บทที่ 4 ชมรมปิ๊งนักมารักกัน

1146 Words
เวลาต่อมา... ฉันได้ไอจีของแทนไทมาจากยัยนัตตี้แล้ว แต่ว่าฉันจะต้องกดส่งคำร้องขอฟอลโลว์ไปก่อนเหรอ บ้าน่า...เขามีผู้ติดตามไม่เยอะ ด้วยความที่เขาตั้งความเป็นส่วนตัวไว้ และฉันต้องรอให้เขากดรับอย่างนั้นเหรอ ส่วนเฟซบุ๊กยัยนัตตี้บอกว่าน้องเขาไม่ได้เล่น และก็ไลน์ยัยนัตตี้บอกว่ามันส่วนตัวเกินไป “เอาไงดี” ฉันว่าพร้อมกับเดินไปเดินมาภายในห้องของตัวเอง เอ...แล้วฉันจะคิดกังวลทำไมกัน คิดได้อย่างนั้นฉันก็เลยเอนตัวลงนอนบนที่เตียงนอนขนาดใหญ่สีชมพู ก่อนจะพลิกตัวไปมา ใบหน้าของหมอนั่นลอยเข้ามาในหัวของฉัน เขาหล่อกว่าควินตันอีก แต่ที่ทำให้ฉันสนใจเขาไม่ใช่ที่ใบหน้า แต่เป็นความนิ่ง ๆ ท่าทีไม่สนใจของเขาที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาน่าสนใจมาก ฉันมองหน้าไอจีของเขา ที่เขียนไบโอไว้ว่า ‘แทนไท’ แค่นั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ตัดภาพมาที่หน้าไอจีของฉัน ‘เจนนี่ สูง 170 หนัก 45 ไม่ใช่ลูกครึ่ง ไม่ต้องทัก’ เอิ่ม...ฉันจะบอกส่วนสูงกับน้ำหนักทำไม กดลบแทบไม่ทันแหนะ “เอาวะ” ฉันกดส่งคำร้องขอฟอลโลว์ไป นั่งจ้องนานสองนานเพื่อให้เขาตอบรับ แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วใจของฉันก็กำลังเต้นแรงแบบลุ้น ๆ แต่ก็...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “จิ๊! บ้าชะมัด” ฉันนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์จนแทบตาถลนออกมา แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เลยกดส่งข้อความหายัยนัตตี้ “แก...น้องเขาไม่รับฟอลว่ะ” [แกฟอลไปก่อนแล้วเหรอ] “อือ...” แย่ชะมัด ฉันไม่เคยทำแบบนี้เลย “แกไปบอกน้องเขาหน่อยสิว่าให้รับฟอลฉันด้วย” [แทนไม่คุยกับฉันเลย แล้วน้องก็พักอยู่คอนโดด้วยไม่ได้พักอยู่ที่บ้านด้วย] “อ้าว...” ฉันร้องตกใจเล็กน้อย นึกว่าพักอยู่บ้านข้าง ๆ กันซะอีก [เอาไง แกชอบน้องเขาแล้วอ่ะดิ] “ก็น่าสนใจดี” ฉันพิมพ์ตอบกลับเพื่อน ก่อนจะกดเข้าไอจีอีกครั้งเพื่อดูว่าเขากดรับให้ฉันติดตามหรือยัง ทว่า...ก็ไม่เห็นมี [พรุ่งนี้เจอกัน คุยเรื่องชมรมว่าจะเอายังไงต่อ] ฉันอ่านข้อความที่นัตตี้ส่งมาก่อนจะกดส่งสติกเกอร์กลับไปว่าโอเค ...เบื่อ บ้านหลังใหญ่นี้ว่างเปล่ามาก ฉันอยู่บ้านคนเดียวเพราะคุณพ่อน่าจะนอนที่คอนโดหรือที่ทำงานนี่แหละ ท่านเป็นสส.ชื่อดังเลยล่ะ ฉันไม่อยากก้าวก่ายชีวิตของผู้มีพระคุณสักเท่าไร ดีที่ท่านไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับฉัน ซึ่งมันก็ดีแต่ฉันรู้สึกเหงา ...ฉันเรียนนิเทศศาสตร์อยู่ปีสี่แล้ว คณะของฉันต้องทำโปรเจกต์จบและฉันก็เลือกที่จะจัดตั้งชมรมขึ้นมา เป็นชมรมที่จะจัดหาคู่รักประมาณนั้น มีการถ่ายทำลงช่องยูทูบตามศาสตร์สื่อการสอนที่ฉันเรียนอยู่ การตัดต่อคลิปวิดีโองานเบื้องหลังประมาณนี้ ซึ่งเงินที่ได้ก็จะเอาไปจัดกิจกรรมให้กับเด็กกำพร้า จริงอย่างที่นัตตี้ว่า...เงินสามารถสร้างความสุขได้ แต่เด็ก ๆ นั้นไร้เดียงสาเกินไปที่จะมองว่าเงินสำคัญ บางครั้งเด็กเหล่านั้นก็อาจจะต้องการความอบอุ่น อย่างน้อยก็มีใครสักคนสนใจพวกเขา ฉันจึงคิดชมรมนี้ขึ้นมา โดยการเปิดรับสมัครผู้หญิงผู้ชายมาทำกิจกรรมร่วมกัน จากนั้นก็มีการอัดคลิป ถ้าหากว่าถูกใจกัน...มันก็จะเกิดโมเมนต์ที่น่ารักอัดลงยูทูบเพื่อหารายได้มาทำกิจกรรมให้เด็ก ๆ ทุก ๆ อาทิตย์ พอถึงวันวาเลนไทน์ก็จะมีการสารภาพรักเกิดขึ้น แต่นั่นก็แล้วแต่ว่าใครจะสนใจใคร แต่ปัญหาตอนนี้คือฉันไม่มีสตาฟ ...หลังจากที่ฉันอาละวาดไปคนก็หายหมด สตาฟที่ฉันรับสมัครก็ต้องเป็นคนที่มีแฟนแล้ว เพื่อจะได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับคนที่จะมาสมัคร ฉันอยากล้มเลิกชมรมแล้ว ไม่อยากทำแล้ว แต่ก็ต้องทำเพื่อจะได้ส่งโปรเจกต์จบได้ และก็จะได้ให้เด็ก ๆ ที่บ้านเด็กกำพร้าของฉันมีกิจกรรมทุกอาทิตย์ “เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ โปรเจกต์ของฉันก็ทำกันอยู่สามคน มีฉัน ยัยนัตตี้และก็แฟนของนัตตี้ อาจารย์ให้รับสมัครสมาชิกมากี่คนก็ได้ แต่ในชั้นปีต้องไม่เกินสามคน แต่ก็นั่นแหละสามคนมันจะพอทำกิจกรรมใหญ่ ๆ ได้ซะที่ไหนกันล่ะ แค่คิดก็ท้อแล้ว... วันต่อมา... แทนไทยังไม่รับฟอลไอจีฉัน ประทานโทษมาก ๆ คนติดตามไอจีของฉันเป็นแสน คนติดตามหมอนั่นสองร้อยคน แต่ฉันกลับมานั่งรอให้เขากดรับ บ้าไปแล้วแน่ ๆ “ชิ หล่อตายแหละ” ฉันแลบลิ้นให้กับโทรศัพท์หลังจากที่ชะเง้อคอมองรอบที่ล้านแล้ว “เป็นไรของแก” “เปล๊า” ฉันตอบยัยนัตตี้เสียงสูง ตอนนี้เหมือนว่าเราจะต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่ ดีที่กว่าจะถึงวันวาเลนไทน์ก็ตั้งอีกสองเดือนกว่า ๆ เตรียมหนึ่งเดือน ถ่ายทำอีกหนึ่งเดือนก็น่าจะได้ “นี่คราม...ทำโปสเตอร์เสร็จยังอ่ะ” ฉันหันไปถามครามแฟนของนัตตี้ที่ตอนนี้กำลังขะมักเขม้นในการจัดอาร์ตเพื่อทำโปสเตอร์สำหรับประชาสัมพันธ์รับสมัครคนร่วมกิจกรรมในชมรมปิ๊งนักมารักกัน แน่นอนว่างานส่วนนี้ก็อยู่ในโปรเจกต์จบที่ต้องเขียนรายงานส่งให้อาจารย์ว่าชมรมทำอะไรบ้างที่เกี่ยวกับวิชาเรียน อย่างเช่นมีการตัดต่อภาพ ตัดต่อคลิป บลา ๆ “ใกล้ละ แต่ว่าจะให้เงินคนละเท่าไร” “เอาไปอาทิตย์ละห้าพัน” “แก...ไม่เอาน่า แบบนี้จะเรียกว่าการกุศลเหรอ” ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากัน สตาฟหายากกว่าคนร่วมกิจกรรมซะอีก “เฮ้อ...” ถอนหายใจออกมาอย่างคนเบื่อหน่าย “ก็ถือว่าเป็นเงินรางวัลไง” “แกรู้ป่ะว่าส่วนหนึ่งที่คนออกจากชมรมเราเพราะอะไร” “หือ...” ฉันหันมามองนัตตี้ด้วยความสงสัย “เพราะควินตัน แกก็รู้ว่าควินตันเป็นดารา พอเขาออกจากชมรมเรา แฟนคลับเขาก็ออกไปด้วย” “หมายความว่าไง แกพูดแบบนี้ฉันรู้นะว่าแกต้องการอะไร” พอเดาออกว่า นัตตี้ต้องการให้ฉันไปพาควินตันกลับมาที่ชมรม แต่นั่นมันแฟนเก่าของฉันนะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD