ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...090 – XXX – XXXX
ติ๊ด!
“ฮัลโหล”
(มาเจอกันหน่อย)
“...นั่นใครคะ” ไม้หวายขมวดคิ้วด้วยความสงสัย คนปลายสายคือใครกันโทรมาหาเธอแล้วบอกว่ามาเจอกันหน่อยโดยที่ไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร
บอกแค่นี้เขาคิดว่าเธอจะไปเจอรึไง?
(เมื่อวานใครไปส่งเธอก็คนนั้น)
“...พี่ชาร์ล” ไม้หวายเอ่ยชื่อคนที่ไม่คิดว่าจะโทรมาออกไปช้า ๆ ก่อนที่จะเกิดความกังวลเข้ามาในใจ
เขาโทรมาทำไม กลัวเธอเอาเรื่องที่เขาทำผู้หญิงท้องไปพูดรึเปล่านะ
(อีกสิบนาทีฉันจะถึงหอเธอ ออกมารอข้างหน้าฉันไม่อยากเข้าไปในหอโกโรโกโสแบบนั้น)
ไม้หวายกลัวเขานะตอนที่เขาขู่เธอเพราะเธอรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ของเขา แต่การที่เขาพูดจาแย่แถมดูถูกหอพักที่เธออยู่ก็ทำให้เธอไม่พอใจเหมือนกัน
“ไม่ว่างค่ะ” เธอไม่มีอะไรสู้เขาได้หรอกแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะปล่อยให้ใครพูดจาแย่ยังไงกับเธอก็ได้
(ฉันสืบมาแล้วว่าตอนนี้เธออยู่ที่หอ)
“ค่ะ อยู่หอแต่ไม่ว่าง มีอะไรคุยทางโทรศัพท์ได้เลยค่ะพี่ชาร์ล”
(ไม่ ฉันต้องการคุยต่อหน้า)
“ถ้างั้นก็ต้องวันหลังค่ะ แต่ถ้าพี่ชาร์ลจะคุยเรื่องที่พี่ชาร์ลทำผู้หญิงท้อง...”
(อย่าพูดคำนี้ออกมาให้ฉันได้ยินอีก) เธอยังไม่ทันได้พูดให้จบเสียงเย็นยะเยือกก็พูดแทรกขึ้นมา
“หวายขอโทษค่ะ เอาเป็นว่าถ้าพี่ชาร์ลกังวลเรื่องนั้นพี่ชาร์ลสบายใจได้เลย หวายไม่พูดแน่นอนเพราะมันไม่ใช่เรื่องของหวาย”
(หึ! แล้วใครมันจะเอาเรื่องไม่ดีของตัวเองไปพูดวะ)
“ก็จริงค่ะ ไม่มีใครเอาเรื่องไม่ดีของตัวเองไปพูด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเอาเรื่องไม่ดีของคนอื่นไปพูดเหมือนกัน” ไม้หวายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะเธอเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว และเธอก็อยากให้เขาเข้าใจด้วยว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่คนอย่างที่เขาคิดประเภทเดียวเท่านั้น
คำพูดของเธอทำให้ชาร์ลรู้สึกบางอย่างในใจแต่แค่เสี้ยวของวินาทีเขาก็กลับมาอยู่กับความคิดและความมั่นใจของตัวเองเหมือนเดิม
(ฉันไม่เชื่อ แล้วก็ไม่ไว้ใจเธอ)
“ถ้างั้นก็รอดูค่ะ ตอนนี้ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เพราะรับปากแล้วจะให้คุยก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เอาไปพูดแน่นอนค่ะพี่ชาร์ล”
ติ๊ด!
“ฮัลโหล...ฮัลโหล! อ่าส์!”
ชาร์ลจ้องมองไปที่ถนนด้วยความโมโห การได้คุยกับเธอในครั้งนี้ทำให้เขาได้รู้ว่าไม้หวายดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่ยอมใครง่าย ๆ เธอไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่คิดแล้วแบบนี้จะให้มั่นใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่เอาเรื่องนั้นไปพูดให้ใครฟัง
-สิบนาทีต่อมา-
ก๊อก ๆๆ
ก๊อก ๆๆ
กริ๊ก!
แอด~
“...พี่ชาร์ล!”
“ไง” เขาแค่ทักสั้น ๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาในขณะที่อีกคนอุทานเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ
“ขึ้นมาได้ไงคะ” ไม้หวายตกใจมากกับการได้เห็นเขาอยู่หน้าห้องแต่เพราะหอพักที่เธออยู่เป็นหอเก่าประตูไม่มีตาแมวให้ส่องเลยไม่ได้ดูว่าใครมาเคาะแต่เพราะมีเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องอยู่ที่หอเดียวกันค่อยข้างเยอะเลยคิดว่าเป็นคนรู้จัก เปิดออกมาก็คนรู้จักนั่นล่ะแต่รู้จักผ่าน ๆ ไม่ได้สนิทเลยไม่คิดว่าจะมาโผล่ตรงนี้
“หอแบบนี้ใครจะขึ้นก็ได้หมดนั่นแหละ เธอคิดว่าหอเธอปลอดภัยมากรึไง?” ในตอนนี้เธอรู้สึกเกลียดหน้าตาหยิ่งจองหองแถมมีแววตาดูถูกดูแคลนของเขามากกว่าอะไรทั้งนั้น
“ก็ไม่ปลอดภัยค่ะ แต่ความจริงถ้าไม่มีสิทธิ์เข้าต่อให้ประตูมันเปิดอ้าไว้ไม่มีรปภ. เฝ้าคนมีมารยาทเขาก็ไม่เข้านะคะ”
“นี่เธอว่าฉัน?” เสียงแข็งถามออกไปเพราะตั้งแต่เกิดมาชาร์ลไม่เคยโดนผู้หญิงที่ไหนว่าแบบนี้เลยสักครั้ง
“เปล่าค่ะ แค่พูดให้ฟัง”
“...” ชาร์ลไม่พูดอะไรต่อนอกจากมองหน้าไม้หวายด้วยความโมโห
ไม่มีใครกล้ายั่วโมโหเขาด้วยคำพูดยียวนที่มาพร้อมกับการตีหน้านิ่งอย่างที่เธอทำมาก่อน ผู้หญิงส่วนมากที่ทำให้เขาโมโหได้ร้อยทั้งร้อยก็เพราะร้องไห้งอแงที่เขาไม่สานความสัมพันธ์ต่อเท่านั้น
“หวายคิดว่าพอรู้ว่าพี่ชาร์ลมาเพราะเรื่องอะไร หวายขอยืนยันว่าพี่ชาร์ลสบายใจได้ค่ะหวายไม่เอาไปพูดแน่นอน บอกตรง ๆ นะคะว่าพอรู้ประวัติพี่ชาร์ลมาบ้างเพราะฉะนั้นหวายไม่กล้าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงหรอกค่ะ”
“แน่ใจ?”
“สนุกปากกับความปลอดภัยของชีวิตหวายเลือกอย่างหลังค่ะ” ไม้หวายตอบเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่น่าเลยเธอไม่น่าบังเอิญซวยไปได้ยินเรื่องของเขาเลยให้ตายเถอะ
ความจริงรับปากไปตั้งแต่เมื่อวานก็น่าจะจบ เล่นขู่ถึงตายแถมคนขู่ที่บ้านยังทำธุรกิจสีเทาแล้วใครจะกล้าปากโป้งอยากถามเขาจริง ๆ
“ขอให้จริง”
“มันจริงอยู่แล้วค่ะพี่ชาร์ลถ้าไม่เชื่อก็รอดู มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวค่ะที่จะพิสูจน์”
“หึ!” เขาแค่นเสียงออกมาพร้อมกับสีหน้าแววตาที่ดูไม่เชื่อเธอเลยสักนิด
“หวายว่าที่จริงพี่ชาร์ลไม่น่าจะกังวลว่าหวายจะเอาไปพูดนะคะ หวายเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดอยู่ตัวคนเดียวสู้พี่ชาร์ลไม่ได้หรอก นอกจากว่า...”
“นอกจากอะไร?” เขาถามพร้อมกับเริ่มไม่พอใจน้ำเสียงที่ฟังดูเจ้าเล่ห์กับสีหน้าของเธอที่มันดูไม่เรียบร้อยหรือหวาดกลัวเขาอย่างเมื่อวานเท่าไหร่
“นอกจากว่าพี่ชาร์ล...สนใจหวายแล้วอยากหาเรื่องมาทำความรู้จักกันมากกว่า”