ลองกับคนร้ายเดียงสา

2848 Words
(แผ่นฟ้า) สุดท้ายผมก็ตัดสินใจมากับพวกไอ้น้ำเหนือ ตอนนี้เหมือนผมอยู่กลางดงเสือเลยครับ รอบตัวของผมตอนนี้ดูครื้นเครงกันมาก ผมนั่งดื่มไม่สนใจใคร เพราะผมมีเรื่องมากมายเกี่ยวกับอันดาให้คิดเยอะ ใช่ครับ! สำหรับผู้หญิงคนนี้ผมต้องคิดเยอะ ๆ ไหนจะพ่อของเธอที่ดูหวงลูกสาวมาก ไหนจะตัวของอันดาที่ปิดกั้นผม ผลักไสและปฏิเสธผมต่าง ๆ นานา "ไอ้แผ่นฟ้าทำไมนั่งเหี่ยวคนเดียว อารมณ์ไหนวันนี้ ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย หรือว่าต้องการคนนั่งข้างไหม กูจัดให้ได้นะ" เสียงของเพื่อนกลุ่มที่เตะบอลด้วยกันทักผม มันชื่อกรครับ สงสัยเห็นผมนิ่งนั่งกระดกแก้วเหล้าอย่างเดียว ส่วนพวกมันเรียกเด็กมานั่งด้วย คลอเคลียกันจนแทบจะสิงร่างกันอยู่แล้ว "ไม่ล่ะ...ปล่อยกูไว้แบบนี้อะดีแล้ว" ผมพูดขึ้นแล้วยกแก้วเหล้าต่อ "เห้ย อะไรวะ มาด้วยกันก็ต้องสนุกด้วยกันดิ๊" กรยังคงพูดต่อ สาวที่นั่งบนตักของมันก็ซบหน้าลงร่องไหล่ แต่สายตาของเธอมองมาทางผม เธอยิ้มให้และผมก็ยิ้มตอบตามารยาท "กูไม่สนุกตรงไหน? " ผมย้อนถามกรออกไป "ก็ตรงมันกระดกแก้วเหล้าอย่างเดียวนี่ไง...สักคนไหมจัดให้ได้นะ" กรยังคงเร้าหรือผมต่อ "พอ ๆ ไม่เอา พวกมึงสนุกกันเลย" ผมปัดมือปฏิเสธ แม้กรจะพยายามสะกิดแขนผม "มีอะไรวะ" "ก็ไอ้แผ่นฟ้าดิ มันดูไม่ค่อยสนุกกูเลยอยากหาอะไรให้มันทำ แต่มันก็ดันปฏิเสธ" เสียงของไอ้น้ำเหนือเอ่ยถาม มันเดินมาหยุดตรงหน้าผม ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจว่ามันลุกไปไหน ตอนไหน แต่ตอนนี้มันเดินควงสาวมาด้วยครับ ซึ่งเป็นคนละคนกับที่มันนั่งสิงกันก่อนหน้า ทำไมพวกมันหาหญิงกันง่าย แต่ก็อย่างว่าแหละ คารมพวกมันมีมากมาย จะเกี้ยวเอาใครตอนไหนก็ได้ สาว ๆ หลงหมด "อย่าไปยุ่งกับมันเลย ไอ้แผ่นฟ้ามันไม่เล่นด้วยหรอก กูตื้อมันแล้ว" ไอ้เหนือนั่งลงกระแทกไหล่ของผม แล้วพูดแซว "หรือว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตน" กรพูดขึ้น "อย่าวุ่นวายกับกูเลย พวกมึงไปอยู่กับสาว ๆ ของพวกมึงเหอะ" ผมเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้ แล้วบอกพวกมันตัดบท ไม่อย่างนั้นก็คงพูดพร่ำเพรื่ออยู่นี่แหละ "เออ...ไปกันจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาอะไรสนุก ๆ ทำ" กรมันส่ายหัวและก็ไปสนใจกับสาวของมันต่อ รวมทั้งไอ้น้ำเหนือด้วย "เดี๋ยวมา ไปห้องน้ำแป๊บ" ผมยกแก้วเหล้าคำสุดท้าย แล้วเดินออกมา บอกเพื่อนไว้แต่ไม่รู้พวกมันสนใจที่จะฟังผมหรือเปล่า ผมเดินตามทางเดินที่คับแคบมาเรื่อย ๆ กินไปเยอะก็เริ่มจะมึนไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเมาไร้สติ ผมเดินตรงไปยังห้องน้ำชาย ในหัวก็คิดต่าง ๆ นานา ว่าจะเอายังไงดีกับผู้หญิงที่ชื่อ อันดา จะต้องทำยังไงให้เธอสนใจ ผมไม่น่าพลาดเลยจริง ๆ ทั้งที่ก็สนใจเธออยู่ก่อนแล้ว "เฮ้อ" ผมยืนล้างหน้าล้างตา จ้องมองหน้าตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ ถอนลมหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาพิชิตใจเธอ เธอมันไม่ได้ง่าย!! และก็ได้ยากด้วย!! "ลองดูสักตั้งวะ! " ผมสลัดความท้อถอยออกจากหัว แล้วสร้างความฮึกเหิมให้กับตัวเอง นับจากนี้แม้เธอจะถอยห่างออกไป แต่ยังไงผมก็จะต้องให้ได้เธอมาครองทั้งตัวและหัวใจให้ได้ "โอ๊ย!! " "ขอโทษครับ" ผมเดินออกจากห้องน้ำด้วยรอยยิ้ม เดินก้มหน้าคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มของอันดา คิดเพลินจนไม่รู้เลยว่าใครเดินมาตรงหน้า จนทำให้ผมชนเข้ากับใครคนนั้นเต็ม ๆ ผมรีบคว้าเธอไว้ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะล้มกระแทกพื้น (อันดา) ฉันเดินมาหวังจะไปห้องน้ำ แต่ความมืดสลัวของทางเดินทำให้ฉันชนเข้ากับใครก็ไม่รู้ แต่เมื่อเสียงที่บอกขอโทษดังขึ้น จึงทำให้ฉันคุ้นเคยทันที เสียงแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา และเมื่อฉันเงยหน้ามองก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ "อันดา! " พี่แผ่นฟ้าเรียกชื่อของฉันเสียงดัง เหมือนกับว่าเขานั้นตกใจ ฉันรีบดีดตัวออกจากอ้อมแขนของเขาที่ประคองฉันไว้ทันที ขยับตัวออกห่างหนึ่งก้าว เพราะไม่อยากจะเข้าใกล้เขาจนมากเกินไป "...ขอโทษค่ะที่เดินไม่ระวัง ขอตัวก่อนนะคะ" ฉันพูดด้วยสีหน้านิ่ง ๆ แต่คนตรงหน้านั้นกลับเหมือนสงสัย เพราะเครื่องหมายคำถามมันแสดงชัดบนใบหน้าของเขา ก็ขมวดคิ้วแทบชนกันขนาดนั้น ดูไม่ออกว่าสงสัยก็แปลกแล้วล่ะ แต่ฉันไม่สนใจ เดินเบี่ยงไปทางซ้ายมือของพี่แผ่นฟ้าทันที "เดี๋ยวสิอันดา แล้วนี่มาได้ยังไง อายุถึงแล้วเหรอ? แล้วมากับใคร" แต่เขากลับจับข้อมือของฉันไว้ แล้วยิงคำถามมากมายจนฉันไม่รู้จะตอบอันไหนก่อนดี แล้วพี่เขาจะเซ้าซี้ฉันทำไมนักหนาก็ไม่รู้ "จะให้ตอบคำถามไหนก่อนดีคะ...แล้วก็ปล่อยมือน้องอันดาด้วยค่ะ" ฉันไม่ได้สะบัดมือออกหรอกค่ะ แค่ปรายสายตามองต่ำลงไปตรงข้อมือ สื่อความหมายออกมาสายตาก็พอ ไม่อยากสะดีดสะดิ้งให้มากแล้ว บางทีก็ต้องวางท่าให้หยิ่งดูบ้าง เพราะเคยเฟรนลี่แล้วไม่เข้าท่า จนผู้ชายที่ปลื้มอย่างพี่แผ่นฟ้าด่าเสียเทเสียไปหลายยก "จะมายังไงแล้วเกี่ยวอะไรกับพี่แผ่นฟ้าด้วยคะ" พี่เขาปล่อยมือฉันอย่างว่าง่ายโดยที่ไม่ต้องปริปากพูดให้เมื่อย ฉันจึงหันไปประจันหน้า ยืนมือกอดอก แล้วพูดย้อนออกไป ก็ไม่ได้จะใส่ใจ ทำไมต้องมาวุ่นวาย ส่วนฉันจะมายังไง อายุถึงไหมมันก็เรื่องของฉันเถอะ "มาสถานที่แบบนี้ ถ้ามาคนเดียวพี่ก็แค่เป็นห่วง" พี่แผ่นฟ้าพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังแล้วละมุนหูดีนะ แต่ว่าขอโทษทีฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ต้องมาแสดงความห่วงใยอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ต้องการ! "ห่วงทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย"ฉันว่าขึ้นอย่างลอยหน้าลอยตา และการที่ฉันมานี่ก็เพราะมากับสกีและเพื่อนของเขาที่ไม่ได้พบกันนาน ฉันแอบได้ยินสกีคุยโทรศัพท์กับเพื่อน หลังจากที่กินข้าวที่บ้านฉันเสร็จ จึงขอคุณป๊ามากับสกี แรก ๆ คุณป๊าไม่ยอม แต่เพราะสกีออกปากคุณป๊าเลยยอมให้ แต่เรื่องอายุถามว่าถึงเกณฑ์ไหม ก็บอกตรง ๆ เลยว่ายัง แต่ว่าเข้ามาได้ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ของพ่อเพื่อนสกียังไงล่ะ มันก็เลยไม่ยาก แต่คุณป๊าก็บ่นจนหูชา กว่าจะได้มา และสกีรับปากว่าจะดูแลฉันอย่างดี ก็เลยได้มาที่นี่แบบสบาย ๆ และฉันก็อยากมาที่แบบนี้บ้าง อยากเปิดโลกใบใหม่บ้าง....เอ๊ะ!!! หรือว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างของฉันก็ไม่รู้ คิกคิก "ต้องเป็นอะไรใช่ไหมถึงจะห่วงได้! " พี่แผ่นฟ้าว่าขึ้นเสียงแข็ง ทำไมตอนนี้พี่เขาดูน่ากลัวจัง แถมยังขยับขาเดินเข้ามาใกล้ ฉันเห็นแบบนั้นจึงรีบถอยหลังเลยค่ะ นึกหวั่นแล้วอะ และสีหน้าของพี่เขาตอนนี้มันเหมือนมีพลังล้างผลาญมหาศาล "ถะ ถอยนะพี่แผ่นฟ้า" ฉันรีบยกสองแขนมาดันอกเขาไว้ ก็เขาเล่นขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พร้อมกับจ้องมองฉันอย่างเอาเรื่อง ทำไมพี่เขาดูไม่น่าไว้ใจเลยล่ะในตอนนี้ สกีอยู่ไหนช่วยอันดาด้วย! "ไม่จำเป็นต้องถอย และคอยดูว่าพี่จะทำยังไง" ปึก!! ฉันเดินถอยหลังจนชิดกับผนังเย็น เพราะพี่แผ่นฟ้าเดินเข้ามาใกล้ จนฉันไม่มีหนทางจะเดินหนีต่อ "มะ หมายถึงอะไร? " คำพูดที่ฉันไม่เข้าใจ ทำให้ต้องถามออกไป สิ่งที่เขาพูดหมายถึงอะไรกันแน่นะ เขาไม่สนใจในสิ่งที่ฉันสงสัย และโน้มตัวลงมาใกล้ ๆ ส่วนฉันก็ยังดันอกของพี่เขาไว้ เบือนหน้าหนีออกด้านข้าง เพราะว่าใบหน้าของพี่เขามันอยู่ใกล้จนฉันรู้สึกหวั่น แววตาของพี่เขาดูร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ในตอนนี้ ซึ่งฉันไม่ไว้ใจ! แต่ก็หนีไม่ได้! "ลองดูก่อนไหมล่ะ? " "!! " สิ่งที่อันดาพูดออกมา สีหน้าและแววตาที่เมินเฉยเย็นชา มันทำให้ผมนั้นแทบกระโจนเข้าใส่ เธอท้าทายผมด้วยคำพูดที่ไม่สนใจกัน ถึงแม้ว่าเราสองคนจะยังไม่มีสถานะให้แก่กัน แต่ผมตั้งใจแล้วว่าจะรุกเธอ ชนิดที่ว่าตั้งหลักไม่ทัน "อยากรู้ไหมล่ะ ว่าลองดูแบบไหน? " ผมดันสองมือกับผนังในมุมมืด กักตัวเธอไว้ แม้อันดาเธอจะดันอกผมรั้ง แต่แรงที่ผมมีมากกว่า ทำให้ตัวของตัวเข้าชิดเธอได้ไม่ยาก ผมกระซิบลงข้างหูของเธอเบา ๆ และเธอก็เอาแต่หันหน้าหนี "ไม่อยากรู้ ถอยค่ะ น้องอันดาจะไปเข้าห้องน้ำ" "แต่พี่อยากให้รู้นะ" เธอพูดเสียงแข็งใส่ แต่ผมไม่สนใจ ยังคงทิ้งแรงลงไปให้ชิดตัวเธอกว่าเดิม ผมไล่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมเพิ่งเห็นชัดเจนก็ตอนนี้ ว่าเธอมีรูปร่างที่ดี และเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ ทำไมมันดูขัดสายตาของผมนัก "ก็บอกไม่อยากรู้ไงคะ" อันดาเธอพูดขึ้น พร้อมยังออกแรงอันน้อยนิด พยายามผลักผมให้ออกห่าง "พี่ต้องมีสถานะไหนล่ะ ถึงจะห่วง หวง อันดาได้" ผมจับปลายคางของเธอให้หันมามองหน้า มืออีกข้างก็ยังยันผนังไว้ ดวงตาของเธอที่อยู่ในความมืดยังมีประกาย ผมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ แววตาที่ดึงดูดทำให้ผมอยากที่จะเข้าใกล้ ไวกว่าสมองก็การกระทำนี่แหละ ผมค่อย ๆ ขยับหน้าเข้าหา เอียงจนได้มุมองศา และแตะชิดริมฝีปากอวบของเธอเบา ๆ ไม่ต้องคิดมากครับ แค่หัวใจมันสั่งว่าให้ Kiss ก็ Kiss เลยครับ เพราะผมไม่อยากจะรออีกต่อไป แม้อันดาเธอจะไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้ผมคิดแล้วว่าต้องได้เธอ อันดาเธอนิ่งและปล่อยให้ผมจูบอยู่แบบนั้นท่ามกลางความมืด ผมจับมือของเธอแนบกับอก บรรจงบดจูบเธอแบบนั้น ไม่รู้ว่าผมช่ำชองหรือว่าเธอนั้นเคลิบเคลิ้มอยากลองก็ไม่รู้ ถึงไม่ปฏิเสธการจูบครั้งนี้ "อื้อ" เสียงที่แค่นออกมาจากลำคอ พร้อมกับมือของเธอที่กำแน่นตรงเสื้อของผม ทำให้รู้ว่าเธอกำลังส่งสัญญาณร้องขออากาศต่อลมหายใจ ผมผละริมฝีปากออกไม่นาน แล้วปรี่จูบเธออีกครั้ง กระชับเอวเธอให้แนบชิด ขบเม้มรีมฝีปากของเธอ เรียวปากสวยเผยออย่างว่าง่าย ผมจึงใช้โอกาสสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธอ รสชาติของน้ำผลไม้ในปาก ทำให้อารมณ์ของผมนั้นเคลิ้มตาม มันหวานจนไม่อยากจะหยุด เหมือนอันดาเธอคืนสติกลับมา เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังพยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของผม "อื้อ พี่...อื้ม" เธอออกแรงผลักไหล่ของผมออก แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ กระชับกอดเอวเธอให้แน่นขึ้น เอวคอดกับรสชาติในปากของเธอ มันกำลังทำให้ผมฟุ้งซ่าน อารมณ์ที่มีตอนนี้กำลังกระเจิง แม้ว่าเธอจะทุบตีลงไหล่ผมแค่ไหน ก็ไม่อยากจะหยุดจูบเธอได้ ผมจับสองมือของเธอตรึงกับผนังด้วยมือเดียว ก็ข้อมือเธอมันเล็กนี่นา "พี่แผ่น...อื้ม" อันดาฝืนแรงหันหน้าหนี แต่ผมมือดีกว่า รีบจับท้ายทอยของเธอให้ประจันหน้ารับรสจูบของผม จูบนี้ที่ผมยังไม่อิ่มพอ เธอไม่มีสิทธิ์จะทำให้ผมหยุดได้ ผมจะจูบจนกว่าจะพอใจ "หยุด! อื้ม" เธอเปล่งเสียงสั่งห้าม แต่ผมรีบปิดปากเธอไว้ด้วยปากของผม ดันเธอเข้ามุมมืดสนิท แน่ใจว่าไม่มีคนเห็นแน่นอน มือของผมเริ่มไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้แผ่นหลังของเธอเบา ๆ อีกมือก็จับล็อกสองข้อมือของเธอไขว้หลังไว้ "ปากหวาน" เมื่ออิ่มหนำต่อการจูบ ผมจึงผละปากออกในระยะใกล้ สายตาของผมจ้องมองเธอที่อยู่ใต้ความสูง แววตาที่เป็นประกายของอันดา ทำให้ผมไม่อยากออกห่าง กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของเธอที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ผมอยากเข้าใกล้มากในตอนนี้ "จูบอีกแล้วนะ! ทำไมถึงชอบฉวยโอกาส...ปล่อย!! " อันดาเธอต่อว่าผมด้วยแววตาที่ดุดัน แต่ผมมันไม่กลัวไง ตัวเล็กจะตายสู้แรงผมไม่ได้อยู่แล้ว "อย่าดิ้นดิ" ผมบอกเพราะว่าตอนนี้ร่างกายของเราสองคนมันแนบชิดกัน ยิ่งเธอดิ้นเท่าไหร่ ส่วนหน้าของเธอก็เสียดสีมากเท่านั้น ซึ่งมันทำให้น้องชายของผมพองตัว "ก็ปล่อยสิคะ ปล่อย!! " เธอเปล่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิม และยังคงดิ้นพล่านในอ้อมกอดของผม "ถ้าไม่หยุดดิ้น อันดาต้องรับผิดชอบ" ผมพูดออกไป พร้อมกับส่งสายตาไปยังด้านล่าง ซึ่งเธอก็มองตามลงไป และเบิกตาโตเหมือนตกใจ กับรูปลำที่มันพาดเป็นทางในเป้ากางเกงยีนที่ผมสวมใส่จนคับแน่น "ไอ้พี่แผ่นฟ้าบ้า!! " เธอถลึงตาใส่ผม และก้มมองไปยังช่วงล่างของผมอีกครั้ง และยังทำตามที่ผมย้ำเตือนอย่างง่ายดาย ไม่ขยับตัวสักนิดเลยครับรอบนี้ "ด่าอีกจูบนะ" ผมพูดอย่างท้าทายเธอ "ก็จูบสิคะ..." "!? " แล้วผมก็ต้องทั้งงงและตกใจกับคำพูดของเธอ ใบหน้าที่เคยดูน่ารักไร้เดียงสา แต่ว่าตอนนี้มันตรงกันข้าม เธอเชิดหน้ามองผมอย่างท้าทาย ซึ่งมันทำให้ผมที่คิดรุกเธองุนงง แต่ผมต้องรีบตีสีหน้านิ่งเหมือนเดิม เพราะตอนนี้อันดาเธอยกยิ้มลึกตรงมุมปาก รอยยิ้มที่ผมคิดว่าคงไม่มีใครเคยเห็นแน่ ๆ มันดูมีเล่เหลี่ยมที่ยากจะคาดเดา และผมตอนนี้ก็เดาทางเธอไม่ออกเหมือนกัน "หึ...ทำไมคะ อย่าทำเหมือนตกใจสิคะพี่แผ่นฟ้า น้องอันดาก็แค่...." สายตาของอันดามองหน้าของผม ประกอบกับนิ้วมือของเธอที่กรีดกรายไล่ลงต่ำไปตามแผงอก มันสัมผัสโดนหัวนมของผมจนสยิว นิ้วมือของเธอตอนนี้เริ่มไล้ลงต่ำไปยังหน้าท้องแล้วครับ มาแนวนี้ผมตั้งรับไม่ทันจริง ๆ "โอ๊ะ!! " ผมร้องเสียงหลง เมื่ออันดาเธอกำตรงเสื้อของผมแล้วดึงลงต่ำ ผมค้ำมือกับผนังแทบไม่ทัน เมื่อมันกะทันหันเกินไป ตอนนี้ใบหน้าของผมอยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น และผิวแก้มที่หอมของเธอ "ไม่กล้าเหรอคะพี่แผ่นฟ้า" อันดาเธอกระซิบลงข้างหูของผม น้ำเสียงที่แหบพร่า ทำเอาหน้าของผมเริ่มร้อนผ่าว กลิ่นกายสาวของเธอที่กระทบเข้ากับจมูก ทำให้ผมเคลิบเคลิ้มจนต้องหลับตา แล้วสูดกลิ่นหอมของเธอเข้าสู่ปอด "หึ...ทำไมง่ายล่ะ? " ผมกระซิบถามเธอ "บางอย่างที่ดูว่าง่าย แต่มันก็อาจจะได้ยากก็ได้นะคะ" ปึก!!! "โอ๊ย!! ...อันดา" เธอพูดชิดหูของผมเหมือนไร้พิษสง แต่ผมสิต้องกุมเป้าสงวนจนเข่าทรุด เมื่อเธออัดเข่าเข้ากลางเป้าของผม อันดาโคตรร้ายกาจ! "หึ! สมน้ำหน้า แล้วอย่ามาคิดลวนลามน้องอันดาอีก...อย่าหาว่าไม่เตือน! " เธอไม่สนใจผมเลยครับ ผมตอนนี้แทบลุกไม่ไหว นั่งทรุดลงกับพื้น มองตามหลังของเธอที่เดินหนีไป เห็นหน้าใส ๆ ซื่อ ๆ แบบนี้ โคตรร้ายเดียงสา! *****(17)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD