เสาร์-อาทิตย์นี้ ณิชาไม่ได้ไปขายของที่ถนนคนเดินเพราะใกล้สอบแล้ว แถมยังมีรายงานที่ต้องเร่งทำส่งอาจารย์ให้ทันตามกำหนด ถึงจะเสียดายเงินที่หดหายไป แต่การอดทนเพื่อเรียนให้จบนั้นก็สำคัญกว่า หญิงสาวช่วยงานในบ้านของแม่เสร็จก็หิ้วโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานที่ใต้ถุนบ้าน พร้อมกับกาแฟร้อนกับขนมไทยที่แม่ทำไว้ให้ ครู่หนึ่งก็มีมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่มาจอดหน้าบ้าน แม่ก็แต่งตัวด้วยชุดสีดำออกมาจากในบ้านพอดี
“แม่ไปช่วยงานศพบ้านผู้ใหญ่ต๋องก่อนนะลูก”
“จ๊ะแม่”
ณิชาร้องยิ้มให้เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าเธอที่สวมเสื้อสีดำ แม่เดินไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนรู้จักแล้วรถก็เคลื่อนออกไป หญิงสาวรวบผมขึ้นเป็นหางม้า เธอไม่ค่อยชอบผมยาวของตัวเองนักหรอก แต่ทำยังไงได้ ก็แม่ขอไว้
“ไหนๆ ก็เกิดมาเป็นลูกสาวแม่ทั้งที ช่วยทำตัวเป็นผู้หญิงให้แม่หน่อยได้ไหมเนี้ย”
แม่มักจะบ่นที่เธอซนทะโมนเป็นลิงอยู่เสมอ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็เป็นอย่างนี้มาตลอด พ่อมักจะตามใจเธอไม่ค่อยดุว่าอะไร มีแต่แม่ที่เอาแต่ดุเธออยู่เรื่อย ถ้าหนักหน่อยก็โดนก้านมะยมฟาดสักทีสองที แค่บีบน้ำตาพ่อก็รีบเข้ามาห้ามแม่แล้ว
เธอนั่งทำงานได้ครู่ใหญ่ก็รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ลุกขึ้นเดินเล่นบริเวณบ้านแก้เมื่อยขบ แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าหมาในบ้านตัวเองไม่ครบ
“ไข่ดาวหายไปนะเนี้ย” หญิงสาวบ่นแล้วตะโกนเรียกหมาพันธุ์ทางที่พ่อของเธอเก็บมาเลี้ยง
“ไข่ดาว อยู่ไหนออกมากินขนมเร็ว”
ณิชาหลอกล่อแต่ก็เห็นเพียงหมา 3 ตัวที่กระดิกหางทันทีที่ได้ยินคำว่า ขนม หญิงสาวเอะใจเดินมาที่ดูริมรั้ว เธออ้าปากค้าง เห็นพื้นดินมีรอยขุด เธอชะเง้อมองข้ามรั้วเตี้ยๆ
“ไข่ดาว! มานี้อย่าไปนะ!”
หญิงสาวตะโกนเรียก แต่เจ้าไข่ดาวเป็นหมาผจญภัย หันมามองเจ้านายแวบเดียวแล้วก็วิ่งจูดไปทันที ณิชานึกถึงที่แม่ย้ำนักย้ำหนา ไม่ให้หมาที่บ้านไปรบกวนคนอื่น เธอรีบจับหมาที่เหลือใส่กรงขังแล้ววิ่งไปคว้าจักรยานปั่นไปด้านข้าง
บ้านรั้วติดกันก็จริง แต่ระยะห่างจากรั้วไปถึงตัวบ้านหลายเมตร หญิงสาวไม่กล้าเข้าทางหน้าบ้าน กลัวเจ้าของบ้านจะตำหนิเอา อาศัยที่ตัวเองเป็นเจ้าถิ่นแถวนี้รู้ดีทุกซอกทุกมุม แอบจอดจักรยานไว้แล้วมุดเข้าไปที่แนวรั้วเตี้ยๆ กิ่งไม้เกี่ยวผมจนยุ่งเหยิง แต่เจ้าของร่างเล็กไม่ได้สนใจ เป็นห่วงเจ้าหมาแสบจะทำลายข้าวของหรือขุดต้นไม้ออกจากกระถาง
เจ้าไข่ดาวชอบแอบมาที่บ้านหลังนี้บ่อยๆ แต่เพราะเมื่อก่อนลุงกับป้าใจดีไม่เคยดุด่าอะไร แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าเจ้าของบ้านตัวจริงเป็นใคร ก็เกรงว่าลุงกับป้าจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย
“ไข่ดาว อยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ณิชากระซิบเรียกหมาตัวแสบ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ออกจะแปลกตาไปสักหน่อย บริเวณหลังบ้านถูกปรับพื้นให้เรียบ มีทางลาดเหมือนทางสำหรับรถเข็น เธอไม่ได้เข้ามาบ้านเพื่อนบ้านบ่อยนัก แต่ครั้งล่าสุดที่เข้ามามันยังเป็นพื้นดินธรรมดาอยู่เลย
“หรือจะมีคนแก่มาอยู่ ถึงได้ทำทางลาดและราวจับไว้ด้วย”
ณิชาอดสงสัยไม่ได้ เลยเดินย่องๆ ไปที่หวังแอบส่องที่หน้าต่างใกล้บานประตู เธอหรี่ตามองด้านในก็ไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ
รถเข็นของชานนท์เป็นรุ่นล่าสุดระบบไฟฟ้าขับเคลื่อนสั่งการด้วยปลายนิ้ว เขามองเห็นหมาพันธุ์ทางตัวไม่ใหญ่นักกำลังขุดดินบริเวณกระถางดอกกุหลาบ คราวแรกเขาตกใจกลัวว่ามันจะเป็นหมาจรเข้ามาทำร้ายเขา แต่พอเจ้าหมาเงยหน้าที่ทำตาเหล่ๆ มองที่ปลายจมูกตัวมันเองมีหนอนกระดึบๆอยู่ เขาก็อดหัวเราะไม่ได้ มันส่ายหน้าไปมาแรงๆ เจ้าหนอนตัวเขียวก็ไม่ยอมหลุด
“เดี๋ยวๆ อยู่เฉยๆก่อนนะ จะเขี่ยออกให้”
เขาพูดปนหัวเราะแล้วใช้กิ่งไม้ยื่นมือไปเขี่ยที่ปลายจมูกให้หนอนเจ้ากรรมหลุดออกไป มันช้อนตามองเหมือนจะบอกว่าขอบคุณ แต่ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วสังเกตเห็นว่ามันมีปลอกคอและท่าทางเชื่องๆนั้นก็ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย เขากวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็เห็นเงาร่างก้มๆ เงยๆ ทางหน้าต่างหลังบ้านของเขาเอง
“จะมาขโมยอะไรเหรอ”
“ว้าย!” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผงะถอยหลังอย่างตกใจ แต่เพราะยืนใกล้ทางลาดจึงเสียหลักหงายหลังก้นกระแทกพื้น
“อ้าว”
“อ้าวอะไรเล่า” หญิงสาวร้องโวยวายจะลุกก็เจ็บจนลุกไม่ขึ้นเลยได้แต่คลานเข่า เจ้าหมาเห็นเจ้านายเลยรีบวิ่งมาหาเลียหน้าเลียตาอย่างปลอบใจ
“เจ้าไข่ดาว เพราะแกแท้ๆเลย”
“อะไรกัน ล้มเองดันโทษหมา”
ณิชาหันขวับไปตามเสียงที่ได้ยิน เธอถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ
“คุณก็เหมือนกันนั้นแหละ มาไม่ให้สุ่มให้เสียง คนเค้าก็ตกใจเป็นเหมือนกันนะ”
“ผมเป็นเจ้าของบ้านจะต้องส่งเสียงบอกขโมยหรือไงกันนะ” ชานนท์ขมวดคิ้ว เด็กสาวคนนี้พิลึกจริง
“ก็นั้นแหละ ถ้าเรียกกันดีก็ไม่เจ็บตัวอย่างนี้หรอก” ตอนนี้ณิชารู้สึกอายมากกว่าเจ็บ
“แล้วฉันต้องขอโทษเธอหรือไง”
“ก็ฉันคนเจ็บตัวนี้” เธอลูบก้นตัวเอง