ตอนที่ 2

1787 Words
บทที่ 2 หลังจากอาบน้ำเสร็จ พราวเนตรก็พยายามจะข่มตาให้หลับ แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะในหัวสมองของหล่อนยังคงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำตลอดเวลา สายตาของคีแรนเต็มไปด้วยความเกลียดชังเลือดเย็นทุกครั้งที่มองมายังหล่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้จงเกลียดจงชังหล่อนแบบนี้ หญิงสาวถอนหายใจแรงๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง ไม่อาจตัดความว้าวุ่นใจเรื่องของเจ้านายใจเหี้ยมอย่างคีแรนออกจากสมองได้ หล่อนคงต้องออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์สักพัก เหมือนกับที่เคยทำในค่ำคืนที่เคยนอนไม่หลับนั่นแหละ มือเล็กคว้าเสื้อคลุมสีขาวสะอาดมาสวมใส่ ขณะก้าวเดินออกไปจากห้องพัก มุ่งหน้าตรงไปยังสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ทันที โชคดีที่คืนนี้ดวงจันทร์เกือบเต็มดวง ทำให้หล่อนมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ค่อนข้างชัดเจน หล่อนเดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะไม้สีขาวตัวเล็ก ยืนกอดอกมองพระจันทร์ดวงกลมโตด้วยความชื่นชม แม้บางคืนเมฆหมอกจะบดบังความงดงามของจันทราไปบ้าง แต่เมื่อหมอกสลายไป ดวงจันทร์ก็กลับมางดงามเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หญิงสาวระบายยิ้ม ดวงตาจับจ้องมองดวงจันทร์และดวงดาราบนฟากฟ้าไม่วางตา แต่เสียงโหยหวนของสัตว์มีชีวิตบางอย่างที่ดังแว่วมาเข้าหู ทำให้หล่อนต้องละสายตาจากความงดงามบนท้องฟ้าและมองหาต้นเสียง “อ๊า...อ๊า...อู๊ยยยย...อ๊า...” หล่อนหมุนตัวมองไปรอบๆ และก็ย่ำเท้าเดินหาต้นตอของเสียงด้วยความสงสัย “เสียงอะไรน่ะ ทำไมเหมือนเสียงคนถูกทำร้ายเลย” หล่อนเดินหา จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าปีกด้านซ้ายของตัวตึกใหญ่ ใบหน้านวลเงยแหงนมองขึ้นไปยังระเบียงที่ยื่นออกมาจากห้องนอนของคีแรน ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้าง พร้อมๆ กับมือเล็กทั้งสองข้างที่ยกขึ้นอุดปากเอาไว้ “นั่น...” หล่อนเห็นคีแรนกำลังเสพสังวาสอยู่กับคู่ขาคนสวยบนระเบียงนั่น และที่สำคัญดวงตาของเขาจ้องมองมายังหล่อน แม้จะมืดมาก แต่หล่อนก็รู้สึกได้ถึงพลังอำนาจจากสายตาดุดันคู่นั้น ขาของหล่อนอ่อนแรง เข่าแทบทรุดฮวบลงกองกับพื้น ดวงตาของหล่อนยังคงจ้องเป๋งไปที่ลีลาร่วมเพศของคนทั้งคู่ตลอดเวลา คีแรนกระแทกกระทั้นเข้าใส่ด้านหลังของผู้หญิงคนนั้นอย่างรุนแรง ระรัวเร็ว และทุกครั้งที่คีแรนอัดกระหน่ำเข้าใส่ ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องโหยหวนออกมาดังลั่นราวกับทรมานเสียเหลือเกิน นี่ไงล่ะ...ต้นเหตุของเสียงนั่น หล่อนบอกตัวเองให้รีบเดินไปจากตรงนี้ เดินไปจากความอุจาดตาที่เกิดขึ้น แต่สองขากลับไม่ยอมขยับ หล่อนยืนมอง...มองพวกเขาร่วมรักกันไม่ต่างจากพวกถ้ำมอง ไม่ช้าหล่อนก็ได้ยินเสียงของคีแรนดังแว่วมาเข้าหู เขาบอกว่าเขาแตกแล้ว... โอ้...พระเจ้า...! พราวเนตรเลื่อนมือที่ปิดปากเอาไว้มาปิดหู ก่อนจะรีบวิ่งหนีมาจากสถานการณ์นั้นด้วยใจคอระส่ำ พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ หน้าตาก็ร้อนผ่าวด้วยความอับอาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนเห็นคาตาว่าคีแรนเสพสุขกับคู่ขาของเขา แต่ทุกครั้ง...หล่อนก็จะมีอาการแบบนี้ตลอด ตื่นตกใจ ละอาย และก็ต้องวิ่งหนีจากเหตุการณ์เหล่านั้น ทำไมคีแรนถึงมักมากแบบนี้นะ เขาไม่คิดจะหยุดความโสดเอาไว้กับผู้หญิงคนไหนเลยหรือไง หล่อนคิดอย่างโมโห ก่อนจะบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องของหล่อน หยุดคิดเรื่องของเจ้านายได้แล้ว ลืมภาพที่เห็นและลืมเสียงที่ได้ยินซะ หล่อนพุ่งตัวเข้ามาในห้องนอน ล้มตัวลงบนเตียง แล้วรีบปิดตาลง แต่ให้ตายเถอะ ภาพนั้น...ภาพที่คีแรนกำลังร่วมเพศกับคู่ขายังคงชัดเจนแจ่มแจ๋ว “หยุด...หยุดคิดนะพราว...อย่าคิดถึงมัน...” พราวเนตรบอกตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กว่าจะสามารถข่มตาให้หลับลงได้ ก็เกือบสว่างเลยทีเดียว ภาพร่วมรักของคีแรนกับคู่ขาบนระเบียงยังคงติดตาหล่อนไม่จางหาย หล่อนนอนหลับไปทั้งๆ ที่สมองยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องน่าสะอิดสะเอียนนั้น และมันก็ทำให้หล่อนเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะเลยทีเดียว หล่อนฝัน...ฝันว่าผู้หญิงที่อยู่บนระเบียงคนนั้นคือตัวเอง ฝันว่าหล่อนกำลังถูกคีแรนกระแทกกระทั้นจากทางด้านหลัง เสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวสุขดังออกจากปากของหล่อน และแน่นอนว่าหล่อนทั้งสุขทั้งเสียว รวมทั้งไม่อยากตื่นจากความฝันนั้นเลย หมอนข้างที่ใช้กอดเป็นประจำทุกค่ำคืนถูกหล่อนบดเบียดเข้าหาด้วยอารมณ์รุ่มร้อน กว่าจะรู้สึกตัวตื่นจากความฝันขึ้นมาได้ ที่กางเกงชั้นในก็เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำบางอย่างเสียแล้ว นี่หล่อนฝันแบบนั้นได้ยังไงกัน? พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ ความรู้สึกในความฝันมันยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำแน่นหนา หล่อนร้อนฉ่าไปทั้งตัวอย่างน่าละอาย เกลียดตัวเองที่คิดเลยเถิดจนเก็บไปฝันแบบนั้น หยุดคิดได้แล้ว! พราวเนตรสั่งตัวเองดังลั่นในอก ก่อนจะก้าวออกมาจากห้องพักในชุดฟอร์มของสาวใช้ มุ่งหน้าตรงไปยังตัวตึกใหญ่ด้วยความรีบร้อน แต่ถึงจะรีบร้อนแค่ไหน ในหัวก็ยังสลัดความฝันนั้นไม่ออกอยู่ดี “วันนี้สายนะพราว” หล่อนได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อนให้กับลำดวนที่เอ่ยทักทาย และกล่าวขอโทษขอโพยอย่างสำนึกผิด “พราวขอโทษค่ะพี่ลำดวน คือพราว...” หล่อนกำลังจะแก้ตัว แต่ลำดวนตัดบทเสียก่อน “มาก็ดีแล้ว ขึ้นไปทำความสะอาดห้องคุณคีแรนไป” “เอ่อ...” หล่อนไม่อยากขึ้นไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเลย เพราะละอายที่เก็บเอาเขาไปฝันเมื่อคืน “คุณคีแรนออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะ เห็นว่ามีประชุมด่วนมากที่บริษัทน่ะ” ลำดวนพูดขึ้นอย่างรู้ทันความคิดของคู่สนทนา พราวเนตรระบายยิ้มโล่งอก ก่อนจะรีบตอบรับ “ได้ค่ะพี่ลำดวน เดี๋ยวพราวขึ้นไปจัดการให้ค่ะ” หล่อนกำลังจะเดินขึ้นไป แต่เสียงเรียกของลำดวนดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้หล่อนต้องหยุดเดิน และเอี้ยวตัวกลับมามอง “มีอะไรเหรอคะพี่ลำดวน” “พี่ลืมบอกไป คุณอรุณรัตน์ยังอยู่ข้างบนนะ” “คุณอรุณรัตน์?” หล่อนทวนชื่อที่ได้ยินเพราะไม่รู้จัก ลำดวนจึงอธิบายเพิ่มเติม “ก็คู่ขาคนล่าสุดไง” “อ๋อ” หล่อนเข้าใจแจ่มแจ้งทันที “เห็นว่าเป็นนักร้องโอเปร่าด้วยนะ” ลำดวนเมาท์ต่อ “ว่าแล้วเชียว ทำไมเสียงดีนัก” หล่อนเผลอตัวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ ลำดวนได้ยินก็อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “เสียงดีอะไรเหรอพราว” พราวเนตรรีบสลัดภาพที่แม่อรุณรัตน์ถูกคีแรนกระแทกที่ระเบียงออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว “อ๋อ...นักร้องก็ต้องเสียงดีใช่ไหมคะพี่ลำดวน” ลำดวนพยักหน้ารับน้อยๆ สีหน้ายังคงคลางแคลง หล่อนเห็นจึงรีบตัดบท “งั้นพราวขอตัวขึ้นไปทำความสะอาดห้องของคุณคีแรนก่อนนะคะ” “ไปเถอะ ทำให้สะอาดล่ะ คุณคีแรนไม่ชอบอะไรสกปรก” “ค่ะพี่ลำดวน” หล่อนรีบหมุนตัวเดินขึ้นบันได มุ่งหน้าไปยังห้องนอนใหญ่ของเจ้าของคฤหาสห์หรู ร่างสมส่วนมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องนอนเป้าหมาย หล่อนยกมือขึ้นเคาะเบาๆ สองครั้ง รอเสียงตอบกลับมาจากอรุณรัตน์แม่นักร้องโอเปร่าเสียงกังวาน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย “ขออนุญาตเข้าไปทำความสะอาดนะคะ” หล่อนเคาะประตูอีกสองครั้ง และยืนรออยู่อีกนาทีกว่าๆ จึงตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน ภายในห้องนอนของคีแรนว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงาของอรุณรัตน์ เสียงสายน้ำดังแว่วออกมาจากห้องน้ำ ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าหญิงสาวน่าจะกำลังอาบน้ำอยู่ พราวเนตรวางอุปกรณ์ทำความสะอาดลงกลางห้อง พร้อมๆ กับไล่สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะมาหยุดที่เตียงนอนสีเข้มขนาดใหญ่ของคีแรนที่น่าจะนอนเรียงกันได้เป็นสิบคนด้วยความสยดสยอง “นี่มันเกิดสงครามโลกครั้งที่สามในห้องนี้หรือไงนะ ดูสิ ยับเยินไปหมด” ทั้งหมอน ทั้งผ้าห่ม ทั้งผ้าปูเตียง หลุดลุ่ยไปกองกับพื้นแทบทุกชิ้น เสื้อผ้า กางเกงชั้นใน และยกทรงสีแดงแป๊ดก็ถูกทิ้งเอาไว้ระเกะระกะเต็มพื้นไปหมด “อุ๊ยยยย...!” หล่อนอุทานตกใจ เมื่อพอก้าวเดินแล้วฝ่าเท้าเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างที่ลื่นๆ “นี่มัน...” พอหล่อนก้มหน้าลงไปหยิบขึ้นมามอง ก็ต้องรีบสลัดทิ้งอย่างรวดเร็วและร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ “ซองถุงยางนี่นา...” หล่อนยกมือขึ้นทาบอกและมองไปรอบๆ ห้อง คราวนี้เห็นซองถุงยางอนามัยจำนวนมากหล่นเกลื่อนเต็มพื้นห้อง แม่เจ้า อย่าบอกนะว่าซองถุงยางที่เห็นเกลื่อนห้องนี้...คีแรนใช้แค่ค่ำคืนเดียว ดวงตาของหล่อนเบิกกว้าง และเมื่อเดินไปหยุดที่ถังขยะก็ยิ่งตกใจ เพราะมีถุงยางอนามัยใช้แล้วจำนวนมากอยู่ในนั้น มันยิ่งตอกย้ำให้หล่อนเข้าใจแจ่มแจ้งว่าคีแรนหื่นแค่ไหน สองขาของหล่อนอ่อนแรง พวงแก้มแดงระเรื่อ หล่อนแทบไม่อยากคิดถึงสภาพของอรุณรัตน์เลยว่าจะสะบักสะบอมอ่อนแรงแค่ไหน หลังจากผ่านสงครามสวาทกับคีแรนมาเมื่อคืน เรื่องความต้องการทางเพศที่สูงลิบของคีแรน หล่อนได้ยินเพื่อนร่วมงานที่เคยขึ้นมาทำความสะอาดห้องนอนของชายหนุ่มเมาท์ผ่านหูมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เคยประสบพบเห็นกับตัวเองมาก่อน วันนี้แหละได้เห็นเต็มๆ ตาเลยทีเดียว นี่ถ้าผู้หญิงคนเมื่อคืนเป็นหล่อน คงได้ตายดับคาเตียงไปแล้วแน่ๆ “เข้ามาทำอะไรยะ” เสียงแหลมปรี๊ดแต่ดังกังวานของอรุณรัตน์ดังขึ้นด้านหลัง หล่อนรีบสลัดความคิดน่ากลัวพวกนั้นทิ้งไป และหันไปตอบคำถามอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ” “ไม่ต้องมาสวัสดี ฉันถามว่าเข้ามาทำไมยะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD