“พี่ของขวัญคนนี้คือคุณอาของหนู ที่หนูบอกว่ามาส่งหนูที่โรงเรียนแทนคุณพ่อและหน้าเหมือนคุณพ่อของหนู” เฟรชพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแนะนำคุณอาของตัวเองให้พี่สาวคนสนิทได้รู้จัก
“คุณพ่อหรอน้องเฟรช” แน่นอนว่าคำว่าคุณพ่อดังเข้าหูของขวัญ ปากเล็กกระจับได้รูปก็ไม่รอช้าถามกลับไป
“คนนี้ไม่ใช่คุณพ่อน้าแต่เป็นคุณอา”
“คุณแม่ขาแล้วคุณพ่อของหนูล่ะ คุณพ่อของหนูอยู่ไหนหรอคะคุณแม่” ของขวัญไม่รอช้าที่จะถามขึ้น
ถึงที่ผ่านมาจะไม่เคยถามไถ่เรื่องนี้กับคุณแม่แต่ตอนนี้ความอยากรู้ที่มีอยู่ในใจมันไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้อีกแล้ว อยู่ที่นี่ไม่เหมือนที่นู่น ผู้คนที่นี่พูดถึงคนในครอบครัวมากมายและพากันแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักและของขวัญเองก็อยากมีคุณพ่อให้พูดถึงเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
“ขะ…ของขวัญ” ในตอนนี้พราวมุกได้แต่เอ่ยเรียกลูกสาวเสียงสั่น
เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรทำไมลูกสาวของเธอถึงถามแบบนี้ทั้งที่ผ่านมามันไม่เคยมีสักครั้งที่ลูกสาวของเธอจะถามอะไรถึงคุณพ่อ
“คุณแม่ขา คุณพ่ออยู่ไหนหรอคะ”
หัวใจคนเป็นแม่แทบจะร่วงหล่นตรงที่พื้น อยากพูดออกไปเต็มปากว่าคุณพ่อที่ลูกสาวกำลังถามหาคือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแต่ทว่าเธอกลับพูดออกไปไม่ได้
ทุกอย่างที่เมฆหมอกทำกับเธอมันคือตราบาป คอยย้ำเตือนให้หัวใจของเธอเจ็บปวดในทุกๆครั้งที่คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
“เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยไปคุยกันที่บ้านนะคะแล้วคุณแม่จะอธิบายทุกอย่างให้หนูฟัง”
แน่นอนพราวมุกรู้ดีว่าเรื่องนี้จะมาพูดตรงนี้ไม่ได้ เธอจะให้เมฆหมอกรู้ไม่ได้ว่าของขวัญคือลูกสาวเพราะผู้ชายคนนี้คงไม่เหมาะจริงๆกับการเป็นพ่อคน
ที่ผ่านมาเขาเป็นยังไงพราวมุกรู้ดี ถึงเวลาจะผ่านพ้นมาถึงหกปีแล้วแต่พราวมุกก็มั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ยังเหมือนเดิมในตอนที่ผ่านมา
“แต่หนูอยากรู้ตอนนี้”
“ถ้าหนูเชื่อคุณแม่และเป็นเด็กดี คุณแม่จะพาไปเล่นบ้านบอล”
พราวมุกได้แต่พูดหลอกล่อให้ลูกสาวคล้อยตาม ใบหน้าสวยหันมองเมฆหมอกที่ตอนนี้มีแต่ความอยากรู้และสงสัย มันก็คงไม่แปลกเพราะหากเธอเป็นเขา เธอก็คงสงสัยในเรื่องนี้ไม่น้อย
“กินไอศกรีมเสร็จไปได้เลยไหมคะ”
“คุณแม่แล้วแต่หนูเลยค่ะ”
“หนูไปด้วยได้ไหมคะคุณอา หนูอยากไปเล่นบ้านบอลกับพี่ของขวัญ” เฟรชหลานสาวของเมฆหมอกถามขึ้นเพราะการได้เล่นกับพี่ของขวัญสนุกมาก หากได้เล่นด้วยกันอีกครั้งก็คงดีไม่น้อย
“แล้วพี่เฟรชไม่อยากไปซื้อแคร์แบร์แล้วหรอคะ”
“เล่นบ้านบอลก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ งั้นเล่นบ้านบอลเสร็จคุณอาจะพาไปนะคะ”
แน่นอนว่าเมฆหมอกไม่ขัดอะไร ดีเหมือนกันหากพาหลานสาวไปเล่นบ้านบอลกับลูกสาวของพราวมุกเพราะมันจะทำให้ตัวของเมฆหมอกมีโอกาสได้คุยกับพราวมุกอีกครั้ง
ถึงเธอจะไม่ได้อยากคุยกับเขาก็เถอะแต่ก็นั่นแหละ เมฆหมอกขอพยายามดูหน่อย ขอพยายามถามถึงความอยากรู้ที่มีอยู่ในใจ
“แต่ตอนนี้เด็กๆกินก่อนน้า ช้ากว่านี้ไอศกรีมละลายหมดแน่ๆ”
“เย๊ย ! หนูจะกินแล้วค่ะคุณแม่”
“หนูด้วยค่ะ”
หลังจากที่เด็กๆต่างวัยทั้งสองคนกินไอศกรีมกันเสร็จ ทั้งพราวมุกและเมฆหมอกก็ไม่รอช้าพาเด็กๆตรงมายังชั้นบนสุดที่เป็นบ้านบอลและแน่นอนว่าสองแสบไม่รอช้าเดินจับมือเข้าไปเล่นด้วยกัน ส่วนผู้ปกครองทั้งสองก็ได้แต่นั่งรออยู่ข้างนอก
“พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพราว”
“พราวไม่มีอะไรจะคุยกับพี่”
ไม่ผิดจากที่พราวมุกคิดไว้เท่าไหร่เพราะเธอรู้ดีว่าหากนั่งกันอยู่สองคนแบบนี้ เมฆหมอกคงไม่ทิ้งโอกาสที่จะคุยกับเธอ
“คุณพ่อของขวัญเขาไปไหนหรอ ทำไมลูกสาวของพราวถึงถามแบบนั้น”
แต่คำถามที่ได้ยินกลับทำหัวใจของพราวมุกกระตุกเพราะอะไรกันเขาถึงถามแบบนี้ เป็นเพียงความอยากรู้และความสงสัยใช่ไหม เขาคงไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่าหรอกใช่ไหม
“มันไม่ใช่เรื่องของพี่เมฆนะคะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของครอบครัวพราว” พราวมุกได้แต่สวนกลับไป เธอไม่อยากคุยเรื่องนี้เพราะมันเกี่ยวกับเมฆหมอกเต็มๆ
“พี่แค่เป็นห่วง กลัวว่าเขาทอดทิ้งพราวให้เลี้ยงลูกคนเดียวเพราะคำพูดของขวัญมันทำให้พี่คิดไปแบบนี้”
“สามีพราวเขาแค่ไปทำงานค่ะ ห่างพ่อนานๆมันเป็นธรรมดาของเด็กที่จะเรียกหา”
พราวมุกโกหกออกไปคำโต แท้จริงสามีของเธออะไรนั่นไม่มีหรอก มันจะไปมีได้ยังไงในเมื่อหัวใจของเธอไม่เคยเปิดรับใครแต่ที่ต้องโกหกออกไปแบบนี้ก็เพื่อที่ผู้ชายคนนี้จะได้เลิกยุ่งวุ่นวายกับเธอสักที
“พี่เข้าใจแล้วแต่พี่ขอถามอะไรอีกอย่างได้ไหม”
“พี่เมฆที่พราวพูดไปก่อนหน้าไม่เคยเข้าใจเลยหรอคะ”
“พี่อยากรู้ว่าพราวทิ้งพี่ไปทำไม”
“…”
พราวมุกไม่ตอบอะไรกลับไป เธอไม่อยากพูดหรือแม้แต่คิดถึงเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เมฆหมอกถามขึ้นมาภาพต่างๆก็ฉายซ้ำในหัวของเธอจนทำให้เธอเจ็บปวด หากเลือกได้เธออยากลืมมันและไม่ย้อนกลับไปให้คิดถึงมันอีก
“ตอบคำถามหน่อยว่าพราวทิ้งพี่ไปทำไม”
“เป็นไปได้หากเจอกัน พี่เมฆไม่จำเป็นต้องทักพราว”
เพราะพราวมุกอยากให้เป็นแบบนี้ หากรู้ว่ากลับมาประเทศไทยแล้วทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ เธอขอไม่กลับมาจะดีกว่า
“พราวพี่อยากรู้ว่าพี่ทำอะไรผิด พราวทิ้งพี่ไปทำไม”
“ในตอนนี้พี่เมฆควรให้เกียรติพราว ให้เกียรติลูกของพราวและสามีของพราว”
“แล้วพี่ไม่ให้เกียรติตรงไหน”
สำหรับเมฆหมอกตอนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรที่มันเกินหน้าเกินตา เขาแค่ถามไถ่ไม่ได้ทำอะไรที่มันออกไปในเชิงชู้สาวเลยด้วยซ้ำ
“ตรงที่พี่เมฆมาวุ่นวายกับพราวไง”
แต่มันไม่ใช่สำหรับพราวมุกเพราะการที่เมฆหมอกกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้งมันมีแต่ความอึดอัด เธอไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือวุ่นวายอีกแล้ว
“พี่แค่อยากรู้เพราะมันคือสิ่งที่ติดอยู่ในใจของพี่มาตลอดหกปี”
“พราวบอกพี่ได้ไหมว่าพราวทิ้งพี่ไปทำไม”
“มันไม่สำคัญหรอกค่ะว่าพราวไปเพราะเหตุผลอะไรเพราะยังไงแล้วตอนนั้นเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
เป็นจริงตามที่พราวมุกพูดออกไป จะถามหาเหตุผลไปทำไมในเมื่อตอนนั้นแม้แต่สถานะก็ไม่มี ในเมื่อไม่มีสถานะจะอยู่หรือจะไปมันก็มีค่าเท่ากัน มันก็ไม่ผิดหรอกหากเธอจะเดินจากไปจากความเสียใจที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
“จะไม่เป็นอะไรกันได้ยังไงล่ะพราว”
“แล้วเราเป็นอะไรกันคะพี่เมฆ”
“พราวนอนให้พี่กอดทุกคืน มีอะไรกันก็บ่อย จูบและหอมแก้มกันทุกวัน ไปไหนด้วยกันตลอดแล้วแบบนี้จะไม่เป็นอะไรกันได้ยังไง”
ในตอนนี้พราวมุกแทบจะหัวเราะออกมาจากคำพูดของคนตรงหน้า เขาพูดออกมาได้ไม่อายปาก คำพูดของเขามันพูดถึงเชิงว่าเธอและเขาเป็นคนรักกัน ให้ตายเถอะ ! กล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง
“พี่เมฆก็ทำแบบนี้กับทุกคนไม่ใช่หรอ” พราวมุกถามกลับไปทันทีเพราะทุกสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดออกมา เขาไม่ได้ทำกับเธอเพียงคนเดียวแต่เขาทำกับทุกคน
“พราว”
“คือพี่…”
“ขอร้องนะคะพี่เมฆ อย่ามาวุ่นวายอะไรกับพราวอีก สงสารลูกของพราวหน่อย”
ในตอนนี้พราวมุกได้แต่มองไปยังลูกสาวของเธอ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันถูกหรือผิดแต่เธอไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บปวดเหมือนเธอ
การที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้มันดีแล้ว เธอมีหน้าที่แค่อธิบายในสิ่งที่ลูกถามหา บอกลูกด้วยเหตุผล ถึงทุกๆอย่างจะเป็นคำโกหกแต่มันก็ดีกว่าการรู้ความจริงเพราะผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะเลยที่จะเป็นพ่อของใคร
จะว่าเธอปิดโอกาส พรากพ่อพรากลูกก็ได้แต่ความเจ็บปวดที่เธอเจอมันยังคงตราตรึงในใจ ความรู้สึกแบบนั้นเธอไม่อยากให้ลูกพบเจอ
“แต่พี่ไม่ได้ทำอะไรในทางไม่ดีเลยนะพราว”
“คนอื่นที่มองมาเขาไม่รู้ด้วยไง คิดดูสิคะหากสามีของพราวมารู้มันจะเป็นยังไง”
“พราวมีสามีแล้วจริงๆหรอ” เมฆหมอกได้แต่ถามกลับไป
ถึงความจริงตรงหน้าจะยืนยันได้แต่เขาไม่อยากจะเชื่อ อยากให้ทุกอย่างเป็นเพียงความฝันและเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าพราวมุกยังอยู่ข้างๆกัน
“ถ้าพราวไม่มีลูกของพราวจะเกิดมาได้ยังไง”
“ของขวัญอายุเท่าไหร่”
เมฆหมอกไม่เห็นสามีของพราวมุกเลยมันพอจะทำให้เขาคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ไหนจะตอนที่ของขวัญถาม พราวมุกดูตกใจและสีหน้าก็ฉายถึงความกังวลได้อย่างชัดเจน ถึงจะไม่มั่นใจแต่ทุกอย่างก็มีโอกาสไม่ใช่หรอ
“ทำไมคะ” พราวมุกได้แต่ถามกลับไป
เธอกังวลไม่น้อยทำไมเมฆหมอกถึงถามเธอแบบนี้ เขาคงไม่รู้อะไรหรอกใช่ไหม คำพูดของลูกสาวอย่างของขวัญคงไม่ได้ทำให้ผู้ชายคนนี้คิดอะไรหรอกใช่ไหม
“ของขวัญดูโตกว่าพี่เฟรชหลายปี พี่แค่อยากรู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่”
“ลูกของพราวอายุเท่าไหร่มันไม่เกี่ยวกับพี่เมฆเลย”
แน่นอนว่าพราวมุกไม่มีทางบอกออกไปเพราะหากบอกไปแล้ว เขาฉลาดมากพอก็คงประติประต่อเรื่องต่างๆได้และพราวมุกไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“พี่แค่เห็นว่าเขาเล่นด้วยกันได้ก็เลยอยากพามาเล่นด้วยบ่อยๆ” ถึงแม้ความจริงจะไม่ได้ถามออกไปเพราะเหตุผลนี้แต่เมฆหมอกก็ต้องโกหกออกไป
“ที่โรงเรียนเขาก็เจอกันค่ะ ส่วนข้างนอกทางที่ดีไม่ควรจะดีกว่า”
“ตอนนี้พี่ต้องเลี้ยงพี่เฟรชคนเดียว พี่เองก็อยากให้เขามีเพื่อนเพราะอยู่กับคุณอาอย่างพี่ ยังไงมันก็ไม่ดีเท่าอยู่กับคุณพ่อคุณแม่”
“จะหาว่าพราวเห็นแก่ตัวก็ได้นะคะแต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับพราว”
เป็นจริงตามที่พราวมุกพูดออกมา เรื่องในครอบครัวของเมฆหมอกมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ ใครจะเลี้ยงหลาน คุณพ่อคุณแม่ของหลานจะไปไหน ไม่ได้อยู่กันหรือแม้แต่เหตุผลอะไรมันไม่เกี่ยวกับเธอเลยจริงๆ
“ดูสิพราวว่าพวกเขาเล่นด้วยกันแล้วมีความสุขมากแค่ไหน หากได้เล่นด้วยกันทุกวันพี่ว่ามันคงจะดีไม่น้อย”
“พี่เมฆแค่พราวเจอพี่ในตอนนี้พราวก็ลำบากใจมากแล้วนะ”
“งั้นพราวตอบคำถามพี่มาหน่อยว่าที่ผ่านมาพราวทิ้งพี่ไปทำไมและหายไปไหนมา”
❤️
มันเพราะอะไร เพราะอะไรทำลูกสาวเราเจ็บขนาดนี้