ฉันมักเก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจ ความอ่อนแอ ความรู้สึกสนใจอะไรบางอย่าง หรือความต้องการจริง ๆ หลายคนมักอธิบายตัวฉันแตกต่างไปจากที่ฉันรู้สึก เพียงแค่เห็นว่าฉันแต่งตัวยังไง แน่นอนว่าฉันไม่สนใจและไม่เคยเก็บมาคิด ยกเว้นเรื่องนี้...
“แกได้แนะนำฉันให้เขารู้จักป่ะ” ฉันว่าขึ้นด้วยความสงสัย
“เอ่อ กะก็บอกแค่ว่ามีเพื่อนสวย ๆ คนหนึ่ง”
“แล้ว?” ถามทั้ง ๆ ที่ยังไม่ละสายตาออกจากเขาคนนั้น แต่พอนัตตี้ไม่ตอบฉันก็เลยต้องหันกลับมามองเธอ “เงียบทำไมล่ะ”
“หือ อ้อ คะแค่แปลกใจที่เห็นแกสนใจน้องเขา”
“แกเป็นไรเนี่ย พูดเสียงตะกุกตะกักติดอ่างหรือไง” ฉันหรี่ตามองเพื่อนอย่างคนจับผิด ก็ยัยนัตตี้มีท่าทีแปลก ๆ
“ก็ไม่ได้เป็นไร น้องเขาไม่ได้ตอบอะไรน่ะ แค่บอกว่ารู้จักแกอยู่” ฉันยกแขนขึ้นกอดอก ถ้าเรียนมหา’ลัยเดียวกันกับฉันก็ต้องรู้จักฉันบ้างล่ะ...ฉันดังจะตาย ถึงจะไม่ใช่เรื่องดี ๆ ก็เถอะ
“แกก็ไปบอกให้เขามาจีบฉันซะสิ” ว่าด้วยท่าทีหยิ่ง ๆ เรื่องอะไรฉันจะไปจีบเขาก่อน
“เอ่อ...มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ ก็น้องเขา...” ฉันหันไปมองยัยนัตตี้ ไม่รู้ว่าวันนี้ยัยนี่เป็นอะไร วันนี้แปลก ๆ พูดจาแปลก ๆ แถมยังทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนกับกำลังปกปิดอะไรฉันอยู่
“หมายความว่าไง”
“คืองี้...น้องเขาบอกว่าไม่ได้สนใจแก” ยัยนัตตี้ว่าพลางเสมองไปทางอื่นโดยไม่สบตาฉัน
“ไม่สนใจ? หึ ไม่จริงหรอก” ยิ่งได้ยินแบบนี้แล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่เลิศ ฉันผุดลุกขึ้นยืนทันที
“แกจะไปไหนน่ะ”
“ก็แกบอกจะแนะนำให้ไม่ใช่เหรอ ก็ต้องทำความรู้จักกันหน่อย” ไม่ว่าเปล่า ฉันคว้ากระเป๋าปราด้าติดมือก่อนจะเดินไปหาผู้ชายคนนั้นที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะติดขอบหน้าต่าง กระแอมเสียงเล็กน้อยให้เขาสนใจ แต่ก็ไม่...
“ฮัลโหล? ขอนั่งด้วยคนได้ไหม” ฉันว่าขึ้น แต่ไอ้บ้านี่ก็ยังนั่งเงียบเหมือนเดิม สงสัยฟังเพลงอยู่ ฉันก็เลยถือวิสาสะยื่นมือไปดึงหูฟังไร้สายของเขาออก
“อ๊ะ...” กะพริบเปลือกตาถี่ ๆ มองฉัน “ทำบ้าอะไรวะ”
“เอ่อ ฉันคุยกับนายอยู่แต่ว่านายไม่ได้ยิน” ฉันกลืนน้ำลายลงคอหลังจากพูดจบ เขาดู...ไม่พอใจเอามาก ๆ และตอนนี้นี่เองที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองไร้มารยาทมาก
“ฉันได้ยิน”
“ห๊ะห๊า...ได้ยิน?” ฉันร้องตกใจ ถ้าเขาได้ยินแล้วทำไมไม่ตอบฉัน หรือว่า “นายไม่อยากตอบฉัน?”
“_” เงียบ
“หึ อย่าโกหกหน่อยเลยน่า ฉันเห็นว่านายหลบตาฉันอยู่”
“ทำบ้าอะไรของเธอ เอา หู ฟัง ฉัน คืนมา” เขาพูดเน้นย้ำทีละคำ ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเต็มไปด้วยความโมโห เขาทำให้ฉันรู้สึกประหม่า และเสียงทุ้มของเขา...เสียงหล่อมากเลยไอ้บ้านี่
“ฉันแค่มาแนะนำตัวและก็อยากรู้จักกับนาย”
“ฉันไม่อยากรู้จักเธอ”
“นัตตี้บอกว่านายรู้จักฉัน” เขาหันไปมองนัตตี้ ซึ่งยัยนั่นก็หลบสายตาทันที “นายโกหก”
“เอาหูฟังคืนมา”
“ทำไมต้องโกหกว่าไม่รู้จักฉัน” รอบนี้เขาไม่พูดอะไร นั่งเงียบก่อนจะเก็บหูฟังอีกข้างโดยไม่สนใจหูฟังข้างที่ฉันถืออยู่
“แทนไทเหรอ ฉันชื่อเจนนี่นะ” ฉันยิ้มให้กับเขา ก่อนจะได้รับการเบือนหน้าหนี ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเบือนหน้าหนีฉันมาก่อน
“อึก ฉัน...” แปลก ๆ แฮะ หมายถึงอาการอึกอักขาดความมั่นใจของฉันมันแปลก ๆ เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาโดยไม่ได้สนใจฉัน
“อยู่ไหน รีบมาสิ” เขาคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ ฉันไม่เคยถูกเมินมาก่อน
เริ่มอายแล้วแฮะ แต่ถ้าถอยก็ไม่เลิศน่ะสิ
“นี่ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันคุยด้วย” เขาหันหน้าหนี ตอนนี้ฉันเริ่มอายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว แบบหน้าแตกมากเลยอ่ะ
...ขณะที่ฉันยังคงยืนอึกอักทำตัวไม่ถูกก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน แทนไทกวักมือเรียกเธอคนนั้น น่ารักจังเลยแฮะ อย่างกับตุ๊กตาแหนะ
“ขอโทษด้วยนะคะพี่แทน พอดีรถติดมาก”
มีแฟนแล้วงั้นเหรอ มิน่าล่ะ
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้รีบ” ฉันกลืนน้ำลายลงคอ มองสองคนนี้คุยกัน ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขาถอยหลังกลับด้วยความอาย ให้ตายสิ...ฉันไม่เคยรู้สึกเหมือนกับถูกหักหน้ามาก่อน
“อ้าว! ทำไมกลับมาเร็ว ไม่ดีเหรอ”
“ดีกับผีน่ะสิ หมอนั่นมีแฟนแล้ว”
“แฟน?” ยัยนัตตี้หันไปมองตาม ก่อนจะอ้าปากเหวอเล็กน้อย “ไม่ใช่แฟน น้องรหัสของแทนไทน่ะ”
“น้องรหัส?”
“ใช่ แต่ได้ยินคุณป้าบอกว่าน้องเขาน่าจะชอบแทนไทนะ เห็นไปหาที่บ้านบ่อย ๆ”
“หือ? ...” ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกแปลก ๆ กับความรู้สึกที่เป็นอยู่ ผู้ชายคนนี้น่าสนใจขึ้นมายังไงชอบกล