" อยู่นั่นไง จับมันเลย จับมันเลย "
พริบพันดาวตกใจที่อยู่ดีๆก็มีร.ป.ภมาจับตัวเธอ ผู้หญิงคนที่ชี้บอกให้จับเธอ เธอจำได้ว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของบุษบง
เธอส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง จะส่งภาษามือก็ไม่ได้เพราะถูกล็อคแขนเอาไว้ จึงได้แต่เดินตามพวกเขาไป
เธอถูกใส่กุญแจมือแล้วโยนลงไปตรงหน้าบุษบงกับทักขินัย
" ขอโทษบุษซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง "
ทักขินัยบอกเธอ ส่งสายตาเย็นชามาให้
เธอส่ายหน้าไม่ยอม ขอโทษเหรอขอโทษเรื่องอะไรเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
" ทำไมไม่ยอมเหรอ แกนี่มันขี้อิจฉา เอาดอกกุหลาบใส่ลงมาในช่อดอกไม้ ทั้งที่รู้ว่าบุษแพ้ดอกกุหลาบ "
เยาวเรศปาช่อดอกไม้ใส่หน้าพริบพันดาว เธอไม่รู้เรื่องนี้เลย ในโน้ตนั่นเขียนบอกเอาไว้ว่าให้ใส่กุหลาบแซมเข้าไปด้วย เธอก็ทำตามแล้วเธอผิดอะไร เรื่องที่บุษบงแพ้ดอกกุหลาบเธอก็ไม่รู้มาก่อน คนบ้าอะไรแพ้ดอกกุหลาบ เธออยากเอาโน้ตนั่นออกมาให้ทุกคนดูแต่น่าเสียดายที่เธอทิ้งไว้ที่ร้าน เธอพูดไม่ได้ จะเขียนบอกก็ไม่ได้ มือถูกกุญแจล็อคอยู่ จึงได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธน้ำตาคลอ
" ช่างเถอะพี่บี ไม่เป็นไรหรอกค่ะทัก เป็นบุษเองที่ไม่ทันดูให้ดีว่าในช่อดอกไม้มีกุหลาบอยู่ด้วย เลยสูดดมเข้าไป โชคดีที่ดมเข้าไปนิดเดียวก็เลยแค่มึนหัวนิดหน่อย "
" ยังไงมันก็ต้องขอโทษ มันเป็นคนส่งดอกไม้แล้วก็ยังเป็นคนจัดช่อดอกไม้เองด้วย ฉันโทรไปถามที่ร้านมาแล้ว ถ้าแกไม่อยากให้ฉันลงประจานร้านของแกในโซเชียลหล่ะก็โขกหัวขอโทษบุษเดี๋ยวนี้ "
พริบพันดาวไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ หากเยาวเรศโพสต์ลงโซเชียล ร้านดอกไม้ของแก้วกัญญาต้องเสียหายแน่ ในเมื่อเธอเป็นต้นเหตุก็ควรจะจบปัญหาเอง ก็แค่โขกหัวขอโทษแค่นั้น เธอโขกหัวคำนับบุษบงครั้งแล้วครั้งเล่า เยาวเรศไม่สะใจจับหัวเธอโขกอย่างแรงแล้วแช่เอาไว้อย่างนั้น
" พอได้แล้ว ปล่อยตัวเธอไป "
ทักขินัยออกคำสั่ง มองเธอด้วยสายตาผิดหวัง เขาไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ทั้งที่สั่งทางร้านไว้แล้วว่าห้ามใส่ดอกกุหลาบแถมยังบอกเหตุผลว่าผู้รับแพ้ แต่เธอที่เป็นคนจัดกับใส่กุหลาบมา ถ้าไม่จงใจแล้วจะเรียกว่าอะไร ดีนะที่บุษบงแค่วิงเวียนเล็กน้อย ถ้าเธอแพ้เยอะกว่านี้อาจถึงขั้นหมดสติเลยก็ได้
" ถึงจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ผมว่าคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยดีกว่า "
ทักขินัยอุ้มบุษบงออกไปไม่ชายตาแลพริบพันดาวที่นั่งหัวโนอยู่ที่พื้น เธอมองตามเขาอุ้มคนรักออกไป ความอัดอั้นตันใจมันท่วมท้นออกมา น้ำตาหลั่งรินไม่อาจสกัดกั้นไว้ได้
" แกควรจะรีบหย่ากับคุณทักได้แล้ว ก็เห็นๆอยู่ว่าคุณทักกับบุษเขารักกันแค่ไหน แกนี่มันหน้าด้านหน้าทนจริงๆ ขวางทางรักเขาอยู่ได้ นังใบ้ไม่เจียมตัว สมน้ำหน้า "
เยาวเรศพูดเบาๆให้ได้ยินแค่สองคนแล้วเบะปากเดินออกไป พริบพันดาวลุกขึ้นเช็ดน้ำตาเดินออกมาจากห้องพักส่วนตัวสำหรับพรีเซนเตอร์ เจอกับแก้วกัญญากำลังยืนคุยกับเยาวเรศอยู่ ทั้งสองหันมามองที่เธอ เธอเห็นแก้วกัญญาทำสีหน้าผิดหวังเมื่อมองเธอก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษเยาวเรศ
" พี่เห็นว่าเราออกมานาน เป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรเลยออกมาตาม กลับร้านเถอะมีอะไรค่อยไปพูดที่ร้าน "
เมื่อมาถึงที่ร้านแก้วกัญญาก็ไม่พูดอะไร สั่งเธอว่าต่อไปไม่ต้องจัดช่อดอกไม้แล้ว แค่ดูแลจัดเรียงพรมฉีดดอกไม้ก็พอ เธอมองหน้าแพรไหมที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่แพรไหมเป็นคนส่งโน้ตให้เธอ ในนั้นก็เขียนบอกว่าให้ใส่กุหลาบเยอะๆ แต่พอเธอจัดช่อแล้วเห็นว่าควรใส่กุหลาบแค่สองสามดอกพอ จึงได้ใส่ไปแค่นั้น หากใส่เยอะๆตามที่ในโน้ตบอกไม่รู้ป่านนี้บุษบงจะเป็นยังไง พริบพันดาวเดินเข้าไปหาแพรไหม ทำไม้ทำมือถามเรื่องโน้ตเธอจะเอาไปให้แก้วกัญญาดู แต่แพรไหมทำเป็นไม่เข้าใจ แถมยังพูดปลอบใจเธออีก
" ไม่เป็นไรนะพริบ เรื่องมันผ่านมาแล้ว คราวหน้าก็ระวังหน่อยหล่ะ "
เธอส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วทำไม้ทำมือถามเรื่องโน้ตอีก แต่แพรไหมกลับเดินหนี
" อ้อเรื่องที่เกิดขึ้นพี่แก้วต้องชดใช้ค่าเสียดายให้ทางนั้นไปสองแสน เพื่อจบเรื่องเพราะเขาขู่ว่าจะเอาเธอเข้าคุก ดีนะที่พี่แก้วเมตตาเธอ ถ้าเป็นฉันเดือนนี้ฉันคงไม่เอาเงินเดือนหรอก ฉันจะทำงานฟรีชดใช้จนกว่าจะครบสองแสน "
แพรไหมเดินออกไปรับออเดอร์ลูกค้า เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ที่แก้วกัญญายืนคุยกับเยาวเรศก็เพราะเรื่องนี้เหรอ เยาวเรศคงบอกว่าจะโพสต์ประจานร้านในโซเชียล และจะจับเธอเข้าคุก แต่มีข้อเสนอให้จ่ายค่าชดใช้เป็นเงินสองแสน แก้วกัญญาจึงยอมจ่ายเพื่อให้จบเรื่อง
วันทั้งวันแก้วกัญญากับแพรไหมทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน ไม่ชวนพูดคุยไม่ถามไถ่เหมือนอย่างเคย แม้แต่กินอาหารก็ยังไม่เรียกเธอไปกินด้วยเหมือนอย่างทุกวัน ทั้งสองพูดคุยกันสนุกสนานไม่มองเธอเลย พริบพันดาวเข้าไปหา ทั้งสองก็หยุดพูด เธอทำไม้ทำมือบอกว่าจะออกไปข้างนอก พริบพันดาวเบิกเงินในธนาคารออกมาสองแสน ระหว่างทางเจอภูมินทร์เขาใส่ชุดนักศึกษา ที่เขาลาเพราะวันนี้ต้องไปสอบสินะ ภูมินทร์ก็เรียนมหาลัยเดียวกับเธอ เธอเองก็ต้องเตรียมตัวสอบเหมือนกัน ตารางสอบของแต่ละคณะกำหนดวันสอบไม่เหมือนกัน คณะของภูมินทร์สอบก่อน ส่วนคณะของเธอจะเป็นอาทิตย์หน้า สอบครั้งสุดท้าย ปีนี้เธอจะเรียนจบแล้ว
" พริบมาทำไรแถวนี้ "
ภูมินทร์เดินเข้ามาทักทาย
พริบพันดาวหน้าตาเศร้าหมองเธอไม่อาจฝืนยิ้มได้ หยิบเอากระดาษกับปากกาออกมาเขียนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ภูมินทร์อ่าน ภูมินทร์อ่านไปก็กำกระดาษแน่นจนยับ เขาไม่เชื่อว่าคนบ้าอะไรจะแพ้กุหลาบ แล้วแพรไหมจงใจเขียนโน้ตแบบนั้นส่งให้พริบพันดาวทำไม หรือว่าเพราะเขาปฏิเสธเธอเมื่อวันก่อน วันนั้นเธอมาสารภาพรักกับเขาแต่เขาบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เธอถามว่าใคร เขาไม่บอก พอดีพริบพันดาวเดินเข้ามาคืนเสื้อคลุมให้เขา แล้วเขาก็ชวนพริบพันดาวคุยไม่สนใจเธอ เพราะแบบนี้ใช่ไหมแพรไหมถึงได้กลั่นแกล้งพริบพันดาว
" เราจะไปถามเรื่องนี้กับไหมเอง พริบไม่ผิดไหมต้องขอโทษพริบ "
ภูมินทร์จูงมือพริบพันดาวซ้อนท้ายมอไซค์ไปที่ร้านดอกไม้
" อ้าวภูทำไมมาพร้อมพริบได้หล่ะ "
แพรไหมมองมือของภูมินทร์ที่จับจูงพริบพันดาวเข้ามา พริบพันดาวเห็นประกายตาไม่พอใจฉายชัด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นปกติ
" เธอทำแบบนี้ทำไม ทำไมต้องแกล้งพริบด้วย "
" ภูพูดเรื่องอะไรเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย พริบก็เป็นเพื่อนเรานะ ทำไมเราต้องแกล้งพริบด้วย หรือว่าพริบไปฟ้องอะไรภูใส่ร้ายเราเหรอ "
" มีอะไรกันภู "
แก้วกัญญาได้ยินเสียงเอะอะก็เดินเข้ามาถาม
" พี่แก้วก็ลองถามไหมดูสิครับ ว่าเธอทำแบบนี้ทำไม เธอเป็นคนรับออเดอร์แล้วจดโน้ตว่าให้ใส่กุหลาบเยอะๆ ทั้งที่ลูกค้าแจ้งว่าแพ้กุหลาบ เธอจงใจให้พริบจัดช่อดอกไม้แบบนั้นทำไม "
แพรไหมหน้าซีด แต่ก็คิดว่าโน้ตนั่นเธอทิ้งมันไปแล้วไม่มีหลักฐาน เธอบอกไม่รู้ซะอย่างใครจะเอาผิดเธอได้
" ฉันรับออเดอร์ก็จริง แล้วลูกค้าก็บอกว่าไม่เอากุหลาบในโน้ตก็เขียนบอกชัดเจนนะ แต่ไม่รู้ทำไมพริบยังใส่กุหลาบลงไปอีก เราก็เตือนแล้วนะ แต่พริบไม่ฟังบอกว่าใส่กุหลาบสัก2-3ดอกเพิ่มไปแบบนั้นจะดูสวยขึ้น "