บทที่4.2

857 Words
PANDDIN TALK วันใหม่สั่นไปทั้งตัวแล้วเธอก็ดูจะสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมบีบขน้ำน่าอกขนาดเหมาะมือของเธอ ร่างของเธอพยายามต่อต้านแรง ต่างจากผู้หญิงหลายๆ คนที่ผ่านมา “อื้อ!” ลิ้นเล็กของเธอพยายามหลบทุกจังหวะที่เผลอสัมผัสโดนกับปลายลิ้นของผมที่พยายามไล่ต้อนเธอให้จนมุม ขนาดในเวลาแบบนี้เธอยังดื้อไม่เปลี่ยนเลย และไอ้ที่เธอกำลังดื้อนี่แหละมันเริ่มทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด จนต้องกัดริมฝีปากล่างเธอเบาๆ อย่างนึกหมั่นไส้ “เล่นตัวอะไรนักหนาวะ” “หยุด! พอที ฉันไม่ชอบ!” เธอตวาดเสียงกลับมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่านตอนแรกนัก “คำตอบล่ะ?” ผมสบตากับเธออีกครั้งเพื่อคาดคั้นคำตอบ “ฉันไม่มี....ไม่มีคำตอบจะให้นาย” “ถ้าอย่างงั้นก็ต้องทำจนกว่าจะได้คำตอบ” “หยุดนะ!” เธอปรามผมดังลั่นพยายามเอียงหน้าหลบริมฝีปากผมเหมือนทุกที จนต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นที่คอขาวของเธอแทน คนตัวเล็กดูสั่นสะท้านกว่าครั้งไหน เมื่อผมจงใจฝากคมเขี้ยวเบาๆ ไว้ที่ต้นคอเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่คลายเรี่ยวแรงต่อต้านผมอยู่ดี “หยะ...หยุด” เสียงของเธอสั่นขึ้นต่างจากทุกที ในทุกๆ จังหวะที่ผมโฉบริมฝีปากไปทั่วซอกคอขาว มือของผมมันยังคงรู้งานของมันดี พยายามสยบพยศของผู้หญิงตรงหน้าด้วยการลากนิ้วผ่านแกนกลางน่าอกไปมาเบาๆ “พอที....ผะ แผ่นดิน!” ยังไม่ได้ผล เธอยังไม่ยอมสงบง่ายๆ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าดื้อดีหรือว่าลีลาดี ผมลากปลายนิ้วจากเนินอกกลม ไล่ต่ำไปตามหน้าท้องแบนผ้าเนื้อผ้า รับรู้ถึงสัมผัสการเกร็งของเธอได้เป็นอย่างดี ร่างกายของเธอกระตุกอีกครั้ง นัยน์ตากลมเบิกกว้างเมื่อปลายนิ้วของผมสัมผัสลงจุดต่ำสุดของร่างกาย “อ๊ะ….หยุดนะ” เธอดูผ่อนแรงลงในทุกครั้งที่ผมขยับปลายนิ้วผ่านเนื้อผ้าช่วงล่าง จนกระทั้งแรงต้านทั้งหมดที่ผมพยายามเอาชนะมันยุติในที่สุด วันใหม่ฟุบหน้าลงบนไหล่ผมอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจเหมือนในตอนแรก ซึ่งเดาได้เลยว่าเธอคงหมดแรงไปกับการเกร็งตัวต้านแรงผมไปเรียบร้อยแล้ว “หมดแรงแล้ว?” ไม่มีเสียงตอบจากคนตัวเล็ก มีเพียงเสียงหอบเบาๆ เท่านั้นที่ดังก้อเข้ามาในโสตประสาท “ตอบได้ยัง?” “....” “ไม่ตอบไม่หยุดนะ” “พอ...พอสักที...” เธอตอบกลับมาแล้ว แต่น้ำเสียงที่พ่นออกมานั้นยังคงแสดงการต่อต้านอยู่ดี “…นายเป็นแฟนกับใบอ้อนะ” ใบอ้อ.. อีกแล้วที่เธอชอบเอาชื่อเพื่อนของตัวเองมาเป็นเงื่อนไข “เธอก็ชู้ไง” “มะ ไม่! อ๊ะ...” เธอร้องออกมาเสียงดังเมื่อผมจงใจแทรกมือผ่านเนื้อผ้าสัมผัสเนื้อในแบบตรงๆ ร่างของวันใหม่สั่นเทิ้มอีกครั้ง ขณะที่ปากยังคงเอาแต่พึมพำถึงแต่ใบอ้อ... ก๊อกๆ ! “พี่ดิน!” เสียงหวานๆ แสนคุ้นเคย ไม่อาจจะทำให้ผมละสายตาหรือทุกสัมผัสไปจากคนตรงหน้าได้ จนกว่าผมจะได้คำตอบที่ผมต้องการ เสียงเคาะประตูดังถี่ขึ้น ขณะที่อารมณ์ผมรุนแรงขึ้นตามอุณหภูมิความร้อนในกายของคนตัวเล็กตรงหน้า ร่างเธอเริ่มอ่อนไปตามแรงแบบไร้การต่อต้านและขัดขืน ทว่า “พี่ดิน เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!” ผมชะงักไปเล็กน้อยกับเสียงวีนของหญิงสาวด้านนอกประตูห้องที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย “อะไรนักหนาวะ!” ผลัก! ยัยตัวแสบตรงหน้าที่อ่อนปวกเปียกในทีแรก อยู่ๆ กลับฮึดสู้ใช้สองมือดันอกผมอย่างแรงให้ถอยห่าง ผมรีบหันขวับมองเธอที่ทำท่าจะวิ่งหนีพลางพุ่งมือคว้าแขนเธอเอาไว้ ทว่า... วันใหม่รีบสะบัดมือผมออกด้วยความแรงที่มีพอๆ กัน เธอพุ่งมือเข้าตบเข้าที่หน้าผมเข้าอย่างจังจนหันไปอีกฝั่งก่อนจะวิ่งลนลานตรงไปยังประตูห้องคล้ายกับกำลังหนีตาย ผมรีบจ้ำเท้าตามหลังเธอไปแบบติดๆ เพื่อไม่ให้เธอหนีรอดไปไหน แต่ในวินาทีนั้นประตูห้องกลับถูกเธอเปิดออกกว้างได้สำเร็จ ด้านนอกปรากฏร่างของหญิงสาวลูกครึ่งที่ผมรู้จักดี ‘ซาร์ญ่า’ จ้องเขม้นมองหน้าวันใหม่สลับกับมองหน้าผมไปมา ก่อนที่วันใหม่จะเป็นฝ่ายวิ่งชนแขนเธอออกไปแบบไม่พูดไม่จา “ยัยนั่นเป็นใคร?” “....” “ตอบสิคะ! ยัยนั่นเข้ามาอยู่ในห้องพี่ได้ยังไง” “เงียบน่า!” นั่นคงเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะตอบซาร์ญ่ากลับไปได้ เพราะในหัวตอนนี้มันไม่มีอะไรเจ็บแสบไปเท่ากับการที่โดนยัยตัวแสบตบหน้าเน้นๆ ได้ถึงสามครั้งสามหนแบบนี้ ที่สำคัญคำตอบที่ผมต้องการ ผมยังไม่ได้มัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD