“อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เธอเปลี่ยนใจเรื่องแต่งงาน” เดินออกมาด้านนอกได้เพราะบิดาไล่ออกมาแล้ว ธีภพก็ก้าวเร็วๆ ไปคว้าแขนคนที่ทำตัวลีบๆ เนียนๆ เตรียมหายเข้ากลีบเมฆ
แขนหล่อนเกร็งขึ้นมา หญิงสาวหันมาสบตาเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ
“คุณลุงเป็นห่วงคุณ ท่านขอให้ฉันช่วยฉันก็เลยตกลงเพราะไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ ท่านกำลังป่วยอยู่”
“ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเธอปฏิเสธพ่อฉันจะไม่เสียความรู้สึก ท่านบังคับเธอไม่ได้แต่บังคับฉันได้ เธอถึงต้องเป็นคนปฏิเสธ”
“...” หญิงสาวนิ่งเงียบไป ไม่ทันคิดว่าจะต้องมาทะเลาะกับเขาเพียงแค่เพราะรับปากบิดาเขาเรื่องการแต่งงาน “ฉันขอโทษค่ะ ที่ฉันเลือกจะช่วยคุณลุงมากกว่าคุณ ท่านมีบุญคุณกับฉัน”
หญิงสาวไม่สามารถปริปากบอกได้ บิดาของเขาเล่าให้ฟังเรื่องที่ท่านไปตามหาหล่อนและเจอป้าของหล่อน เขาเห็นความลำบากของครอบครัวมนพัทธ์เลยช่วยเรื่องการรักษาพยาบาลผู้เป็นป้าและก่อนหน้านั้นคนของท่านยังช่วยจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้นอกระบบของน้องชายตัวดีของหล่อนทำให้เจ้าหนี้เลิกตามทวงถาม ท่านช่วยเหลือทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามนพัทธ์จะตอบตกลงหรือไม่ด้วยซ้ำไป
นอกนั้นบิดาของธีภพก็ไม่ได้ขอให้หล่อนแต่งงานกับธีภพเปล่าๆ การแต่งงานครั้งนี้ยังมีการจ้างเพื่อให้หล่อนจดทะเบียนเป็นเมียเขาเพื่อป้องกันแฟนเก่าของเขาที่มีครอบครัวแล้วทิ้งลูกทิ้งสามีมาหาธีภพอีกด้วย หล่อนเองเห็นว่าการทำตามที่บิดาเขาขอร้องเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายมากกว่าและเป็นการทดแทนบุญคุณท่าน เลยตกลงทำเช่นนั้น
“พ่อฉันจ้างเธอเท่าไหร่กันเธอถึงได้เปลี่ยนจากดำเป็นขาวได้อย่างนี้”
เสียงถามเค้นคั้นจากอารมณ์โกรธเคือง มีไฟโชนลุกในแววตาที่เคยเย็นชาเคลือบน้ำแข็ง หล่อนมีสีหน้าตระหนกแบบคนร้อนตัวที่ชายหนุ่มรู้ทันแม้จะเป็นเรื่องที่ตกลงกับบิดาเขาลับๆ เห็นอย่างนั้นเขาถึงกับครางในลำคอ
“เธอเปลี่ยนใจเพราะเรื่องเงิน?”
เขามองหน้าหล่อนไม่อยากจะเชื่อ แรงบีบหนักหน่วงที่แขนสองแขนทำให้หล่อนอ้าปากเถียงไม่ออก รวมทั้งที่เขาพูดมันก็จริงเพียงแต่มันจริงไม่หมดเท่านั้น
“ฉันเคยเชื่อว่าเธอเป็นคนดี แต่สุดท้ายเธอก็เผยธาตุแท้ว่าเห็นแก่เงิน”
เสียงบอกเข่นเขี้ยวของเขาทำให้ริมฝีปากของหล่อนสั่นระริก ไม่เพียงแต่ริมฝีปากเท่านั้นหรอก ตัวหล่อนก็พลอยสั่นเทาไปด้วย
“มะ ไม่ใช่ อย่างนั้นทั้งหมดนะคะ มน เอ่อ”
“ไม่ต้องมาแก้ตัว”
สองมือปล่อยแขนหล่อน หญิงสาวแข้งขาอ่อนแรงจนล้มพับตรงหน้าเขา แต่เขาก็ยืนจ้องมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่มีแก่ใจจะเอื้อมมือดึงหล่อนขึ้นมาให้ยืนทัดเทียมสักนิดเดียว
“ฉันไม่อยากแต่งงานเพราะฉันไม่พร้อมรับผิดชอบใคร แต่ในเมื่อคุณพ่อบังคับและถ้าเป็นคนอย่างเธอ แต่งไปฉันก็คงไม่ต้องใช้ความรับผิดชอบ ไม่ต้องทำหน้าที่สามีที่ดี เธอเองอย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!”
น้ำตาหล่อนถึงกับคลอเบ้า ริมฝีปากบางเผยออ้าค้างเมื่อเห็นปฏิกิริยาต่อต้าน หัวใจรู้สึกเจ็บปวดหนักหน่วงจนแน่นหน้าอกไปหมด ปลายมือที่ชี้หน้าหล่อนไม่ได้ดูน่าตระหนกเท่ากับแววตาวาวโรจน์แบบที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจากเขา
ยังไม่ทันจะได้ปริปากแก้ตัวหรือเอ่ยอะไร ขายาวๆ ของเขาก็ก้าวเดินไป เหลือเพียงแต่หล่อนนั่งก้มหน้าทอดอาลัยอยู่