พอเขาพูดกลับมาแบบนั้นทำให้บาลิกานิ่งเงียบไป จริงสินะ นี่มันห้องของเขาแต่รามิลก็ทำให้เธอตกใจด้วยการที่เขาแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มนวมผืนเดียวกับเธอ หญิงสาวเบิกตากว้าง เธอรีบขยับห่างแต่ก็ไม่ทันแขนแข็งแกร่งที่ตวัดร่างของเธอไว้ บาลิกาทำหน้าม้าน จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไงก็ในเมื่อตอนนี้เธอไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้นแล้วแถมเขายังมากอดเธอไว้ ถึงแม้ว่าตัวของเธอจะยังอยู่ใต้ผ้าห่มนวมแต่มือสากหนาของรามิลก็สัมผัสเนื้อตัวของเธอแบบเต็มๆ
“คุณรามิล...นี่คุณฉวยโอกาสกับฉันมากเกินไปแล้วนะ ไหนคุณบอกว่าจะแค่กอดแค่จูบ ถ้าคุณทำแค่นั้นฉันยอมได้แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแล้วคุณมากอดฉันได้ยังไง”
“ก็ผมแค่กอดยังไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้สักหน่อย”
“แต่ว่า...” เธอจะค้านต่อแต่รามิลกลับดันร่างนั้นให้นอนลงในขณะที่เขาเบียดตัวเข้าหาและกอดเธอเอาไว้อย่างนั้น สำหรับบาลิกาแล้วมันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยแม้แต่น้อย เธอไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าก็เหมือนถูกเขาล่วงเกินแม้รามิลจะบอกว่าเขาไม่ทำอะไรก็ตามแต่เธอก็รู้สึกแปลกประหลาดเพราะไม่เคยนอนแล้วถูกผู้ชายกอดแบบนี้ ในขณะนั้นก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของชายหนุ่มที่ราดรดอยู่บนผิวแก้ม ก็เขาแนบหน้าคร้ามคมของเขากับหน้าของเธอ จมูกและริมฝีปากของรามิลชิดติดแก้มของเธอเลยทีเดียว ถึงเธอจะคิดถึงราเมศหากแต่นี่คือพี่ชายของเขา ไม่ใช่คนที่เธอเคยรักเสียเมื่อไหร่ แต่ก็ดูเหมือนว่ารามิลจะไม่ใส่ใจ เขาทำเหมือนไม่ยี่หระและไม่แยแสต่อความรู้สึกของเธอเลยสักนิด เธอได้ยินเสียงเขากระซิบเบา ๆ ว่า
“หลับเถอะน่า คุณไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ทำอะไรมากกว่านี้ ที่กอดคุณไว้ก็เพราะว่าผมหนาวแอร์เย็นขนาดนี้”
“ถ้าคุณหนาวก็ปิดแอร์สิจะมากอดฉันทำไม”
“ปิดแอร์ก็ร้อนไง อยู่แบบนี้สบายกว่า ผมไม่อยากพูดอะไรกับคุณอีกแล้วนะ ผมง่วง...พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าแค่คุณไม่ขยับตัวไม่ส่งเสียงผมก็จะหลับสนิทแล้วล่ะ”
บาลิกาซึ่งยังอยู่ในความประหม่าและไหวหวั่นหากแต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนนิ่งและฟังเสียงลมหายใจของเขาที่เริ่มสม่ำเสมอ ถ้าเธอไม่ขยับตัวรามิลก็อาจจะหลับไปจริง ๆฉะนั้นแล้วเธอก็จะทำตามในสิ่งที่เขาพูด หญิงสาวพยายามข่มตาหลับเธอไม่ยอมขยับตัวเพราะกลัวว่าจะทำให้เขาตื่นขึ้นมาและทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอมากไปกว่านี้ หลังจากนั้นเธอเองก็เริ่มอ่อนล้าและอยากพักผ่อนเพราะนี่ก็ถึงเวลานอนของเธอแล้ว ในเวลานั้นเมื่อหญิงสาวปิดเปลือกตาลงรามิลกลับลืมตาขึ้น เขาเองก็ไม่ขยับตัวแต่ยังกอดกายร่างบอบบางเปล่าเปลือยของหญิงสาวเอาไว้
ชายหนุ่มยังอยู่กับความคิดที่วุ่นวนอยู่ในสมอง นี่เขากำลังทำอะไร นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกับบาลิกามันทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมที่เข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงมีความมั่นใจสูงและคงมีนิสัยไม่ต่างไปผู้เป็นพี่ชายแต่เมื่อได้สัมผัสกับหญิงสาวทำให้เขารู้สึกว่าเธออาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ไว้วางใจเป็นน้องสาวของภาสกรและเขาก็เข้าใจมาตลอดว่าทั้งสองร่วมมือกันหลอกเอาผลประโยชน์จากราเมศจนลมหายใจสุดท้าย ชายหนุ่มเผลอขบกรามแน่นหากแต่เขากลับไม่รู้สึกว่าหญิงสาวมีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอคงหลับไปแล้วจริง ๆ คราวนี้รามิลเองที่ยังคงลืมตาอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวในค่ำคืนที่เวลาผ่านไปเหมือนยาวนานไม่มีสิ้นสุด
บาลิกาเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องทำงานของรามิลขณะที่เขากำลังก้มหน้าก้มตาดูเอกสารและใช้แล็ปท็อปบนโต๊ะทำงานหากแต่สีหน้าก็ไม่ได้เคร่งเครียดมากสักเท่าไหร่ หญิงสาวจ้องมองเขาขณะที่กำลังชั่งใจหลังจากที่เธอถูกเข้ากักตัวไว้ที่นี่ ในห้องชุดสุดหรูของโรงแรมที่เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่เป็นเวลาได้เดือนกว่า ๆ แล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอเองไม่ได้ติดต่อกลับไปหาภาสกรและแทบไม่ได้รับข่าวคราวใด ๆ จากพี่ชายเลย เธอไม่รู้ว่าภาสกรได้ติดต่อกลับมาหาเธอบ้างหรือไม่ โทรศัพท์ของเธอก็พังไปแล้วแม้รามิลบอกกับเธอว่าถ้าหากอยากติดต่อกลับไปที่บ้านก็ให้ใช้โทรศัพท์มือถือของเขาหากแต่หญิงสาวก็ยังไม่กล้าเอ่ยปาก
ช่วงเวลาที่เธออยู่ที่นี่ตลอดระยะเวลาเดือนกว่า ๆ รามิลก็ทำอย่างที่เขาพูดจริง ๆ บ่อยครั้งที่เขากอดและจูบเธอ นอกเหนือจากนั้นเขาก็พูดเรื่องของราเมศบ่อยครั้งและเวลาที่เขาพูดถึงน้องชายก็มักแสดงความไม่พอใจออกมา เขายังคงคิดว่าเธอล่อหลอกน้องชายของเขาให้มาติดกับดักทางธุรกิจของพี่ชายและไม่ว่าหญิงสาวจะอธิบายยังไงรามิลก็ไม่เคยเข้าใจเลยสักครั้ง หากแต่วันนี้เธอกลับคิดถึงภาสกรขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เพราะเธอมาอยู่ที่นี่เป็นระยะเวลาตั้งเดือนกว่าแล้วป่านนี้พี่ชายอาจเป็นห่วงเธอก็ได้
“มีอะไรเหรอบาลิกา ทำไมไปยืนแอบอยู่ที่ตรงนั้นล่ะ”
เสียงห้าวกังวาลของรามิลทำให้บาลิกาสะดุ้ง เธอรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติและก้าวเข้าไปในห้องนั้นหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานของเขาก่อนเอ่ยว่า
“คุณรามิล...ฉันขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ?”
“มีอะไรเหรอ ว่ามาสิ”
“คือว่าฉันจะขอโทรหาพี่ภาสน่ะค่ะ ฉันไม่อยู่ที่นี่ตั้งเดือนกว่าแล้วแต่ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาคนที่บ้านเลย”
บาลิกาพูดจบรามิลก็วางเอกสารลง เขาทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า
“จริงสินะ คุณมาอยู่ที่นี่ก็ตั้งเดือนกว่าแล้วคงจะเริ่มอึดอัดแล้วสินะ”