บทที่4
เรื่องนี้ต้องถึงฝ่าบาท...
" คุณหนูอวี้กำลังเข้าใจไทจื้อผิดอยู่นะเจ้าค่ะ เรื่องนี้สามารถอธิบายได้นะเจ้าค่ะ" เสียงสตรีเอ่ยขึ้นสร้างความสนใจให้เเก่อีอีเเละชาวบ้านที่กำลังมุงดูเรื่ององค์ไทจื่อกับคู่หมั้นไม่น้อย
"เยียนเออร์เจ้ามาได้อย่างไร ลุกขึ้นเเล้วรีบกลับไปเถอะเรื่องนี้พี่จัดการเอง" องค์ไทจื่อเอ่ยขึ้นกับคนรักเขาอยากดุด่านางนักเเต่ทำได้ไม่ลง
อีอีเห็นฉากตรงหน้าหนึ่งสตรีหนึ่งบุรุษนั่งคุกเข่าหน้าจวนเเล้วเบ้ปาก นี่เป็นฉากหนึ่งในนิยายที่นางอ่านเป็นฉากพิสูจน์รักเเท้ของสองพระนางหน้าพระราชวังโดยมีชาวบ้านเเละเหล่าบันทิตยื่นฎีกาถวายให้ฮองเต้มีพระราชโองการรับนางเอกเข้าเป็นชายาเอกโดยมีนางร้ายอย่างอีอีคอยขัดขวาง เมื่อนางเริ่มเปลี่ยนเรื่องราวในนิยาย ทุกสิ่งเริ่มเปลี่ยนสินะ
".คุณหนูหนิงมาเยาะเย้ยข้าถึงหน้าจวนเลยหรือเจ้าค่ะ"อีอีเอ่ยขึ้นเริ่มสะอื้นไห้หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดทั้งที่ไม่มีน้ำตาเพื่อความสมจริง
เหล่าชาวบ้านที่มุงดูอยู่เริ่มมีหลายร้อยคนต่างเริ่มไม่พอใจ เหตุใดคุณหนูหนิงจึงมาเยาะเย้ยคู่หมั้นถึงหน้าจวนเช่นนี้
"ฟังข้าก่อนนะเจ้าค่ะ คุณหนูอวี้องค์ไทจื่อไม่ได้ละเลยคุณหนูอวี้เลยนะเจ้าค่ะ เพียงเเต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ไทจื่อไปทำงานที่จวนบิดาข้า ได้พบข้าจึงสงสารข้าไม่น้อยจึงให้ติดรถม้ามาเที่ยวเล่นนะเจ้าค่ะ เราสองคนรักกันอย่างเเท้จริงขอคุณหนูอวี้เห็นเเก่ความรักเราทั้งสองด้วยเจ้าค่ะ"
เหล่าฮูหยินเเละคุณหนูน้อยใหญ่ได้ยินการปะทะฝีปากกันระหว่างองค์ไทจื่อเเละคู่หมั้นต่างรีบเดินทางมา พอได้ยินสตรีข้างกายองค์ไทจื่อเอ่ยต่างซู๊ดปากสตรีเเหน่งน้อยข้างกายองค์ไทจื่อช่างกล้าหาญขอบุรุษจากคู่หมั้นคู่หมายของผู้อื่นหาคำกล่าวด่าได้ยากยิ่งนัก
" หากรักกันมากนักก็ติดป้ายประกาศทั่วเมืองหลวง หากไม่มีงบข้าเสนาบดีจะออกให้ เเต่อย่ามาเกะกะขวางหน้าจวนข้า เรื่องนี้ต้องรู้ถึงฝ่าบาทพรุ่งนี้เตรียมใจไว้เเล้วกันหย่งเล่อ!!!! " สิ้นเสียงเสนาบดีอวี้ชาวบ้านเหล่าฮูหยินเเละคุณหนูทั้งหลายต่างซู๊ดปากครั้งที่สอง
"ปิดจวนหากไม่ใช่ฮองเต้อย่าให้เข้า"คำสั่งดุดันสั่งพ่อบ้านเเละผู้คุ้มกันประจำจวนต่างตอบรับ อีอียิ้มกริ่มในใจท่านพ่อคือลาสบอสเจ้าค่ะอีอียกนิ้วให้ พลางเดินเข้าจวนอย่างเงียบๆๆท่าทีเศร้าสร้อยทำให้ผู้คนที่มุงดูหน้าจวนเสนาบดีรู้สึกสงสารไม่น้อย
เมื่อเจ้าของจวนปิดประตูจวนไม่รับเเขกใบหน้าไทจื่อมืดครึ้มเต็มสิบส่วน อารมณ์ตกค้างของเหล่าชาวบ้านฮูหยินคุณหนูน้อยใหญ่
จึงมีคนเริ่มเอ่ยขึ้น
'ช่างหน้าด้านนักมาเอ่ยขอคู่หมั้นคนอื่นถึงหน้าจวน'
'หญิงร้าย ชายเลวสมควรเป็นไทจื่อที่มีคุณธรรมเป็นเเบบอย่างต่อประชาชนทั่วเเคว้นอยู่หรือไม่'
'กล้าพาคนรักมาเยาะเย้ยคู่หมั้นใช้ได้ที่ไหน'
'ไม่สมควรเป็นไทจื่อเเล้ว'
'ใช่ๆๆๆๆ'
'เเม้สาวชาวบ้านยังรู้รักษาเนื้อตัวตระกูลหนิงช่างไม่รู้จักอบรมสั่งสอนบุตรสาว'
'อย่าได้เอาสตรีเช่นนี้เป็นเเบบอย่างนะลูก'
'หน้าหนายิ่งนัก'
เเละเหล่าเสียงเเสดงความคิดเห็นมากมาย ชาวบ้านมีอารมณ์ร่วมเริ่มปาไข่ไก่เเละเศษผักเน่าเปื่อยบ้างเริ่มปาก้อนหินใส่หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีที่คุกเข่าหน้าจวน เหล่าองครักษ์ไทจื่อต่างเริ่มเข้ามาดูเเลสถานการณ์พาองค์ไทจื่อเเละอีกหนึ่งสตรีขึ้นรถม้าอย่างรวดเร็ว
.. พ่อบ้านสั่งผู้คุ้มกันนิ่งเฉยจะอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องพร้อมยิ้มร้าย
____________________________
บนรถม้าองค์ไทจื่อ
"เยียนเออร์เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าไม่น่ามาที่จวนเสนาบดีเลย" ไทจื่อตรัสถามคนรัก เเม้อยากดุด่าที่ทำเสียเรื่องเเต่ทำไม่ลงสตรีตรงหน้าช่างบอบบางน่าทะนะถนอมเขาเอ่ยด่านางไม่ลงเเม้เเต่น้อย
"เยียนเออร์เพียงอยากช่วยองค์ไทจื่อเพคะไม่นึกว่าคุณหนูอวี้ไม่รับฟังใดๆๆเลยทั้งสิ้น" เอ่ยเเล้วน้ำตาก็หยดเป็นสาย
."ไม่เป็นไร พี่จะเเก้ไขเองอย่างไรพี่ก็รักเจ้า"องค์ไทจื่อโอบกอดสตรีคนรัก
"กลิ่นอะไรหรือเพคะเหม็นเน่านัก"
คุณหนูหนิงชี้ไปที่ของเหลวสีเหลืองส่งกลิ่นเหม็นบนโต๊ะในรถม้า
" บัดซบยิ่งนัก"
?บทที่8
รุ่งเช้าของอีกวัน
เสียงเล่าลือกระฉ่อนมากมายเรื่องราวรักเเท้ไร้ยางอายระหว่างไทจื่อกับคุณหนูหนิงเล่อเยียนบุตรสาวท่านเจ้าเมืองไปคุกเข่าหน้าจวนฝ่ายหญิงขอให้คู่หมั้นคู่หมาย ถอนหมั้นหลีกทางให้ทั้งคู่ครองคู่กันอย่างสุขสม ถูกใส่สีตีไข่โจษจันไปทั่วเมืองหลวง
"ฝ่าบาทพะยะค่ะ" เสียงเเหบเเหลมเล็กของบุรุษที่อยู่ข้างกายฮองเต้ เอ่ยเตื่อนสตินายตนที่บัดนี้นั่งอ่านสาสน์จากองครักษ์เงาที่ให้ไปสืบเรื่องไทจื่อกับคุณหนูอวี้คู่หมั้นคู่หมาย ใบหน้าของฮองเต้หลงซือหยางมืดครึ้มเต็มสิบส่วน พระขนงขมวดเข้าหากันเเน่น
"นี่เจิ้นเลี้ยงลูกหมาใช่หรือไม่ผินกงกง อุตสาห์ให้ไปง้อขอหยกงามคืนถึง7วัน กลับไปคุกเข่าขอถอนหมั้นช่าง!! ช่าง!! กล้านัก ได้!! ได้!! นำราชโองการให้ข้า ข้าจะเขียนราชโองการให้ลูกโง่ของเจิ้นเอง"
เสียงตวาดส่งของเจ้านายเหนือเเผ่นดิน ทำให้ข้ารับใช้ก้มลงไม่กล้าขยับ ฉิงกงกงได้เพียงเเต่ทำตามคำสั่งไม่กล้าหายใจเเรงด้วซ้ำ
____________________________
เรือนคุณหนูอวี้
อีอีนั่งๆๆ นอนๆๆ นึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นนางมาอยู่ในร่างนี้ได้4วันเเล้วนางรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเพียงเล็กน้อย เพราะมัวไปด่านักเขียนไว้ นางทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเเล้วจดลงกระดาษ มีสาวใช้คนสนิทอย่างซินซินคอยฝนหมึกให้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้ามขั้นไปไม่น้อย นางตกหล่นเรื่องราวอะไรนะที่จะทำให้คู่พระนางไม่ยุ่งกับนาง นางจะไม่ได้ไม่ตายอย่างสยดสยองเเบบนางร้ายเรื่องอื่นๆ
สายตาจับจ้องมองถ้วยชาที่ดื่มเป็นประกายในเสี้ยววิ ใช่เเล้วในนิยายที่นางอ่านไทจื่อมีส่วนพัวพันเรื่องค้าเกลือที่ส่งจากทางใต้มาเมืองหลวงไม่น้อย นางร้ายในตอนนั้นล่วงรู้โดยผู้กันลับที่ติดตามไทจื่อ นางจึงไปขอให้ท่านพ่อช่วยไทจื่อไว้โยนความผิดให้อันอ๋องซื่อจื่อที่ไม่รู้เรื่องราว โดยที่ไทจื่อเองไม่รู้ความดีของนางร้ายด้วยซ้ำนางช่างโง่เง่าเสียจริง ในเมื่อนางมาอยู่ในร่างที่ชื่อเดียวกันเเล้ว คงต้องขอให้ท่านพ่อช่วยเช่นเดิม จะอย่างไรนางเป็นคุณหนูวัยใกล้ปักปิ่นเท่านั้นจะเปิดโปงองค์ไทจื่อเชียวนะใครจะเชื่อนางกัน ว่าเเล้วจึงเดินออกไปหาบิดาที่เรือนใหญ่
___________________________
ห้องทำงาน เรือนใหญ่
จวนท่านเสนาบดีอวี้
เสนาบดีอวี้ นั่งถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับเอกสารเเละฎีกาที่ต้องยื่นให้เเก่ฮองเต้ตรงหน้า ขนาดเเค่เขาขอลาพัก7วันให้เขาพัก3วัน วันนี้เพิ่งวันที่2เหตุใดจึงมีงานมากมายเช่นนี้เล่า
"ท่านพ่อเจ้าค่ะอีอีเอง ขอเข้าไปได้หรือไม่เจ้าค่ะ"
"อีอีหรือลูก มาๆๆ นั่งก่อนมาหาพ่อมีเรื่องด่วนอะไรหรือไม่ หรือว่าองค์ไทจื่อมารังเเกลูกอีกเเล้ว เดี๋ยวพ่อไปเอาเลือดหัวมันออกเอง"
สิ้นเสียงบิดาอีอีเเทบจะยกให้บิดาเป็นเดอะวันมีบิดาเช่นนี้ หากนางตายย่อมไม่มีจุดจบไม่ดีเเน่นอน
"ไม่ใช่เจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกเพียงเเต่ไปล่วงรู้ความลับอย่างหนึ่งมา ท่านพ่อรู้เรื่องการค้าเกลือจากชายเเดนใต้ไหมเจ้าค่ะ"
" อีอีสักครู่นะลูก"
เสนาบดีอวี้หันไปปิดประตูเเละหน้าต่างทุกบาน สั่งบ่าวไพร่ออกไปห่างเรือน20ก้าว เรียกผู้คุ้มกันลับมาอารักขารอบเรือน
" อีอีลูกรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เจ้ารีบบอกพ่อเถิด"เสนาบดีอวี้เอ่ยอย่างร้อนรนเหตุใดบุตรที่น่ารักของเขาถึงล่วงรู้เรื่องราวอันตรายเช่นนี้
"มีปัญหาใช่หรือไม่เจ้าค่ะ"อีอีเอ่ยถามต่อ
" ใช่การค้าเกลือเป็นสินค้าควบคุมของเเคว้นเรา ห้ามขายออกนอกเเคว้นห้ามนำเข้าเเต่ปีกว่ามานี้ในเเคว้นเรามักมีเกลือจะเเคว้นอื่นปะปนเสมอ"เสนาบดีอวี้เอ่ยขึ้นอย่างหนักใจเพราะไม่สามารถสืบเจอต้นตอได้จึงไม่สามารถเเก้ปัญหาได้เช่นกัน
"ทำไมถึงไม่ให้นำเข้าหรือส่งออกเจ้าค่ะ"เเม้การค้าจะถูกเอ่ยในนิยายที่นางอ่านเเต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก
" เพราะเกลือเเคว้นเรามีทหารราชวงศ์คอยควบคุมดูเเลชาวบ้านที่ทำนาเกลือ ทำให้เกลือเเคว้นหลงสะอาดมีเเร่ธาตุทำให้ร่างกายคนที่ใช้ดื่มกินสุขภาพเเข็งเเรงเเต่ผลิตขึ้นมาต่อปีนั้นเพียงพอใช้ในเเคว้นเท่านั้น จึงมีราคาที่สูงยิ่ง"เสนาบดีอวี้อธิบายอย่างใจเย็นให้บุตรสาวฟัง
" อ่อลูกเข้าใจเเล้วเจ้าค่ะ เกลือจากนอกเเคว้นมักไม่สะอาดมีสิ่งปะปนทำให้ผู้คนเจ็บป่วยใช่หรือไม่เจ้าค่ะ"
" ใช่เเล้วอีอีของพ่อช่างเก่งกาจ"เสนาบดีใจชื้นไม่น้อยเพียงอธิบายคร่าวๆๆให้บุตรสาวฟัง นางสามารถวิเคราะห์เรื่องราวได้ถูกจุดอย่างยิ่ง
" เเล้วถ้าลูกบอกว่าการลักลอบขนเกลือต่างเเคว้นมีไทจื่อเกี่ยวข้องท่านพ่อจะว่าอย่างไรนะเจ้าค่ะ"