ตอนที่ 12

1661 Words
ประเทศอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน เธอมาถึงเพื่อจัดการเคลียร์งานบางอย่างให้ลงตัว ธุระกิจแรกของเธอคือผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่กำลังจะเปิดตัวและวางขายในเดือนหน้าแต่มามีปัญหาซะอย่างนั้น “นายพูดจริงเหรอ?” “ใช่ลูกปลามีคนพยายามดิสเครดิตสินค้าเรา” เจมบอกพร้อมกับส่งเอกสารบางอย่างที่ได้รับมา “นี่มันใส่ร้ายกันชัดๆฉันต้องเอาคืนมันแน่” เธอแค่อ่านข้อมูลสินค้าใหม่ที่ถูกป้ายสีซะยับเยินทั้งที่ยังไม่วางขาย มันมากเกินไปแล้ว “ตั้งทีมทนายจัดการพวกมันฉันอยากให้เป็นข่าวเอาให้ดังกะฉ่อนไปเลยถือเป็นการโปรโมตสินค้าด้วย” ไหนๆใกล้จะเปิดตัวแล้ว “มั่นใจ?” “เอาน่าอย่างน้อยคนจะได้รู้จักสินค้าเราด้วย” เธอไม่ได้มาเพื่อวางแผนจัดการคนชั่วอย่างเดียวมันเปลืองค่าเครื่อง เธอจัดการวางแผนโปรโมตสินค้า งานเปิดตัวและแขกรับเชิญอีกแค่คิดก็ปวดหัวอีกรอบแล้ว เธอมาห้องพักชั่วคราวที่เพื่อนจองให้นั่งคิดอะไรเพลินก่อนจะตกใจกับเสียงฟ้าร้องดังลั่น เปรี้ยง!! ตุบ!! “โทรศัพท์!!!” ตกอ่างล้างหน้าไปแล้วเธอรีบหยิบขึ้นมาแต่ก็ไร้ค่าเพราะเปิดเครื่องมันติดๆดับๆแล้วก็สัมผัสอะไรไม่ได้เลย ประเทศไทย ณ กรุงเทพ เวลา 03.45 น. ชายหนุ่มใส่ชุดแขนยาวมีหมวกแล้วหน้ากากปิดบังใบหน้าพร้อมด้วยลูกน้องอีกสิบกว่าคน เขาเดินยิ้มร่าด้วยความสะใจกับภาพตรงหน้า “คิดว่ากูกระจอกเหรอไอ้สัส!!” รองเท้าหัวเหล็กกระแทกเข้าเต็มกรามชายอีกคนทันที “มึงมันหมาหมู่!” “แล้วที่มึงทำไม่เรียกหมาหมู่เหรอ?” เขากดเสียงต่ำมองชายอีกคนที่อาการสาหัสพอตัวก่อนจะยิ้มเล็กพร้อมยกเท้าเหยียบหน้าอกแรงขึ้น "อัก!" “มึงจะทำอะไรเมียกูนะ?” เขาตามหาคู่หมั้นไม่เจอไปหาพ่อแม่ลูกปลาก็ไม่รู้เรื่องแล้วเบาะแสสุดท้ายคือคำพูดของพวกมัน “กูขอโทษแต่กูยังไม่ทำอะไรเว้ย!” ชายอีกคนพูดก่อนจะสลบกลางอากาศจากเท้าที่เต๊ะเข้าที่หน้า “มึงบอกว่าลิลลี่เป็นเมียใช่ไหม? ไอ้วินเอาตัวมันมา” เขาตะโกนสั่งลูกน้องให้ลากตัวนังสารเลวออกมา ลิลลี่ด้วยสั่นเทาไปด้วยความกลัวเธอร้องไห้อย่างหนักยิ่งเห็นชายหนุ่มเธอยิ่งสั่นไปกว่าเดิม เธอถูกเขาซ้อมจนแทบเดินไม่ไหว “กูจะบอกให้นะมันขายให้กูเองไอ้ควาย!!” เขากระชากผมลิลลี่มามองก่อนจะยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นท่าทีสั่นดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “เสี่ยขาลิลลี่ขอโทษ!” ลิลลี่ยกมือไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา “ถ้ามึงไม่หยุดครั้งหน้าลงนรกแน่” เขาพูดก่อนจะผลักลิลลี่ไปกองกับพื้น “ไอ้วินจับดูพวกมันถ้าตุกติกเชือดได้เลย!” คำสั่งสุดท้ายพร้อมปรายตามองคนที่ใกล้ตายด้วยความเย็นชาแล้วเดินกลับขึ้นรถไปตามหาคู่หมั้นต่อ เขาไม่รู้ว่าลูกปลาอยู่ไหนแต่คงพวกมันคงไม่ได้ลักพาตัวมาแน่ เขาต้องบ้าแน่ถ้ายังตามหาลูกปลาไม่เจอแบบนี้ เขาตามเช็คทั้งเพื่อนเธอ ที่ทำงานไปจนถึงครอบครัวก็ยังไม่รู้เลยแถมยังโทรติดต่อไม่ได้อีกมันน่าแปลกใจ “เสี่ยครับ 2 วันแล้วที่คุณลูกปลาไม่ติดต่อใคร” มาวินรายงานต่อ “ไปมุดหัวอยู่ไหนวะลูกปลา!” เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะหลบหนีเขา แต่ครั้งนี้มันแปลกเกินไปจริงๆ ลูกปลาหายไปไหนนน…. เช้าวันต่อมา… ครบ 3 วันตามที่ลูกปลาบอกเลขาไว้แล้วแต่เธอยังไม่โผล่หัวมาเลยนี่เขามารอตั้งแต่เช้าจนเที่ยงก็ยังไม่มีอีก เธอจะทิ้งเขาไปอีกครั้งเหรอวะ “ไอ้วินไหนมึงบอกว่า 3 วันไงวะ!!” เขาตะคอกถามลูกน้องด้วยความโมโห “โธ่เสี่ยผมก็รู้จากเลขาคุณลูกปลาอีกทีนะ” มาวินตอบเสียงอ่อย “ไปเตรียมรถก็จะไปคอนโดลูกปลา” “แต่ว่าเสี่ยต้องเข้าประชุม” “กูสั่ง!!!” การประชุมถูกยกเลิกกระทันหันเมื่อผู้บริหารไม่พร้อม เขาไม่มีสมาธิจะสนใจอะไรนอกจากการหายตัวไปของคู่หมั้นที่ไม่มีวี่แววจะติดต่อได้เลย เขาควรจะหาลูกปลาจากที่ไหนอีก “โธ่เว้ย!!” เขาทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว ชายหนุ่มส่งลูกน้องไปหาตามสถานที่ต่างๆที่เธอน่าจะไปแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เขาเป็นห่วงเธอมากจนไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้เลย หรือเธอจะทิ้งเขาไปอีกครั้ง! เขาหยุดแล้วเพื่อเธอในตลอดสามวันเขาไม่ได้ไปเที่ยวผับบาร์กินเหล้าที่ไหนเลย เขาตามหาเธอ อยากจะพูดคุยอะไรดีๆ และบอกรักถึงจะมั่นใจว่าต้องเจ็บแน่นอน “ไอ้วินเช็คกับเพื่อนลูกปลาทุกคนรึยัง?” เขาไม่อยากจะคิดร้ายแต่ลูกปลาอาจจะอยู่เพื่อนสักคนก็ได้ “เช็คแล้วครับเสี่ยคุณลูกปลาไม่ไปหาใครเลย” มาวินตอบชัดเจนเพราะรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์มันย่ำแย่แค่ไหน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคู่หมั้นเจ้านายมักจะเดือดร้อนเสมอแล้วครั้งนี้ก็มากมายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจนน่าหวั่นใจ “ถ้าวันนี้ยังไม่มากูจะแจ้งความ” อาจเป็นวิธีโง่ๆ แต่เขาก็จะทำ เวลา 19.00 น ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องดีเลย์ไปครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นไรยังไงซะตอนนี้เธอก็มาถึงประเทศไทยแล้วโทรศัพท์พังแต่ไม่ยอมซื้อเพราะจะมาซื้อที่นี่แทนไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดโง่ๆได้ขนาดนี้ เธอมาต่อคิวขึ้นแท็กซี่เพราะไม่ได้เอารถมาไม่รู้ป่านนี้พ่อแม่จะว่ารึเปล่าที่เธอบินด่วนแต่เดี๋ยวค่อยอธิบายเหตุผลให้ฟังทีหลังแล้วกัน ส่วนคู่หมั้นป่านนี้คงนอนกกสาวสักคนแน่ สันดานเจ้าชู้มันแก้ไม่ได้หรอก “จอดข้างหน้าค่ะ” เธอยังไม่เข้าคอนโดเพราะแวะร้านอาหารก่อน “ครับผม” ร้านอาหารธรรมดาข้างฟุตบาทแบบนี้เธอไม่ค่อยมีโอกาสมากินบ่อยเหมือนตอนเรียน กินข้าวคนเดียวเหงาจัง! เธอมองไปโต๊ะอื่นที่มาเป็นคู่ “กินคนเดียวไม่เป็นรึไง!” เธออดจะค่อนแคะโต๊ะอื่นไม่ได้ “คิวยาวไหมคะ?” รอ 10 นาทียังไม่ได้กินเลย “ยาวจ้ะหนูไม่มีโต๊ะวางเลย หนูใส่ถุงได้ไหมเอาไปกินที่บ้าน” แม่ค้าวัยกลางคนบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มขณะที่มือจับตะหลิวผัดไม่หยุด “ค่ะ เอาต้มยำร่วม ตำป่าแล้วก็ไก่ย่างตัวนึงค่ะ” ขึ้นชื่อความหิวมันทำลายได้ทุกอย่าง เธอสั่งไปไม่รู้ว่าจะกินหมดไหมแต่ก็สั่งเห็นโต๊ะอื่นกินก็น้ำลายไหลตาม เธอรอสักพักถึงได้ของที่ต้องการจนเต็มมือเพราะดันไปสั่งเพิ่มเหมือนว่ากินหลายคนงั้นแหละ เธอไม่มีรถจะให้เดินคงไม่ไหวงานนี้มีแต่พี่วินมอเตอร์ไซอย่างเดียวที่พาเธอชิ่งจนเกือบตกรถแต่ก็มาถึงคอนโดโดยปลอดภัย “คุณลูกปลา!!!” ใครเรียกเธอ “คุณลูกปลาไปไหนมาครับ?” มาวินวิ่งเข้ามาถามพร้อมกับแย่งของในมือเธอมาถือซะเอง “มาวินนายมาที่นี่ทำไมแล้วเสี่ยอิฐละ?” ลูกปลาถามติดจะงงนิดๆ “ผมว่าไปห้องก่อนนะครับ” มาวินเลี่ยงที่จะบอกว่าเจ้านายรออยู่เพราะกลัวว่าคุณลูกปลาจะไม่ยอมไปเจอ เมียเจ้านายดื้อขนาดไหนเขารู้ดี! “อืม...ไปสิ” ลูกปลาขึ้นลิฟท์ไปแบบไม่ทันฉุดคิดอะไรเพราะในตอนนี้เธอหิวมากแล้วก็เหนื่อยมากด้วย งานที่ทำร่วมกับเพื่อนไม่เท่าไรแต่เธอแวะไปตรวจที่บริษัทของพ่อด้วย เธอแทบจะไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำลองถอดแว่นสิคนคงตกใจนึกว่าแพนด้าแน่เลย “คุณลูกปลาไปไหนมาเหรอครับ” มาวินถามขณะที่ส่งข้อความบอกเจ้านายแล้ว “ทำงานสิ” ชายหนุ่มนั่งรอด้วยใจจดใจจ่อเมื่อได้อ่านข้อความจากลูกน้องเขาต้องพยายามใจเย็นให้มากที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ให้ตายเถอะคำถามมันวิ่งวนไปมาจนน่าหงุดหงิด “เสี่ยอิฐ!!” เปิดประตูมาก็เจอคนที่ไม่อยากจะเจอทันทีเธอน่าจะถามมาวินก่อนว่าเขาอยู่รึเปล่า “ไปมุดหัวอยู่ไหนมาเสี่ยตามหาจนทั่ว!!” เขาตวาดลั่นเมื่อเห็นเธอเดินหน้าระรื่นเข้ามา “เสี่ยเป็นบ้าอะไรเนี้ยห่ะ ลูกปลาไปทำงานมา” เขาเป็นอะไรถึงมาตะคอกใส่เธอแบบนี้ “งานห่าหอกอะไรสามวันไม่กลับ!” เขาเดินไปจับไหล่เธอบีบแน่นคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ เธอทำเขาประสาทกินยังไม่สำนึกแถมกรอกตาใส่อีก ยัยนางมารร้าย! “ไปอังกฤษค่ะ พอใจยังปล่อยลูกปลาเจ็บ” เธอแกะมือเขาออกก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไม่สนใจอะไรคนขี้โวยวายตรงหน้า ลำพังแค่งานเธอก็เหนื่อยพอแล้วนะ “ลูกปลาจะเดินหนีเสี่ยแบบนี้ไม่ได้กลับมาคุยเดี๋ยวนี้!!” เขาตวาดเสียงดังลั่นจับข้อมือเธอแน่นไม่ให้หนีไปไหนได้อีก ยั่วโมโหอีกแล้วใช่ไหม “โอ๊ย!! เจ็บนะ!!” เธอพยายามจะสบัดมือออกแต่ก็ไม่ออกเขาจับมือเธอแน่นมาก “ลูกปลาตอบคำถามมาสิ!!” “ก็บอกแล้วไงว่าไปทำงาน!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD