“มีอะไรทำไมถึงเรียกกูมาแบบนี้” กอล์ฟถามขึ้นทันทีเมื่อมาถึงเพราะในตอนที่เพื่อนสนิทอย่างเมฆหมอกโทรไป น้ำเสียงของมันไม่ดีเลย
“กูเจอพราวมุก” เมฆหมอกตอบกลับมาตามตรงเพราะที่ตัวเขากำลังเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะพราวมุกคนที่เขาเจอเมื่อเช้า
ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เมฆหมอกคิด พราวมุกคนรักของเขาตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เธอมีความสุขกับชีวิตเริ่มใหม่และเดินหน้าต่อไปไกลมากแล้วต่างจากเมฆหมอกคนนี้ที่ยังอยู่ที่เดิม
“เด็กผู้หญิงผมเปียเมื่อหกปีก่อนน่ะหรอไอ้เมฆ”
“พราวแต่งงานมีครอบครัวและมีลูกแล้วไอ้กอล์ฟ” เมฆหมอกพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อบอกความจริงที่รู้มาให้เพื่อนสนิทได้รับรู้
กอล์ฟคือเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย เขารับรู้เรื่องราวทุกอย่างว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเมฆหมอกเป็นยังไง มีความสัมพันธ์กับใครหรือแม้กระทั่งจบความสัมพันธ์กับใคร
“ลูกสาวของพราวแม่ง ! น่ารักเหมือนเธอเลย” เป็นจริงตามที่เมฆหมอกพูดออกไป ลูกสาวของพราวมุกน่ารักมาก ใบหน้าก็สวยถอดแบบคนเป็นแม่มาไม่มีผิดเพี้ยน
“เห้ยๆ ! ไอ้เมฆมึงร้องไห้”
“ฮึก…กูไม่รู้ว่าทำไมกูถึงรู้สึกแบบนี้ ทั้งๆที่กูควรจะดีใจกับพราวสิที่เธอแต่งงานมีครอบครัวแล้ว”
“เพราะมึงรักและมึงรอเขามาตลอด”
แน่นอนว่ากอล์ฟรู้อยู่เต็มอกและเข้าใจดีว่าทำไมเพื่อนสนิทถึงรู้สึกแบบนี้ ก็คงเป็นเพราะยังรักและยังรอ ถึงจะมารักในตอนที่เขาทิ้งไปแต่ก็รักมาตลอดถึงหกปี
หลังจากที่พราวมุกหายไป เมฆหมอกก็ต่างไปจากเดิม จากที่เคยมั่วผู้หญิงก็กลับไม่มี รักเพียงแต่พราวมุกและไม่มีความสัมพันธ์กับใครคนไหนมานานถึงหกปี
“กูจะทำยังไงดีไอ้กอล์ฟ”
“มึงทำอะไรไม่ได้แล้ว ในเมื่อน้องเขาแต่งงานมีครอบครัวแล้วนั่นหมายความว่ามึงไม่มีสิทธิ์”
ในตอนนี้กอล์ฟได้แต่เตือนสติเพราะมันเป็นจริงตามที่กอล์ฟพูด เมฆหมอกทำอะไรไม่ได้อีกแล้วเพราะสถานะของอีกฝ่ายมันไปไกลจนไม่อาจเอื้อมถึง
“กูยังไม่รู้เลยว่าพราวทิ้งกูไปทำไม ทิ้งไปเพราะอะไรทั้งๆที่ตอนนั้นเราสองคนก็อยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี” เมฆหมอกได้แต่พูดขึ้นพร้อมคิดย้อนไปถึงช่วงเวลาในอดีต
“ดีหรอ”
“มันก็ดี”
“มึงมั่นใจได้ยังไงว่ามันดี ทั้งๆที่ตอนนั้นมึงกับน้องเขาไม่ได้มีสถานะอะไรต่อกัน”
“มึงทำตัวเหลวไหลแค่ไหนมึงรู้ดีไอ้เมฆ เอาไปทั่ว คั่วไม่เลิกทั้งๆที่มีน้องเขา”
“ก็เพราะตอนนั้นมันไม่มีสถานะ”
แน่นอนถึงตอนนั้นความสัมพันธ์มันจะดีมากแค่ไหนแต่ทว่าเมฆหมอกกับพราวมุกไม่มีสถานะต่อกัน ไม่ใช่ว่าพราวมุกไม่ต้องการแต่เมฆหมอกไม่เคยให้
“แล้วตอนนี้จะเรียกร้องอะไร มันไม่แปลกที่น้องเขาจะหายไปเพราะตอนนั้นมึงกับน้องเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ”
“แต่กูรักพราว รักฉิบหายเลยมึงได้ยินไหมไอ้กอล์ฟ”
“มึงมารักตอนที่น้องเขาหายไปตอนที่เขาไม่อยู่กับมึงแล้ว”
ก่อนหน้านั้นเมฆหมอกไม่เคยแม้แต่จะรู้สึกอะไรกับพราวมุก มีไว้เพื่อสนองความต้องการของตัวเองและยังมีคนอื่นอีกมากมายลับหลังพราวมุกเพราะเพียงคำว่าไม่มีสถานะต่อกัน มันทำให้เมฆหมอกไม่คิดอะไรมาก
อยากไปกับใครก็ไป อยากทำอะไรกับใครก็ทำ โดยไม่คิดถึงจิตใจของคนที่กำลังมีความสัมพันธ์ด้วย เอาที่ตัวเองมีความสุขและสนุก
“แม่ง ! กูแม่งไม่น่าเหี้ยเลย”
แน่นอนว่าเมฆหมอกรู้ตัวว่าตัวเองไม่น่าทำตัวเหลวแหลกแบบนั้นแต่เหตุผลนี้คงไม่ใช่เหตุผลที่พราวมุกจะทิ้งเขาไปหรอกเพราะหากเธอจะทิ้ง เธอคงทิ้งไปนานแล้วจะรอเวลามีความสัมพันธ์ต่อกันมาทำไม
“ตอนนี้มึงทำอะไรไม่ได้แล้ว มึงต้องมูฟออนอย่าเข้าไปทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก”
“ถ้ามูฟออนได้กูคงทำได้ไปแล้วไม่รอให้เวลาผ่านมาถึงหกปีหรอก”
เป็นจริงตามที่เมฆหมอกพูดเพราะเขาทำไม่ได้จริงๆ ทุกวันได้แต่เฝ้ารอและคิดถึงพราวมุกอยู่ตลอด จนเมื่อเจอกันทุกอย่างก็เหมือนพังทลายลงเมื่อรู้ว่าเธอแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
“งั้นก็อยู่เฉยๆอย่าเข้าไปวุ่นวายกับเขา ท่องเอาไว้ว่าเขามีครอบครัวแล้วและตอนนี้มึงคือคนนอก”
“กูทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆหรอวะ”
“ถ้ามึงแต่งงานมีคนรักมีลูก แล้วมีคนอื่นมาวุ่นวายกับเมียมึง มึงจะชอบไหมไอ้เมฆ”
“ก็ไม่”
หากเป็นเมฆหมอกเขาก็คงไม่ชอบและรู้สึกไม่ดีแต่ในตอนนี้เขาขอเป็นคนเห็นแก่ตัว ขอเข้าไปยุ่งวุ่นวายถามไถ่เหตุผลได้ไหมว่าพราวมุกทิ้งกันไปทำไมเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเมฆหมอก
“ใจเขาใจเรา อย่าไปยุ่งวุ่นวายเลย น้องเขาไปไกลแล้วมึงก็ควรเดินต่ออย่าหยุดแค่ที่เดิมตรงนี้”
“ก็แค่อยากรู้ว่ากูทำอะไรผิด ทำไมพราวถึงทิ้งกูไป”
“มึงไม่น่าถามนะ การกระทำของมึงเมื่อก่อนมันไม่ใช่เล่นๆแต่เรียกว่าโคตรจะเหี้ย”
“แต่พราวก็ไม่เคยไปไหน มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก”
หากพราวมุกจะทิ้งกันไปเพราะเหตุผลนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเมฆหมอกเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก มันต้องเป็นอย่างอื่นอะไรสักอย่างที่นอกเหนือจากนี้
“มึงคิดว่าคนคนหนึ่งจะทนกับอะไรเดิมๆได้หรอวะ”
“ไม่เอาไม่พูดแล้ว กูจะเลิกวุ่นวายก็ได้แต่กูขอรู้เหตุผลก่อนว่าทำไมพราวถึงไปจากกู”
ถึงจะพูดออกไปแบบนี้แต่เมฆหมอกก็ไม่มั่นใจหรอกว่าหากรู้เหตุผลแล้วจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า ส่วนคำพูดของเพื่อนสนิทอย่างกอล์ฟก็ทำให้ตัวของเมฆหมอกคิดไม่ตกกับคำว่าทนกับอะไรเดิมๆ
ทุกอย่างทุกเหตุผลก็ดูจะเป็นไปได้หมดว่าพราวมุกทิ้งไปทำไมแต่เมฆหมอกอยากรู้ความจริง อยากรู้จากปากของพราวมุกว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่
“จากที่มึงเล่าน้องเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับมึงด้วยซ้ำ มึงก็ไม่ควรเสนอหน้าไปยุ่งอะไรกับเขาอีก”
แน่นอนพราวมุกแสดงออกชัดเจนแต่มันก็ไม่แปลกเพราะมันคงเป็นเรื่องปกติของคนมีครอบครัวแล้ว คนที่ไม่ปกติคือตัวเขาที่ยังจะเข้าไปวุ่นวายเพียงเพราะอยากรู้เหตุผล
ตกเย็น
“คุณอาขาอย่าลืมแคร์แบร์เฟรชสองตัวน้า” ทันทีเมื่อถึงห้างสรรพสินค้าหลานสาวตัวน้อยก็ไม่ลืมที่เอ่ยทักท้วงคุณอาถึงข้อตกลงที่ทำร่วมกัน
“คุณอาไม่ลืมหรอกค่ะว่าแต่พี่เฟรชจะไปซื้อแคร์แบร์ก่อนหรือว่าไปกินไอศกรีมก่อนดีคะ”
“กินไอศกรีมค่ะ”
“คุณอาพาไปค่ะ” คุณอาอย่างเมฆหมอกไม่ขัดอะไรได้แต่จับมือหลานสาวตัวน้อยเดินตรงไปยังร้านไอศกรีม
“คุณอาโต๊ะเต็มหมดเลย” ใบหน้าที่แสนจิ้มลิ้มเบะลงเพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้กินไอศกรีมในตอนนี้เพราะผู้คนในร้านนั่งเต็มทุกโต๊ะ
“คุณอาเหมือนจะเจอคนรู้จัก เราไปนั่งกับเขาไหมคะ”
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรเพราะตอนนี้พราวมุกกับลูกสาวของเธอกำลังนั่งอยู่ในร้านและแน่นอนเมฆหมอกก็ไม่รอช้าที่จะถามหลานสาวออกไป
“ได้เลยเฟรชโอเค” หลานสาวอย่างเฟรชก็ไม่รอช้าที่จะตอบตกลงเพราะมันดีกว่าการไม่ได้กินไอศกรีม
“น้องเฟรช !” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของของขวัญเอ่ยทักอีกคนขึ้นทันทีเพราะน้องเฟรชน้องที่โรงเรียนกำลังอยู่ในร้านไอศกรีมเดียวกันกับเธอ
“เย๊ย ! พี่ของขวัญ” เฟรชเองก็ไม่รอช้าเรียกชื่อคนพี่เพราะไม่คิดเลยว่าจะเจอกันนอกโรงเรียนแบบนี้
“น้องเฟรชมากินไอศกรีมหรอ”
“ใช่แล้วแต่ไม่มีโต๊ะนั่งเลย คุณอาเลยบอกว่าจะพามานั่งกับคนรู้จัก”
“พี่นั่งด้วยได้ไหมพราว” เมฆหมอกไม่รอช้าถามขึ้น
ในเมื่อเด็กๆรู้จักกันจะรออะไรอีก ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะมาขอนั่งด้วยและในตอนนี้ทุกอย่างก็ลงล็อกพอดี ดูไม่เหมือนการจงใจเข้าหาสักเท่าไหร่
“คุณแม่รู้จักหรอคะ เมื่อตอนเช้าคุณแม่บอกว่าเขาคือคนไม่สำคัญ” ของขวัญถามออกด้วยความไร้เดียงสาแต่ทว่าคำพูดกลับทำหัวใจของเมฆหมอกกระตุกไม่น้อยกับคำว่าคนไม่สำคัญ
ก็คงจะจริงเพราะตอนนี้เขาคงไม่สำคัญอะไรอีกแล้วสำหรับพราวมุก !
“อะ…อ้าว ! แล้วแบบนี้เฟรชจะได้กินไอศกรีมไหมคะคุณอา” เฟรชถามกลับไปอีกครั้ง
ในตอนนี้หนูน้อยห่วงกินมากกลัวว่าจะไม่ได้กินเพราะคุณอาของตัวเองกับคุณแม่ของพี่ของขวัญดูเหมือนจะ…
จะอะไรสักอย่างที่เหมือนจะไม่ดีเลย !
“ได้กินค่ะคนสวย หนูนั่งได้เลยน้า” พราวมุกพูดขึ้นทันทีเพราะในตอนนี้เธอไม่อยากเอาความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้เด็กน้อยอีกคนต้องรู้สึกแย่กับการไม่ได้กินของอร่อย
“ขอบคุณค่ะคุณแม่พี่ของขวัญ” ใบหน้าสวยได้แต่ยกยิ้มกับคำพูดของเฟรช
ไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าเด็กผู้หญิงที่มากับเมฆหมอกจะเป็นหลานสาว คิดไว้ว่าเขาคงโกหกแต่ทว่าเรียกกันคุณอาแบบนี้ก็คงเป็นเรื่องจริงที่ว่าเขายังไม่มีครอบครัว
และเรียกคุณอาแบบนี้พราวมุกก็พอจะเดาได้ว่าน้องเฟรชเด็กผู้หญิงคนนี้คงเป็นลูกสาวของพี่ชายฝาแฝดของเมฆหมอก
“ว่าแต่ของขวัญรู้จักน้องด้วยหรอคะ” อดไม่ได้ที่คนเป็นแม่จะถามขึ้นเพราะลูกสาวของเธอดูเหมือนจะโตกว่าหลายปี
“วันนี้คุณครูพาไปทำความรู้จักค่ะ ให้เล่นด้วยกันก่อนจะเริ่มเรียนจริงพรุ่งนี้ หนูเลยได้รู้จักกับน้อง” ของขวัญตอบกลับไปตามตรงพร้อมกับยกยิ้ม
น้องเฟรชถือเป็นเพื่อนในโรงเรียนคนแรกของเธอเลย ถึงจะเด็กกว่าแต่กับเล่นด้วยกันได้เป็นอย่างดี
“พี่ของขวัญคนนี้คือคุณอาของหนู ที่หนูบอกว่ามาส่งหนูที่โรงเรียนแทนคุณพ่อและหน้าเหมือนคุณพ่อของหนู”
“คุณพ่อหรอน้องเฟรช”
“คนนี้ไม่ใช่คุณพ่อน้าแต่เป็นคุณอา”
“คุณแม่ขาแล้วคุณพ่อของหนูล่ะ คุณพ่อของหนูอยู่ไหนหรอคะคุณแม่”
❤️
จุกอก ! หลานสาวถามหาพ่อแล้ว 🥹