9
อริศรายืนมองคอนโดกลางกรุงสุดหรูราคาค่าห้องชุดต่อห้องอย่างต่ำคือเจ็ดล้านบาท ถือว่าเป็นราคาห้องชุดที่ค่อนข้างสูง แต่อาจดูน้อยนิดสำหรับคนรวย คนมีเงินที่ส่วนหนึ่งซื้อไว้เพื่อผลกำไรในอนาคต ส่วนหนึ่งซื้อเพื่ออยู่อาศัย และมีอีกส่วนหนึ่งที่ซื้อให้เหล่าเมียน้อย เมียเก็บอยู่ ก้องภพไม่ใช่คนรวยแต่ทีอาศัยอยู่ในคอนโดนี้ได้เป็นเพราะ ปาริชาติเป็นคนซื้อให้ อริศรายืนมองอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปในตัวอาคารเพราะไม่ว่าจะยืนมันนานแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องเดินเข้าไปอยู่ดี
อริศราเดินผ่านล็อบบี้ของคอนโดที่มีชุดโซฟาหลายชุดไว้ให้คนที่พักอาศัยนั่งหรือให้คนที่มาทำธุระที่นี่นั่ง ซึ่งเวลานี้มีคนนั่งกระจายอยู่บนโซฟาหลายคน หนึ่งในนั้นคือยุพินที่มองหน้าอริศราตาไม่กระพริบ ก่อนจะยกมือถือโทรศัพท์หาเจ้านายของตน
“คุณแมนค่ะ ใช่เธอจริงๆ ค่ะ” ยุพินรายงานเมืองแมน
“อีกสิบนาทีฉันจะถึงคอนโด เธอตามขึ้นไปดูสิว่า ไปที่ห้องไอ้ก้องจริงไหม”
“ค่ะคุณแมน” แท้จริงแล้วยุพินคือคนของเมืองแมน ที่เข้ามาดูความเคลื่อนไหวของก้องภพและรายงานให้เขาทราบเป็นระยะ แผนที่ว่าให้ฤทัยรัตน์พาก้องภพไปยังสถานที่นัดหมายก็เป็นแผนของเมืองแมน เขาตั้งใจจับตัวก้องภพไปชำระความที่ทำไว้กับปาริชาติ จากนั้นก็จะจัดการลักพาตัวอริศรา ตัวต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องสาวเขาต้องตาย
ทว่าแผนการเปลี่ยนแปลงเมื่อรู้ว่า ค่ำนี้ก้องภพนัดกับผู้หญิงคนหนึ่งไว้ ตอนที่ยุพินโทรศัพท์บอกเมืองแมน เขาไม่มั่นใจว่าจะใช่อริศราหรือไม่ แต่ในใจกลับบอกว่าน่าจะใช่ เหตุผลที่คิดเช่นนั้นเป็นเพราะ ภาพที่ก้องภพกับอริศราคุยกันอย่างสนิทสนมในโรงพยาบาล และยังเดินไปธนาคารด้วยกันเพื่อเบิกเงินมาให้ก้องภพ ภาพเหล่านี้ทำให้เมืองแมนคิดว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ต่อกัน
ความเคียดแค้นโถมเข้าสู่หัวใจเมืองแมนทบทวี ก้องภพกับอริศราอยู่อย่างสุขสบาย มีความสุขด้วยกัน ปล่อยให้มารศรี มารดาของเขาต้องจมอยู่กับความเสียใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กว่าจะทำใจยอมรับการจากไปของปาริชาติได้ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร และตอนนี้มารศรีได้ใช้ธรรมะเป็นที่พักพิงจิตใจ ส่วนเด็กชายทินกร ลูกชายของปาริชาติ เมืองแมนรับหน้าที่ดูแลด้วยความเต็มใจ
เมืองแมนให้ยุพินนั่งรอดูหน้าผู้หญิงที่มาหาก้องภพ หากใบหน้าตรงกับภาพถ่ายที่เขาส่งให้ทางมือถือ ให้โทรรายงานเขาทัน และตามไปจนแน่ใจว่า อริศราไปหาก้องภพจริงหรือไม่
“ขอไปด้วยค่ะ” ยุพินบอกคนที่อยู่ในลิฟต์ที่รีบกดปุ่มให้ประตูเปิด “ขอบคุณค่ะ”
อริศรายิ้มให้คนที่เข้ามาในลิฟต์ ก่อนจะกดหมายเลขชั้น 14
“คุณไปชั้นไหนคะ” อริศราหันมาถามยุพินด้วยเสียงสุภาพและรอยยิ้มสวยงาม
“ชั้นเดียวกับคุณค่ะ” ยุพินตอบ “คุณอยู่ที่นี่เหรอคะ ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลย”
“ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ ฉันมาหาเพื่อนค่ะ”
“อ๋อค่ะ” ยุพินไม่ซักถามต่อ หล่อนเลือกยืนนิ่งเฉยทำตัวตามปกติเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย พอลิฟต์หยุดและประตูเปิดชั้นที่หมาย ทั้งคู่ก้าวเดินออกจากลิฟต์ ยุพินผ่อนการก้าวเดินให้ช้าลง แสร้งหยุดยืนรื้อค้นในกระเป๋า ราวกับหาอะไรบางอย่าง ทว่าดวงตากลับมองตามร่างอริศราที่ตอนนี้หยุดยืนหน้าห้องก้องภพ คราวนี้หล่อนหยิบของออกมาจากกระเป๋าจริงๆ สิ่งนั้นคือโทรศัพท์มือถือ
“ใช่ค่ะคุณแมน เธอไปหาก้องภพค่ะ” ยุพินรายงานให้เมืองแมนทราบ
“ขอบใจ แล้วเจอกัน” ยุพินไม่มีทางรู้ว่า ตอนนี้สีหน้าและแววตาของเมืองแมนเป็นเช่นไร ความรู้สึกของเขาตอนนี้แทบอยากฉีกเนื้อสองชายหญิงสุดชั่วให้แดดิ้นคามือ แต่อีกไม่นานเขาจะทำให้สองคนนั้นรู้ว่า การมีชีวิตอยู่แบบตายทั้งเป็นมันเป็นเช่นไร
อริศรายืนให้กำลังใจตัวเองด้วยการสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ และผ่อนออกมาแผ่วเบา เมื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองแล้ว นิ้วเรียวสวนกดไปบนกริ่งหน้าห้อง ที่ไม่นานนักบานประตูห้องได้เปิดออก ก้องภพยืนยิ้มกลางประตู
“เชิญครับ” ก้องภพเบี่ยงตัว ผายมือเชื้อเชิญแขกคนสำคัญ
“คุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ ยื่นหมูยื่นแมวตรงนี้ก็ได้”
“ถ้าไม่เข้าก็ไม่ได้” ก้องภพกอดออกพูด อริศรามองหน้าคนเจ้าเล่ห์อย่างไม่ไว้ใจ หล่อนรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ต่อรอง อริศราจำต้องก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ไหนล่ะเมมโมรี่การ์ด เอามาให้ฉันสิ จะได้เสร็จเรื่อง” อริศราไม่อยากอยู่ห้องนี้นาน หล่อนรีบเปิดเรื่องจะได้รีบเสร็จสิ้นการเจรจาต่อรอง ทว่าก้องภพกลับไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงเร็วๆ เขาเดินเข้าไปในห้อง ตรงไปยังส่วนห้องครัว เปิดตู้เย็นและหยิบน้ำหวานที่ผสมไว้เรียบร้อยเทใส่แก้ว ฉวยจังหวะที่อริศราไม่สนใจตน แอบหยดยาปลุกเซ็กซ์ที่เพิ่งมาส่งก่อนหน้าหล่อนมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงลงไปในแก้วน้ำหวาน จากนั้นก็เดินไปหาสตรีแสนสวย
“ดื่มน้ำหวานเย็นๆ ชื่นใจก่อนสิ แล้วค่อยว่ากัน”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่หิวน้ำ ฉันอยากให้เรื่องนี้จบลงเร็วๆ คุณเอาเมมโมรี่การ์ดมา ฉันเตรียมเงินมาให้คุณแล้วอยู่ในกระเป๋า”
“ก็ดื่มน้ำสักหน่อยสิ ดื่มรอฉันเดินไปหยิบของให้เธอไง” ก้องภพคิดในใจว่า อริศราคงไม่ยอมดื่มน้ำแก้วนี้แน่นอน หล่อนดูระวังตัวมาก เห็นทีเขาต้องใช้แผนใหม่เสียแล้ว “ฉันว่า เธอเดินตามฉันมาเอาของดีกว่า ฉันขี้เกียจเดินไปเดินมา”