ปัจจุบัน
เสียงกลองดังกระหึ่มพร้อมกับเสียงร้องเพลงตอนนี้เป็นช่วงบรรยากาศของการต้อนรับน้องใหม่จะจะเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าลานเกียร์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยU ถามว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่นะหรอเพราะฉันเป็นนักศึกษาคณะวิศวะปี1ยังไงล่ะฉันชื่อไอริน อายุ19ปี เพิ่งจบม.6มาหมาดๆแล้วก็มาต่อปีหนึ่งที่คณะนี้ ทุกคนคงคิดว่าฉันคงชอบอะไรที่เกี่ยวกับวิศวะใช่ไหมถึงเลือกมาเรียนที่นี่แต่บอกเลยว่าไม่จริงๆแล้วฉันชอบการแสดงมากกว่าฉันฝันอยากเป็นนางเอกละครเวทีแต่เพราะเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องมาเรียนคณะที่คนอย่างฉันไม่มีความคิดจะเรียนเลย
“ปี1ทุกคนมาเข้าแถวตรงนี้ครับเราจะเริ่มการประชุมเชียร์แล้วนะครับ”พี่ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ช็อปสีแดงเลือดหมู(สัญญาลักษณ์ว่าเป็นวิศวะ)ตะโกนเรียกเหล่าเด็กปี1ที่นั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว
พลั่ก!
“อ๊ะ ขอโทษค่ะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”เนื่องจากทุกคนกำลังจะรีบไปเข้าแถวตามคำสั่งรุ่นพี่ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาชนฉันทำเอาเซกันไปทั้งสองฝ่ายเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ”ฉันปฏิเสธไปแต่จริงๆก็เจ็บแขนนิดหน่อยนะ
“เจ็บแขนหรอคะ ขอโทษจริงๆค่ะ”เธอคนนั้นคงเห็นฉันจับแขน
“ไม่เป็นไรค่ะ”ฉันตอบอีกครั้งเพราะดูเหมือนเธอจะรู้สึกผิดจริงๆ
“ทำอะไรอีกยัยดา”จู่ก็มีผู้หญิงอีกคนเดินมาถามผู้หญิงคนที่ชนฉันพลางมองหน้าฉันนิ่งๆพอฉันมองไปก็พบว่าทั้งคู่หน้าตาเหมือนกันมากสงสัยจะเป็นฝาแฝดกัน
“เค้าชนเธออ่ะ ดูเหมือนจะเจ็บแขนด้วย?”เธอเล่าให้ฟังอย่างรู้สึกผิด
“เห้อออออ ซุ่มซ่ามจริงๆ ขอโทษแทนน้องสาวเราด้วยนะ”เธอคนนั้นทำหน้าดุใส่น้องสาวตัวเองแล้วหันมาขอโทษฉันอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุฉันเข้าใจ”ฉันยิ้มบางให้ให้ทั้งคู่แล้วเดินไปเข้าแถวรวมกับเพื่อนๆ
“ต่อไปนี้จะเป็นการรับน้องอย่างจริงจังแล้วนะครับเพราะต่อไปนี้รุ่นพี่ปี3จะลงมารับน้องพวกคุณเองครับ” พี่ดิมคือพี่ที่เรียกพวกเรามาเข้าแถวเอ่ยหน้านิ่งพวกพี่ๆเค้าคงเป็นปี2เพราะปี2จะมีหน้าที่ดูแลน้องๆปีหนึ่งส่วนการว๊ากการรับน้องต่างๆจะเป็นหน้าที่ของปี3
ฮือฮา ฮือฮา
ทันทีที่พี่ดิมพูดจบบรรดาเด็กปีหนึ่งก็ฮือฮากันขึ้นมาทันทีก็อย่างว่าแหละวิศวะขึ้นชื่อเรื่องรับน้องโหดและมันก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ฉันไม่อยากเรียนคณะนี้
“เธอๆเธอชื่อไรอ่ะเราดารินนะ”ระหว่างที่ฉันกำลังคิดถึงชะตาชีวิตตัวเองอยู่นั้นคนที่ชนฉันเมื่อกี้ซึ่งนั่งข้างๆฉันเอ่ยแนะนำตัวเอง
“เราชื่อไอริน”ฉันก็เลยบอกชื่อตัวเองไปเพราะฉันไม่ใช่คนหยิ่งอะไรดีซะอีกจะได้มีเพื่อนเร็วๆ
“ส่วนฉันชื่อเดวานะฉันเป็นพี่ดาริน”เดวาแนะนำตัวต่อ ทั้งดารินและเดวาเป็นฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันมากแต่สไตล์การแต่งตัวทรงผม
หรือแม้แต่ท่าทางการพูดต่างกันโดยสิ้งเชิงดารินจะออกแนวสาวหวานน่ารักแต่ด้านเดวาจะออกแนวสาวเท่ห์
“เกิดวันเดียวกันต่างหากยะ แค่เธอออกมาก่อนฉันแค่5นาที”ดารินหันไปบอกเดวา
“ก็ถือว่าเกิดก่อนป่ะใครเกิดก่อนก็เป็นพี่ดิ”เดวาก็เถียงตอบ
“เราอายุเท่ากันต่างหาก เพราะงั้นเราต้องเป็นเพื่อนกันสิ”ดารินดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆ
“ฉันว่าเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะอย่าทะเลาะกันเลย”ฉันรีบเบรกก่อนทั้งคู่จะวางมวยกัน
“ก็ได้”ทั้งคู่เอ่ยพร้อมกัน
“ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาเรียนที่นี่หรอ”เดวาถามฉัน
“เงียบ!!!!!!”ขณะที่เรากำลังคุยกันก็มีเสียงตะคอกเสียงดังพร้อมกับการปรากฏตัวของเหล่าบุรุษเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูทั้งหลายดูท่าจะเป็นพวกพี่ๆปี3นะ
“สวัสดี!!ปี1ทุกคนพวกผมเป็นรุ่นพี่ของพวกคุณ ผม!! ดาย วิศวะโยธาปี3!!!”คนที่ตะโกนให้ทุกคนเงียบคือ ดาย บอกเลยว่าหล่อมากลุคออกจะแบดบอยแต่ก็ดูเป็นผู้ชายสะอาดแต่แววตาบวกน้ำเสียงคือหน้ากลัวมาก
“ผม!! เบลล์ วิศวะเคมีปี3!!!”ส่วนคนที่ยืนข้างซ้ายพี่ดายออกมาแนะนำตัวคนนี้บอกเลยโอปป้าเกาหลีแท้ๆเลยจ้าผิวขาวโอโม้มากสูงยาวเข่าดีบอกเลยสเปกอ่ะ
“ส่วนผม!!เกียร์ วิศวะเครื่องกลปี3!!!”ส่วนคนสุดท้ายก็พอดูได้ จบ!
“พวกผมทั้งสามคนทำหน้าที่เป็นเฮดว๊าก ผมหวังว่าปีหนึ่งทุกคนจะให้ความเคารพนับถือและเชื่อฟังพวกผมเข้าใจไหมครับ!!!!!”ดายตะโกนถามปี1ทุกคนทำเอาสะดุ้งไปตามๆกัน
“ขะ เข้าใจครับ ค่าาา”
“ดังๆ!!!!”ฉันก็ว่าดังแล้วนะแต่ดูเหมือนอีพี่แกจะไม่พอใจ
“ครับบบบบบบค่าาาาาาาา”ทุกคนพร้อมใจกันตะโกนสุดเสียงเพื่อให้สาแก่ใจพี่แก
“ดีมาก”แล้วเหล่าเฮดว๊ากก็ถอยหลังออกไปให้พี่ผู้หญิงออกมาอธิบายกิจกรรมตลอดการรับน้อง
“แม่งโคตรบ้าอำนาจเลยเธอว่าไหมทำไมต้องตะโกนเสียงดังด้วยวะไม่เจ็บคอหรือไง”เดวาเอ่ยด้วยความไม่พอใจพลางจ้องไปที่หน้าของคนที่ชื่อดาย
“นั้นสิ ดูป่าเถื่อนชะมัดทำไมป๊าต้องให้เรามาเรียนอะไรแบบนี้ด้วยนะ”ดารินเอ่ยขึ้นเช่นกัน
“พวกเธอก็โดนบังคับมาหรอ”ฉันถามไปเพราะไม่อยากจะเขื่อว่าจะมีคนโดนเหมือนฉันด้วย
“ใช่ ป๊าของฉันบังคับให้มาเรียนไม่อย่างนั้นจะตัดออกจากกองมรดกฉันสองคนเลยต้องยอมมาเรียนคณะแบบนี้ไงละ”เดวาอธิบายให้ฉันฟัง
“ฉันก็โดนบังคับมาเหมือนกันจากคนที่ฉันเกลียดที่สุด”แค่คิดก็เกลียดมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“ใครหรอที่เธอเกลียด”ดารินถามฉันด้วยความอยากรู้
“เอ่อออออ”ฉันไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
“สามคนนั้นคุยอะไรกันน่ะ!!!!”จู่นายเกียร์ก็ตะโกนขึ้นมาทำเอาฉันและเพื่อนๆนั่งก้มหน้าเงียบเลยทั้งที
“ทั้งสามคนลุกขึ้น!!!”ดูเหมือนจะไม่ยอมตะโกนสั่งให้ฉันลุกขึ้นฉันเลยเงยหน้ามองไปที่หมอนั้นทันทีแต่ก็ยังไม่มีใครลุก
“จะลุกขึ้นมาดีๆหรือจะให้เพื่อนทุกคนโดนทำโทษก่อน”เกียร์พูดพลางมองหน้าฉันนิ่งๆ
พรึบ
ฉันทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นยืนทันทีและดูเหมือนเดวากับดารินก็ลุกขึ้นเช่นกัน
“คุยอะไรกันครับ”ดายถาม
“คุยกันเรื่อยเปื่อยค่ะ”เดวาตอบพลางทำหน้ากวนๆใส่ดายทำเอาดารินต้องรีบกระตุกแขนพี่สาวทันที
“มันใช่เวลาหรอครับ ไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรอครับ”ดายตอกกลับพร้อมกับทำหน้ากวนๆใส่เช่นกัน
“มารยาทอ่ะรู้จักแต่จะเลือกมีมารยาทกับคนที่ควรมีมารยาทเท่านั้นค่ะ”เดวาตอกกลับไม่ยอมเช่นกัน ดูเหมือนเรื่องจะบานปลายฉันเลยรีบพูดไปว่า
“พวกเราขอโทษที่คุยค่ะ”
“ขอโทษแล้วหายหรือไงถ้าไม่ลงโทษเดี๋ยวก็มีคนเอาอย่าง”เกียร์ที่เงียบไปแล้วพอฉันพูดขึ้นเค้าก็ตอกกลับขึ้นมาทันที
“การคุยกันไม่น่าจะทำให้ใครตายมั้งค่ะคงไม่ต้องถึงกับต้องทำโทษกันหรอก”ฉันก็เริ่มจะเดือดแล้วนะ
“เธอไม่มีมารยาทจริงๆนั้นแหละยืนเถียงรุ่นพี่ฉอดๆมันใช้ได้หรอ”เกียร์ถามพลางทำหน้ากวนๆใส่ฉันจนต้องกำหมัดแน่น
“พวกพี่จะให้พวกฉันทำอะไรก็บอกมาค่ะ”ดูเหมือนดารินจะเห็นว่าฉันก็เริ่มฟิวขาดแล้วเหมือนกันเลยรีบตัดบท
“ไปวิ่งรอบสนามบอล10รอบ”ดายเอ่ยอย่างมีชัยพลางแสยะยิ้ม
“ทำให้ครบด้วยนะฉันจะสั่งให้คนไปดู”เกียร์พูดสมทบ
“ค่ะ”เราทั้งสามคนได้แต่กัดฟันตอบรับแล้วเดินไปที่สนามบอลซึ่งทุกคนลองนึกภาพสนามบอลของมหาวิทยาลัยว่ามันใหญ่ขนาดไหนแล้ว10รอบอ่ะทุกคน 10รอบ!!!