รามิลเลิกคิ้วสูง เขาขยับเข้ามาที่ตัวเธอและทำให้บาลิกาหายใจขัดทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ชิด เธอเองก็รู้สึกราวกับว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างในตัวเธอเสียศูนย์ ก็ไม่รู้ว่าทำไม ยิ่งเขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้มันก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลงทุกครั้ง
“คุณไม่อยากอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอบาลิกา แต่ผมว่าสายตาคุณมันไม่ได้บอกแบบนั้นนะ”
“คุณจะรู้ใจฉันได้ยังไง ฉันไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ ใจจริงแล้วฉันอยากออกไปตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณบอกว่าจะยอมให้พี่ชายฉันกู้เงินด้วยซ้ำ”
“ผมว่าคุณไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก คุณอยากจะอยู่ที่นี่นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้าผม บอกมาตามตรงเถอะว่าเวลาคุณเห็นผมก็เหมือนเห็นราเมศ คุณคิดอย่างนั้นใช่ไหม”
เขาขยับเข้ามาชิดร่างแน่งน้อยที่ยังอยู่ใต้ผ้าห่มนมผืนใหญ่ หญิงสาวกระชับผ้าห่มเอาไว้กลัวเหลือเกินว่ามันจะหลุดไปจากตัวเธอแต่สิ่งที่ทำให้เธอหวั่นไหวมากกว่านั้นก็คือร่างกายใหญ่โตกำยำภายใต้ชุดลำลองของรามิลที่ขยับเข้ามาเบียดชิด เขาจ้องหน้าเธอ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ไม่อาจปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงได้ เธอกำลังหวั่นกลัวหัวใจตัวเอง ที่เขาพูดน่ะถูกแล้ว เธอเห็นหน้าของรามิลก็เหมือนได้เห็นราเมศ แต่เขาจะพูดเพื่ออะไร หญิงสาวทำท่าจะเอียงหน้าไปทางอื่นแต่แล้วรามิลจับปลายคางของเธอไว้และบีบบังคับให้ใบหน้างามหันกลับมาเผชิญกับเขาก่อนก้มลงไปจนเกือบชิด ใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากหน้าของเธอไม่ถึงคืบ
“ผมรู้ว่าที่คุณอยู่ที่นี่เพราะคุณคิดถึงน้องชายของผม”
“ไม่...ฉันไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วคุณรักน้องชายของผมมากแค่ไหนกัน คุณรักราเมศจริงหรือเปล่า หรือว่าที่ผมพูดเรื่องที่คุณคบกับน้องชายผมเพื่อหวังผลประโยชน์นั่นก็คงเป็นความจริงสินะ”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะ ฉันคบกับเขาด้วยความจริงใจต่างหาก”
“แล้วทำไมคุณต้องปฏิเสธว่าไม่ได้คิดถึงน้องชายของผม มองหน้าผมสิ บาลิกา...นี่คือใบหน้าที่คุณยังคงคิดถึงอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นใช่ไหม”
บาลิกาพยายามปฏิเสธแต่เธอยังไม่ทันได้อ้าปากรามิลก็ก้มหน้าลงมาหาและประกบจูบบนปากของเธอ ลิ้นร้อนจ้วงลึกเข้าไป จูบเธออย่างดูดดื่มและทำให้หญิงสาวตัวแข็ง เธอขยับตัวแทบไม่ได้ จูบของรามิลทำให้เธอหวั่นไหว สูญเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะเวลาเขาจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับจงใจแกล้งให้เธอทรมาน ใช่...ตอนนี้เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มันกัดกร่อนอยู่ภายใน เธอคิดถึงราเมศตลอดเวลาที่เห็นหน้าเขา รามิลกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอ เขายั่วยุและทำให้เธอยิ่งทุกข์ทรมานมากขึ้นทุกที เธอคิดถึงราเมศแต่ก็ไม่ลืมความร้ายกาจของพี่ชายเขาอย่างเด็ดขาด เมื่อรามิลเลื่อนริมฝีปากออกหญิงสาวก็เม้มปากไว้สนิทแน่น เธอจ้องหน้าเขาเหมือนอยากฉีกเนื้อหนังตรงหน้าออกเป็นล้านชิ้นหากแต่ดวงตาที่เหมือนนางแมวจ้องคู่ต่อสู้นั้นกลับทำให้รามิลรู้สึกพึงพอใจเขายกยิ้มก่อนพูดว่า
“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ผมจะไม่ทำอะไรคุณตราบเท่าที่คุณไม่ขัดคำสั่งของผมและยอมทำตามสิ่งที่ผมต้องการทุกอย่าง”
“คุณอยากจะให้ฉันทำอะไร จะให้ฉันทำงานบ้านอย่างนั้นเหรอ ให้ฉันปัดกวาดเช็ดถูห้องแทนแม่บ้านก็ได้ ฉันทำได้ทุกอย่างนะ”
“คุณไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่แบบนั้นหรอกเพราะโรงแรมก็มีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดและคอยดูแลห้องนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผมก็คือ ถ้าผมอยากจะทำอะไรกับคุณเวลาไหนตอนไหนคุณต้องไม่ปฏิเสธผม”
“ทำอะไร...หมายถึงอะไรกันคะ”
“ก็จะผมอยากกอดอยากจูบคุณตอนไหนก็ต้องยินยอมให้ผมทำได้ทุกเวลา”
บาลิกาเบิกตากว้าง เธอขยับออกห่างแต่รามิลกลับรั้งร่างนั้นเข้าไปหาอ้อมกอดของเขาทั้งที่เธอยังอยู่ในผ้าห่มนวมที่คลุมตัวจนมิดชิด หญิงสาวไม่กล้าดินขัดขืนรุนแรงเพราะกลัวว่าผ้าห่มจะหลุดไปจากร่างเปล่าเปลือยของเธอจริง ๆ ท่าทีของเธอยิ่งทำให้รามิลชอบอกชอบใจ ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจทุกครั้งที่เธอมีปฏิกิริยาแบบนี้ ขัดขืนและแสดงความหวั่นกลัวออกมา เขาก้มหน้าลงไปหาจนริมฝีปากชิดแก้มนวล
“ว่าไงล่ะ...ที่ผมพูดน่ะคุณได้ยินชัดหรือเปล่า”
“นี่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเราเลยนะ ฉันคิดว่าคุณเอาเปรียบพวกเรามากเกินไปแล้ว”
“ผมไม่ได้เอาเปรียบ นี่มันเป็นสิทธิ์ของนายจ้างที่จะทำยังไงกับลูกจ้างก็ได้”
“แต่ฉันไม่ได้เต็มใจ คุณทำแบบนี้เป็นการไม่ไว้เกียรติกันเลยนะคะ”
“บอกแล้วไงว่าอย่ามาพูดเรื่องศักดิ์ศรีกับผมตอนนี้ คุณยอมเอาตัวมาแลกเพื่อพี่ชายของคุณจะได้พ้นไปจากปัญหา เพราะฉะนั้นอย่าได้มาอ้างเรื่องศักดิ์ศรีหรือเกียรติยศอะไรทั้งนั้น”
รามิลเสียงเครียดทำให้บาลิกาไม่กล้าตอบโต้เขารุนแรง เธอพูดเสียงอ่อย
“คุณจะทำแค่นั้นใช่ไหมแค่กอดแค่จูบฉันใช่ไหม”
“มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจว่าผมอยากทำอะไร เมื่อไหร่ และยังไง แต่ตอนนี้ผมง่วงน่ะ อยากนอน”
“คุณจะนอนได้ยังไงนี่มันไม่ใช่เตียงของคุณสักหน่อย”
“จะไม่ใช่ได้ไง นี่มันห้องผม คุณนั่นแหละมานอนบนเตียงผม ผมเป็นเจ้าของห้องนี้มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้”