ตอนที่ 4.

1503 Words
“ก็ได้ พ่อคนฉลาด” ...ฉลาดจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร วาสินีสะบัดเสียงเข้าใส่ “ฉันจะแต่งงานกับคุณก็ได้ แต่ฉันมีข้อตกลงบางอย่างกับคุณ” คิ้วดกหนาเลิกขึ้นสูง ดวงตาสีฟ้าสดจ้องหน้าคนพูดอย่างระแวง “ข้อเสนออะไร ถ้ามันไม่เกินความสามารถและไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ผมอาจรับปากคุณ” “มันไม่เกินความสามารถของคุณแน่” วาสินีเริ่มทนความเจ้าอำนาจของเขาไม่ได้ ไหนสิตาภาเคยบอกว่าโอลิเวอร์แสนดี ยกย่องเธออย่างกับเจ้าหญิง ยอมให้จูงจมูกง่ายอย่างไรล่ะ ตอนนี้ผู้ชายที่สิตาภาเคยหลอกใช้เป็นเครื่องมือกลับทำท่าน่ากลัวจนไม่อยากเข้าใกล้                 “ว่ามา ข้อตกลงที่คุณต้องการมีอะไรบ้าง” โอลิเวอร์กอดอก ตั้งท่ารับฟังเต็มที่                 “เราจะแต่งงานกันแต่ในนามเท่านั้น ห้ามคุณล่วงเกินฉันแบบสามีภรรยาทั่วไป เอ่อ... ฉันหมายถึงห้ามคุณนอนกับฉัน” วาสินีกลั้นใจพูดออกไป ใบหน้างามแดงเรื่อเมื่อต้องเอ่ยปากพูดถึงเรื่องลึกซึ้งแบบนี้                 “ผมเข้าใจ คุณเป็นเลสเบี้ยนไม่ชอบนอนกับผู้ชายอยู่แล้วนี่ ผมไม่ฝืนใจคุณหรอก เราจะอยู่ด้วยกันในฐานะพ่อแม่ของน้องเอื้อเท่านั้น เรื่องบนเตียงผมจะไม่ยุ่งกับคุณ” โอลิเวอร์พยักหน้ายอมรับ เขาเข้าใจว่าเธอคงรังกียจสัมผัสจากผู้ชาย ซึ่งเขาเองก็คงไม่คิดจะมีอะไรกับเธออีก ครั้งนั้นเขาข่มเหงเธอเพราะแรงโทสะเธอไม่ได้เต็มใจ                 วาสินีรู้สึกโล่งใจเมื่ออีกฝ่ายยอมรับปาก “ขอบคุณมาก ที่คุณเข้าใจฉัน” เธอแอบขอบคุณรสนิยมทางเพศของพี่สาวฝาแฝด ที่กลายเป็นเกราะป้องกันเธอจากผู้ชายคนนี้                 “ผมก็มีเรื่องต้องตกลงกับคุณเหมือนกัน” เขาไม่ยอมเสียเปรียบฝ่ายเดียว                 วาสินีกะพริบตาปริบๆ พยักหน้าให้เขา” ว่ามาค่ะ ถ้าฉันทำได้ฉันจะทำ” เธอยอมรอมชอมเพราะเห็นแก่ที่เขายอมรับข้อตกลงของเธอแล้ว                 “เราแต่งงานกันในนามก็จริง แต่ผมไม่อยากให้ใครมองว่าคู่ของเราไม่สมบูรณ์ เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเราต้องสวมบทบาทสามีภรรยาที่รักกันมาก บางทีมันต้องมีแตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง กอดหอมกันบ้างไม่คนอื่นสงสัย น้องเอื้อเองแกก็คงอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นพ่อแม่รักใคร่กัน” โอลิเวอร์บอกความต้องการของตัวเองให้เธอรู้ “ค่ะ ถ้าไม่มากกว่านี้ฉันไม่มีปัญหา” วาสินีพยักหน้ารับ ยอมทำตามที่เขาบอก “ดีมาก ยังมีอีกข้อสำคัญมาก” เขาเน้นเสียง ก่อนจะเอ่ยถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมา “ในเมื่อคุณไม่สามารถทำหน้าที่บนเตียงได้ ผมก็มีสิทธิ์ไปปลดปล่อยความต้องการกับผู้หญิงคนอื่นเช่นกัน ผมไม่ใช่คนที่ยอมอดทนกับเรื่องพวกนี้หรอกนะสิตา ถ้าคุณให้ผมไม่ได้ผมก็ต้องหาจากคนอื่น คุณต้องยอมรับและห้ามหึงหวงผม” วาสินีหน้าแดงจัด ไม่ใช่เขินอายแต่กำลังโมโหคนมักมาก เขาร้ายกาจนักอาศัยช่องโหว่จากข้อตกลงของเธอ เอาประโยชน์เข้าตัว  “ใครจะหึงคุณ เชิญตามสบาย จะไปนอนกับผู้หญิงที่ไหนกี่คนก็เรื่องของคุณ แต่อย่าให้คนอื่นเขามานินทาฉันเด็ดขาดว่าถูกสามีสวมเขา และอย่าให้ผู้หญิงของคุณมาระรานฉันด้วย” เธอเชิดหน้าบอกอย่างไม่ยีหระ “โอเค เป็นอันว่าเราสองคนจะทำตามข้อตกลงนี้” ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน มุมปากอมยิ้มน้อยๆ เมื่อปรายหางตา เห็นศีรษะเล็กของลูกชายอยู่ตรงหน้าต่างห้อง เจ้าตัวคงรอดูว่าพ่อของแกจะง้อแม่สำเร็จไหม “ลูกแอบดูเราอยู่” โอลิเวอร์ บุ้ยบ้ายให้วาสินีดูที่หน้าต่าง “อุ๊ย คุณจะทำอะไร” หญิงสาวผุดลุกขึ้น ก่อนจะร้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อถูกวงแขนแข็งแรงตวัดเกี่ยวเอวคอดรั้งตัวเธอไปกอดไว้ เธอมองหน้าเขาอย่างหวาดหวั่น มือยกยันแผงอกหนาไว้ไม่ให้เข้ามาแนบชิด “น้องเอื้อ คงอยากเห็นพ่อแม่คืนดีกัน” เขากดยิ้มตาพราว มองใบหน้าตื่นๆ ของหญิงสาว “เราต้องแกล้งแสดงให้ลูกเห็นว่าเราสองคนดีกันแล้ว” “แสดงยังไงคะ” วาสินีถามเสียงสั่น ใจเต้นแรงเมื่ออ้อมกอดของเขากระชับแน่นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรยื่นมาหา ชวนใจสั่นสะท้าน เธอเป็นอะไรไปทำไมใจเต้นแรงราวกับตีกลองแบบนี้ กลิ่นน้ำยาโกนหนวดของเขาโชยเข้าจมูก ผสานกับไอร้อนจากแผงอกหนาล่ำสันด้วยกล้ามเนื้อแกร่งกำลังบดเบียดแนบชิดเธอ มันทำให้คนไม่เคยถูกเพศตรงข้ามแตะต้องเนื้อตัวรู้สึกประหลาดล้ำ “กอดคอผม จากนั้นก็ยิ้มหวานๆ” เขาจับมือเธอมาคล้องคอ เมื่อเธอยอมยิ้มหวานๆ เขาก็ยื่นหน้าก้มลงไปหา ก่อนจะกดจมูกโด่งงามบนพวงแก้มนุ่มหอมแรงๆ สองครั้งซ้อนทั้งแก้มซ้ายและแก้มขวา เสียงดังฟอด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งเด็กถูกสูดเข้าไปเต็มปอด มันให้ความรู้สึกสดชื่นหอมละมุนจนคนได้กลิ่นอดใจไม่ไหวก้มลงไปสูดกลิ่นอีกครั้ง “หอมจังเมียผม” โอลิเวอร์พึมพำชิดใบหูขาวสะอาด เขาแย้มริมฝีปากกว้างเมื่อเห็นรอยแดงบนแก้มเนียน “หอมผมคืนด้วยสิ หอมสิ ลูกดูอยู่นะ” วาสินีร้อนวูบไปทั้งหน้า แค่ถูกเขาหอมเธอก็แทบจะหัวใจวาย นี่ต้องมาหอมเขาคืนอีก โอย... จะเป็นลม “ไม่... ไม่หอมได้ไหมคะ ฉัน...” “คุณรังเกียจผมใช่ไหม” อารมณ์เคลิ้มๆ จางหายไปในทันทีเมื่อได้ยินเธอปฏิเสธ เขาน่าจะรู้ว่าเธอรังเกียจไม่ชอบสัมผัสของผู้ชายหรือแตะต้องเนื้อตัวผู้ชาย “ฝืนใจหน่อยสิตา เหมือนที่ผมฝืนใจหอมแก้มคุณ ท่องเอาไว้ทำเพื่อลูก” “ก็ได้ ฉันหอมก็ได้” วาสินีมองเห็นแววตาตัดพ้อจากดวงตาสีฟ้าคู่นั้นแล้วรู้สึกเห็นใจ สิตาภาทำร้ายเขาไว้มากโอลิเวอร์คงเจ็บช้ำไม่น้อย หญิงสาวสงสารคนตรงหน้าเหลือเกิน จนอยากชดใช้ให้เขาแทนพี่สาวฝาแฝด เธอสูดลมหายใจแรงๆ ก่อนจะกลั้นใจหลับตาแน่น ยื่นหน้าหมายแตะจมูกบนแก้มเขาพอเป็นพิธี แต่เหมือนกามเทพเล่นกลรักเมื่อโอลิเวอร์ก้มลงมา ริมฝีปากของเขาจึงถูกริมฝีปากนุ่มประทับพอดี จุ๊บ !!! ชายหนุ่มนิ่งงันในขณะที่วาสินีเบิกตากว้างตกใจ ริมฝีปากเผยอออกอย่างลืมตัว ดวงตาสองคู่ประสานกันในระยะใกล้ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดกันและกัน สัมผัสเพียงแผ่วเบากลับสร้างความวาบหวามให้เกิดขึ้นในหัวใจสองดวง วาสินีรู้สึกตัวก่อนรีบแอ่นหน้าถอยห่าง แต่ถูกมือหนาช้อนท้ายทอยกดดึงเข้ามาหา ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับลงมาปิดเสียงอุทานให้เลือนหายไปในคอระหง เรียวปากอิ่มได้รับจุมพิตแรกแห่งวัยสาวอย่างดูดดื่ม ร่างบางแข็งทื่อสมองพร่าพราย สองมือเหนี่ยวเกาะลำคอหนาไว้เป็นที่พึ่งไม่ให้เข่าทรุดลงไป ขณะเผลอไผลหลงอยู่ในมนตร์สะกดตกอยู่ในห้วงเสน่หาอย่างไม่รู้ตัว ว่ากำลังเผลอตัวจูบตอบเขาไป หวาน... ทำไมหวานแบบนี้ โอลิเวอร์อุทานในใจ เมื่อได้ลิ้มชิมกลีบปากนุ่มหวานของหญิงสาว เขาเคยจูบสิตาภาสองหนครั้งแรกตอนกลับจากงานเลี้ยงที่อพาร์ตเมนท์ของโรสิตา ครั้งที่สองตอนที่เขารังแกเธอ ทั้งสองครั้งเธอไม่ได้ตอบสนองเขาแบบนี้ ชายหนุ่มหยุดคิดสงสัยเมื่อสอดปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนความหวานล้ำในโพรงปากนุ่ม ลิ้นเล็กๆ ของเธอหลีกหลบปลายลิ้นร้อนของเขาอย่างไม่ประสา ก่อนจะถูกเขาเกี่ยวกระหวัดเอาไว้จนหนีไม่พ้น โอลิเวอร์ดูดดึงความหวานจากเรียวปากสวยของเธอทั้งบนและล่าง ยิ่งเธอตอบสนองเขายิ่งรุกเร้าร้อนแรงขึ้น มือหนาเลื่อนลูบไปทั่วแผ่นหลังเนียนขณะที่ริมฝีปากยังคงแระเล็มความหวานไม่ยอมหยุด เสียงลมหายใจหอบกระเส่าของเขาและเธอประสานกันตามอารมณ์ที่โลดแรง โอลิเวอร์ผละริมฝีปากออกช้าๆ ดวงตาวาววามจ้องมองใบหน้างามของหญิงสาว เธอปรือตามองเขาขบเม้มริมฝีปากที่เริ่มเจ่อนิดๆ จากรสจูบแสนเร่าร้อนเมื่อครู่ ร่างบางอ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขาเย้ายวนหัวใจคนมองจนแทบควบคุมตัวเองไม่ไหว หากไม่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วมา เขาคงสานต่อกับเธอจนสุดทาง 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD