.“ลูก... ลูกมองเราอยู่” วาสินีบอกเสียงสั่น เมินหน้าหลบสายตาของเขาอย่างอับอาย
“เราออกไปหาลูกกันเถอะ ผมจะพาคุณไปหาพี่เอริกกับไอรีนด้วย” โอลิเวอร์ถอนหายใจแรงๆ ไล่อารมณ์คุคลั่งในกายทิ้ง เขาต้องบ้าแน่ๆ หากอยู่สองต่อสองกับเธอแบบนี้
“ไปสิคะ คุณปล่อยฉันก่อนได้ไหมคะ”
วาสินีดึงมือออกจากต้นคอเขาขยับตัวถอยห่าง แล้วเดินก้มหน้างุดๆ ออกมาก่อน เจ้าตัวน้อยยืนยิ้มเผล่รออยู่หน้าสนามหญ้า หลังจากแอบมองพ่อแม่หวานแหววกันจนพอใจ
“น้องเอื้อ... หิวข้าวไหมลูก”
วาสินีแกล้งถามกลบเกลื่อนความเขินอาย เธอเผลอตัวหลงเคลิ้มไปกับพ่อของน้องเอื้อได้อย่างไร หากไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของลูก เธอคงเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ น่าขายหน้าจริงๆ
“ไม่หิวครับ”
เด็กชายส่ายหน้า แกมองแก้มแดงๆ ของผู้เป็นแม่อย่างชอบใจ เมื่อกี้พ่อหอมแก้มแม่แรงมาก เสียงดังฟอดๆ แม่คงหายงอนพ่อเล้วเลยจุ๊บพ่อแบบนั้นแต่ทำไมแม่กับพ่อจุ๊บปากกันนานจัง ไม่เหมือนตอนที่แม่จุ๊บปากของแก แม่จุ๊บเร็วๆ แล้วเอาปากออก แต่กับพ่อจุ๊บกันนานมาก สงสัยจะคิดถึงกันเลยจุ๊บน้าน นาน คนเป็นลูกคิดตามประสาเด็ก
“มาน้องเอื้อ พ่อจะพาไปหาคุณลุงกับคุณอานะครับ”
โอลิเวอร์ตามมาหาสองแม่ลูก เขายกร่างเล็กของลูกชายมาอุ้มไว้ ในแขนข้างหนึ่ง แขนอีกข้างโอบไหล่มนของแม่ของลูก พาเดินไปยังชายหาดที่มีครอบครัวพี่ชายและน้องสาวเล่นน้ำกันอยู่ เมื่อเดินมาถึงหน้าหาดวาสินีกลับขืนตัวไว้
“เป็นอะไรสิตา” โอลิเวอร์หันมาถาม
“สิตาเคยยิงพี่ชายคุณใช่ไหมคะ”
วาสินีถามเสียงเบา เธอมองชายหนุ่มร่างใหญ่ ที่นั่งจิบเบียร์อยู่บนชายหาดอย่างหวั่นใจ คดีที่พี่สาวฝาแฝดทำไว้มันร้ายแรงนัก พี่ชายของโอลิเวอร์จะว่ายังไง หากพบเจอคนทำ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว ผมจะพูดกับพี่เอริกเอง” โอลิเวอร์บีบมือบางให้กำลังใจ ก่อนจะโอบไหล่พาเธอเดินไปหาคนในครอบครัว
ใช่ว่าเขาจะไม่หวั่น แต่เขาเชื่อว่าพี่ชายคงยอมให้อภัยหากได้เห็นหลานชาย ..
โอลิเวอร์พาสองแม่ลูกเดินไปหาพี่ชายของเขาที่นั่งดื่มเบียร์อยู่บนชายหาด การปรากฏตัวของคนทั้งสามทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นพร้อมใจกันหันมามอง เอริกขมวดคิ้วเมื่อเห็นหน้าศัตรูตัวแสบ คิ้วยิ่งผูกปมหนาขึ้นยามได้เห็นเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนของน้องชาย ซึ่งถอดแบบโอลิเวอร์ตอนเด็กออกมาแทบไม่ผิดเพี้ยน เขาหันไปสบตาภรรยาที่กำลังทำตาโตมองทั้งสามอยู่เช่นกัน สีหน้าของโรสิตาดูจะกระอักกระอ่วนใจเมื่อได้พบกับคนที่เคยทำร้ายเขาและเธอเมื่อห้าปีก่อน ทางด้านไอรีนแทบจะซ่อนแววตาเกลียดชังไว้ไม่มิด น้องสาวคนเล็กของเมดิสันปล่อยลูกชายให้สามีดูแลก่อนจะเดินตรงลิ่วมาหาพี่ชายคนรองด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“พี่โอลิเวอร์ไปเจอยายสิตาที่ไหน ถึงได้พากันมาด้วย!”
ไอรีนเท้าเอวสะบัดเสียงเข้าใส่พี่ชาย สายตาจิกผู้หญิงที่เคยทำร้ายพี่ชายทั้งสองของเธออย่างเกลียดชัง ไม่ออมท่าทีไม่ยอมรักษามารยาทกับคนที่ร้ายกาจกับพี่ชายของเธอให้เสียเวลา
วาสินีสะดุ้งโหยงห่อไหล่ด้วยความตกใจ หน้าตาซีดเผือดกับการต้อนรับแบบจัดหนักของน้องสาวโอลิเวอร์ หญิงสาวหันมามองหน้าชายหนุ่ม และใบหน้าซีดสลดกว่าเดิมเมื่อเห็นลูกชายทำหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้
“คุณพ่อ ทำไมเขามองหน้าแม่สินีแบบนั้นครับ ทำไมต้องเสียงดังด้วยครับ”
เด็กชายยื่นมือมาโอบไหล่มารดาอย่างไม่เข้าใจ พลางหันไปหาคำตอบจากบิดา ตั้งแต่จำความได้เด็กชายไม่เคยถูกใครตวาดเสียงดังแบบนี้มาก่อน แกมองหน้าคนเป็นอาก่อนจะเบือนหน้าหนีกอดคอผู้เป็นพ่อไว้แน่น เมื่อเจอสายตาของอีกฝ่ายมองมาชวนให้รู้สึกหวาดหวั่น
“ไม่มีอะไรหรอกครับ อาไอรีนชอบพูดเสียงดังแบบนี้เอง ไม่ต้องกลัว”
โอลิเวอร์ปลอบโยนลูกชายเสียงนุ่ม เขาหันไปสบตากับหญิงสาวข้างกาย พบว่าเธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกคน จึงโอบไหล่เธอแน่นขึ้น ก้มลงกระซิบปลอบประโลม “ไม่เป็นไรสิตา เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“พี่เอริก ไอรีน ผมขอเวลาคุยกับทุกคนสักครู่” โอลิเวอร์ส่งลูกชายให้วาสินีอุ้ม เขาหันไปบอกหลานชายกับหลานสาวที่เมียงมองอย่างสนใจว่า “จัสมิน จาคอฟ ชวนเอื้อไปเล่นด้วยกันสิ”
“น้องเอื้อ ลูกไปเล่นกับจัสมิน จาคอฟก่อนนะคะ คุณแม่กับคุณพ่อจะคุยธุระกับคุณลุงและคุณอา” วาสินีบอกลูกชาย ปล่อยร่างเล็กให้ลงมายืนบนพื้นหาด
“ครับแม่สินี...” เด็กชายรับคำอย่างว่าง่าย
เอื้อมองหน้าลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง แล้วยอมเดินตามทั้งสองไปเล่นโดยดี ด้วยคิดว่าอยู่ตรงนี้ไม่สนุกเลยสู้ไปหาอะไรเล่นกับพวกเด็กด้วยกันดีกว่า
เมื่อเด็กทั้งสาวเดินออกไปห่างแล้ว ผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นก็พากันมานั่งลงที่เก้าอี้พักผ่อน เอริกกับโรสิตานั่งอยู่เคียงกัน ในขณะที่ไอรีนไล่ให้สามีไปดูแลเด็กๆ เรื่องนี้สามีของเธอไม่เกี่ยวข้องด้วยเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ฟัง ขณะที่โอลิเวอร์นั่งลงที่เก้าอี้ว่าง เขากุมมือวาสินีไว้มั่นไม่ยอมปล่อยราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไปถ้าต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณีอย่างพี่ชายของเขาและโรสิตา
วาสินีนั่งเงียบก้มหน้างุดไม่ยอมสบตาใคร ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเธอจะไม่ได้เป็นคนทำ แต่ตอนนี้เธออยู่ในคราบของสิตาภาย่อมไม่ต่างจากกลายเป็นคนร้ายเสียเอง สิ่งที่พี่สาวฝาแฝดทำไว้กับคนในครอบครัวนี้หนักหนาสาหัสนัก หากอีกฝ่ายจะเกลียดชังก็ไม่แปลกอะไร วาสินีพยายามไม่ให้แสดงอาการผิดปกติจนคนที่เคยรู้จักสิตาภาจับได้ว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง เธอต้องอดทนยอมรับกับความกดันที่มีตามมาอีกมากมายในอนาคต หากเธอจะต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้เงาของสิตาภา หญิงสาวปัดสายตาหันไปมองลูกชาย ใบหน้าเล็กๆ ของเด็กชายส่งรอยยิ้มสดใสให้คนที่แกคิดว่าเป็นแม่ พลางโบกมือหยอยๆ บอกให้รู้ว่าแกกำลังสนุกกับพี่น้องของตัวเองอยู่ รอยยิ้มของลูกชายราวกับน้ำทิพย์ชโลมใจให้หายหวาดหวั่น เธอไม่มีวันยอมเสียน้องเอื้อให้ครอบครัวเมดิสัน น้องเอื้อคือหัวใจของเธอเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเธอ วาสินีรวบรวมกำลังใจฮึดสู้กับปัญหาที่กำลังล้อมกรอบเธอจนหนีไม่พ้น หญิงสาวหันกลับมาสนใจฟังโอลิเวอร์ ที่กำลังพูดจากกับพี่น้องของเขาอยู่
“น้องเอื้อ เป็นลูกชายของผมกับสิตาครับพี่เอริก ผมจะแต่งงานกับสิตาเพื่อจะได้ดูแลลูก”
โอลิเวอร์บอกพี่ชาย เขามองหน้าไอรีนที่ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกอย่างเข้าใจ น้องสาวของเขาเกลียดสิตาภามากคงทำใจได้ยากหากต้องมาเกี่ยวข้องกัน
เอริกถอนหายใจแรง เขาไม่ยอมมองหน้าผู้หญิงที่เคยทำร้ายเขา เกรงตัวเองจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ไล่ตะเพิดอีกฝ่ายไปก่อนจะได้ฟังน้องชายพูดจบ
“พี่ไม่รังเกียจหลานหรอกนะโอลิเวอร์ แต่...”
เอริกจำต้องหันมามองหน้าวาสินี แววตาของหญิงสาวทำให้คนเห็นนิ่วหน้า เมื่อสบสายตาคล้ายจะขอโทษจากดวงตาคู่นั้น
“แต่... พี่ไม่อยากให้แกต้องไปยุ่งเกี่ยวกับสิตาภาอีก”
“ใช่ค่ะพี่เอริกพูดถูก ไอรีนยอมรับหลาน แต่ไม่ยอมรับแม่ของแกมาร่วมวงศาคณาญาติกับเราด้วย บอกตรงๆ ว่าไอรีนรังเกียจ” ไอรีนจิกตาใส่วาสินีอย่างเกลียดชัง จนโรสิตาต้องส่งสายตาปรามเพื่อนไม่ให้ออกอาการเกินไป
โรสิตามองหน้าจืดเจื่อนของวาสินีแล้ว รู้สึกสงสารขึ้นมา ในอดีตเธอกับสิตาภาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้อีกฝ่ายจะคิดเกินเลยกับเธอจนเกินเพื่อน แต่สิตาภาก็ดีกับเธอมาก ความรู้สึกโกรธหรือเกลียดแทบจะไม่มีในใจของโรสิตาเลย นอกจากความเห็นใจ เธอรู้ว่าสิตาภาไม่ชอบผู้ชายแต่กลับกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว การกำเนิดของน้องเอื้อย่อมไม่ใช่เกิดจากความเต็มใจ