เธอเจออุปกรณ์สำหรับกวาดถูบ้านที่นั่น ก็จัดการทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว เมื่อในบ้านเรียบร้อยก็ออกมากวาดใบไม้ใบหญ้ารอบบ้านจนเกลี้ยงเตียน บ้านช่องสะอาดเรียบร้อย แต่กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาเหงื่อเปียกโชก
“ อาบน้ำซะก่อนดีก่อน ขืนไปพบพี่เดชแบบนี้ก็เหม็นตาย ”
หญิงสาวเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเข้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอก เมื่ออาบเสร็จก็ใช้ผ้าเช็ดตัวนุ่งกระโจมอกแล้วเดินจะกลับไปแต่งตัวที่ห้อง แต่เมื่อเลี้ยวที่หัวมุมก็ชนเข้าอย่างจังกับบางสิ่งบางอย่างจนเกือบล้ม อะไรบางอย่างนั้นก็เอื้อมคว้าเอวคอดเข้ามากอดไว้แนบแน่น
“ ว้าย ! ” บัวอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ บัว พี่เอง พี่เดช ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก
บัวเงยหน้าขึ้นก็พบใบหน้าคมสันอยู่เพียงคืบ เรือนกายของเธอเบียดบดอยู่กับหน้าอกแกร่งเปลือยเปล่าเสียแนบแน่น อารามตกใจที่เห็นตนเองแนบชิดกับแผ่นอกเปลือยจึงรีบดิ้นอย่างแรงให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการ โดยไม่ทันระวังว่า ปมผ้าเช็ดตัวที่เหน็บไว้หลวม ๆ มันได้คลายออกตั้งแต่ถูกรัดเข้ามากอด เมื่อดิ้นอีกมันจึงหลุดร่วงอย่างง่ายดายจนเหลือแต่กายเปลือยเปล่า
“ ว้าย ! ” บัวอุทานอีกรอบ ก่อนที่แขนแข็งแรงจะดึงเธอเข้าไปกอดอีกครั้ง
“ พี่เดชจะทำอะไรบัว ปล่อยนะ ปล่อยบัวเดี๋ยวนี้ ” เธอโวยวายพยายามดิ้นเอาตัวรอด ร่างอวบอัดครัดเคร่งแห่งวัยสาวสะพรั่งนั้นจึงเสียดสีกับกายแกร่งอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามประสาคนออกกำลังกายอยู่ไม่ขาด เขาพึ่งไปวิ่งมา ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อไคลจึงถอดเสื้อพาดไว้ด้านนอก สวมเพียงกางเกงบอลเบื้องล่างที่ตอนนี้ก็ไม่สามารถปกปิดความอวบใหญ่ที่มันกำลังแข็งขึงเพราะมีเรือนร่างนุ่มนิ่มอรชรเบียดแอบแนบชิด กระนั้นเขายังพยายามข่มใจให้อยู่เหนืออารมณ์เถื่อนดิบแห่งบุรุษเพศ
“ บัว อย่าดิ้น ” เสียงทุ้มเอ่ยเตือนสั่นพร่าด้วยอารมณ์เบื้องลึกที่มันเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน
“ พี่ปล่อยบัวนะ ”
“ ถ้าพี่ปล่อย แล้วบัวผละออกจากตัวพี่ พี่จะเห็นรูปร่างเปลือยของบัวทั้งหมดเต็มตา เพราะผ้าเช็ดตัวมันหล่นไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว ที่พี่ดึงบัวเข้ามากอดเนี่ยก็เพราะไม่อยากเอาเปรียบบัวไม่อยากจ้องมองเรือนร่างของบัวยังไงล่ะ ” เป็นเหตุผลที่ฟังดูแล้วชอบกลนัก แต่สาวแสนซื่อก็เห็นดีไปด้วย มันก็จริงของเขา
“ แต่ตอนนี้พี่ก็กอดบัวไว้เสียแน่น ที่สำคัญบัวก็แก้ผ้า พี่ก็แก้ผ้า ” ชายหนุ่มหัวเราะร่วน
“ พี่แก้ผ้าทั้งหมดเสียที่ไหน พี่ถอดแค่เสื้อ พอดีพี่ไปวิ่งออกกำลังกายมาตอนเช้า นี่ใส่กางเกงอยู่นะ ”
“ ตะ.. แต่ว่า ” แต่ว่าบัวรู้สึกถึงความแข็งแกร่งเร่าร้อนของท่อนลำอวบที่ขยายใหญ่กระทั่งดันตุงกางเกงบอลเนื้อนิ่มออกมาแนบเนื้อนวล สาวเจ้าเลยคิดว่าเขาแก้ผ้าอยู่ แต่เธอก็มิได้เอ่ยคำพูดนั้นออกมา
“ แต่ว่าอะไร ”
“ ปละ.. เปล่าจ้ะ พี่เดชจะปล่อยบัวได้หรือยังจ๊ะ ”
“อ๋อ ได้สิ เอาล่ะ พี่จะหลับตาไว้นะ พอปล่อยแล้วบัวก็หยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งแล้วเข้าห้องไปแต่งตัวให้เรียบร้อย ”
“ จ้ะ ”
“ เอาล่ะ ปล่อยแล้วนะ ” แม้จะพูดอย่างนั้น แต่วงแขนแกร่งก็ยังคงโอบรัดความอรชรอ้อนแอ้นไว้หลวม ๆ
“ ไหนล่ะ ไม่เห็นจะปล่อยเลย ” เสียงใสท้วงมาซื่อ ๆ ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ แก้เก้อ
“ ก็ไม่อยากปล่อยนี่ ”
เสียงทุ้มออดอ้อนหยอกเย้า ทำให้สาวเจ้าหน้าแดงซ่าน ความรู้สึกส่วนลึกเล็ก ๆ ในห้วงหัวใจ เธอก็ไม่อยากให้เขาปล่อยเช่นเดียวกัน
...ร่างเปลือยเปล่าหนาวเหน็บ ที่ต้องทนเจ็บและเดียวดายอยู่เพียงลำพัง มันช่างกระหายความอบอุ่นเพื่อห่อหุ้มและปลอบประโลมเหลือเกิน...
ความถูกต้องกับความต้องการแห่งหัวใจ มันมักจะสวนทางกันเสมอ ที่สุดแล้ว สติก็ยังรู้จักยั้งคิด
“ ปล่อยบัวเถอะจ้ะ พี่จ๋า ”
เสียงหวานอ้อนวอน ใจชายไหวยวบ คนที่มีสติเสมออย่างเขา วันนี้กลับสัมปชัญญะแหว่งวิ่นเพียงเพราะได้พบ ได้สัมผัสเธออีกครา...
เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ต้องแตะถึงหัวใจเขาตั้งแต่วันนั้น ความซื่อสะอาดน่าสงสารประทับลงในดวงจิต มากไปกว่านั้นคือเรือนร่างอวบอัดอรชร นวลนางนิ่มเนื้อ กลิ่นสาปกายสาว มันก็พลอยประทับลงในจิตวิญญาณแห่งบุรุษเพศเสียด้วย ตราตรึงแน่นหนัก ยากนักที่จะลืมเลือน...
อยากเหลือเกิน อยากดูดดื่มกายนาง ลองลิ้มชิมรสทุกซอกมุมด้วยปลายลิ้นสาก สัมผัสต้องแตะเนื้อนวล ตะโบมบีบคลึงหยอกเย้าให้ถ้วนทั่ว ปลุกเร้านางให้ร้อนเร่า ก่อนจะสอดเรือนกายยิ่งใหญ่ลงในความคับแน่นแล้วหวดโหมกระหน่ำย้ำแทงด้วยจังหวะรักอันเร่าร้อน
แต่สุดท้าย อ้อมแขนแกร่งก็คลายออกอย่างแสนเสียดาย ก่อนหลับตาลงตามที่ให้สัญญาไว้
เธอมีผัวแล้ว และเธอก็เลือกที่จะกลับไปหาเขา แม้ว่าเขาจะเลวร้ายเพียงใด เขาเพียงทำตามหน้าที่ที่เธออ้อนวอนขอเท่านั้นเป็นพอ
“ พี่อย่าแอบลืมตานะจ๊ะ ” เธอกำชับมาเสียงสั่น เขาแอบยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากอย่างเอ็นดู
บัวดอกงามเอ๋ย เจ้าช่างแสนบริสุทธิ์ใสซื่อ เหตุใดจึงต้องทนให้ภมรร้ายย่ำยีคราแล้วคราเล่าหนอ
“ ไม่ลืมจ้ะ สัญญาต้องเป็นสัญญา อาจารย์เดชไม่เคย ผิดคำพูด ” เขารับคำเป็นมั่นเหมาะเพื่อให้เธอมั่นใจ ได้ยินเสียงสวบสาบก่อนจะเป็นเสียงเปิดและปิดประตูตามมา นั่นล่ะเขาจึงได้ลืมตาและเดินเข้าห้องนอนไปอาบน้ำบ้าง
บัวรีบกลับเข้าห้องแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาสวมด้วยมืออันสั่นเทา หัวใจดวงน้อยเต้นแรง ความร้อนในกายวิ่งพล่านจนกระทั่งมือสั่น ตื่นเต้นและละอายน่ะใช่ แต่อีกส่วนในหัวใจมันวูบวาบหวิวไหวแปลก ๆ
ร่างสูงใหญ่ที่ตึงแน่นไปด้วยมัดกล้ามทุกสัดส่วน มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เกาะพราว มือ ท่อนแขน แผ่นอกกำยำ ไล่ลงมายังหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อหกลูกเรียงลงไปเบื้องล่าง ขนสีดำขึ้นประปรายแล้วหายลับไปยังขอบกางเกงฟุตบอล ความยิ่งใหญ่ของบางสิ่งบางอย่างนูนตุงคับแน่นจนเห็นได้อย่างเด่นชัด
“ บ้า ๆๆ ลืมไปนะอีบัว เอ็งมีผัวอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างพี่เดชก็คือ อาจารย์เดช คือคนที่ลูกศิษย์ลูกหาเคารพบูชา อย่าได้คิดอกุศลเช่นนี้อีกเด็ดขาด ”
เธอหยิบผ้าถุงสีเขียวเข้มกับเสื้อแขนกุดสีฟ้าขึ้นมาสวม ก่อนจะนั่งนิ่งอยู่อย่างทำอะไรไม่ถูก แม้จะพร่ำบอกตนเองว่าให้ลืม แต่หัวใจกลับยังเต้นโครมครามกับเหตุการณ์เมื่อครู่