ตอนที่ 4 ซุปเปอร์สตาร์หน้าใหม่

1631 Words
พิธีกรที่อยู่บนเวทีกำลังจะประกาศผลการประกวดสุดยอดนางแบบสุดฮอทประจำปี บรรดาสาวสวยจับมือกันด้วยความตื่นเต้นว่าตัวเองจะเข้ารอบหรือเปล่า แล้วผลประกาศก็ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้เป็นอย่างดีเพราะว่าผลเป็นไปตามที่คาด หญิงสาวสวยตาคม จมูกโด่งรับกับดวงตาและริมฝีปากในชุดเดรสสั้นสุดเซ็กซี่ก้าวเดินออกมารับรางวัล แล้วโบกมือให้อลิษาที่นั่งชมอยู่ด้วยความดีใจ พอเสร็จงานอลิษาก็พาเธอไปนั่งสัมภาษณ์กับนักข่าวในฐานะผู้จัดการส่วนตัวและสปอนเซอร์ผู้ส่งเข้าประกวด “น้องพอลลี่ คิดว่าจะรับงานแสดงไหมคะ หรือจะรับเฉพาะงานเดินแบบอย่างเดียว” นักข่าวคนแรกถามเธอขึ้นมา “พอลลี่แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสค่ะ” สาวสวยตอบอย่างฉะฉานแล้วแจกยิ้มสวยเก๋ให้กับนักข่าว “สวยๆ แบบนี้ โสดหรือเปล่าคะ” นักข่าวถามคำถามยอดฮิต “ยังค่ะ ไม่มีใครที่คุยอยู่เป็นพิเศษ เพราะพอลลี่เรียนหนักมาก พอเรียนจบพี่อลิสก็ชักชวนให้มาประกวด ไม่มีเวลาคุยกับใครเลยค่ะ” เธอตอบแล้วหันไปยิ้มให้อลิษา ที่ตอนนี้เป็นทั้งช่างแต่งหน้าอันดับต้นๆ ของวงการและพ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของเธอ “ในฐานะที่น้องพอลลี่เป็นตัวแทนผู้หญิงที่สวยและมั่นใจในตัวเอง คิดเห็นอย่างไรกับการศัลยกรรมคะ” นักข่าวจากสำนักหนึ่งถามเธอ คาดหวังว่าจะแทงใจดำเธอเรื่องศัลยกรรม และคิดว่าเธอคงทำเป็นไม่ยอมรับเหมือนคนอื่นๆ “พอลลี่คิดว่าการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติไปแล้วในทุกวันนี้ ทุกคนมีสิทธิอยากสวย ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร” เธอตอบแล้วยิ้มให้นักข่าวที่เป็นเจ้าของคำถาม “แล้วน้องพอลลี่ได้ทำศัลยกรรมหรือเปล่าคะ” เธอถามต่อแล้วเหยียดยิ้มอย่างพอใจ ถ้าเธอตอบว่าไม่ ทุกคนก็จะได้รู้ถึงความหลอกลวงของเธอทันที เพราะทรงหน้าสวยขนาดนี้ไม่มีทางสวยธรรมชาติแน่นอน เธอหันไปมองหน้าอลิษาแล้วยิ้มให้กับคำถามนั้น ที่เป็นคำถามที่นักข่าวชอบนำมาขยี้ถามคนในวงการอยู่บ่อยๆ “พอลลี่ทำศัลยกรรมค่ะ ลดน้ำหนักจากหกสิบแปด จนตอนนี้เหลือสี่สิบเอ็ด เข้าฟิตเนสเพื่อให้หุ่นกระชับ จัดฟัน เสริมจมูก ฉีดผิว ทำหน้าวีเชฟ กว่าจะลงตัวทุกอย่างก็ใช้เวลาสี่ปี เรียกได้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย หน้าเปลี่ยนแทบทุกปีจนเพื่อนแทบจำไม่ได้เลยค่ะ แต่ว่าหน้าอกพอลลี่ของจริงนะคะ” พรปวีณ์ตอบออกมาติดตลกแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ นักข่าวและคนที่ฟังการสัมภาษณ์จากนางแบบหน้าใหม่ฮือฮาขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์รัวๆ พรปวีณ์และอลิษาคิดจะวัดดวงกับคำถามนี้ ว่าจะดังหรือจะดับ แต่อลิษาที่อยู่ทำงานเบื้องหลังมานานคาดการณ์เอาไว้ว่าการตอบคำถามของน้องสาวนั้นจะทำให้ได้ใจแฟนคลับอย่างแน่นอน ********************* ขุนพลในวันยี่สิบเก้าปี เขายังคงเป็นพระเอกที่กระแสแรงไม่มีตก นอกจากจะมีแฟนคลับและผู้ติดตามมากที่สุดในบรรดานักแสดงชายแล้ว เขายังถูกจับคู่กับนางเอกร่วมช่อง นั่นคือ พีรดา แต่ว่าขุนพลก็ทำให้มันเป็นแค่ ‘คู่จิ้น’ เพราะเขาไม่คิดที่จะสานต่อความสัมพันธ์กับเธอ ขุนพลตื่นขึ้นมาแล้วมองไปยังรูปถ่ายของงานมีตติ้งเมื่อสี่ปีที่แล้วที่ถ่ายกับแฟนคลับจำนวนสิบคน ด้านซ้ายมือของเขาคือนิตยา เธอนั้นถูกกษิณจัดการให้สารภาพความจริงไปแล้วและถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้ขุนพลอีก ไม่อย่างนั้นจะนำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะว่าได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ส่วนสาวร่างท้วมที่นั่งอยู่ตรงขวามือของเขา รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุข เธอไม่ได้หันมองกล้อง แต่กลับมองมาทางเขาด้วยสายตาแสดงความชื่นชม “ป่านนี้เธอจะไปอยู่ที่ไหนนะ ฉันยังอยากเจอเธอและขอโทษเรื่องวันนั้นอยู่ รู้หรือเปล่า” ขุนพลพึมพำแล้วยิ้มให้กับรูปนั้นที่เขาลงทุนใส่กรอบเอาไว้ กษิณเดินเข้ามาตบไหล่เขาแล้วมองที่รูปสาวน้อยร่างท้วมแล้วถอนหายใจออกมา “ยังรู้สึกผิดอยู่อีกใช่ไหม” เขาถามขุนพล “ครับพี่กบ สี่ปีแล้ว จัดงานมีตติ้งสามปีที่ผ่านมาก็ไม่มีเธอมาร่วมงานเลย เธอคงโกรธผมมาก” ขุนพลบอก “แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้างครับ” ขุนพลหันไปถามผู้จัดการส่วนตัวของเขา “วันนี้ต้องเข้าไปฟิตติ้งละครเรื่องใหม่ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนนางเอกนะ ไม่ใช่น้องดาด้าคู่จิ้นของนาย” กษิณบอกแล้วยิ้มแซวขุนพล “ดีแล้วครับ ร่วมงานกับดาด้ามาสามเรื่องติดแล้ว อยากร่วมงานกับคนอื่นบ้าง” ขุนพลบอก “ว่าแต่นางเอกที่ต้องเล่นกับผมคือใครครับ” ขุนพลถาม “น้องพอลลี่ นางแบบสุดฮอตแห่งปี เป็นนางเอกเอ็มวีมาหลายเพลงแล้วนะ นี่เป็นการแสดงละครเรื่องแรกของน้องเขา” กษิณบอก “น้องเขาคงทำใจมาแล้วใช่ไหมพี่ เรื่องนี้เห็นผู้จัดบอกผมว่าตบจูบทั้งเรื่อง มือใหม่จะไหวหรือเปล่า” ขุนพลถามขึ้นมา เขามักได้รับบทให้แสดงละครแนวนี้อยู่เสมอ จนกลายเป็นเจ้าพ่อแห่งละครตบจูบไปแล้ว เลยกลัวว่าพรปวีณ์จะรับงานนี้ไม่ไหว “ก็คงโอเคแหละ ไม่งั้นคงไม่รับงานนี้หรอก” กษิณบอกแล้วยิ้มให้ขุนพล ขณะเดียวกันพรปวีณ์ก็กำลังนั่งหน้างออยู่ เมื่อได้รับข่าวว่าตัวเองจะต้องเล่นละครคู่กับขุนพล “พอลลี่ไม่รับงานนี้ได้หรือเปล่าพี่อลิส” พรปวีณ์บอกพี่สาว “เรื่องนี้ผู้ใหญ่ขอมาเลยว่าต้องเป็นพอลลี่ วันนี้บ่ายต้องไปฟิตติ้งแล้ว ไม่ดีใจหรือไง ได้เล่นละครเรื่องแรกกับพี่ขุนพล” อลิษาถามน้องสาว “พระเอกลิ้นสว่านนั่น พอลลี่ไม่อยากร่วมงานด้วยสักนิด” พรปวีณ์บอกแล้วนึกอะไรดีๆ ออกแล้วยิ้มออกมา “งั้นพี่อลิสต้องคุยให้พอลลี่นะคะ ว่าพอลลี่ไม่ขอจูบจริง เพราะอะไรก็ได้” พรปวีณ์บอก “แต่ในเอ็มวีที่ผ่านมาพอลลี่จูบจริงมาตลอดเลยนะ” อลิษาบอก ไม่รู้ว่าจะบอกผู้หลักผู้ใหญ่ทางช่องว่าอย่างไร “พอลลี่รู้ว่าพี่อลิสทำได้ นะคะ ช่วยพอลลี่นะคะ พอลลี่ไม่อยากจูบกับเขา” พรปวีณ์บอก ทำเอาอลิษาเริ่มสงสัยว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องสาวเธอจึงรู้สึกกับขุนพลต่างไปจากเดิม ********************* ช่วงบ่ายของวันนั้นพรปวีณ์เดินทางมาฟิตติ้งหรือว่าไปลองชุดทั้งหมดที่จะใช้ในการแสดงแล้วถ่ายรูปเอาไว้โปรโมตละคร เธอนั่งรอในห้องแต่งหน้าโดยมีอลิษาเป็นคนแต่งหน้าให้เธอ และแต่งหน้าให้ขุนพลที่นั่งรออยู่อีกห้องด้วย “เดี๋ยวพอลลี่ฟิตติ้งกับทีมงานนะ พี่จะไปปรึกษากับผู้จัดการของขุนพลเรื่องไม่ขอจูบจริงดูว่าจะได้หรือเปล่า แต่พี่ไม่รับรองนะ เพราะว่าพี่ไม่อยากให้พอลลี่กลายเป็นนางเอกเรื่องมาก เราต้องมีความเป็นมืออาชีพ” อลิษาบอกน้องสาว พรปวีณ์หน้างอเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจสิ่งที่อลิษาต้องการจะสื่อ เธอพยักหน้าเบาๆ อย่างไม่เต็มใจ หวังว่าพี่สาวของเธอคงคุยเรื่องนี้ได้ อลิษาเก็บกระเป๋าเครื่องสำอางเพื่อไปแต่งหน้าให้ขุนพล ตามหน้าที่ช่างแต่งหน้าที่ทางกองถ่ายติดต่อมา พอเข้าไปถึงเธอก็เริ่มแต่งหน้าให้เขา ในขณะที่พรปวีณ์กำลังลองชุดอยู่อีกห้อง “ได้ข่าวว่าอลิสเป็นผู้จัดการของน้องพอลลี่ด้วยใช่ไหมครับ” “ค่ะ ไม่คิดว่าพี่ขุนจะตามข่าวด้วยนะคะ” เธอปรายตามองไปยังกษิณที่จ้องมองมาทางเธออยู่ “พี่กบมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ไม่รู้เลยว่าอลิสจะรับเป็นผู้จัดการดาราด้วย งานแต่งหน้าก็คิวเต็มตลอดแบบนี้” กษิณพูดขึ้นแล้วยิ้มให้อลิสอย่างอ่อนโยน “ทำไมคะ กลัวว่าอลิสจะแย่งงานพี่กบหรือคะ” เธอถามเขาเชิงหยอกล้อ “ไม่หรอกครับ ก็อลิสเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าเอง ยังเด็กอยู่ในวงการนี้ ทั้งแต่งหน้าทั้งดูคิวให้น้องพอลลี่ พี่เลยชื่นชมที่อลิสเก่งมากขนาดนี้ ถ้ามีปัญหาก็ปรึกษาพี่ได้ตลอดนะครับ” ขุนพลชำเลืองมองผู้จัดการส่วนตัววัยสามสิบห้าด้วยสายตาที่สงสัย เขาไม่เคยคุยกับใครได้อ่อนโยนแบบนี้ ปกติจะวางมาดเข้ม และพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นทางการ ทีมงานสาวๆ ที่เข้ามาพูดคุยเขาก็ยังไม่เคยแล แต่กลับแพ้ทางอลิษาที่เป็นสาวประเภทสอง “เดี๋ยวอลิสแต่งหน้าให้พี่ขุนเสร็จขอคุยกับพี่กบหน่อยนะคะ” อลิษาบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะแต่งหน้าขุนพลต่ออย่างตั้งใจ โดยมีกษิณมองเธอด้วยแววตาที่ดูชื่นชมและเอ็นดูอยู่ในที *********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD