ขุนพลรีบปรี่เข้ามาห้ามปรามพี่ชายฝาแฝดของตัวเองที่ระเบิดอารมณ์ร้อนออกมา เขารู้นิสัยคนตรงหน้าดีว่าเป็นยังไง
“พอเถอะไอ้ทัพ”
“มึงไม่ต้องยุ่งไอ้ขุน”
“ไม่ยุ่งไม่ได้ มึงกำลังด่าผู้หญิงอยู่นะเว้ย”
“กูไม่สน!”
ทิชาเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธเคืองไม่แพ้กัน เธอกั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลได้ทุกเมื่อเอาไว้ ก่อนจะสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของพ่อเลี้ยงหนุ่ม
ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครมาอยากความจำเสื่อมอย่างนี้หรอก เธอก็คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวเหมือนกัน
ใครจะอยากมาอยู่ร่วมกับคนใจร้าย!
“ใจเย็นๆ ไอ้ทัพ”
“งั้นมึงช่วยบอกกูหน่อยว่าใครจะกล้ามารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น” พ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของไร่ชากอดอกจ้องมองน้องชายฝาแฝดที่เอาแต่ยืนห้ามปรามอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเห็นร่างสูงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“พวกเธอรีบขอโทษมันเถอะ”
ขุนพลหันไปบอกสองสาวที่เพิ่งสร้างปัญหาใหญ่เอาไว้ ใบชามากมายที่มีมูลค่าสูงแบบนี้ต้องมาเสียหายเป็นใครก็ต้องโกรธโดยเฉพาะพี่ชายของเขา
“กูไม่รับ แค่มาขอโทษมึงว่ามันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอไอ้ขุน”
“แล้วมึงจะเอายังไง”
“ทิชาจะรับผิดชอบเองค่ะ”
คนตัวเล็กรีบพูดแทรกขึ้นมา ทิชายอมรับผิดทุกอย่างเพราะร่องรอยซากใบชาที่พื้นก็ล้วนเกิดมาจากตัวเธอทั้งสิ้น แม้หญิงสาวจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
“มีปัญญารับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ เธอรู้ไหมว่าฉันต้องสูญเสียเงินมหาศาลไปเท่าไหร่กับการกระทำโง่ๆ ของพวกเธอทั้งสองคน”
“ทิชาจะทำงานชดใช้คืนค่ะ”
“แล้วเธอล่ะ ไม่คิดจะรับผิดชอบใช่ไหม”
นำทัพพึงพอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตรงหน้ากล้าที่จะเอ่ยปากรับผิดชอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปตวัดตามองหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนก้มหน้ามองพื้นหลบสายตาคมกริบของเขา
“เอ่อ จันทร์งามก็จะทำงานชดใช้ด้วยค่ะ”
แม้จะไม่พอใจมากแค่ไหนที่ต้องมารับผิดชอบ แต่จันทร์งามไม่อาจจะปฏิเสธได้เมื่อถูกกดดันจากพ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของไร่ขนาดนั้น
“ก็ดี! แต่ฉันคงจะยอมให้เธอมาทำงานตรงนี้ไม่ได้แล้วทิชา”
“อ้าว แล้วจะให้ทิชาทำงานอะไรเพื่อรับผิดชอบคะ”
ทิชาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หากไม่ให้เธอมาเก็บใบชาหญิงสาวจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเสียหายให้กับร่างสูงตรงหน้า
“งานของเธอเดี๋ยวจะให้คนงานในไร่พาไปดู”
นำทัพพูดจบก็กระแทกเท้าเดินออกไปจากบริเวณนั้น พร้อมรอยยิ้มร้ายที่ฉายชัดออกมา หญิงสาวกล้ามาดื้อเงียบใส่ยืนต่อปากต่อคำกับเขา แถมยังกล้าขัดคำสั่งก็ต้องเจอดีแบบนี้แหละ
ทิชาเดินลัดเลาะตามคนงานหญิงที่พ่อเลี้ยงหนุ่มวานให้พาเธอมาดูงานที่จะต้องทำ ดวงตาคู่สวยจ้องมองคอกไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยความสงสัย
“อะไรเหรอ”
“คอกหมูป่าค่ะพี่คนสวย”
เด็กสาวชาวกะเหรี่ยงที่อายุน้อยกว่าอย่าง ‘เชวา’ เอ่ยตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะพาร่างบอบบางเดินเข้าไปในคอกหมูป่าหลายสิบตัว
“ทำไมมันดูน่ากลัวจังเลย”
“ไม่ต้องกลัวนะคะ พ่อเลี้ยงบอกว่าให้พี่คนสวยมาดูแลหมูป่าพวกนี้”
ทิชาส่ายหน้ารัวเร็วหลังได้ยินแบบนั้น ยิ่งเห็นแววตาดุของสัตว์ตรงหน้าเธอยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ดูก็รู้ว่าผู้ชายใจร้ายคนนั้นต้องการจะแกล้งเธอ
“ปกติใครเป็นคนดูแลเจ้าพวกนี้เหรอ”
“คนงานชายในไร่ค่ะ”
หญิงสาวทำหน้าเสียวไส้เมื่อเห็นหมูป่าตัวใหญ่เดินออกมา แววตาของมันจ้องมองมาที่พวกเธอทั้งสอง ก่อนจะอ้าปากโชว์เขี้ยวยาวแหลมทำเอาคนตัวเล็กรีบวิ่งไปหลบหลังเด็กสาว
“ไอ้เจ้าตัวนั่นชื่อเวียงหล้า มันดูดุแต่ใจดีมากเลยนะคะ”
“เขี้ยวแหลมขนาดนั้นพี่กลัวมากเลยนะ”
“มันไม่เคยกัดใครค่ะ เชวารับประกัน”
เวียงหล้าหมูป่าตัวใหญ่พ่นลมหายใจฟึดฟัดออกมาเมื่อเห็นคนแปลกหน้า มันแยกเขี้ยวพร้อมกระดิกหูไปมาอย่างขี้เล่น ก่อนจะวิ่งจู่โจมเข้ามาหาหญิงสาวที่มาใหม่เพื่อหยอกล้อ
“ว้าย!”
ทิชาวิ่งหนีออกจากคอกสุดชีวิตเมื่อคิดว่าสัตว์ตรงหน้าจะวิ่งไล่หมายทำร้าย จนเชวาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ช่วยด้วย!”
“ใจเย็นๆ นะคะพี่ทิชา”
เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นไปทั่วบริเวณ คนตัวเล็กหันมองหมูป่าน่ากลัวที่เอาแต่วิ่งไล่อยู่ด้านหลังด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะเห็นเด็กสาวชาวกะเหรี่ยงวิ่งตามมาช่วย
“ไอ้เจ้าเวียงหล้าหยุด!”
เชวายืนเหนื่อยหอบเมื่อวิ่งอย่างสุดกำลัง เธอรีบกวักมือเรียกคนงานชายในพื้นที่มาช่วยหญิงสาวที่วิ่งหนีหมูป่าตัวใหญ่
“ฮือ แม่จ๋าพ่อจ๋าช่วยลูกด้วย”
ทิชาร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หยาดน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้มอย่างน่าสงสาร หัวใจของเธอเต้นแรงรัวเร็วด้วยความหวาดกลัว ก่อนร่างบอบบางจะก้าวพลาดลื่นไถลพลัดตกเนินสูงลงไปด้านล่าง
“เห้ย! พี่สาวคนสวย”
เด็กสาวและคนงานชายในบริเวณต่างกรูเข้าไปดูคนที่กลิ้งตกลงไปนอนสลบอยู่ที่พื้น ในตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยถลอก
“เกิดอะไรขึ้น!”
ขุนพลที่กำลังจะขับรถกลับคาเฟ่ต้องชะงัก ดวงตาคู่คมจ้องมองเหล่าคนงานในไร่ของพี่ชายด้วยความสงสัย ก่อนที่ขายาวจะสาวเท้าเดินมาดู
“พี่ทิชาวิ่งหนีหมูป่าจนตกลงไปด้านล่างค่ะ”
เนื่องจากคอกหมูป่าอยู่บนเนินสูงส่งผลให้ชายหนุ่มรีบกระโดดลงไปช่วยพยุงร่างเล็กที่นอนไม่ได้สติขึ้นมา ใบหน้าสวยในตอนนี้ซีดเซียวจนน่าเป็นห่วง
“รีบไปตามหมอมา!”
“ครับพ่อเลี้ยงขุนพล”
มือหนารีบสอดร่างบอบบางขึ้นอุ้มแนบอก ตามด้วยเด็กสาวอย่างเชวาที่เดินตามหลังมาไม่ห่าง เธออดรู้สึกผิดไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ป้านวลต้องร้องตกใจออกมาเสียงดังหลังเห็นสภาพของหลานสาวที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำ ก่อนจะรีบหลีกทางให้หมอประจำไร่เข้ามาดูอาการ
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ นี้ยังไม่เริ่มงานเลยนะ”
นำทัพยืนกอดอกพิงกรอบประตูหน้าห้องพักของป้าแม่บ้านคนเก่าแก่ ทำเอาน้องชายฝาแฝดอย่างขุนพลอดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองคนเป็นพี่ขึ้นมา
“มึงบ้าหรือเปล่าไอ้ทัพ ให้น้องเขาไปทำงานในคอกหมูป่าเนี้ยนะ!”
“กูเห็นปากเก่ง นึกว่าอย่างอื่นจะเก่งด้วย”
“มันเกินไปโว้ย! มึงเห็นสภาพเขาไหม”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดด้วยความไม่ทุกข์ร้อนอะไร ที่สภาพคนตรงหน้าเป็นแบบนั้นก็เพราะทำตัวเอง ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวอยู่ดีไม่ว่าดีไปมีเรื่องกับหมูป่าจนตัวเองได้รับบาดเจ็บแบบนั้น
“มึงลองไปโดนเองดูไหมจะได้รู้ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“มึงจะเข้าข้างแม่นั่นอะไรหนักหนาไอ้ขุน”
“กูเป็นคนดีไง ไม่ได้ใจทรามรังแกผู้หญิงแบบมึงไอ้ทัพ”
“มึงว่าใครใจทรามไอ้น้องเวร”
“ก็มึงไง มีดีแค่หน้าตาหล่อเหมือนกู นอกนั้นหาความดีอะไรในตัวไม่ได้เลย!”
นำทัพกัดฟันกรอดอย่างโกรธเคืองเมื่อโดนน้องชายฝาแฝดพูดใส่แบบนั้น เขาผลักร่างสูงของมันให้ถอยห่างออกไปเพราะไม่อยากเห็นหน้าให้หงุดหงิดใจ
“แกล้งเขาให้ดีไปเถอะ อย่าให้รู้นะว่ามึงเกิดสนใจเขาขึ้นมาโดนกูหัวเราะใส่แน่”
“ถึงตายก็ไม่มีวันนั้นหรอกไอ้ขุน”
“แล้วกูจะรอดู”
ขุนพลกลอกตามองบนพี่ชายตัวเองเมื่อได้เห็นท่าทีแบบนั้น เขาเหนื่อยจะยืนทะเลาะเลยเลือกเดินไปดูอาการคนป่วยบนเตียงที่หมอกำลังรักษาอยู่
“อาการเป็นยังไงบ้างครับหมอ”
“ตอนนี้อาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ แต่พยายามดูแลแผลถลอกและรอยช้ำตามตัว เดี๋ยวหมอจะจัดยาไว้ให้”
“เห็นไหมก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
พ่อเลี้ยงหนุ่มชะเง้อหน้าดูร่างบอบบางบนเตียง แม้จะอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้กับการได้เห็นเนื้อตัวขาวเนียนของสาวเจ้าเต็มไปด้วยรอยบาดแผล
“ฝากเย็บปากมันหน่อยนะครับหมอ”
“ไอ้ขุน!”
“มึงหัดเป็นห่วงคนอื่นบ้าง”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียมึงเหรอ ถึงได้เป็นห่วงขนาดนั้น”
นำทัพพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นน้องชายตัวเองเอาแต่เข้าข้างและปกป้องหญิงสาวไม่หยุด
.
.
.