ร่างบอบบางเดินมายังห้องพักของคนงานพร้อมกับป้านวลแม่บ้านคนเก่าแก่ ทันทีที่มาถึงหญิงมีอายุรีบเร่งจัดเตรียมที่นอนให้คนตรงหน้าเสร็จสรรพ
ห้องพักขนาดกว้างไม่ได้ไกลจากบ้านใหญ่ของเจ้านายเหมือนกับห้องพักของเหล่าคนงาน อื่นๆ ที่อยู่ท้ายไร่
“หนูอยู่ได้ไหม”
“อยู่ได้ค่ะ” ใบหน้าสวยยกยิ้มหวานให้คุณป้าใจดี เธอนั่งลงที่ปลายเตียงเพื่อสำรวจภายในห้องอีกครั้ง
“หนูความจำเสื่อมแบบนี้คงจำชื่อตัวเองไม่ได้งั้นป้าตั้งให้ใหม่เอาไหม”
คนตัวเล็กพยักหน้ารัวเร็วเมื่อได้ยินแบบนั้น อยู่ๆ ความรู้สึกของเธอก็รับรู้และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเมื่อโดนคนตรงหน้าใช้มือลูบเรือนผมสวยด้วยความอ่อนโยน
“งั้นป้าตั้งชื่อให้ว่าทิชา”
ป้านวลดึงมือเล็กมากุมไว้แน่นเมื่อเธอเอ็นดูเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนนี้เหลือเกิน ความหมายชื่อที่ตั้งให้หวังว่าจะทำให้หญิงสาวพบเจอแต่ความโชคดี คนเราเมื่อรอดจากความตายมาได้ก็เหมือนได้ใช้ชีวิตที่สอง ร่างบอบบางตรงหน้าก็เช่นกัน
“ถือว่าที่เรามาเจอกันเพราะวาสนานะลูก ป้าไม่มีญาติหรือลูกหลานที่ไหนก็นึกเอ็นดูเรา”
“ขอบคุณมากนะคะ หนูชอบชื่อนี้มากค่ะ”
“ถ้าใครถามว่าหนูเป็นใคร มาจากไหนก็บอกว่าเป็นหลานสาวป้านะทิชา”
“ค่ะคุณป้า” ทิชานั่งพึมพำชื่อตัวเองซ้ำไปซ้ำมาด้วยความชอบใจ ล้วนอยู่ในสายตาแม่บ้านคนเก่าแก่ของไร่ที่ทอดมองดูอยู่ ก่อนจะเรียกรอยยิ้มได้ไม่ใช่น้อย
“ปกติคุณป้าอยู่ที่นี่ทำอะไรเหรอคะ”
“เตรียมอาหารให้พ่อเลี้ยงเขา ทำความสะอาดบ้าน แล้วก็ไปช่วยเก็บใบชาคนงาน”
“งั้นต่อไปนี้ทิชาจะมาช่วยทำเองนะคะ”
“น่ารักจริงๆ หลานป้า”
คนตัวเล็กเดินถือตะกร้าไม้สานสำหรับใช้เก็บใบชาเดินตามป้านวลไปที่ไร่ เหล่าคนงานต่างชะเง้อคอมองกันตาไม่กะพริบโดยเฉพาะผู้ชายวัยฉกรรจ์ที่ส่งเสียงแซวสาวสวยแปลกหน้าข้างกายป้าแม่บ้านคนเก่าแก่
“หยุดเลยนะพวกเอ็ง อย่ามาแซวหลานข้า”
“โห่ หลานป้านวลเหรอ!”
“สวยอย่างกับนางฟ้า”
“เออหลานข้า! อย่าให้รู้นะว่าใครมาจีบ โดนเพ่นกบาลแน่”
“โกหกแล้วป้า น้องคนสวยหน้าตาฝรั่งขนาดนั้นจะเป็นหลานป้าได้ยังไง”
ป้านวลหันใบหน้ามองเด็กสาวข้างกายอีกครั้ง ก่อนจะใช้มือโบกไล่เหล่าคนงานชายให้ถอยห่างออกไปด้วยความรำคาญใจ
“อย่ามายุ่งเรื่องของข้า ไปทำงานเลยไป”
ทิชาส่งยิ้มแห้งๆ ให้คนที่ยืนส่งสายตาหวานเยิ้มให้อยู่ตรงหน้า ร่างบอบบางเดินตามผู้เป็นป้าเข้าไปในไร่ชาขนาดใหญ่ที่มีต้นชาปลูกเรียงรายเป็นแถวอย่างสวยงาม
“เก็บใบชาที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป เห็นยอดตรงนั้นไหมลูก ให้เด็ดออกมาพร้อมใบอ่อนสักสองสามใบด้วยนะ”
หญิงสาวพยักหน้าตอบกลับอย่างตั้งใจเมื่อได้ฟังคนมีประสบการณ์สอนวิชาเก็บใบชาจากต้น
“เลือกยอดชาที่แห้งไม่มีน้ำค้าง หรือน้ำฝนเกาะ จากนั้นก็นำมาใส่ในตะกร้าใบนี้ ระวังอย่างให้มันอัดแน่นมากเกินไป เดี๋ยวจะทำให้ยอดชาหักช้ำได้”
“ค่ะป้านวล”
“ไหนลูกเก็บให้ป้าดูหน่อย”
ทิชาจ้องมองยอดใบชาตรงหน้าอย่างชั่งใจ ก่อนจะใช้มือค่อยๆ เด็ดมันออกมาจากต้นส่งให้คนเป็นป้าตรวจดู
“เก่งมาก หัวไวดีนี่”
“งั้นทิชาขอไปเก็บฝั่งโน้นนะคะ”
“ไปเถอะ มีอะไรสงสัยเรียกถามป้าได้เลยนะ”
“ค่ะคุณป้า”
คนตัวเล็กถือตะกร้าไปยังอีกฝั่งของไร่ เธอก้มหน้าเก็บยอดชาอย่างขะมักเขม้น ภาพเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของคนงานชายที่ทอดมองดูอยู่ด้วยความสนใจ
แววตาไม่สบอารมณ์ของคนงานหญิงดาวเด่นประจำไร่อย่าง ‘จันทร์งาม’ ฉายชัดขึ้นมาเมื่อมองเห็นพวกผู้ชายต่างหันไปสนใจผู้หญิงแปลกหน้าหลานสาวป้านวลแทนตน
“แค่เห็นหน้ากูก็รู้แล้วว่าไม่ถูกชะตา”
ร่างบางหันไปกระซิบกระซาบกับพวกของตนที่ยืนเท้าสะเอวมองไม่วางตาอยู่เช่นกัน ยิ่งได้ฟังคำพูดยุยงทำเอาจิตใจของหญิงสาวเพิ่มความเกลียดชังและริษยามากขึ้น
“ใช่พี่จันทร์งาม หงิมๆ แบบนี้ร้ายลึกแน่นอน”
ทิชาหันมองตะกร้าของตัวเองที่อัดแน่นไปด้วยยอดใบชา ขาเรียวสาวเท้าไปยังจุดสำหรับเก็บรวบรวมชาเพื่อเตรียมขนย้ายไปยังโรงงานแปรรูป
ไม่ทันได้ใช้มือยกตะกร้าขึ้นเท ร่างเล็กต้องล้มลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรงด้วยฝีมือของจันทร์งามจนกองใบชากระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เสียงร้องตกใจเรียกคนงานในพื้นที่ให้วิ่งมาดูกันจ้าวละหวั่น
“ผลักทิชาทำไม!”
“ใครผลักหล่อน ทะเล่อทะล่าลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นเอง!”
จันทร์งามกอดอกมองคนที่เธอหมั่นไส้อย่างลอยหน้าลอยตา แต่ทว่าต้องแสร้งทำหน้าตกใจเมื่อเห็นใบชามูลค่าสูงเสียหายแบบนั้น
“ตายจริง พ่อเลี้ยงดุพวกเราแน่ที่ใบชาเสียหายหนักแบบนี้”
เสียงไม่สบอารมณ์ของเหล่าคนงานดังลั่นไปทั่วบริเวณ ทำเอาทิชาหน้าเสียขึ้นมาทันที เธอรีบลุกขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความโกรธเคือง
“ทิชาไม่ได้ตั้งใจนะคะ”
“มาวันแรกก็มาสร้างปัญหาแล้ว อีตัวซวย!”
“เรื่องอะไรแกมาด่าหลานข้าอีจันทร์งาม!”
ป้านวลรีบวิ่งเข้ามาดึงร่างบอบบางของหลานสาวกอดไว้แน่น ก่อนจะจ้องหน้าเด็กสาวเขม็ง อย่างรู้เท่าทันถึงนิสัยใจคอ
“ก็มันมาทำให้ใบชาเสียหายแบบนี้ จะให้ด่าว่าอะไรล่ะป้าถ้าไม่ใช่อีตัวซวย”
“เกินไปหรือเปล่าจันทร์งาม หลานสาวป้านวลเขาไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
เสียงปริศนาของคนงานชายพูดขึ้นมา ทำเอาใบหน้าสวยของดาวเด่นประจำไร่ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที
“แล้วจะรับผิดชอบยังไง!”
“เธอเป็นคนมาผลักฉัน ผู้หญิงนิสัยไม่ดี”
จิตใต้สำนึกของคนความจำเสื่อมเรียกให้ตัวเธอลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง ทิชาไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ ในเรื่องที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด
“หน็อย! แกกล้ามาผลักหลานข้าเหรอ”
“ป้าไปเชื่อมันได้ยังไง หลานป้ามันตอแหล”
“เธอนั่นแหละตอแหล”
“กล้าด่ากูเหรออีบ้า!”
จันทร์งามกระชากเรือนผมของคนตัวเล็กก่อนจะใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าสวยไปเต็มแรงจนเหล่าคนงานห้ามศึกแทบไม่ทัน
ทิชาถูกคนตรงหน้าดื้อดึงก่อนจะล้มลงกระแทกพื้นอีกครั้ง โดยมีร่างบางของหญิงสาวคู่อริขึ้นคร่อม ทั้งคู่ต่างต่อสู้ตบตีกันอย่างไม่ยอมใคร จนยอดใบชามูลค่าสูงในตอนนี้เสียหายหนักกว่าเก่า
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เสียงทรงอำนาจของพ่อเลี้ยงหนุ่มดังลั่นไปทั่วบริเวณทำเอาสองสาวที่นอนตบตีกันบนพื้นต้องหยุดชะงัก ป้านวลรีบวิ่งเข้าไปพยุงหลานตัวเองขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นวะ”
พ่อเลี้ยงขุนพลรีบวิ่งเข้ามายังบริเวณเมื่อได้รับรายงานจากลูกน้องในไร่ว่าเกิดเรื่องขึ้น เขาอ้าปากค้างทันทีหลังเห็นสภาพหญิงสาวทั้งสองและซากความเสียหายของใบชา
“ทำบ้าอะไรกัน!”
“หลานสาวป้านวลทำค่ะ”
จันทร์งามรีบเอ่ยฟ้องเจ้านายตัวเองเมื่อได้เห็นแววตาเดือดดาลฉายแววความน่ากลัวของพ่อเลี้ยงหนุ่ม
“แล้วที่ลงไปตบตีกันบนใบชาของฉันมันคือหมาตัวไหน!”
นำทัพหันไปด่ากราดคนตรงหน้าที่กล้ามายืนฟ้องอยู่ไม่ไกล ทำเอาร่างบอบบางหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดหวั่น
“เธอก็เหมือนกัน มาวันแรกก็มาสร้างปัญหาแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ทิชาไม่ได้เริ่มก่อน”
“หุบปาก! ใครอนุญาตให้เธอพูด”
“ไม่มีใครอนุญาตหรอกค่ะ ทิชาก็แค่พูดเพื่อปกป้องตัวเองว่าไม่ได้ผิด”
พ่อเลี้ยงเจ้าของไร่ชาควันออกหูโดยทันทีเมื่อโดนคนตรงหน้าเถียงใส่ ชายหนุ่มที่ไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งมาก่อนถึงกับกัดฟันกรอดอย่างข่มอารมณ์
“แล้วที่ลงไปนอนดีดดิ้นบนใบชาของฉัน ยังกล้าเสนอหน้ามาบอกอีกว่าไม่ได้ผิด!”
“ถ้ามีคนมาตบพ่อเลี้ยงจะยืนนิ่งให้เขามาทำไหมคะ”
มือหนากระชากแขนเล็กเข้าหาตัวอย่างแรงด้วยความโกรธกร้าว จนเหล่าคนงานในบริเวณไม่กล้าจะเข้าไปห้ามปรามโดยเฉพาะป้านวล
“เมื่อไหร่จะรีบจำได้แล้วไสหัวออกไปจากไร่ฉันสักที!”
.
.
.