หลังจากที่ลัลนาพูดจบ หญิงสาวก็เดินกลับไปหยิบแว่นกันแดดพร้อมกับหมวกแก๊ปที่จิ๊กโก๋หนุ่มทำหลุดออกไปก่อนหน้านี้ ทว่าแว่นกันแดดและหมวกของเธอถูกชายหนุ่มท่าทางภูมิฐานเก็บขึ้นยื่นให้เสียก่อน
“ขอบคุณค่ะ” เธอขอบคุณแล้วรับแว่นกันแดดพร้อมกับหมวกขึ้นสวมอีกครั้ง ก่อนเดินไปหยิบกระเป๋าใส่กล้องถ่ายรูปพร้อมกับหนังสือคู่มือท่องเที่ยวอีกหลายเล่มที่หล่นหายไปตอนที่จิ๊กโก๋หนุ่มพุ่งเข้ามาทำร้าย
ขณะที่ลัลนาไม่ทันระวังตัว คนที่เธอคิดว่ายอมแพ้ไปแล้ว กลับลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้ามาทำร้ายเธออีกครั้ง “ระวัง!...ข้างหลัง”เสียงร้องเตือนทำให้ลัลนาตกใจพร้อมกับเบี่ยงตัวตามสัญชาตญาณของตัวเองอย่างรวดเร็ว เมื่อสิ่งที่พุ่งเข้ามาหากลับเป็นมีดสั้น
ลัลนาดึงแขนกลับมาไม่ทัน ความเจ็บพุ่งเข้ามาในใจ เมื่อมีดสั้นเล่มนั้นกรีดลงบนต้นแขนเรียวงาม ดวงตาคู่สวยก้มมองบาดแผลบนแขนแวบหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ชายที่สร้างบาดแผลให้ด้วยรอยยิ้มเยียบเย็น
“รู้ไหมบ้านฉันเขาเรียกผู้ชายที่รังแกและทำร้ายผู้หญิงว่ายังไง”
“กูจะไปรู้เหรอวะ” แจ๊คกี้สวนกลับอย่างโกรธจัด ก่อนฉุกคิดถึงคำพูดของคนตรงหน้าทันที เมื่อกี้ถ้าเขาจำไม่ผิด ไอ้หน้าอ่อนนี่พูดว่า ‘ผู้ชายที่รังแกและทำร้ายผู้หญิง’ นี่นา...อย่าบอกนะว่าคนที่เขากำลังต่อสู้อยู่เป็นผู้หญิง
“เขาเรียกว่า...หน้าตัวเมีย นายควรกลับบ้านไปหาเสื้อผ้าแม่มาใส่ซะ แล้วค่อยมาสู้กับฉัน ไอ้หน้าปลวกเอ๊ย!”
ลัลนาพูดเพียงแค่นั้นก็พุ่งเข้าไปบล๊อคแล้วดึงมีดสั้นออกมาจากจิ๊กโก๋หนุ่มด้วยความเร็ว ชนิดที่ว่าคนมองเห็นเหตุการณ์ยังตกใจกับความเร็วดังกล่าว และดูเหมือนคนบาดเจ็บไม่พูดพล่ามอะไรอีก หญิงสาวก็กำมือแน่นซัดเข้าไปที่หน้าท้องเต็มแรง แล้วถอยออกมาตั้งท่าใหม่ แล้วพุ่งเข้าไปอีกครั้ง กระโดดขึ้นไปยกขาขึ้นพาดไปที่ต้นคอของจิ๊กโก๋หนุ่มอย่างแรง จนร่างสูงกำยำล้มตึงลงไปนอนหมดสติอยู่ข้างตรงหน้า
“โรงแรมนี้มันยังไงกัน ค่าห้องก็ออกจะแพง อาหารก็แพง แถมยังติดอันดับโรงแรมหรูอีก แต่ระบบรักษาความปลอดภัยถึงได้ห่วยแตกแบบนี้” ลัลนาบ่นเป็นภาษาจีนให้ชายหนุ่มที่เธอมั่นใจว่าต้องเป็นญาติหรืออาจเป็นเจ้าของโรงแรมได้ยิน ดวงตาคู่สวยมองสบตาดวงตาคู่คมกล้าเล็กน้อย ก่อนเดินไปหยิบกระเป๋าและคู่มือท่องเที่ยวขึ้นถือ แล้วบ่นออกมาอีกประโยคอย่างหงุดหงิด “วันนี้เราเดินออกจากห้องด้วยเท้าข้างไหนวะ ทำไมถึงโชคร้ายตั้งแต่เช้าแบบนี้ สงสัยต้องเข้าวัดไปทำบุญล้างซวยชุดใหญ่แล้วมั้ง” แล้วก็ถอนหายใจกับความซวยของตัวเอง ก่อนตัดสินใจว่าเธอควรเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมนี้แล้วไปหาที่พักใหม่ เมื่อคิดได้ดังนั้นลัลนาก็เดินไปที่จุดทิ้งขยะ โยนคู่มือท่องเที่ยวกรุงปักกิ่งทิ้งลงไปในถังขยะ “ฉันไปเที่ยวฮ่องกงก็ได้ ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย” เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง แล้วเดินย้อนกลับมา ผ่านจุดเกิดเหตุเมื่อก่อนหน้านี้ไป โดยไม่สนใจผู้คนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์สักนิด เพียงแต่เดินผ่านไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
“ค่ะ มาถึงแล้วค่ะพี่เดช”
(แล้วที่พักเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม?) อัครเดชถามน้องสาวอย่างเป็นห่วง ก่อนหน้านี้เขาแนะนำให้ไปพักโรงแรมของเพื่อนสนิทแถวย่านไฮ้วไห่ แต่ลัลนาก็ปฏิเสธเสียงแข็ง บอกแค่ว่าจะหาที่พักด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังกังวลว่าลัลนาจะหาที่พักดีๆ และปลอดภัยได้จริงหรือเปล่า
“ที่พักหรือค่ะ โอ้...สุดยอดไปเลยค่ะพี่เดช โรงแรมระดับห้าดาว อาหารอร่อย ระบบรักษาความปลอดภัยก็สุดยอด...สุดยอดมากๆ”
(อะไรของแกนะไอ้หยก เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?)
“ไม่มีเรื่องอะไรหรอกค่ะพี่เดช หยกกำลังออกไปเที่ยวนะคะ”
(แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ)
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ พี่เดชสบายใจได้” ลัลนาตอบพี่ชาย ขณะที่สายตามองไปยังบาดแผลตรงแขนขวา ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น พร้อมกับมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอบาดเจ็บด้วยแววตาเดือดดาล
(ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะ แกมันอารมณ์ร้อน อะไรนิดอะไรหน่อยก็ลงมือซะแล้ว พี่เป็นห่วง แล้วอย่าไปก่อเรื่องอีกนะ)
“สบายใจได้ค่ะพี่เดช หยกไม่ก่อเรื่องแน่นอน แค่นี้ก่อนนะคะ หยกกำลังจะขึ้นรถแล้ว”
(โอเค! มีปัญหาอะไรก็โทรมาละกัน)
“ค่ะพี่เดช” ลัลนาตอบแล้วรีบตัดสายจากพี่ชายทันที ก่อนหย่อนโทรศัพท์มือถือลงไปในกระเป๋าใส่กล้องถ่ายรูป หันมองชายหนุ่มท่าทางภูมิฐานสลับกับสองคู่รักที่นั่งกอดกันกลมอยู่ไม่ไกล ก่อนตัดสินใจเดินตรงไปหน้าเคาน์เตอร์ มองพนักงานชายซึ่งยืนหน้าซีดเผือดมองมาทางเธอ
“ฉันเช็คเอาท์ออกวันนี้เลยก็แล้วกัน”
“แต่คุณจะพักที่นี่อาทิตย์หนึ่งไม่ใช่หรือครับ” พนักงานหนุ่มถามเสียงสั่น สายตามองใบหน้าคมสวยสลับกับบาดแผลบนต้นแขนขวาของลูกค้าสาวสวยมาดทอมบอยอย่างหวั่นใจ
“คุณคิดว่าฉันควรพักที่นี่อีกเหรอ? เมื่อคืนฉันก็โดนสาวน้อยคู่หนึ่งพุ่งเข้ามาขอเบอร์ แถมยังทำตาหวานเยิ้ม แทะโลมฉันแล้วเมื่อกี้ฉันก็ถูกดึงเข้าไปยุ่งกับปัญหาครอบครัวของคนกลุ่มนั้น แล้วยังโดนแฟนของผู้หญิงคนนั้นพุ่งเข้ามาทำร้าย เห็นไหมเนี่ย!...แผล”
“เอ่อ...ขอโทษครับ” พนักงานหนุ่มเอ่ยขอโทษอีกครั้งกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่สายตามองไปยังบาดแผลบนต้นแขนเรียวงามของลูกค้าสาว บาดแผลคงลึกไม่น้อย ไม่งั้นเลือดคงไม่ไหลออกมาเยอะแบบนั้น
“ฉันขึ้นไปเก็บของไม่นาน เดี๋ยวจะลงมา อ้อ...ถ้าคุณจะคิดค่าเสียหายที่ฉันทำเก้าอี้พังก็คิดค่าเสียหายลงไปเลยก็ได้”
“ไม่หรอกครับ ทางเรามากกว่าครับที่ต้องขอโทษคุณ เดี๋ยวผมจะให้พนักงานคนนี้ไปช่วยคุณทำแผลที่ห้องนะครับ” จะให้เรียกเก็บค่าเสียหายเพิ่มอีกได้อย่างไร ในเมื่อฝ่ายที่ต้องจ่ายค่าเสียหายก็คือทางโรงแรมมากกว่า ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะเหตุผลใดท่านประธานใหญ่ถึงนั่งเฉย ปล่อยให้ลูกค้าสาวรายนี้บาดเจ็บได้ขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอก แผลแค่นิดเดียวเอง เดี๋ยวฉันจัดการเองได้ คุณทำตามที่ฉันบอกก็พอ แผลแค่นี้ยังไกลหัวใจ”ลัลนาตอบเสียงแข็งนิดๆ กับความจุ้นจ้านของพนักงานตรงหน้า ตอนนี้ไม่ต้องมาทำเป็นสนใจหรือแคร์ความรู้สึกของลูกค้าอย่างเธอเลย ถ้าสนใจก็ควรสนใจตั้งแต่เธอถูกดึงเข้าไปยุ่งกับเรื่องของชาวบ้านแล้วหรือไม่? พนักงานรักษาความปลอดภัยควรวิ่งเข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงที่เธอถูกจิ๊ไกโก๋หนุ่มจอมบ้าเลือดพุ่งเข้ามาทำร้ายแล้วสิ
////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...