาวแก่แม่ม่ายต่างหมายปองกันทั้งนั้นแหละ คนอะไร้! ทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี ใครๆ ก็อยากได้มาเป็นผัวทั้งนั้นแหละค่ะ เสียอย่างเดียว ขี้เกียจตัวเป็นขน” พูดแล้วก็พลางทำปากซู้ดซี้ดราวกับว่าหล่อนเองก็อยากได้ไอ้ดินมาเป็นผัวเหมือนกัน แต่ประโยคสุดท้ายนั้นก็ทำให้หล่อนหยุดสูดปากจนได้ หยาดฟ้าชำเลืองมองท่าทางน้ำลายสอนั่นเล็กน้อย พลันก็ไม่สนใจ เลี่ยงไปถามเรื่องอื่น “งั้นที่ป้าพูดอย่างนี้ ก็แสดงว่านายดินเขายังไม่มีเมียเหรอคะ” “อย่าว่าแต่เมียเลยค่ะ แฟนก็ไม่มี วันๆ ก้มหน้าตากแดดทำแต่งาน ว่างก็กลับบ้านนอน ไม่มีเวลาไปหาเมียหรอก ถ้าคิดจะมีจริงๆ ป่านนี้มีไปตั้งนานแล้ว คนหนุ่มอายุเท่าเขา มีเมียมีลูกเป็นโขยงกันทั้งหมู่บ้าน มีแต่พ่อ เจ้าประคุณรุณช่องนี่ล่ะที่ไม่สนใจใครเลย” “แล้วทำไมเขาถึงไม่มีล่ะ” “ถ้าไม่ใช่เหตุผลว่าเป็นเกย์ ป้าก็ไม่รู้แล้วล่ะค่ะ” จากนั้นป้าแม่บ้านก็ชวนไปคุยเรื่องอื่น โดยส่วนมากจะเป็นเรื่อง เมาท์มอยหอยสังข์ นินทาคนนั้นทีคนนี้ทีตามประสาคนว่างงานหลังจาก เก็บกวาดบ้านให้หยาดฟ้าเสร็จแล้ว ทว่าคำพูดของป้าแม่บ้านกลับไม่เข้าหูของเธอเลย มีแต่เสียงรำพึงในใจที่ดังวนไม่หยุด ยังไม่มีแฟน ไม่มีเมีย ไม่มีลูก และอาจเป็นเกย์... แต่ถ้าเป็นเกย์ก็ดีน่ะสิ เธอจะได้จ้างวานให้เขามาเป็นสามีปลอมๆ ให้เสียเลย ไม่เสียหายอะไรด้วย แล้วก็ได้ประชดประชันพ่อตามที่ต้องการด้วย ดีทั้งขึ้นทั้งร่อง! “เดี๋ยวฟ้ามานะคะป้า ถ้าจะกลับแล้วก็ฝากล็อกประตูด้วยนะคะ” หยาดฟ้าคิดได้ก็รีบรี่ไปคว้ากุญแจรถ แล้วตรงไปยังหน้าบ้าน ปล่อยให้คนอาวุโสกว่าร้องถาม “แล้วคุณฟ้าจะไปไหนคะ” “ไปเอาผู้ชายกะหลั่วๆ มาทำผัวค่ะ” ทิ้งไว้แค่นั้นแล้วก็จากไป มีแต่หญิงวัยกลางคนเท่านั้นที่นั่งหน้านิ่วแล้วทวนคำพูด “ผู้ชายกะหลั่วๆ...คุณฟ้าหมายถึงใครกันนะ” จะหมายถึงใคร ก็หมายถึงไอ้ดินอย่างไรล่ะ! หยาดฟ้าหมายจะเอาผู้ชายที่ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากหน้าตามาทำผัวให้พ่อปวดใจเล่น เพราะเธอได้ลั่นวาจาไปแล้วว่าจะทำอย่างนั้น พลันก็รีบขับรถมายังโรงสีที่ไอ้ดินทำงานอยู่ และเมื่อเธอลงจากรถ ทุกสายตาของคนงานก็ปราดมองมาที่เธอเป็นตาเดียวอีกครั้ง นางฟ้านางสวรรค์เหาะลงมาสถิต ณ โรงสีแห่งนี้อีกแล้ว... จะมีก็แต่ไอ้ดินนั่นล่ะที่ไม่ได้หยุดมือทำงานกับคนอื่นเขา พอเขาแบกกระสอบข้าวเปลือกส่งให้เพื่อนร่วมงานไปกระสอบหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีการมารับกระสอบถัดไปต่อ ทำให้เขาต้องผินหน้าไปมองพร้อมกับส่งเสียงดุ “มัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบมารับ” “เอ็งดูนั่นสิไอ้ดิน...” “อะไร” “นางฟ้า...” ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขาครางฮือพลางทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม ทำให้ไอ้ดินจำต้องวางกระสอบข้าวเปลือกลงที่เดิม แล้วเหยียดตัวขึ้นยืนเพื่อมองไปยังคนที่ทำให้การทำงานในโรงสีนี้ชะงักลง ใครคนนั้นก็คือหยาดฟ้า...หญิงสาวคนเมื่อวานที่มาขอความช่วยเหลือนั่นเอง “เอ็งรออยู่ตรงหน้าก่อน เดี๋ยวข้าจะไปคุยธุระเดี๋ยว” “ธุระอะไรของเอ็งวะไอ้ดิน” “เออน่า ธุระก็แล้วกัน” ไอ้ดินเอ็ดเพื่อนร่วมงานไปคราหนึ่ง เขาไม่ได้ดุอะไรจริงจังนักหรอก แต่น้ำเสียงนั้นก็ทำให้เพื่อนร่วมงานไม่กล้าเซ้าซี้ต่อจนได้ รวมถึงคนงานคนอื่นๆ ด้วยที่ต้องเลิกมองหยาดฟ้าอย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อได้ยินเสียงแหวของไอ้ดินดังขึ้น “มัวมองอะไรกันอยู่ ทำงานสิครับพี่น้อง เดี๋ยวเถ้าแก่มาเห็นก็ได้ถูกด่ากันถ้วนหน้าหรอก!” ได้ยินคำว่า ‘เถ้าแก่’ เท่านั้นก็พากันก้มหน้าก้มตาทำงานเหมือนเดิม ไม่ใคร่สนใจหญิงสาวที่มายืนชะเง้อชะแง้อีกแล้ว มีแต่ไอ้ดินเท่านั้นที่เดินไปหยุดอยู่ข้างหลัง แล้วถามขึ้นเรียกความสนใจไป “มีธุระกับเถ้าแก่เหรอครับ” เป็นคำถามเดิมกับเมื่อวาน หยาดฟ้าหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นไอ้ดิน เธอก็ยิ้มกว้าง วันนี้เขาไม่ได้ดูสกปรกเลอะเทอะเท่าเมื่อวาน อาจจะเพราะเพิ่งจะเริ่มงานไม่ได้นาน เหงื่อไคลเลยยังไม่โทรมกายสักเท่าไรนัก “ตกลงคุณฟ้ามีธุระกับใครหรือครับ” พอเห็นว่าหญิงสาวไม่ตอบสักที ไอ้ดินก็ถามขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เองที่หยาดฟ้าตระหนักขึ้นมาได้ “ฉันไม่ได้มีธุระกับเถ้าแก่โรงสีที่นี่หรอกค่ะ” “แล้วคุณมา...” “แต่ฉันมีธุระกับคุณ” “ผมน่ะเหรอ” ไอ้ดินใช้นิ้วชี้ขวาชี้เข้าหาตัวเอง หยาดฟ้าก็พยักหน้า “ใช่ค่ะ กับคุณ” “แล้วมีธุระอะไรกับผม” ไอ้ดินเก็บความฉงนไว้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ขณะที่หยาดฟ้าฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม “คือฉันมีคำถามอยากจะมาถามคุณสักสองสามข้อน่ะค่ะ” “อะไรเหรอครับ” “สัญญาได้ไหมว่าจะตอบตามความจริง” ไอ้ดินหรี่ตาเล็กลงทันที ท่าทีระแวดระวังถูกเผยออกมาให้เห็นชัดเจน เขาทั้งประหลาดใจ ทั้งไม่ไว้ใจที่จู่ๆ สาวสวยคนนี้ก็อยากจะมารู้อะไรจากเขา หรือเธอจะเป็นสายตรวจ นักสืบ สายลับ หรืออะไรเทือกนั้น แล้วแวะมาทำคดีที่นี่ ส่วนเขาก็เป็นพยานปากสำคัญกัน? คิดเลอะเทอะมั่วซั่วไปหมดแล้ว สงสัยจะดูหนังสืบสวนมากไป ไอ้ดินกระแอมไอสองสามทีเพื่อเรียกสติ จากนั้นก็ถามกลับ “ทำไมผมจะต้องสัญญากับคุณด้วย” “เพราะฉันอยากมั่นใจน่ะสิคะว่าควรจะใช้แผนไหนดี” “แผน?” “เอาเป็นว่าสัญญากับฉันมาก่อนค่ะว่าจะตอบตามความจริง แล้วฉันจะบอกแผนของฉันให้ฟัง” จะว่าโง่ ซื่อบื้อ หรืออะไรดีที่ทำให้ไอ้ดินพยักหน้ารับ เท่านั้นหยาดฟ้าก็เปิดปาก “นายดินมีแฟนหรือยังคะ” เป็นคำถามที่...ชวนให้เขาฉงนสนเท่ห์ยิ่งกว่าเดิมนัก “แฟนเหรอครับ” “ใช่ค่ะ” “ไม่มีหรอก” “แล้วเมียล่ะคะ” “เมีย...ก็ไม่มี” “แสดงว่าลูกก็ไม่มีใช่ไหมคะ” “ไม่มีทั้งแฟน ทั้งเมีย จะไปมีลูกได้ยังไงกันล่ะคุณ” ปลายเสียงของไอ้ดินขึ้นสูงเล็กน้อย หยาดฟ้ายืดลำตัว ท่าทาง พึงพอใจเป็นอย่างมากที่ได้ยินคำตอบเหล่านี้ “ถ้าอย่างนั้น ฉันมีอีกคำถามที่อยากจะถาม” “อะไรครับ” “นายดินไม่มีทั้งแฟน ทั้งเมีย ทั้งลูก หรือว่า...นายดินจะชอบผู้ชายด้วยกัน?” คำถามนี้ หญิงสาวแอบกระซิบเสียงเบาเชียว เกรงว่าคนอื่นจะมาได้ยินแล้วจะทำให้ไอ้ดินเสียหาย ขณะที่คนฟังได้แต่เบิกตาโต ชี้นิ้วเข้าหาร่างกายตัวเองอีกระลอก “ผมเนี่ยนะชอบผู้ชาย!?” “อืม” หยาดฟ้าพยักหน้า “ชอบก็บ้าแล้วคุณ ถามอะไรของคุณเนี่ย ไร้สาระ” พลันแสดงท่าทีรำคาญน้อยๆ ออกมาอย่างลืมตัว แต่หยาดฟ้าไม่สนใจหรอก เธอได้คำตอบที่เธอต้องการครบแล้ว ทีนี้ก็เป็นคราวที่จะต้องบอก ‘แผนการ’ ของเธอแล้ว “คุณไม่อยากรู้แล้วเหรอคะว่าแผนของฉันคืออะไร” ไอ้ดินไม่อยากรู้หรอก เขารู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้แปลกๆ ตอนแรกก็น่าช่วยเหลืออยู่หรอก แต่พอได้คุยกันมากขึ้น เธอก็ดูพิลึกชอบกล สติวิปลาส หรือเปล่าก็ไม่รู้ “ผมมีงานต้องทำ ไม่อยากรู้หรอกครับ” แล้วเขาก็ปฏิเสธทันตาเห็นเลย ทำเอาหยาดฟ้าที่อ้าปากเตรียมจะเล่าต้องชะงัก แล้วปรี่เข้าไปคว้าแขนล่ำๆ ของไอ้ดินไว้มั่น “เดี๋ยวสินายดิน ฉันกำลังจะเล่าแผนการของฉันนะ” ชายหนุ่มชำเลืองมอง แล้วค่อยๆ ดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของหญิงสาวด้วยท่าทางสุภาพ “แผนอะไรล่ะครับ” “นายดินอยากฟังไหมล่ะ” “ถ้าคุณฟ้าจะเล่า ผมก็จะอยู่ฟัง” เขาดึงแขนไปกอดอกแทน กลัวว่าหญิงสาวจะถือวิสาสะคว้าแขนของเขาไปจับไปกอดเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อเขาไม่ซ้ำหน้า หากทว่าหยาดฟ้าไม่ได้คิดเรื่องจะแตะเนื้อต้องตัวเขาหรอก นอกจากจะเอียงคอน้อยๆ แล้วว่าขึ้นมา “ทำงานเป็นคนงานอย่างนี้ ค่าแรงคงน้อยล่ะสินะ” ไอ้ดินถึงกับเลิกคิ้วสูง “ค่าแรงของผมมันเกี่ยวอะไรกับแผนการของคุณฟ้าเหรอ” “ก็ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ แต่พยายามจะพูดให้มันเกี่ยวข้องกันอยู่” คนฟังไม่เข้าใจสิ่งที่หญิงสาวต้องการจะสื่อเลย ได้แต่มองเธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก แล้วค่อยๆ ร่ายออกมา “คืออย่างนี้ค่ะ ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพราะหนีการแต่งงานคลุมถุงชน ฉันอยากจะเลือกผู้ชายด้วยตัวเอง จนมาเจอนายดินเมื่อวานนี้ เลยคิดว่า นายดินเหมาะสมกับฉันดี ถ้าเรา...” “หา!? ผมเนี่ยนะ เหมาะสมกับคุณ?” พูดยังไม่ทันจบเลย ไอ้ดินก็โวยวายขึ้นมาขัดก่อนเสียแล้ว แต่ก็จริงของเขา หยาดฟ้ามองอย่างไรก็รู้ทันทีว่าเป็นคุณหนูผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดินแน่ๆ ทั้งรถหรู ทั้งโทรศัพท์ ทั้งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ แค่นี้ก็บ่งบอกฐานะแล้ว ขณะที่เขาเป็นเพียงกุลีที่แบกกระสอบข้าวเปลือกไปวันๆ มีอะไรที่เหมาะสมกับเธอตรงไหนเนี่ย!? “ฟังก่อนสิคะ ฉันยังพูดไม่จบเลย” หยาดฟ้าทำหน้ายู่ ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ถูกขัด เมื่อเห็นไอ้ดินเงียบลง เธอก็ว่าขึ้นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าคุณเหมาะสมกับฉันดี เพราะฉันประชดประชันพ่อไปว่าจะเอาผู้ชายกะหลั่วๆ มาทำผัว แล้วฉันก็บังเอิญได้คุยกับคุณหลายครั้ง รู้สึกว่าคุณน่าจะเป็นคนดี ก็เลยอยากจะจ้างวาน” จ้างวาน... จ้างวานอะไร เขาไม่เอาด้วยหรอกนะ! ที่สำคัญ แค่คุยกับเขาเพียงไม่กี่ประโยคนั่นน่ะหรือ หญิงสาวถึงตีความเอาเองว่าเขาเป็นคนดี เธอคิดตื้นเกินไปแล้ว! “ผมไม่สนใจหรอกนะ เรื่องจ้างวานอะไรของคุณน่ะ” ไอ้ดินว่าราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างไร เฮอะ ก็คงหนีไม่พ้นจ้างให้เขาแสร้งเป็นผัวปลอมๆ ของเธอเพื่อใช้ประชดประชันคนในครอบครัวนั่นล่ะ ถึงจะเป็นกุลี แต่ก็ไม่ได้โง่นะโว้ย! พูดจบก็หันหลังเดินหนี หยาดฟ้าเห็นก็รีบรี่มาดักหน้า “แต่ฉันให้เงินดีนะนายดิน ปกติคุณได้ค่าแรงวันละเท่าไร” “ทำไมผมต้องบอกคุณ” “ให้ฉันเดา ขั้นต่ำก็คงวันละสามร้อย” “สี่ร้อย ที่นี่เถ้าแก่ใจดี ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยสมความเหนื่อย” ชายหนุ่มแก้ แต่หยาดฟ้าก็ไม่ได้สนใจ นอกจากฉีกยิ้มพราย “งั้นฉันจะจ้างคุณวันละพันดีไหม คุณจะได้มาเป็นผัวฉัน” เป็นสาวเป็นแส้แท้ๆ กล้าพูดคำว่า ‘ผัว’ หน้าชื่นตาบานได้อย่างไร กันนะ! จะว่าไอ้ดินเป็นคนหัวโบราณก็ได้ แต่เขาไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่พูดจาฉะฉานสักเท่าไรนัก กระนั้นก็ถือว่ายังดีกว่าพวกที่อ้อร้อ อย่างหลังนี่เขาจะรำคาญมากกว่า “เงินไม่ใช่น้อยเลยนะนายดิน ยอมมาเป็นผัวฉันเถอะนะ” แต่ตอนนี้น่าจะรำคาญการหว่านล้อมของหยาดฟ้าเสียแล้ว เขาปรายสายตาดุๆ ไปมองเธอ แล้วว่าเสียงเข้มทันที “อย่าคิดว่าจะเอาเงินฟาดหัวคนที่ด้อยกว่าคุณได้นะครับคุณฟ้า ผมไม่ไปเป็นผัวของคุณหรอก เรื่องไม่ใช่เรื่องเลย คุณเองก็โตแล้ว ไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้ให้ตัวเองมีปัญหานะ” กลายเป็นสอนหญิงสาวไปอีก หยาดฟ้าอ้าปากหมายจะเถียงว่าที่เธอต้องทำแบบนี้ เป็นเพราะเธอมีเหตุผล แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ร่างแกร่งก็หมุนตัวหนีไปอีกทางเสียแล้ว เธอรีบร้องเรียกเขา ทว่าก็ต้องค่อยๆ ผ่อนเสียงลงเมื่อจู่ๆ เขาก็หันหลังขวับกลับมาเอง “นาย...ดิน...” “อ้อ แล้วผมก็จะบอกคุณอีกอย่าง” “อะไรคะ” “กลับไปคืนดีกับที่บ้านซะ ไม่มีใครรักและหวังดีกับคุณเท่ากับครอบครัวคุณแล้ว กลับไปซะเถอะ อย่ามามัวเล่นสนุกอยู่ที่นี่เลย คนที่บ้านจะเป็นห่วงเอา” พูดจบก็เดินไป คราวนี้ไม่สนใจจะหันกลับมามองเธอแล้ว ปล่อยให้หญิงสาวเม้มปากแน่นอย่างขัดใจ ไม่มีใครรักและหวังดีกับเธอเท่ากับครอบครัวอย่างนั้นหรือ? ไม่จริงหรอก! ไม่จริง! ถ้ารักและหวังดีกับเธอจริงๆ จะบังคับให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักและไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้งทำไมกัน! หยาดฟ้าไม่เชื่อหรอกว่าบิดาจับเธอคลุมถุงชนเพราะความรักความเป็นห่วงอย่างเดียว เขาเป็นนักธุรกิจ การจับเธอแต่งงานกับผู้ชายในแวดวงสังคมเดียวกัน มันต้องหมายถึงการสร้างคอนเนคชั่นเพื่อให้ธุรกิจของเขาเติบโตและขยายตัวอยู่แล้ว เหมือนการแต่งงานของคนในสมัยก่อนที่คลุม ถุงชนเพื่อขยายอำนาจของวงศ์ตระกูลอย่างไรล่ะ! แต่นี่มันสมัยไหนแล้ว เธอไม่ยอมให้ตัวเองถูกใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจหรอก ส่วนนายดิน...วันนี้ไม่ยอมรับข้อเสนอเธอก็ไม่เป็นไร เธอไม่มายด์กับเรื่องนี้สักเท่าไรนัก อย่างน้อยก็ได้รู้ข้อมูลของเขามาแล้วว่าเขาไม่มีแฟน ไม่มีเมีย ไม่มีลูก และไม่ได้เป็นเกย์ เท่านี้เธอก็มีโอกาสที่จะรวบหัวรวบหางเขามาเป็นของเธอแล้วล่ะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD