สั่งสอน
“แน่ใจหรือว่าอยากไปเกาะส่วนตัวของผม” น้ำเหนือเอ่ยขึ้นเมื่อได้รับรู้ความประสงค์ของหญิงสาวที่ตนเองแอบรักมานาน
“ค่ะ สะดวกหรือเปล่าละ”
“ผมสะดวกอยู่แล้ว แต่ว่าสรเถอะ... ต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวไม่กี่วันนี้แล้ว ไม่ใช่หรือ” คำถามทำให้ใบหน้าหวานหม่นลง
“เอ่อ...” น้ำเหนือรู้สึกผิดขึ้นมาครามครัน แต่จะไม่ให้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลย ก็ดูกระไรอยู่ อีกทั้งในใจลึกๆแอบอิจฉาหนุ่มคนนั้นอยู่มาก หากเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้ใหญ่หวังไว้ เท่ากับว่าเขาเองก็มีสิทธิ์เดินหน้าตามความต้องการของตัวเองได้
“ก็เพราะแบบนี้ไง สรเลยต้องมาที่นี่” สีหน้าเศร้าหม่นเอ่ยบอก คนฟังตาโต
“หมายความว่าไง?” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหู
“เหนือก็รู้เรื่องนี้ดีทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?” เพราะเธอคิดว่าน้ำเหนือคือเพื่อนแท้ เธอจึงไม่ปิดบังเรื่องนี้ ซึ่งเธอคิดว่า หากได้ระบายความอึดอัดกับใครได้บ้าง ในอกของเธอคงไม่หนักอึ้ง น้ำเหนือหรือเหนือที่เธอชอบเรียกชื่อเล่น จึงกลายเป็นคนที่เธอเลือกให้ความไว้วางใจ
“ก็นะ” น้ำเหนือได้แต่เออออ รู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้... ผู้ใหญ่เห็นชอบ แต่อาการว่าที่เจ้าสาวครานี้ เขากับดูไม่ออก ว่าหญิงสาวเริ่มมีใจให้อีกฝ่ายบ้างหรือเปล่า เมื่อเธออยากหนีเขาคนนั้น แต่กลับไม่พาหัวใจมาด้วย!
“คืนนี้นอนพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เราค่อยว่ากันอีกทีดีกว่า” เมื่อมองดูนาฬิกา ว่าเกือบห้าทุ้มไปแล้วที่นั่งคุยกัน น้ำเหนือจึงตัดบท เขาอยากให้หล่อนนอนพักผ่อนและทบทวนความต้องการที่แท้จริงให้แน่ใจ
เมื่อส่งภัศสรเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว น้ำเหนือจึงเดินลงมาชั้นล่างของโรงแรม เขาเหลือบมองพนักงานสาว ที่เข้ากะดึกสองคน หน้าเคาน์เตอร์แล้วเดินผ่านออกไป ตากลมโตสองคู่ พร้อมใจกันมองไปยังร่างหนา ก่อนจะยกมือขึ้นป้องปาก
“คนอะไร ไว้ตัวชะมัด” สาวสวยหนึ่งในสองเอ่ยขึ้น โดยส่งสายตาตัดพ้อ ไปยังทางเดินที่อีกคนเดินหายไป
“โธ่ จะเอาอะไรมาก เรามันลูกน้อง เขาหันมาชายตาแลเพียงนิด ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“แล ว่าเราสองคนทำงานดีอยู่หรือเปล่าน่ะสิ” อาการของเพื่อนสาวยังค่อนขอด ลูกชายเจ้าของโรงแรมไม่หาย ขวัญข้าว หรือที่ใครๆ เรียกว่าน้อง ได้แต่ส่ายหน้ากับอาการเป็นเอามากของเพื่อนสาวผู้ร่วมงาน
“เธอก็เหมือนกัน ยายน้อง ทำไมไม่ทำงานในโรงแรมของพี่ชาย...” อีกฝ่ายรีบตะบมปากเพื่อน เมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนประเด็น จนแทบตั้งตัวไม่ติด
“อย่าดังไปสิ” คนไม่อยากให้เรื่องนี้เข้าหูคนอื่นมากนักร้องปรามเสียงแผ่ว คนถูกห้ามพยักหน้าหงึกๆ ฝ่ามือเรียวบางจึงดึงกลับแล้วทิ้งลงข้างลำตัว
“หรือแล้วไม่จริง” อยากเถียงและอยากรู้ ว่าในใจของเพื่อนสาว คิดยังไงกันแน่ จึงอดต่อไม่ได้ ขวัญข้าวจิกตาปรามให้หยุด แต่อีกคนหาได้สนใจ
“บอกหน่อยนะ” เสียงหวานแผ่วออดอ้อนตาปรอย ขวัญข้าวถอนหายใจยาวเหยียด อย่างรำคาญใจ พูดเรื่องคนนู่นอยู่ดีๆ ออกมาเรื่องเธอสะงั้น
ยายบ๋อง!สุดท้ายเธอได้แต่ก่นด่าเพื่อนรวมงานและทำทีสนใจงานตรงหน้า เพื่อตัดปัญหา
คนถูกปล่อยให้ค้างคาเบ้หน้าค้อนให้ แต่ครั้นยิ่งดึกก็ยิ่งง่วงเหงา หล่อนจำเป็นต้องหาเรื่องคุยกับเพื่อนอีกจนได้ “น้อย เธอว่าคุณน้ำเหนือ กับสาวสวยคนนั้นเป็นแฟนกันมั้ย” จากที่สนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าขวัญข้าวละสายตาแล้วมองใบหน้า ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ของเพื่อนสาว
“ไม่สนใจ เรื่องคนอื่น สักเรื่องจะได้มั้ย” คำพูดย้อนกลับอย่างไม่จริงจังนัก ทำให้คนอยากรู้ ชักสีหน้างอ ก่อนจะเอ่ยเสียงเง้างอด
“โธ่ จะให้คุยเรื่องไหนละ คุยเรื่องเธอก็ไม่ได้ พอจะคุยเรื่องคนอื่น ก็ไม่ได้อีก”
ขวัญข้าวถอนใจเหนื่อยๆ กับคำพูดของเพื่อนสาวร่วมงานคนสนิท ก่อนจะหยุดคิดอะไรอื่น เมื่อผู้ชายที่กำลังกลายเป็นประเด็นสนทนาเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง และน่าแปลกใจเมื่อเท้าหนาเบนเส้นทางตรงมายังพวกเธอ
“คนไหนที่ชื่อขวัญข้าว ช่วยชงกาแฟให้ผมที่ห้องทำงานหน่อยนะ” สั่งแล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้สองสาวยืนตะลึงค้างและมองหน้ากันเหมือนเห็นผี และวินาทีถัดมา สาวสวยที่ไม่ใช่นามว่าขวัญข้าว ก็เอ่ยทำลายความเงียบ
“เห็นยัง นี้ขนาดไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เรียกใช้ ยังทำหน้าขรึมเหมือนยักษ์ได้อีกและใช่หน้าที่เราเสียที่ไหน” ได้คำพูดเพื่อนตรงไปตรงมา ครานี้ขวัญข้าวนิ่งเงียบ
“อ้าว เงียบทำไม พูดอะไรบ้างสิ แล้วนี้จะไปชงกาแฟให้ว่าที่เจ้านายหรือเปล่า”
“ชงสิ” ขวัญข้าวตอบสั้นๆ อย่างขัดไม่ได้ ก็คำสั่งลูกชายเจ้าของโรงแรมก็เหมือนเจ้านายคนหนึ่งที่ลูกน้องอย่างเธอขัดไม่ได้เช่นกัน
ขวัญข้าวเดินออกจากหลังเคาน์เตอร์แล้วตรงไปยังห้องที่แยกออกไปซึ่งจัดไว้เป็นที่เฉพาะให้พนักงานได้ดื่มกินตามที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ และเมื่อชงเสร็จ ความกังวลก็เกาะกุมหัวใจ รู้สึกประหม่า เมื่อไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายดื่มกาแฟรสชาติแบบไหน เพราะนี่ ไม่ใช่หน้าที่ ที่เธอต้องทำ...
ขวัญข้าวส่งสัญญาณให้คนภายในห้องรู้ ด้วยการเคาะประตูและเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับออกมา เธอจึงเปิดประตูเข้าไป
“กาแฟค่ะ” เธอเอ่ยบอกชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังอย่างดี โดยเท้าหนาที่อยู่ในร้องเท้าหนังมันวาวพาดทับอยู่บนโต๊ะทำงาน สองมือประสานวางอยู่บนหน้าอกหนา โดยศีรษะพิงอยู่กับพนักเก้าอี้ หลับตาพริ้ม เหมือนไม่สนใจสิ่งที่เยื่อนกรายเข้ามา แต่เธอก็ต้องสะดุ้งเมื่อคนที่ทำท่าว่าจะหลับ ได้เอ่ยขึ้น