“ตาธีร์ รับปากพ่อแล้วใช่ไหมว่าจะยอมแต่งงาน” เสียงแหบๆ ของผู้เป็นบิดาเอ่ยถาม ดวงตาของธีภพตวัดมองไปยังคนที่ก้มหน้างุดอยู่ปลายเตียงอีกฝั่งของบิดา
มนพัทธ์เข้ามาคุยกับบิดาของเขาหลังจากที่ท่านฟื้น และพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งหล่อนจึงไปเรียกให้เขาตามเข้ามา ดีว่าตอนนี้มารดาของเขานั้นต้องต้อนรับคนที่มาเยี่ยมบิดาไม่อย่างนั้นคงไม่พอใจที่บิดาเขาให้ความสำคัญกับมนพัทธ์ ซึ่งก็ดีอย่างหนึ่งว่าเมื่อบิดาพูดอะไรขึ้นมาจะได้ตกลงกันง่ายขึ้น
มนพัทธ์มองหน้าเขาแล้วก็หลบตา ก่อนหน้านี้เหมือนธีภพก็รู้ทันความคิดบิดาสมกับเป็นพ่อลูกกันเขาถึงได้รั้งหล่อนไม่ยอมปล่อยให้กลับ เพื่อที่จะได้ใช้หล่อนเป็นเครื่องมือในการแข็งขืนต่อสิ่งที่เขารับปากบิดาเอาไว้
“ครับคุณพ่อ”
“หนูมน คือคนที่พ่อเคยบอกว่าพ่อกำลังตามหามาเป็นเจ้าสาวของแก หนูมนเข้ามาได้ถูกที่ถูกเวลาและมีบุญคุณต่อชีวิตพ่อถึงสองครั้งและหนูมนจะมีบุญคุณต่อชีวิตของพ่อครั้งที่สามถ้าเขาจะแต่งงานกับแก”
ธีภพพยักหน้าฟังบิดาพูดอย่างใจเย็นในวันนี้ เขาคิดว่าโชคดีที่เจอมนพัทธ์ก่อนบิดา ไม่อย่างนั้นบิดาพูดเรื่องนี้เขาคงได้โมโหโวยวายจนบิดาเขาโรคหัวใจกำเริบอีกรอบแน่
“ผมขอโทษที่ไม่เชื่อว่าคุณพ่อป่วย ถ้ารู้ผมคงไม่ขัดใจ ตอนนี้คุณพ่อต้องการอะไรผมก็จะทำ แต่ว่าคุณพ่อต้องรักษาตัวให้หายนะครับ”
คำพูดหนักแน่นที่บอกบิดาทำให้ผู้สูงวัยกว่าไม่เอะใจสักนิดว่าทำไมเขาถึงว่าง่ายไม่แข็งข้อ คิดว่าเป็นเพราะอาการเจ็บป่วยจนน่าเป็นห่วงของตนทำให้ลูกชายคิดได้ว่าควรตามใจ
“ดีมากตาธีร์ พ่อรอฟังคำนี้มานาน พ่อไม่อยากกดดันให้แกแต่งงานเพราะว่าพ่อป่วยเพียงอย่างเดียว แต่แกจงรู้ไว้ ที่พ่อทำเพราะความหวังดีที่พ่อมีต่อแก พ่อถึงทำ”
ธีภพนิ่วหน้าเล็กน้อย เงยหน้ามามองมนพัทธ์ดวงตาคมของเขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหล่อนเอาแต่ยืนนิ่งเงียบ ไม่ยอมเล่นตามบทที่ตกลงกับเขาไว้
บิดาของเขาอาจจะโกรธที่เขาต่อต้านเขาจึงนิ่งไว้ก่อน แต่หากเป็นหล่อนท่านอาจจะเข้าใจก็ได้ นี่เป็นเหตุผลเดียวที่เขารั้งหล่อนเอาไว้เพื่อให้รอพบบิดา
เขาต้องการให้หล่อนปฏิเสธเรื่องการแต่งงานกับเขาด้วยตัวหล่อนเอง บิดาของเขาจะได้ไม่ฝังใจกับเรื่องนี้ต่อไปอีก
“หนูมน ลุงจะให้หนูแต่งงานกับพี่เขาทันทีที่ลุงฟื้นตัวหลังผ่าตัด หนูจะว่าอย่างไร”
คำถามของบิดาทำให้ธีภพมีรอยยิ้มที่มุมปาก ผินดวงตาคมกล้าไปเพ่งมองคนที่ยืนทำหน้าเจื่อนๆ วางมือวางไม้ไม่ถูกอยู่นั่นอย่างรอคอยคำตอบไม่แพ้บิดา
“มน ไม่มีปัญหาค่ะ มนจะแต่งงานกับคุณธีร์ตามที่คุณลุงต้องการ”
บอกไปด้วยเสียงสั่นๆ ตะกุกตะกัก เหลือบไปมองหน้าคนที่หล่อนหักหลังครู่เดียวก็ต้องรีบก้มหน้างุดเมื่อเห็นดวงตาคมวาวนั้นเบิกโพลงตกตะลึงเหมือนนัยน์ตานั้นมีแสงเรืองรองวาบออกมา
เขามองหล่อนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก็ไม่ปาน
ที่หล่อนเลือกจะช่วยบิดาของเขาเพราะเหตุผลของท่านหนักแน่นกว่า
การตัดสินใจช่วยเหลือท่านอาจจะทำให้หล่อนได้พบเจอความยากลำบากในการใช้ชีวิต แต่เพื่อช่วยพ่อหนึ่งคนที่กังวลจนเจ็บป่วยเจียนตายเรื่องลูกให้มีความสุขนั้นย่อมดีกว่า คนที่ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่อย่างหล่อนได้ฟังเหตุผลที่ท่านต้องการแล้วเลยอดช่วยเหลือไม่ได้ เผื่อว่าผลบุญในชาติหน้าจะช่วยให้หล่อนเกิดมาพร้อมครบครอบครัว
แม้ว่าชาตินี้อาจจะโดนว่าที่สามีส่งสายตาพิฆาตฆ่าตายก่อน มนพัทธ์ก็พร้อมที่จะทำบุญชาตินี้ แล้วไปหวังผลเอาในชาติหน้าแล้วกัน
ธีภพแทบไม่มีอะไรจะพูดกับหล่อนอีก ชายหนุ่มหันมาเอ่ยปากพูดกับบิดาอย่างพยายามข่มกลั้นความรู้สึกขุ่นเคืองจนอยากบีบคอเด็กสาวคนนั้นเอาไว้ เพื่อต่อรอง
“ผมจะยอมแต่งงาน แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่มีการจัดงานใหญ่โต แค่รู้กันภายใน รวมทั้งชีวิตหลังแต่งงานของผมคุณพ่อจะไม่มาบังคับหรือว่าก้าวก่ายอะไรแม้แต่เรื่องเดียว”
“ถ้าเพียงแต่ลูกจดทะเบียนสมรสกับหนูมนก็เพียงพอแล้ว ไม่จัดงานหรือว่าหลังแต่งงานจะครองคู่กันอย่างไรก็เป็นเรื่องของลูกๆ ที่จะตัดสินใจกันเอง”
ธีภพกำมือแน่น ตอนนี้แทบไม่อยากมองหน้าหญิงสาวอีก การตกลงแต่งงานในวันนี้เป็นเรื่องที่เต็มกลืนที่สุดในชีวิตของเขาจนไม่อยากเห็นหน้าคนที่หักหลังเขาได้อีก ดูเหมือนหล่อนจะเป็นคนดีและเข้าใจอะไรง่ายตอนที่ตกลงกัน แต่ทำไมหล่อนถึงเปลี่ยนใจเอาดื้อๆ เขาอยากเค้นคอถามหล่อนจริงๆ
“เอาเถอะ ตกลงกันได้แล้วก็รีบตามพยาบาลมาเช็กพ่ออีกทีสิว่าพ่อจะต้องเตรียมตัวผ่าตัดอย่างไรบ้าง พ่ออยากหายเร็วๆ รีบบอกแม่แกมาหาพ่อด้วยล่ะพ่อจะได้คุยด้วย”
คำพูดของบิดาทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจ ในเรื่องร้ายที่สุดสำหรับเขาก็ยังมีเรื่องดีขึ้นมาหนึ่งเรื่องที่บิดายินยอมพร้อมใจที่จะรักษาตัวเองให้หาย เพื่อรอวันที่จะเห็นเขาแต่งงาน!