หลังจากมีอะไรกันเสร็จแล้วการันต์ก็ไม่ได้มาแตะตัวของกอบัวอีกเลย เขาแค่อาบน้ำเปลี่ยนชุด แล้วเดินมาที่เตียงนอนแหวกผ้าห่มออกซุกร่างเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกับเธอ
แถมยังนอนหันหลังให้เธออีก ไม่มีการขอโทษหรือกอดปลอบอะไรเลย กอบัวได้แต่นอนสะอื้นเบาๆ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังนอนร้องไห้เสียใจจนตาบวมไปหมด เธอไม่ได้คิดฝันอยากให้เขามาปลอบโยนเธออยู่แล้ว
'คนไม่รักยังไงก็คือไม่รัก ต่อให้เธอจะเสียตัวให้เขาแล้วก็ไม่มีวันที่เขาจะรัก'..กอบัวได้แต่ทำใจยอมรับด้วยความเจ็บปวด แล้วหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย...อยู่ใกล้กันเพียงนิด..แต่เหมือนแสนไกลเกินเอื้อม
-รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่-
08:00 น.
แสงแดดที่แยงตาเพราะผ้าม่านถูกเปิดออกปลุกให้หญิงสาวตื่นจากนิทรา เธอลุกขึ้นมาอย่างตกใจพอสมควร
"แปดโมงแล้ว!"
กอบัวรีบดีดตัวลุกขึ้น หันไปมองคนข้างๆแต่ไร้วี่แววของการันต์
"คงกลัวเราจะติดรถไปด้วย เลยชิ่งไปก่อนเหมือนเดิมสินะ...เฮ้อ..ช่างเถอะ"
กอบัวพยายามปรับอารมณ์ใหม่พยายามลืมเรื่องร้ายๆของเมื่อวาน พยายามลืมว่าเมื่อคืนนั้นเธอผ่านเหตุการณ์ร้ายๆอะไรมา เธอร้องไห้พอแล้วเมื่อคืน เช้าวันใหม่แล้วก็ต้องมาเริ่มกันใหม่อีกครั้ง
"สู้ๆนะบัว เธอจะต้องทำได้ สักวันพี่การันต์คนเดิมจะกลับมา"
รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าเมื่อนึกถึงอดีตของเธอกับการันต์อีกครั้ง รอยยิ้มอบอุ่นและใจดีของเขาในอดีตคือสิ่งเดียวที่กอบัวยังไม่เคยลืมมันไปจากหัวใจ ใครจะว่าเธอจะยึดติดมันมากเกินไปก็ช่าง
ตี้ด~~
เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้หญิงสาวชะงักไปนิดหนึ่ง เพราะตั้งใจเตรียมตัวไปอาบน้ำ กอบัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
'สวัสดีค่ะ คุณวิทยา'
ปลายสายคือเพื่อนของเธอเองชื่อว่า วิทยา โกศิลานนท์ เป็นเพื่อนบ้านของเธอที่อยุธยา วิทยากับเธอนั้นเรียนด้วยกันมาทั้งแต่ประถมจนถึงมหาวิทยาลัยค่อนข้างจะสนิทกันมากเพราะบ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน
ทั้งพ่อแม่ของวิทยาและยายของเธอเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน และที่สำคัญวิทยาคงยังไม่ทราบว่าเธอแต่งงานแล้ว เพราะมันกะทันหันจนเธอยังไม่ได้แจ้งใครเลย
'อะไรจ้ะเรียกซะเต็มยศ เรียกวิทย์เฉยๆก็พอมั้ง ไปอยู่กรุงเทพเสียนานเมื่อไหร่จะกลับมาบ้าน'
กอบัวอึกอักที่จะพูดออกมาตรงๆเรื่องแต่งงานพราะไม่อยากพูดอะไรที่กระทบความรู้สึกของวิทยา แต่นั่นแหละเธอก็ไม่ควรปิดบัง
'บัวไม่น่าจะได้กลับแล้วแหละวิทย์'
'เกิดอะไรขึ้นอ่ะบัว?'
กอบัวสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ อีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกมาตรง ๆ
'เราแต่งงานแล้ว'
'อะไรน๊ะบัว?'
วิทยาถามย้ำอีกครั้งก่อนที่จะเงียบไป ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างจะตกใจอยู่ไม่น้อยกับเรื่องนี้ กอบัวกระพริบตาถี่ ก่อนจะพูดออกมา
'ไว้เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้ขอไปอาบน้ำก่อน เราต้องรีบไปทำงาน'
'อืม'
จบการสนทนาไปแล้ว แต่วิทยาถึงกับอึ้งเขาหายไปต่างจังหวัดอยู่หลายวัน กลับมาเพิ่งจะทราบจากผู้เป็นมารดาว่ากอบัวหายไปกรุงเทพฯ หลายวันแล้ว
แต่เขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะไปแต่งงาน ถ้าจะให้เดาคงจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่ กอบัวหลงรักเฝ้ารอแต่เขาตลอดมา วิทยาเจ็บปวดใจกับเรื่องนี้มาก รับไม่ได้ รับไม่ทันมันกะทันหันเกินไปสำหรับเขา
'ขอโทษนะวิทย์'
กอบัวทำได้เพียงขอโทษวิทยาอยู่ในใจเบาๆ เพราะวิทยาเคยมาสารภาพรักกับเธอแล้ว แต่ กอบัวก็ได้ปฏิเสธไปแล้วบอกให้เขากลับมาเป็นเพื่อนเธอเหมือนเดิมเพราะกอบัวในตอนนั้นมีคนที่รักอยู่ในใจแล้วนั่นก็คือเจ้าบ่าวผู้ไร้รักของเธอตอนนี้นั้นเอง
10:00 น.
กอบัวกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในออฟฟิศ วันนี้เธอเกือบสาย ปกติเธอจะมาตอนเก้าโมงเช้าของทุกวัน
ตารางงานของเธอยังไม่มีกำหนดเวลางาน เพราะเธอเป็นคนที่เจ้าของบริษัทพาเข้ามา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเธอก็ปฎิบัติตัวเองอย่างเช่นพนักงานทั่วๆไป
เพราะตอนนี้พนักงานในบริษัทนั้นไม่มีใครรู้ว่าเธอคือเมียของท่านประธาน เพราะงานแต่งงานไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร แค่เป็นพิธีมงคลสมรสกันภายในครอบครัวเท่านั้น
ยังไม่ได้ประกาศบอกให้โลกรู้ว่าท่านประธานคนใหม่นั้นแต่งงานแล้ว ตอนนี้กอบัวเลยกลายเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งที่โดนฝากงานมาเท่านั้น มีเงินเดือนเหมือนกับคนอื่น ๆ เพียงแค่นี้เธอก็ซาบซึ้งบุญคุณของคุณมงคลและคุณบุษบาพ่อแม่สามีของเธอมากเหลือเกินแล้ว
"มาสายมั้ยจ้ะแม่บัว?"
พี่แต้วหัวหน้าฝ่ายบุคคลมองเธอผ่านแว่นสายตาอันหนาเตอะ ด้วยแววตาที่จ้องจับผิดในวงแขนของพี่แต้วถือแฟ้มเอกสารไว้ประมานสองสามแฟ้ม
"ค่ะ...วันนี้ตื่นสายขอโทษนะคะ"
กอบัวก้มหน้าโน้มตัวลงนิดหน่อยเป็นการขอโทษ พี่แต้วพยักหน้ารับหงึกๆรับคำขอโทษของเธอ
"รีบไปทำงานเถอะ ท่านประธานมาแล้ว ดูเหมือนว่าคุณศจีผู้จัดการบัญชีอยู่ในห้องด้วยนะ"
"ต๊าย จริงเหรอคะพี่แต้ว"
พอลลี่สาวสองที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินถึงกับกรี๊ดออกมา
"ถ่านไฟเก่ามันจะปะทุมั้ยนะ?"
"เรื่องอะไรกันจ้ะแม่พอลลี่?"
พี่แต้วขยับแว่นหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะถามขึ้นมาอย่างอยากรู้
"มานี่ๆ บัวด้วย คือยังงี้นะ ท่านประธานกับยัยศจีน่ะ เค้าเคยเป็นแฟนกันสมัยเรียนก่อนที่ท่านประธานจะไปเรียนเมืองนอกนี่แหละ แต่ว่าเลิกกันแล้ว เพราะยัยศจีเกิดปึ้งปั้งรักใหม่แล้วก็ท้องขึ้นมา...เลยต้องเลิกกัน..ข่าวว่าท่านประธานเสียใจมากอยู่นะ..นี่ๆๆ..รู้แล้วเหยียบนะจ้ะ"
พอลลี่เล่าไปพร้อมทำท่าประกอบไปด้วยอย่างถึงพริกถึงขิง แต่คนที่เป็นเมียอย่างกอบัวฟังไม่ได้นึกสนุกด้วยและก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้เมื่อทราบเรื่องนี้ขึ้นมา
"อืม...จบหรือยัง?"
พี่แต้วถามขึ้นมาอีกครั้ง แต่ท่วงท่าของเจ้าหล่อนทำเหมือนกับเป็นคนเคร่งในกฏระเบียบมากแท้ที่จริงก็เหมือนคนอื่นๆคืออยากรู้เรื่องชาวบ้านนั่นแหละ ปกติของพนักงานในออฟฟิศ
"จบแล้วเจ้"
"จบแล้วก็แยกย้ายสิจ้ะ...วันๆงานไม่ค่อยทำสนใจแต่เรื่องของชาวบ้านเค้านะยัยพอลลี่"
พูดเสร็จพี่แต้วก็เดินกลับแผนกของตัวเองไป เหมือนได้ข้อมูลไปเมาส์ต่อแล้ว
"เจ้นั่นแหละตัวดีเลยจ้าา..เรื่องชาวบ้านน่ะ"
พอลลี่จีบปากจีบคอมองค้อนตามหลังพี่แต้วไป แล้วหันมายิ้มให้กอบัวที่ตอนนี้กำลังยืนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ แต่เมื่อพอลลี่มาสะกิดเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันที
"อ่อ..บัวไปทำงานก่อนนะคะพี่พอลลี่"
กอบัวกล่าวขึ้นมาเสียงเบาหวิวเหมือนกับว่าแทบจะไม่มีแรงจะพูดหรือหายใจอย่างไรอย่างนั้น
"ป่ะ พี่ก็กำลังจะไปเหมือนกัน...เที่ยงนี้เจอกันนะบัว"
"ค่ะ บาย ๆ"
ทั้งคู่โบกมือให้กันเสร็จแล้วกอบัวก็รีบเดินขึ้นชั้นบนไปประจำตำแหน่งที่โต๊ะทำงานของเธอ งานประจำทุกเช้าคือการชงกาแฟให้ท่านประธานหรือสามีของเธอซึ่งตอนนี้ไม่ใช่แค่ในนามแล้ว แต่เป็นถูกต้องตามกฎหมายและเป็นทั้งทางร่างกายเมื่อคืนนี้เอง