บทที่4.1

1274 Words
รอยยิ้มอย่างถือดีผุดขึ้นที่มุมปาก หลังจากที่เขาพูดจบ จนฉันต้องรีบก้าวเท้าถอยหลังหนีเมื่อเห็นว่าท่าไม่ดี ทว่า....วายร้ายตรงหน้ากลับพุ่งปราดเข้ารวบตัวฉันไว้อย่างทันควัน “ถามก็ตอบดิ จะหยิ่งไรนักหนาวะ?” “ปล่อยดิ!” “ไม่ตอบก็ไม่ปล่อย” “ฮึ้ย ปล่อย!” “ท่าทางจะฟังภาษาไทยไม่ออก” “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย มีคนจะทำร้ายฉัน!!” ฉันแหกปากตะโกนลั่นทั้งชั้น เมื่อการพูดจาดีๆ ดูไม่เป็นผลนัก “พูดบ้าไรวะ!!” แผ่นดินเริ่มเป็นฝ่ายโวยวาย โดยมือของเขายังคงรวบตัวฉันแน่นขึ้นทุกขณะ แกร๊ก! เสียงเปิดประตูห้องจากเพื่อนร่วมหอภายในชั้นเดียวกันดังขึ้น ทำให้สายตาของเราทั้งคู่เพ่งไปยังเป้าหมาย ที่ดูจะหงุดหงิดที่เกิดเสียงโวยวาย เพราะนอกจากหอนี้จะมีนักศึกษาพักอาศัยแล้วยังมีคนวัยทำงานอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน “โทษที พอดีทะเลาะกับเมีย” แผ่นดินตะโกนกล่าวคำขอโทษออกไปเสียงดังพร้อมทั้งบังคับตัวฉันให้เดินย้อนกลับไปตามแรง ตรงไปยังประตูห้องพักที่เปิดรอไว้ “ปล่อยนะเว้ย! ฉันไม่ใช่เมียนาย!” ฉันพยายามดิ้นอย่างสุดแรงแม้จะรู้ว่าตัวเองกำลังถูกลากเข้าไปภายในห้องพักของศัตรูตัวร้ายก็ตาม ตึง! ร่างฉันถูกเหวี่ยงเข้ากลางห้องพร้อมๆ กับเสียงประตูที่ถูกปิดลง จนต้องรีบตั้งหลักหามุมปลอดภัยที่สุดเพื่อระวังตัว “ถามจริงเหอะว่ะ” “....” “รังเกียจอะไรนักหนาวะ?” เขาถามขณะใส่กลอนประตูห้อง โดยไม่หันมามอง ให้ตายสิ! นี่เขาไม่รู้ตัวเองเลยหรือไง ว่าทำตัวได้น่ารังเกียจมากแค่ไหน “หรือเป็นเพราะว่าไม่เคยถูกผู้ชายจูบวะ?” เขาจะพูดอะไร! “ถึงได้ทำตัวเหมือนรังเกียจใส่หลังโดนจูบ?” แผ่นดินเหลียวหลังมองพร้อมด้วยรอยยิ้มบางมุมปาก ขัดกับสายตาร้ายกาจที่กำลังใช้มองฉันสิ้นเชิง “ใช่ป่ะ?” เขาถามย้ำออกมาอีกครั้ง ดวงตาฉายแววมุ่งร้ายออกมาอย่างชัดเจน “หยุดพูดไปเลย” ฉันกลั้นใจตอบกลับแบบหวาดหวั่น พยายามไม่สบสายตากับเขาไปแบบตรงๆ “ท่าจะจริง” “ยุ่งอะไรด้วย!” ฉันขัดรอยยิ้มรู้ทันนั่นทันควัน ฉันไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเหมือนรู้ทันความคิดของฉัน แผ่นดินไม่ตอบแต่กลับก้มเก็บข้าวของที่หล่นเกลื่อนอยู่บนพื้นหน้าประตูเงียบๆ ผู้ชายคนนี้ ในเวลานี้ ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด ฉันต้องหนี แต่จะหนียังไงล่ะ ในเมื่อเขายืนขวางประตูห้องอยู่แบบนั้น “ไม่ต้องคิดจะหนีหรอก” คำพูดเหมือนรู้ทันเขาทำฉันสะอึกไปเล็กน้อย เผลอจ้องสู้ตาเขากลับไปแบบเต็มๆ “ห้องนี้เข้าง่ายแต่ออกยากนะ” “นายต้องการอะไรห้ะแผ่นดิน!” ฉันแผดเสียงถามออกไปแบบไม่เข้าใจ นี่เป็นอีกครั้งแล้วที่เขาทำแบบนี้ สถานการณ์ใกล้เคียงกับในห้องกิจกรรมไม่มีผิด ถ้าเขาไม่คิดจะแกล้งฉันก็คงกำลังคิดเรื่องใต้สะดือกับร่างกายของฉันอยู่แน่ๆ “คำตอบล่ะ?” “คำตอบอะไร” “ก็...ที่ถาม” “...” “รังเกียจฉันก่อนหรือว่าหลังโดนจูบ” น้ำเสียงของเขาในเวลานี้ดูต่างออกไป แถมท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปด้วย เขาดูนิ่งไม่มีเค้าหน้าเป็นแบบที่ฉันเคยเห็นทุกครั้ง “ตอบ!” เขาเร่งอีกครั้งพร้อมทั้งเดินย่างสามขุมตรงเข้าหาฉันอย่างรวดเร็ว ฉันรีบพรุ่งตัวหลบเข้าไปยังห้องเล็กเพื่อรอดจากเงื้อมมือของเขา แต่ว่าฉันกลับต้องพบกับทางตันแสนเฉอะแฉะ “ห้องน้ำ?” เขาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงกลั้นขำ เมื่อเห็นฉันหมดทางทีจะหนี “อยากอาบน้ำ? ทำธุระหนักเบา? หรือเราจะพิสูจน์กันที่นี่ดี” แผ่นดินถามเสียงติดหัวเราะยืนหลังพิงขอบประตูห้องน้ำเหลือบมองฉันที่มีท่าทีเหมือนหมาจนตรอก “ออกไป!” “นี่มันห้องฉัน” “อย่าเข้ามา!” “มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันในห้องของฉัน?” แผ่นดินถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะเริ่มขยับตัว ก้าวเท้าเข้ามาฉันอย่างช้าๆ “ฉันต่างหากที่มีสิทธิสั่ง” ฉันถดตัวถอยหลังจนนาบชิดไปกับผนังห้องน้ำ ในขณะที่คนตัวโตเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน “หมดทางนี้แล้วนะวันใหม่...” ฉันเกลียดตัวเอง! เกลียดสถานการณ์แย่ๆ แบบนี้ที่สุด “ทีนี้ก็ตอบมาได้แล้ว” พูดไม่พูดเปล่า ร่างสูงตรงหน้ารีบใช้มือทั้งสองข้างนาบลงกับผนังพลางโน้มหน้าลงมาใกล้จนระดับสายตาของเราทั้งคู่อยู่ในระนาบเดียวกัน “พอสักที ฉันไม่ชอบเล่นอะไรบ้าๆ แบบนี้” ฉันข่มใจโต้เขากลับไปเสียงนิ่ง และเบือนหน้าหลบนัยน์ตาคู่คมตรงหน้าที่จ้องผ่านฉันราวกับจะรู้ดีไปเสียทุกอย่าง “ฉันไม่ได้เล่น” “....” “เธอน่าจะรู้อยู่แก่ใจ” หัวใจฉันเสียดวูบไปกับน้ำคำของผู้ชายตรงหน้า ภาพเหตุการณ์ในห้องกิจกรรมเริ่มทำให้ตระหนักได้ว่า ฉันในเวลาดูเหมือนจะกลายเป็นของเล่นสำหรับเขาไปแล้วจริงๆ ริมฝีปากร้อนของเขาในตอนนั้นทำฉันเริ่มกระวนกระวาย หายใจติดขัด ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังโน้มหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นด้วยแล้ว ฉันกลับยิ่งรู้สึกชาวูบไปทั้งตัว “ก่อนหรือหลัง...” เสียงกระซิบพร้อมด้วยลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดหู เริ่มทำให้บริเวณนั้นร้อนวูบได้อย่างน่าแปลก “พอทีแผ่นดิน ฉันหิว ฉันจะลงไปหาอะไรกิน” ฉันกลั้นใจเหลือบมองเขาอีกครั้งก่อนจะพบว่าปลายจมูกของเราทั้งคู่ห่างจากกันเพียงแค้ข้อนิ้วเดียว เขาจงใจดันปลายจมูกของตัวเองชนเข้ากับปลายจมูกของฉันพร้อมด้วยคำพูดเดิมๆ “ก่อนหรือหลัง” ฉันควรจะทำยังไงดี หัวใจฉันมันเต้นแรงทรยศกับความคิดของตัวเองสิ้นดีที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ฉันเบี่ยงหน้าหลบโดยเลี่ยงจะตอบของเขา “จะเอาหรือเปล่าบุหรี่น่ะ ฉันจะลงไปซื้อให้” “ไม่เอาแล้ว” “...” “อยากได้คำตอบมากกว่าบุหรี่” ฉันเม้มปากลงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าคำถามของตัวเองเริ่มกลายเป็นมีดแหลมคมหวนกลบมาแทงให้ตัวเองหมดคำพูด จนต้องรีบใช้มือดันอกแกร่งของคนตรงหน้าออกห่างตัวทันที “พอที....อุ๊บ!” ฉันเบิกตากว้างเมื่อแผ่นดินคว้าข้อมือฉันขึ้นสูงเหนือหัวด้วยเพียงมือเดียวและพุ่งริมฝีปากร้อนเข้าบดขยี้แบบไม่ทันให้ตั้งตัว ฝ่ามือหนาบีบรัดข้อมือทั้งสองข้างของฉันแน่นพร้อมกับเทน้ำหนักตัวกดทับร่างฉันจนแนบสนิท “อื้อ!” ฉันพยายามฝืนต้านแรงจากฝ่ามือหนา ขณะที่เขาปลายลิ้นร้อนกวาดสำรวจไปทั่วโพรงปากอย่างถือวิสาสะ พร้อมด้วยความรู้สึกร้อนวูบไปทั่วใบหน้าอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายฉันมันกำลังสั่นราวกับจับไข้เมื่อถูกสัมผัสแปลกปลอมจากคนตัวสูงตรงหน้า ร่างฉันสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เบิกตากว้าง เมื่อสัมผัสแปลกๆ กำลังเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าอก แผ่นดินจงใจเลื่อนมือเข้าตะปมหน้าอกของฉันผ่านชุดนักศึกษาอย่างแรง แรงเค้นเบาๆ เริ่มทำปวดหนึบอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ไม่ว่าจะพยายามฝืนตัวเองเท่าไหร่แต่แรงฉันที่มีในตอนนี้มันกลับสู้แรงที่มีมากกว่าของเขาไม่ได้อยู่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD