บทที่12 รอยรัก รอยอดีต

3268 Words
บุษบาวรรณหลับสนิทคาอกของอภิวัตร เมื่ออภิวัตรเห็นว่าเมียสิ้นฤทธิ์และหลับไปแล้วจึงค่อยๆผลักออกจากร่างบางลุกขึ้นไปจัดการอาบน้ำล้างเหงื่อไคลของตัวเอง "โอ๊ยแสบ เล็บคมจริงๆเลยบุษแสบไปหมดทั้งหลัง" อภิวัตรบ่นกับตัวเองเบาๆ และยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงคนสวยในอ้อมกอดเมื่ออาบน้ำใส่ชุดนอนเสร็จอภิวัตรก็เอาผ้าชุบน้ำและบิดหมาดๆเพื่อไปเช็ดตัวให้บุษบาวรรณและใส่ชุดนอนให้จนเรียบร้อย อภิวัตรเห็นร่องรอยรักที่เขาได้ทำกับบุษบาวรรณก็นึกสงสารเพราะเห็นน้ำรักของเขาผสมกับเลือดติดอยู่ตรงหน้าขาเนียนของเมียรักก็ทำให้ยิ่งรู้สึกสงสารมากยิ่งขึ้น "ก็ตอนแรกทำเหมือนไม่เจ็บแถมยังฤทธิ์เยอะทุบตีผัวได้อยู่พี่ก็คิดว่าบุษยังไหวเลยซ้ำไปหลายรอบ สวยออกขนาดนี้รอมาจะสามปีแล้วมันก็เป็นธรรมดาไหมวะใครจะคิดว่าจะบอบบางจนสลบคาอก" อภิวัตรคิดในใจใจหนึ่งก็เข้าข้างตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารเมีย เมื่อจัดการใส่ชุดนอนให้เมียเรียบร้อยแล้วอภิวัตรก็แทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่นอนกอดเมียไว้แล้วหลับไป ย้อนไปครั้งอดีดหลังจากที่แม่หญิงบัวตกน้ำที่บ้านเศรษฐีทองคำวันนั้นและขุนเดชได้ช่วยแม่หญิงไว้ก็เป็นเวลาหลายวันผ่านไป ขุนเดชนั้นคิดถึงแม่หญิงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับจนต้องให้นายจันทร์คนสนิทพายเรือพาไปแอบมองแม่หญิงที่เรือนแพ "ไอ้จันทร์ข้ายังมิกลับเรือนหรอกหนา เอ็งพายเรือไปเรือนแพของท่านครูดาบก่อน" ขุนเดชสั่งบ่าวของตน "ขอรับท่านขุน พายไปถึงเทียบเรือแล้วจะขึ้นไปกราบท่านครูดาบหรือไม่ขอรับ" จันทร์ถามผู้เป็นนาย "พายผ่านไปเฉยๆ เอ็งจะให้ข้าขึ้นไปกราบท่านครูด้วยเรื่องอันใดเล่าข้าก็แค่อยากจะ....." ขุนเดชหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้นและคิดถึงดวงหน้าหวานของแม่หญิงคนงาม "พายผ่านไปเฉยๆ ก็ไม่เห็นหน้าแม่หญิงหรอกท่านขุน ไอ้จันทร์มีวิธีทำให้ท่านขุนได้ปะหน้าแม่หญิงนะขอรับ" จันทร์บอกผู้เป็นนายอย่างรู้ว่าใจนายนั้นคิดอะไรอยู่ "เอ่อน่า!...พายเข้าไปใกล้ๆก่อนวันนี้ไม่เห็นหน้าก็มิเป็นไรเห็นชายคาเรือนก็พอแล้วถ้าบุญข้ามีคงได้พบหน้าแม่หญิงในวันนี้" ขุนเดชพูดขึ้นหลังจากที่เข้าไปทำราชการในวังแล้วกลับเรือนแต่ก็ให้คนสนิทพายเรือมาอีกทางเพื่อมาแอบมองสาว ทำแบบนี้มาหลายคราแล้วแต่ก็ไม่เคยได้ปะหน้าแม่หญิงคนสวยเสียที แต่วันนี้บุญกุศลหนุนนำทำให้ขุนเดชได้พบแม่หญิงที่กำลังนั่งร้อยมาลัยดอกมะลิอยู่ที่เรือนแพ "นั่นครับท่านขุน แม่หญิงของท่านขุนนั่งร้อยมาลัยอยู่ที่เรือนแพจริงๆด้วย จะให้บ่าวพ่ายเข้าไปเทียบเรือนแพเลยหรือไม่ขอรับ" จันทร์ถามผู้เป็นนายน้ำเสียงตื่นเต้น "ไม่ต้องพายไปเฉยๆ" ขุนเดชสั่งบ่าวของตัวเองเมื่อเรือผ่านหน้าเรือนแพของแม่หญิงไปแม่หญิงที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้อยมาลัยอยู่ก็ไม่ได้หันมามองเห็นขุนเดชที่กำลังนั่งเรือผ่านไป ขุนเดชได้แต่มองคนสวยแต่ก็ยังไม่ได้พูดจาปราศรัยอันใดกัน "จะไม่พูดว่ากระไรหรือขอรับท่านขุน จะให้บ่าวพายกลับไปหรือไม่ขอรับ"จันทร์ถามผู้เป็นนายที่แหงนหน้ามองสาวสวยจนคอแทบเคล็ดแต่สาวเจ้านั้นหรือ กลับไม่ได้มองมาแต่อย่างใด "กลับหัวเรือไอ้จันทร์" ขุนเดชสั่งบ่าวของตัวเอง "ขอรับท่านขุน" จันทร์รับคำนายของตนอมยิ้มและพายเรือไปเทียบที่เรือนแพของแม่หญิง "อุ๊ย! ท่านขุนเดชข้าไหว้เจ้าค่ะ" แม่หญิงบัวเงยหน้าขึ้นเห็นขุนเดชจึงไหว้ทักทายตามธรรมเนียมขุนเดชรับไหว้แล้วถามแม่หญิงว่า "วันก่อนเจ้าตกน้ำป่วยไข้หรือไม่" ขุนเดชถามแม่หญิง "เป็นไข้เล็กน้อยเจ้าค่ะแต่คุณพ่อท่านให้หมอมาเจียดยาให้ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ" แม่หญิงบอกขุนเดช "ไม่เป็นไรแล้วหนาดีแล้วถือเสียว่าคราวเคราะห์จะไม่เป็นสิ่งใดอีกนะเจ้า" ขุนเดชพูดในตายิ้มเป็นประกายแม่หญิงบัวยิ้มน้อยๆและไหว้ขอบคุณ "ข้าขอบน้ำใจท่านขุนที่วันนั้นลงไปช่วยข้าเจ้าค่ะ" แม่หญิงไหว้ขอบคุณ "เปลี่ยนจากคำขอบน้ำใจของเจ้าเป็นพวงมาลัยพวงนั้นในมือของเจ้าแทนได้หรือไม่" ขุนเดชถาม "ท่านขุน!.....ข้า" แม่หญิงเริ่มรู้ว่าขุนเดชมีความพึงใจในตัวเอง "เจ้ากรองมาลัยเผื่อพี่สักพวงได้หรือไม่พี่จะไปรอท่าเจ้าที่วัดพุทไธศวรรย์ในวันพระใหญ่วันพรุ่งนี้" ขุนเดชพูดและส่งสายตาอย่างมีความหมายส่งมายังแม่หญิง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบรับใดๆ จากแม่หญิงบัวเลย เมื่อได้พูดถึงความในใจที่อยากพูดแล้วขุนเดชก็พยักหน้าให้นายจันทร์พายเรือกลับเรือนของตนเอง "ท่านขุนขอรับ ท่านขุนบอกแม่หญิงไปเยี่ยงนั้นท่านขุนคิดว่าแม่หญิงจะมาที่วัดตามประสงค์ของท่านขุนหรือไม่ขอรับ" นายจันทร์ถามเจ้านายของตัวเอง "ข้าก็ไม่รู้ เอ็งก็รอท่าให้ถึงวันพรุ่งแล้วเอ็งจะได้สิ้นสงสัยเองไอ้จันทร์" ขุนเดชพูดแต่ในใจก็เป็นกังวลว่าแม่หญิงจะรับนัดรับไมตรีจากตนหรือไม่ แม่หญิงนั้นจะมีใจให้กับตนเองบ้างหรือไม่ ทางด้านแม่หญิงเมื่อขุนเดชกลับไปแล้วก็สับสนวุ่นวายใจ ด้วยพรุ่งนี้ตนเองตั้งใจจะไปทำบุญวันพระใหญ่ที่วัดพุทไธศวรรย์ไปเป็นประจำทุกวันพระอยู่แล้ว แต่ถ้าพรุ่งนี้ไปวัดแน่นอนว่าขุนเดชต้องไปรอท่าอยู่แล้วจะเหมือนเป็นการแสดงออกว่าพึงใจต่อขุนเดชหรือไม่ถ้าตนเองไปทำบุญตามนัดที่ขุนเดชพูดเอาไว้จริงๆ คืนนั้นแม่หญิงนอนไม่หลับนอนพลิกไปพลิกมาอยู่หลายรอบจนนางแย้มคนสนิทเอยถามว่าเป็นอันใด "แม่หญิงเป็นเยี่ยงไรหรือเจ้าคะนอนพลิกไปพลิกมา ป่วยไข้หรือไม่เจ้าคะ"นางแย้มถามผู้เป็นนายสาว "พี่แย้มข้านอนไม่หลับ วันนี้ขุนเดชเขามาจอดเรือคุยกับข้าที่เรือนแพ" แม่บัวเล่าบ่าวคนสนิท "มาจอดเรือทำกระไรหรือเจ้าคะ" นางแย้มถามอย่างตื่นตกใจ "ไม่ได้ทำกระไร แวะมาถามฉันว่าตกน้ำตกท่าวันนั้นฉันป่วยไข้บ้างหรือไม่พี่แย้มอย่าพูดเอ็ดให้เสียงดังไปได้หรือไม่" แม่หญิงบอกคนสนิทและไม่ให้ทำท่าทางตื่นตกใจและส่งเสียงดัง "แค่นั้นหรอกหรือเจ้าคะ" นางแย้มยังซักไซ้ต่อ "ฉันก็ขอบน้ำใจที่ท่านขุนกระโดดลงไปช่วยฉัน แต่ท่านขุนกลับบอกฉันว่าขอพวงมาลัยที่ฉันกำลังร้อยอยู่แทนคำขอบน้ำใจได้หรือไม่ พี่แย้มฉันคิดแล้วคิดอีก...." แม่หญิงบัวบอกพี่เลี้ยงบ่าวคนสนิทของตนเอง "คิดแล้วคิดอีกว่าเยี่ยงไรเจ้าคะ" นางแย้มถาม "ก็เยี่ยงไรเล่าพี่แย้ม" แม่หญิงย้อนถามกลับบ้าง "ก็เกี้ยวแม่หญิงของบ่าวนะสิเจ้าคะ" นางแย้มหลุดปากพูดออกมา "นอนเถอะพี่แย้ม ฉันง่วงนอนแล้ว" แม่หญิงพูดขึ้นและค่อยๆล้มตัวลงนอน "แล้ววันพรุ่งแม่หญิงจะไปทำบุญหรือไม่มาลัยรึก็กรองเสร็จแล้ว อาหารคาวหวานรึก็ให้บ่าวไพร่มันเตรียมไว้แล้วนะเจ้าคะ" นางแย้มพูด "ก็ไปสิพี่แย้ม ฉันยังไม่ได้พูดว่ากระไรเลย" แม่หญิงพูดและให้นึกถึงคำพูดของขุนเดชที่ขอมาลัยในมือตน แต่ถ้าตนไปทำบุญแล้วเอาพวงมาลัยไปถวายพระแทนก็เป็นการสื่อให้ได้ทราบว่าตนไม่ได้มีใจแต่ตนจะไปทำบุญ จะไม่หลบหนีไปไหน เช้าวันรุ่งขึ้นแม่หญิงบัวเตรียมตัวไปทำบุญที่วัด อาบน้ำห่มสไบสีบานเย็นขับผิวขาวผ่องให้ยิ่งดูสวย แม่หญิงจัดเตรียมสำรับคาวหวานเพื่อเอาไปทำบุญถวายเพลอุทิศบุญกุศลในครั้งนี้ไปให้แม่ผู้ล่วงลับไปแล้ว "คุณพ่อเจ้าคะลูกจะไปทำบุญที่วัดอุทิศบุญนี้ให้คุณแม่ท่าน คุณพ่ออนุโมทนาบุญกับลูกด้วยเถิดหนาเจ้าคะ" แม่หญิงเดินมาบอกผู้เป็นพ่อ "พ่ออนุโมทนาในบุญนั้นขอให้ลูกมีความจำเริญยิ่งๆขึ้นๆไปนะลูกนะ ให้ไอ้มั่นมันพายเรือให้นะเจ้า" ครูดาบพูดกับลูกสาว "เจ้าค่ะคุณพ่อ" แม่หญิงรับคำและเดินไปลงเรือ นั่งเรือมาถึงวัดพุทไธศวรรย์ ในช่วงสายให้บ่าวไพร่เอาอาหารคาวหวานไปรอท่าที่หอฉันรอถวายเพล ส่วนแม่หญิงและนางแย้มแยกตัวเอาพวงมาลัยดอกมะลิมาไหว้พระที่หอพระก่อน เมื่อเข้าไปด้านในหอพระก็พบว่าขุนเดชนั่นรอท่าอยู่ด้านในแล้วแม่หญิงเดินเข้าไปด้านในพยายามไม่ใส่ใจมองข้ามขุนเดชไปแต่ขุนเดชหายอมไม่ "พวงมาลัยไหว้พระของพี่ล่ะแม่หญิง พี่รอท่าเจ้าอยู่นานแล้ว" ขุนเดชพูดขึ้น "ข้าร้อยพวงมาลัยมาถวายพระ ไม่ได้ทำมาเพื่อกราบไหว้บูชาท่านขุนหรอกเจ้าค่ะข้าต้องขออภัยด้วยที่ไม่อาจมอบพวงมาลัยนี้ให้กับท่านได้ ข้าจะไหว้พระก่อนนะเจ้าคะ" แม่หญิงพูดน้ำเสียงเป็นปกติมิได้ตื่นกลัวใดๆ ทำให้ขุนเดชยิ่งพึงใจในตัวนางมากยิ่งขึ้นเพราะนอกจากนางจะสวยแล้วยังฉลาดไหวพริบดีพูดจาฉะฉานเสนาะหู "อย่างนั้นดอกหรือเช่นนั้นพี่จะขอไหว้พระเคียงคู่เจ้า กราบพระด้วยพวงมาลัยดอกมะลิพวงเดียวกันกับเจ้าบุญกุศลที่ตั้งใจมาทำแล้วในวันนี้คงได้อานิสงส์แรงนักเพราะส่งผ่านเครื่องบูชาพวงมาลัยพวงนี้ที่พี่นั่นได้แอบหมายปองและพึงใจอยู่ได้บูชาพระเสียก็ดีบุญคงหนุนนำให้เราได้เป็นคู่กันในทุกชาติไป" ขุนเดชพูดด้วยไหวพริบเจ้าเล่ห์ของตนเอง แม้ว่าแม่หญิงจะฉลาดสักปานใดมีหรือจะสู้ความเจ้าเล่ห์ของขุนเดชได้ "ท่าน! ขยับออกไปไกลๆข้านะเจ้าคะ" แม่หญิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "เสียงเบาๆและอยู่นิ่งๆเถิดแม่หญิง ถ้าไม่อยากให้เป็นที่โจษจันกันไปทั่วว่าเราสองคนมานั่งเกี้ยวกันในหอพระนี้" ขุนเดชพูดข่มขู่แม่หญิงทำให้แม่หญิงต้องทำใจให้อยู่ในอาการสงบและก้มลงกราบพระพร้อมกับขุนเดช เมื่อทำบุญถวายเพลเสร็จแม่หญิงก็รีบกลับเรือนของตนเอง ฝั่งขุนเดชเองก็สั่งให้นายจันทร์รีบพายเรือกลับบ้านด้วยเช่นกันตอนนี้ขุนเดชมีแผนการในใจแล้วอย่างไรเสียแม่หญิงก็จะต้องได้ตกเป็นเมียของตนในชาตินี้และทุกชาติไปดังคำอธิษฐานต่อหน้าพระปฏิมากรเมื่อครู่ เมื่อกลับถึงเรือนขุนเดชก็ได้ไปนั่งรอท่าพ่อและแม่ของตัวเองอย่างร้อนใจ เพราะวันนี้ท่านเศรษฐีและแม่นายออกไปดูกิจการทางการค้าทางเรือสำเภาที่มาจากเมืองจีน ไปตรวจนับสินค้าและรอขนลงจากสำเภาเพื่อนำมาขายต่อทำกำไรอีกหลายเท่าตัว "ไอ้จันทร์มึงลงไปถามบ่าวมันสิว่าคุณพ่อกับคุณแม่กูเมื่อไหร่จะกลับ" ขุนเดชสั่งบ่าวคนสนิทอย่างร้อนใจเรื่องนี้คงมีแต่พ่อและแม่เท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ "บ่าวไปถามมาสองรอบแล้วนะขอรับท่านขุน พระนายท่านทั้งสองจะกลับเย็นๆขอรับ" จันทร์ตอบเจ้านายของตนเอง "แล้วเย็นตอนไหนละไอ้จันทร์ นี่มันก็ใกล้จะเย็นแล้วมาตอนตะวันตกดินเลยหรือไม่" ขุนเดชถามขึ้นอย่างร้อนใจอยากคุยกับพ่อแม่เสียเร็วๆ "ท่านขุนมีเรื่องอันใดจะคุยกับพระนายท่านหรือขอรับ" นายจันทร์ถามด้วยความสงสัย "มันเรื่องของข้าเอ็งจะไปไหนก็ไปเถิด ข้าจะลงไปรอคุณพ่อกับคุณแม่ที่ท่าน้ำ" ขุนเดชพูดขึ้น ขุนเดชนั่งรอพ่อและแม่ได้สักครู่ใหญ่ ท่านเศรษฐีทองคำและแม่นายช้องนางก็มาถึง "อ้าวพ่อเดชวันนี้กลับเรือนมาเร็วเสียจริงนะลูก แล้วมานั่งคอยใครที่ท่าน้ำกันเล่า" แม่นายถามลูกชาย "มารอคุณแม่นั่นแหละขอรับ ลูกมีความจะเรียนปรึกษาคุณแม่และจะขอร้องให้คุณพ่อช่วยลูกด้วยขอรับ" ขุนเดชพูด "ให้พ่อช่วยอย่างนั้นหรือพ่อเดช" ท่านเศรษฐีถามลูกชาย "ขอรับคุณพ่อมีเพียงคุณพ่อเท่านั้นที่ช่วยลูกได้ขอรับ" ขุนเดชพูด "สำคัญถึงเพียงนั้นเลยเชียวหรือพ่อเดช แม่กับพ่อของเจ้าขอไปอาบน้ำก่อนได้หรือไม่แล้วค่อยคุยกันตอนรับข้าวเย็นได้หรือไม่ลูก" แม่นายบอกกับลูกชาย "ได้ขอรับ ลูกจะรอที่หอนั่งขอรับ" ขุนเดชรับคำและเดินไปนั่งรอที่หอนั่งให้ถึงเวลากินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ จนถึงเวลาที่บ่าวไพร่ยกสำรับกับข้าวออกมาและพ่อแม่ของขุนเดชเดินออกมาจากหอนอนของตัวเอง "อ้าวพ่อเดชลูกไหนว่าความของเจ้ามาเถิดมีเรื่องกระไรให้พ่อช่วย" ท่านเศรษฐีสอบถามลูกชาย "ข้าพึงใจในตัวแม่หญิงคนหนึ่งอยู่ ข้าอยากให้คุณพ่อไปสู่ขอนางให้มาเป็นเมียของข้าจะได้หรือไม่" ขุนเดชพูดขึ้น "โอ๊ยตายพ่อเดช! แต่ลูกมีเรือนอยู่แล้วนะลูกแล้วจะให้แม่กับพ่อไปสู่ขอลูกสาวบ้านใดกันเล่าลูก" แม่นายช้องนางถามด้วยความตกใจ "ข้ามีเรือนแต่คุณแม่ก็ทราบนะขอรับว่ามีด้วยเหตุอันใด ข้ามิเคยรักนาง" ขุนเดชพูดขึ้นด้วยความเป็นจริงและทุกคนต่างก็รู้ดีในความจริงข้อนี้ "แต่เจ้าก็ควรจะกลับเรือนไปหานางบ้าง แต่งงานออกเรือนมาจวนจะสามปีเข้าไปแล้วเจ้ายังไม่มีทายาทไว้สืบเชื้อสายเลยนะพ่อเดช พ่อมีเจ้าเป็นลูกชายคนโต น้องๆของเจ้าก็เป็นผู้หญิงทุกคน แต่งงานออกเรือนไปอยู่ฝั่งบ้านผัวกันหมด" เศรษฐีทองคำบ่นลูกชาย "เรื่องนี้แหละขอรับคุณพ่อที่ลูกอยากเรียนปรึกษา ลูกกับแม่หญิงซ่อนกลิ่นไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้หรอก แม่หญิงค่อนข้างอายุมากแล้วระดูก็มิใคร่จะปกติ ข้าถึงอยากจะตบแต่งเมียอีกคนอย่างไรเล่า" ขุนเดชหยิบยกประเด็นเรื่องทายาทมาพูดกับพ่อของตนเอง "แล้วแม่ซ่อนกลิ่นเขาจะยินยอมหรอกหรือพ่อเดช" แม่นายถามลูกชายอย่างหวั่นใจ "แต่คุณแม่ขอรับลูกกับนางเราต่างคนต่างรู้ด้วยกันดีและชายในอยุธยานี้นอกจากคุณพ่อแล้วมีกี่เรือนกันเชียวหรือที่มีเมียแค่เมียเดียว นะครับคุณแม่คนนี้ข้าให้นึกรักนางจริงๆนะขอรับ" ขุนเดชพูดให้เหตุผล "ถ้าเจ้าต้องการเยี่ยงนั้นพ่อก็ไม่ขัดเจ้าหรอก ว่าแต่เป็นลูกสาวบ้านใดพ่อแม่เขาจะยินยอมยกให้เจ้าหรือ เขาจะเรียกสินสอดของตบแต่งสักกี่มากน้อยพ่อไม่ว่าหรอกหนาขอแค่เจ้าพึงใจและสามารถมีหลานให้พ่อได้ก็พอ" ท่านเศรษฐีทองคำพูด "คุณพ่อรู้จักดีเชียวขอรับนางคือแม่หญิงลูกสาวท่านครูดาบขอรับ" ขุนเดชบอกพ่อและแม่ของตัวเอง "โอ๊ยตาย! แล้วแม่หนูบัวเขาพึงใจในตัวเจ้าด้วยหรือไม่พ่อเดช" แม่นายถามลูกชาย "ลูกไม่ค่อยแน่ใจขอรับ นางเป็นแม่หญิงนิ่งๆสวยเย็นไม่ค่อยแสดงอาการให้ลูกได้รู้แต่ลูกคิดเอาเองว่าตัวลูกนั้นมิมีสิ่งใดที่เสื่อมเสียและก็เชื่อว่าลูกมีดีพอที่จะสามารถทำให้แม่หญิงคนหนึ่งรักลูกได้" ขุนเดชพูดบอกแม่นายด้วยความมั่นใจ "แล้วเจ้าจะให้พ่อทำเยี่ยงไรพ่อเดช" ท่านเศรษฐีถามลูกชาย "คุณพ่อช่วยเป็นธุระไปพูดจาสู่ขอกับท่านครูดาบให้ลูกได้หรือไม่ ลูกอยากให้คุณแม่ปลูกเรือนไม้กระดานไว้เป็นเรือนหอของลูกกับแม่บัวที่ท้ายน้ำฝั่งตะวันออกของบ้านเราเร่งมือหน่อยก็ดีขอรับเพราะถ้าได้ไวลูกก็จะได้.....จะได้มีหลานให้คุณแม่อุ้มไวๆขอรับ" ขุนเดชบอกความต้องการของตัวเองชัดเจน "แล้วลูกมั่นใจหรือว่าแม่บัวเขาจะยินยอม และครูดาบท่านจะยอมยกลูกสาวให้" ท่านเศรษฐีถามด้วยความไม่ค่อยวางใจเท่าใดนัก "ก็ครูดาบเป็นสหายรักของคุณพ่อย่อมมีความเกรงใจ ยิ่งรู้ว่าลูกและแม่บัวรักกันก็คงจะไม่ขัดข้องอันใดเรื่องแม่บัวปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกลูกจะจัดการกับนางเอง" ขุนเดชพูด "แล้วแม่ซ่อนกลิ่นละจะจัดการกับนางเยี่ยงไร" แม่นายถามถึงลูกสะใภ้อีกคน "นางก็อยู่ของนางไป นางพึงใจในฐานะของนางแบบนั้นมานานแล้วคุณแม่ก็ทราบดี ลูกไม่ได้พาแม่บัวไปอยู่เรือนของนางเสียหน่อยขอรับ" ขุนเดชบอกแม่แสดงให้ทราบชัดเจนว่าไม่ได้มีเยื่อใยอันใดกับซ่อนกลิ่นแม้แต่น้อยนิด "แล้วเจ้าจะให้พ่อจัดการเรื่องนี้ให้เมื่อใด" เศรษฐีทองคำถามลูกชาย "เร็วที่สุดขอรับให้คุณแม่หาช่างฝีมือมาสร้างเรือนได้เลยนะขอรับ ส่วนคุณพ่อรอลูกอีกเจ็ดวันเท่านั้นลูกจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย" ขุนเดชพูดดวงตาเป็นประกายอย่างใช้ความคิด "ครืด ครืด....." เสียงโทรศัพท์มือถือของอภิวัตรสั่นอยู่บริเวณหัวเตียงทำให้อภิวัตรรู้สึกตัวตื่นจากความฝัน "ฝันบ้าอะไรวะกูเหมือนจริงมาก นี่กูย้อนเวลาข้ามภพไปหาเมียเลยเหรอนี่ แล้วนี่ใครโทรมาแต่เช้าวะ" อภิวัตรพูดบ่นกับตัวเองเบาๆแต่เมื่อดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นพี่ชายโทรมานี่คงรู้เรื่องจากปากแม่ของเขาแล้วแน่ๆ "ครับ พี่หมอว่ายังไงครับ" อภิวัตรรับสายและถามพี่ชาย "แกอยู่ที่ไหนวะเจ้าธรรพ์" หมอวัชระถาม "ก็อยู่บ้านของผมที่อยุธยา พี่หมอผมขอดูเมียผมก่อนเหมือนตัวจะร้อนๆ แล้วเดี๋ยวผมจะโทรหาพี่อีกทีนะครับ" อภิวัตรวางสายพี่ชายทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงไอร้อนที่ร้อนผ่าวออกมาจากตัวของเมียตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD