นางสาวดอกหญ้าผู้หญิงวัยยี่สิบสี่ที่เข้าสู่วัยทำงานได้ปีที่สอง เดินทางมาที่คอนโดมิเนียมอันเป็นหนึ่งในโครงการของเจคอนสทรัคชัน บริษัทรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
เจคอนสทรัคชันเป็นโลคอลแบรนด์ที่สร้างบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เรียกได้ว่ารับเหมาแบบครบวงจร ทั้งยังให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ ตกแต่งภายใน งานโยธา โครงสร้าง สถาปัตยกรรมตกแต่ง ฯลฯ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินธุรกิจมานานกว่าสามสิบปีตั้งแต่รุ่นคุณชัยวัฒน์ จารุกุล จนส่งต่อมาที่ผู้บริหารรุ่นที่สอง นายพายุ จารุกุล บุตรชายคนโต และมีรองประธานกรรมการบริหารควบตำแหน่งกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดคือนางสาว ดอกหญ้า จารุกุล บุตรสาวคนเล็ก
“แม่จ๋า คิดถึงจุงเบย” รองกรรมการบริหารโผเข้ากอดมารดา ซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกอบอุ่นเหมือนอย่างที่เคยทำ จนหนำใจแล้วถึงได้คลายอ้อมกอดจากมารดาหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พี่ชายที่ยืนอยู่ข้างกัน จึงได้โดนฝ่ามืออรหันต์ตบลงมาที่กบาลดังโป๊กอย่างไม่ปรานี “เจ็บนะพี่พายุ!”
“สมควร” มีอย่างที่ไหนแทนที่จะกอดพี่ชายเหมือนอย่างที่กอดแม่ แต่น้องสาวตัวดีกลับทำท่าทางกวนตีนใส่เขา มันน่าโดนแล้วยายดอกหญ้าเด็กแสบ
“พี่พายุอะ ชอบทำร้ายน้อง” เธอลูบศีรษะตัวเองป้อยๆ ทว่าหาได้ถือสาอะไรผู้เป็นพี่ชายไม่ นี่เป็นปกติของบ้านเธอค่ะ หยอกกันแรง แกล้งกันแรง แต่พอมีเรื่องเดือดร้อน คนแรกที่กางปีกปกป้องเธอมาตลอดตั้งแต่จำความได้ก็พายุนี่แหละ “มากอดหน่อยดิ คิดถึง ไม่ได้เจอหน้าตั้งสองอาทิตย์”
น้องเล็กประจำบ้านพูดอย่างนั้น มีหรือพี่ชายจะไม่อ้าแขนรอรับ นอกจากดอกหญ้าจะเป็นน้องสาว ในความรู้สึกพายุเจ้าหล่อนยังเป็นเหมือนลูกสาว ด้วยว่าสองพี่น้องอายุห่างกันถึงสิบสามปี อีกทั้งชัยวัฒน์จากไปตั้งแต่ดอกหญ้าอายุได้เพียงสิบขวบ ตั้งแต่นั้นมา ทั้งกิจการ แม่ แล้วก็น้องสาว ล้วนแล้วแต่อยู่ในความดูแลของเขา
ตอนที่บิดาจากไป พายุอายุเท่าดอกหญ้านี่แหละ หนุ่มวัยยี่สิบสี่ต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ แบกความรับผิดชอบ ความเสียใจ และเป็นเสาหลักของครอบครัว
“แล้วไหนล่ะหมอน่าน ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” หลายครั้งที่ดอกหญ้าเล่าเรื่องหมอหนุ่มคนรักให้ฟัง แต่เขายังไม่มีโอกาสได้เจอตัวจริงว่าที่น้องเขยเลยสักครั้ง นี่อยากเห็นใจจะขาดแล้วว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ถึงได้ทำให้น้องสาวเขาหลงหัวปักหัวปำจนหอบเสื้อผ้าไปอยู่ที่บ้านโดยที่ยังไม่ทันได้แต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสกันด้วยซ้ำ เรื่องนี้ทั้งเขาและแม่ต่างรู้ดี เพียงแค่ไม่พูดเท่านั้น ด้วยทุกอย่างเป็นไปแล้ว ไม่ใช่ว่ายอมรับได้ เราทั้งคู่เข้าใจว่าโลกเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกของคนที่เป็นแม่เป็นพี่ อย่างไรก็เจ็บปวดหัวใจอยู่ดีที่ลูกสาวทำทุกอย่างข้ามขั้นตอนไป
ถึงอย่างนั้นทั้งตัวเขาและคุณนายสมรศรีต่างยึดเอาความสุขของดอกหญ้าเป็นที่ตั้ง คอยประคับประคองหญิงสาวไป หากว่าหมอน่านฟ้ามีความรักความรับผิดชอบต่อเจ้าหล่อน ไม่ทิ้งขว้างหรือทำให้เสียใจ พวกเราก็จะรอวันที่ทั้งคู่พร้อมเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ไม่ต้องมีสินสอดมากมาย ไม่ต้องมีงานวิวาห์ใหญ่โต ขอเพียงยกย่องน้องสาวเขาในฐานะภรรยา ดูแลดอกหญ้าเหมือนอย่างที่พวกเราถนอมหญิงสาวมาก็เพียงพอแล้ว
“เดี๋ยวเย็นๆ ตามมาค่ะ ช่วงบ่ายพี่น่านเข้าคลินิก”
“เปิดคลินิกด้วยเหรอ”
“เปล่าหรอกค่ะแม่ แค่ไปรับงานพาร์ตไทม์” นายแพทย์น่านฟ้าเป็นหมอกระดูกประจำที่โรงพยาบาลเอกชน แต่หากช่วงไหนมีเวลาว่าง ชายหนุ่มจะรับงานพาร์ตไทม์ตามคลินิกเพื่อหารายได้เสริม ส่วนเรื่องเปิดคลินิกเป็นของตัวเองลืมไปได้เลย เพราะคนรักของเธอไม่ได้มีทุนรอนถึงขนาดนั้น เขาพึ่งเรียนจบเฉพาะทางมาได้เพียงสองปี จริงอยู่ที่ระหว่างเรียนต่อชายหนุ่มขยันรับงานเสริมไม่หยุดพัก แต่ค่าใช้จ่ายที่เยอะจนล้นตัว จึงทำให้เขาไม่ค่อยมีเงินเก็บสักเท่าใด
“ขยันจัง แล้วอย่างนี้หมอน่านจะมีเวลาพักผ่อนไหมล่ะนั่น”
เพราะอย่างนี้ไง เธอถึงพยายามเป็นหลังบ้านที่ดีให้นายแพทย์น่านฟ้า ด้วยรู้ว่าหน้าที่การงานและภาระทางการเงินชายหนุ่มมีมากแค่ไหน ทั้งบ้าน ทั้งรถ ล้วนแล้วแต่ต้องผ่อนทั้งนั้น เหตุนี้กระมังเขาถึงได้ทำงานตัวเป็นเกลียวแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง “ค่อนข้างน้อยอยู่ค่ะแม่”
“โธ่.. จะขยันหาเงินหาทองไปไหนกันพ่อคุณ” นางไม่ได้เอ็นดูผู้ชายที่พาลูกสาวตัวเองวิวาห์เหาะสักเท่าใด กลัวแค่ว่าถ้าใช้ร่างกายหนักไปอาจตายก่อนวัยอันควรแล้วทิ้งให้ดอกหญ้าต้องเป็นหม้าย หรือไม่ก็ป่วยไข้จนเป็นภาระให้ลูกสาวนางต้องดูแล
“เก็บเงินมาแต่งลูกสาวแม่หรือเปล่า” พายุพูดพลางเหลือบตามองน้องสาวที่ยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงรูหู ดูก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างดอกหญ้ากับนายแพทย์น่านฟ้าเป็นไปด้วยดี นี่แหละสิ่งที่พี่อย่างเขาและคุณนายสมรศรีต้องการที่สุด ความสุขของดอกหญ้ามีค่าที่สุดสำหรับพวกเราสองคน
“ค่าสินสอดให้แม่มาเท่าไหร่ แม่คืนให้หมด สมทบทุนให้ไปตั้งต้นครอบครัวด้วยอีกเท่านึง ถ้าจะแต่งงานก็บอกหมอว่าไม่ต้องกังวลใจเรื่องนี้ ส่วนงาน จัดแค่เล็กๆ ก็พอ จะได้ประหยัดงบ” ความรู้สึกคนเป็นแม่เจ็บลึกจวนเจียนจะขาดใจที่ลูกสาวหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่บ้านผู้ชาย กระนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ จะให้ไปบังคับดอกหญ้าให้เลิกกับนายแพทย์น่านฟ้าอะไรนั่น หญิงสาวคงไม่ทำตาม มิหนำซ้ำอาจเลือกหันหลังให้ครอบครัว รักมักทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง ยิ่งรักร้อนแรงในวัยหนุ่มสาวไม่ต่างจากน้ำเชี่ยวกรากที่ไม่ควรเอาความเป็นห่วงซึ่งเปรียบเสมือนเรือลำน้อยเข้าไปขวาง จึงทำได้แค่คอยดูอยู่ห่างๆ หวังในใจว่าสุดท้ายปลายทางของคนที่เป็นแก้วตาดวงใจของตนคือประตูวิวาห์ แต่หากไม่.. นางยินดีเหลือเกินที่รับดอกหญ้าคืนสู่อ้อมกอด
สองแขนเรียววาดกอดแม่และพี่ชาย หญิงสาวน้ำตาซึมกับความรัก ความเข้าใจ ที่คนทั้งคู่มีให้ตัวเอง “ขอบคุณแม่กับพี่พายุมากนะ”
วันไหนมีเวลาว่าง นายแพทย์กระดูกชื่อดังจะรับงานพาร์ตไทม์ตามคลินิกศัลยกรรมความงาม เขาใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แต่กับคลินิก โรงพยาบาล หรือไม่ก็งานประชุมวิชาการต่างๆ เพื่อเสริมความรู้ให้สมองตัวเอง
ทุกย่างก้าว นายแพทย์น่านฟ้าทำมันอย่างดีที่สุด ด้วยหวังว่าเมื่อรวินท์วิภามองกลับมา หล่อนจะเห็นว่าอดีตสามีไม่ใช่หมอกระจอกอย่างเมื่อก่อน เขาให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ แม้ไม่เท่าที่ตะวันฉายให้ แต่เธอจะมีชีวิตที่ดีแน่นอนหากหวนกลับมาหากัน
“หมอน่านขยันจังเลยนะคะ ทำทั้งงานที่โรงพยาบาลแล้วยังมารับงานคลินิกอีก เอาเงินไปเก็บไว้ไหนหมดคะเนี่ย” พยาบาลคลินิกที่เคยทำงานโรงพยาบาลเดียวกันกับหมอน่านฟ้าพูดกับชายหนุ่มหลังทำหัตถการให้ลูกค้ารายสุดท้ายเสร็จ
“ต้องรีบทำตอนที่ยังมีแรงแหละครับ ถ้าแก่ไปกว่านี้กลัวจะหาเงินไม่ไหว”
“จะเก็บตังค์แต่งงานเหรอคะหมอ” พยาบาลคลินิกยิ้มแห้งเมื่อเอ่ยแซวหมอหนุ่มแล้วเขาทำหน้าไม่พอใจ เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดอะไรผิด ก็เซลล์ความงามที่มีเพื่อนอยู่หมู่บ้านจัดสรรเดียวกันกับหมอน่านบอกว่าเห็นชายหนุ่มอยู่กับผู้หญิงไม่ใช่หรือ จะบอกว่าเป็นน้องสาว เท่าที่รู้มานายแพทย์น่านฟ้าเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง
“แต่งงานอะไรกันล่ะครับ ผมยังไม่มีแฟน” แค่บอกไปว่ายังไม่มีใคร ทำไมนุกนิกถึงทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกัน “ผมเหมือนคนมีแฟนเหรอครับ หรือว่ามีคนไปเห็นผมกับผู้หญิงที่ไหนหรือเปล่าเลยเข้าใจผิด”
หมอหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ เพราะเขาดูไม่ซีเรียส นุกนิกจึงกล้าที่จะพูดออกไป “เซลล์คลินิกเรานี่แหละค่ะ เพื่อนน้องปลายแต่ก่อนอยู่หมู่บ้านเดียวกับหมอ เพื่อนน้องปลายบอกว่าหมออยู่กับเมีย”
น้ำที่ดื่มเข้าไปแทบสำลัก ดอกหญ้าไม่ใช่เมียเขาเสียหน่อย
“หรือหมอจะบอกว่าไม่ใช่คะ” เพื่อนของเซลล์น้องปลายยังเล่าให้ฟังด้วยว่าสาวน้อยที่อยู่กับหมอน่านฟ้าน่ารักเสียจนผู้หญิงด้วยกันมองยังเคลิ้ม แล้วกับผู้ชายอย่างนายแพทย์หนุ่มจะไปเหลืออะไร
“ไม่ใช่หรอกครับ นั่นแม่บ้าน” ดอกหญ้าทำทุกอย่าง งานบ้าน ทำอาหาร ล้างจาน ขัดส้วม รวมทั้งดูแลเรื่องส่วนตัวเขา เช่นเตรียมเสื้อผ้า เอารถไปล้างที่คาร์แคร์ แม้กระทั่งต่อภาษีรถยนต์ประจำปีก็หญิงสาวนั่นแหละที่ทำ ดังนั้นคำจำกัดความของเด็กนั่นหากบอกว่าเป็น ‘แม่บ้าน’ คงไม่ผิดกระมัง
“แม่บ้าน?” แม่บ้านที่หมายถึงคนทำความสะอาดบ้านน่ะหรือ โอ้ว! หมอน่านคงเจริญหูเจริญตาน่าดูเลยเนอะมีแม่บ้านทั้งสวยทั้งสาว