สนามฟุตบอล
หลังจากที่โดนทำโทษเราทั้ง3คนวิ่งรอบสนามฟุตบอลอย่างเอาเป็นเอาตายเนื่องจากมีพี่ปี2คอยมาเฝ้าแถมยังเร่งอีกด้วย
“แฮกๆ เหนื่อยชะมัดเลยพวกแกเป็นไงบ้าง”เดวาหยุดพักแล้วหันไปถามดารินที่วิ่งตามหลังมาพร้อมกับฉัน
“แฮกๆ จะตายแล้วโอ้ยหายใจไม่ทันแฮกๆ”ดารินวิ่งมาหยุดที่เดวาแล้วโอดครวญทันทีไม่แปลกที่เราจะเหนื่อยขนาดนี้เราวิ่งกันไปแล้ว5รอบทำเอาขาแทบลาก
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้วแฮกๆ”ฉันนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง
“เฮ้ พวกเธอรีบวิ่งสิเดี๋ยวพี่ปี3ก็มาด่าเอาหรอก”พี่ดิมที่เป็นคนคุมเราเอ่ยขึ้น
“ขอพักก่อนดิวะพี่จะเอากันให้ตายเลยหรือไง?”เดวาตะโกนกลับไป
“ให้พัก5นาทีไม่งั้นฉันจะฟ้องพี่ปี3”พี่ดิมตะโกนกลับมาแล้วเดินไปนั่งข้างสนามอย่างสบายใจ
“เฮ้อออออออฉันเกลียดคณะนี้ที่สุดเลย”ดารินเอ่ย
“เหมือนกัน”ฉันโคตรจะเกลียดเลยทั้งคนทั้งคณะนี้น่ะ
“วิ่งต่อได้แล้ว”พี่ดิมตะโกนบอกทั้งๆที่ยังไม่ถึง10นาทีเลยด้วยซ้ำ
“ไปเถอะ วิ่งๆจะได้จบ”ฉันบอกทุกคนแล้วลุกขึ้นวิ่งนำหน้าไป
ขณะที่ฉันกำลังวิ่งอยู่นั้นดูเหมือนจะมีเด็กปี1คณะอื่นโดนทำโทษให้มาวิ่งเหมือนกันนะแต่ก็มีผู้ชายคนนึงวิ่งมาข้างๆฉัน
“เฮ้ เธอโดนทำโทษหรอ”หน้าตาหล่อเอาเรื่องอยู่นะ
“ใช่”ฉันตอบสั้นๆเพราะตอนนี้แม้แต่จะหายใจยังลำบากเลยเหนื่อยจัด
“โดนวิ่งกี่รอบอ่ะ”ดูเหมือนเค้าจะไม่เข้าใจว่าฉันเหนื่อยยังจะถามอีก
“10” แล้วฉันก็ต้องตอบอีก-_-
“โห เยอะจัดเราแค่3รอบเอง”ขนาดผู้ชายยังต้องวิ่งแค่3รอบทำไมฉันถึงต้องวิ่งตั้ง10รอบห้ะ!!!ไอ้พวกเวร
“เธอเรียนคณะอะไรอ่ะเราบาสเรียนนิตินะ”บาสแนะนำตัวกับฉันทำไมต้องมาอยากรู้จักตอนนี้วะเนี่ยยยยยยเหนื่อยโว้ยยนนน
“เราไอรินเรียนวิศวะ”ฉันแนะนำตัวไปเพื่อตัดปัญหาพยายามจะวิ่งหนีนะแต่ขามันไม่มีแรงอ่ะ?
“เฮ้ยพวกเธอรุ่นพี่บอกว่าให้หยุดวิ่งได้แล้ว”จู่ๆพี่ดิมก็ตะโกนบอก
“ดูเหมือนเธอจะไม่ต้องวิ่งแล้วนะ งั้นโชคดีนะไอรินไว้เจอกันใหม่”บาสเอ่ยแล้ววิ่งต่อไปส่วนฉันก็ลากสังขารตัวเองไปให้ถึงขอบสนาม
โต๊ะหินอ่อนข้างสนามฟุตบอล
“อ่ะน้ำพวกพี่ๆเค้าฝากมาให้พวกเธอ”พี่ดิมยื่นน้ำให้คนละขวด
“ไม่เอาอ่ะพวกนั้นต้องใส่ยาพิษไว้แน่ๆเลย”ดารินส่ายหน้าแถมมองขวดน้ำด้วยความระแวง
“ไม่มียาพิษหรอกพวกเค้าใช้ให้พี่ไปซื้อมาเองกินไปเถอะน่า”พี่ดิมวางไว้พอได้ยินแบบนั้นพวกฉันเลยกล้าหยิบขวดน้ำมาดื่ม
“ดื่มเสร็จแล้วกลับไปประชุมเชียร์ต่อนะตอนนี้กำลังจะจับสายรหัส”พี่ดิมบอก
“อ้าวพี่ดิมแล้วเราต้องหาใครก่อนอ่ะระหว่างปี2กับปี3”เพราะปี3เป็นคนดูแลอยู่
“ปี2อ่ะไม่ต้องเพราะปี2 จะเป็นบัดดี้กับพวกเธอปี2จะมีหน้าที่ดูแลพวกเธอทุกอย่างและปี2จะเป็นคนให้คำใบ้เรื่องสายรหัสกับพวกเธอ” พี่ดิมอธิบาย
“งั้นพี่ก็มีพี่รหัสเป็นปี4อ่ะดิแล้วมีปี3เป็นบัดดี้ใช่ป่ะพี่ดิมได้ใครเป็นบัดดี้อ่ะ”เดวาถามอย่างสนใจ
“เฮียเกียร์น่ะบัดดี้พี่”
“หือ ตัวเต็งซะด้วยรับเข้าสายยากป่ะ”ดารินถามต่อ
“เดี๋ยวก็รู้?”พี่ดิมพูดแค่นั้นแล้วก็เดินนำไปที่ลานเกียร์
ลานเกียร์
เราทั้ง4คนเดินเข้ามาในลานเกียร์ซึ่งตอนนั้นก็กำลังมีการจับสายรหัสอยู่
“เป็นไงได้ออกกำลังกายแล้วยังจะปากดีอีกไหม”ปากหมาๆไม่ใช่ใครเลยค่ะเฮียดายจอมหาเรื่อง
“ก็ไม่เท่าไหร่อ่ะค่ะพอดีชอบออกกำลังกาย”และเดวาเพื่อนฉันก็ชอบต่อปากต่อคำด้วยเฮ้อออออ
“สงสัยต้องออกกำลังกายอีกรอบแล้วมั้ง”ดายเอ่ยพลางมองหน้าเดวานิ่ง
“พอเถอะค่ะให้มันจบๆไปเถอะ”ดารินเอ่ยเบาๆพลางดึงแขนเดวาไว้
“หึ”จู่ๆเบลล์สุดหล่อก็หัวเราะเบาๆพลางมองไปที่ดาริน
“เอาล่ะพวกเธอยังไม่รู้ว่าเราต้องจับสายรหัสโดยพี่ปี3จะเป็นพี่รหัสของพวกเธอส่วนปี2จะเป็นบัดดี้กับเธออย่างแรกคือเธอต้องจับชื่อบัดดี้แล้วไปเอาคำใบ้พี่รหัสจากบัดดี้นะ” พี่น้ำที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในปี3เอ่ยแล้วเอากล่องที่มีรายชื่อพี่ปี3อยู่มาให้เรา3คนจับเพราะทุกคนจับไปหมดแล้วเหลือแค่เรา
เริ่มต้นที่เดวาที่หยิบไป1ใบตามด้วยดารินแล้วสุดท้ายจึงเป็นฉันพอฉันเปิดออกมาก็พบว่าเป็นชื่อพี่ดิม
“เห็นชื่อบัดดี้แล้วให้เดินไปรับคำใบ้เลยค่ะ”พอพี่น้ำพูดจบฉันก็เลยเดินไปหาพี่ดิมที่ยืนอยู่ข้างๆพี่ดาย
“มาขอคำใบ้ค่ะ☹️”ฉันบอกอย่างอารมณ์เสียเพราะฉันรู้แล้วว่าพี่รหัสเป็นใคร
“รู้แล้วนิอาซ้อ ยังจะเอาป่ะ”ไอ้พี่ดิมมันเอ่ยล้อๆพลางหันไปยิ้มกับพี่ดายซึ่งเค้าก็มองมาที่ฉัน
“โทษฉันไม่ได้นะเพื่อนเธอดันปากดี วิ่งจนเหนื่อยเลยละสิ”พี่ดายเอ่ยยิ้มๆ
“อย่าทำเป็นรู้จักฉันนะทั้ง2คนเลยฉันตกลงกับเค้าแล้วว่าอยู่ข้างนอกเค้าจะให้อิสระฉัน”ใช่ค่ะทุกคนพวกเรารู้จักกันเพราะพี่ดายเป็นเพื่อนกับเจ้าชีวิตฉันส่วนพี่ดิมก็เป็นลูกน้องเค้า
“หึ ไม่ต้องมาบอกฉันหรอกบอกคนของเธอดีกว่ามันเกือบเดินไปต่อยไอ้เด็กปี1นั้นแล้วนะ”ดายเอ่ยยิ้มๆ
“ก็ลองสิถ้าเค้าผิดสัญญาฉันจะได้ไม่เรียนคณะนี้”
“เธอก็รู้ว่าคนอย่างมันห่วงของแค่ไหนเป็นเด็กดีของมันเถอะแล้วเธอจะได้ทุกอย่างจากมัน”
“ทุกอย่างที่เค้าให้ฉันมาเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้อยากได้เลย แต่กลับสิ่งที่ฉันขอเค้าเค้ากลับให้มันไม่ได้”
“เธอขออะไรจากมัน”ดายถามฉัน
“อิสระไง อิสระที่จะได้หลุดพ้นจากคนอย่างเค้า”