บทที่13 คำมั่นสัญญา

1936 Words
"เดี๋ยวเจ้าธรรพ์อย่าเพิ่งวางเมียแก!..." หมอวัชระจะถามต่อเรื่องเมียที่อภิวัตรพูดถึงแต่อภิวัตรก็ชิงตัดสายไปเสียก่อน "อะไรหรือเจ้าหมอ เจ้าธรรพ์มันว่าอย่างไรบ้าง" คุณหญิงมารตีถามน้ำเสียงร้อนใจ "มันบอกว่าเมียมันน่าจะป่วยครับแม่" หมอวัชระบอกผู้เป็นแม่ "เมีย! งั้นก็แสดงว่าหนูบุษ......" คุณหญิงมารตีคิดต่อและพูดออกมา "ครับเสร็จไอ้เจ้าธรรพ์ลูกชายคุณหญิงเรียบร้อยแล้วละครับผมว่า" หมอวัชระบอกผู้เป็นแม่ "แล้วหนูบุษเป็นอย่างไรบ้างละลูกเจ้าหมอ" เจ้าสัวถามขึ้นบ้าง "ยังไม่รู้เลยครับพ่อ เจ้าธรรพ์มันเพิ่งตื่นมันบอกมันจะโทรหาผมอีกที" หมอวัชระบอกผู้เป็นพ่อ "อะไรกันเพิ่งตื่นหรือนี่มันจะเที่ยงแล้วนะ" คุณหญิงมารตีพูดขึ้นอย่างร้อนใจเป็นห่วงบุษบาวรรณเสียเหลือเกิน "เมื่อคืนคงจะ เอ่อ!....ไม่ได้นอนมั้งครับ" หมอวัชระพูด "เออๆ ก็รอมันโทรมาก่อนก็แล้วกันคุณหญิง" เจ้าสัวพูดตัดบท "อย่างนี้ก็แปลว่าหนูบุษเสร็จไอ้เจ้าธรรพ์มันแล้วนะสิ" คุณหญิงมารตีพูดย้ำขึ้นมาอีกรอบ "ก็คงจะไม่รอดแล้วละครับแม่ ผมออกไปดูคนไข้ที่โรงพยาบาลก่อนนะครับ แล้วถ้าเกิดเจ้าธรรพ์โทรมาผมจะบอกแม่อีกทีนะครับ" หมอวัชระบอกผู้เป็นแม่และออกไปทำงาน ฝั่งอภิวัตรเมื่อเห็นว่าเมียตัวร้อนก็ตกใจมากทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน อภิวัตรลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบไว้หมิ่นเหม่แล้วเดินเร็วเข้าไปเอาผ้าชุบน้ำเพื่อมาเช็ดตัวให้เมียเพื่อลดไข้ก่อน "น้องบุษครับ ลุกขึ้นก่อนเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้" อภิวัตรจับแก้มเนียนของเมียแล้วเขย่าปลุกเบาๆ "พี่ธรรพ์ปล่อยบุษ บุษเจ็บพอแล้ว...." บุษบาวรรณละเมอเพ้อออกมาเสียงแผ่วเบา "โธ่บุษจ๋า เมียจ๋าพี่ขอโทษรอก่อนนะเดี๋ยวพี่โทรหาไอ้หมอก่อน" อภิวัตรพูดเสร็จก็หยิบโทรศัพท์โทรหาหมอตุลาเพื่อนสนิทที่เป็นหมออยู่ที่อยุธยาให้เข้ามาดูอาการเมียของเขาให้หน่อย "ไอ้หมอตุลนี่กูเองนะ มึงช่วยมาดูคนป่วยที่บ้านให้กูหน่อยสิ" อภิวัตรบอกเพื่อนสนิทน้ำเสียงร้อนใจ "ใครเป็นอะไรหรือแม่อิ่มไม่สบายหรือวะ แล้วแกมาอยุธยาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"หมอตุลาถามเพื่อน "มาเมื่อคืน ป้าอิ่มไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นที่เป็นน่ะเมียกูเอง" อภิวัตรบอกเพื่อนสนิทน้ำเสียงรีบร้อน "อ๊ะ!....เมียหรือวะแล้วมึงไปมีเมียตอนไหนวะไอ้ธรรพ์" หมอตุลาถามเพื่อนน้ำเสียงตกใจ "ก็มีมันเมื่อคืนนี่แหละ มึงอย่าถามเยอะได้ไหมไอ้ตุลมาดูอาการเมียกูก่อน ตัวร้อนมากเลยเนี่ย" อภิวัตรพูดกับเพื่อนด้วยความร้อนใจ "อ๊ะ! มีเมื่อคืนเหรอวะ แล้วเมียมึงเนี่ยใครวะ" หมอตุลายังคงจะถามต่อด้วยความอยากรู้ "พอแล้วไอ้หมอ ค่อยถามได้ไหมช่วยมาดูเมียกูก่อน" อภิวัตรพูดตัดบทและวางโทรศัพท์เดินออกจากห้องไปสั่งแม่อิ่มให้ทำข้าวต้มให้บุษบาวรรณเสร็จแล้วก็เข้ากลับมาดูอาการเมียอีกรอบเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เมียเสร็จตนเองก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารอเพื่อนเข้ามาดูอาการของเมีย หมอตุลามาถึงบ้านเรือนไทยของอภิวัตรแม่อิ่มก็พามายังห้องนอนของอภิวัตรทันที "หมอ ทำไมมาช้านักวะ" อภิวัตรถามเพื่อน "ก็ขับรถมาไม่ได้หายตัวมาได้นะไอ้ธรรพ์" หมอตุลบอกเพื่อน "เออ!....กวนตีน ตรวจดูเมียกูหน่อยเหมือนตัวเย็นลงแล้วนะกูเช็ดตัวให้หลายรอบแล้ว" อภิวัตรบอกเพื่อน "เออ มึงออกไปก่อนเมียมึงชื่ออะไรวะหน้าเด็กมากจบม.ปลายยังวะไอ้ธรรพ์" หมอตุลาถาม "ชื่อบุษบาวรรณเรียนอยู่ปีสามแล้วไอ้หมอไม่เด็กแล้ว" อภิวัตรบอกเพื่อนสีหน้าไม่ค่อยพอใจ หมอตุลาเรียกบุษบาวรรณเบาๆ ให้คนป่วยรู้สึกตัวฉีดยาลดไข้ให้และจัดยาแก้อักเสบและวิตามินบำรุงให้ด้วย "คุณบุษบาวรรณครับตื่นหน่อยนะครับ หมอขอฉีดยาให้หน่อย" หมอตุลาบอกเมื่อเห็นบุษบาวรรณค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น "ค่ะ ฉันเป็นอะไรคะ" บุษบาวรรณถามหมอตุลางงๆ "คุณป่วยนะครับ ผมฉีดยาให้แล้วดื่มน้ำเยอะๆนอนพักผ่อนเยอะๆนะครับ"หมอตุลาพูดกับบุษบาวรรณในใจก็คิด นี่ขนาดป่วยหน้าซีดๆนะยังสวยเสียขนาดนี้ไม่น่าละไอ้ธรรพ์เพื่อนของเขาจึงยั้งตัวไว้ไม่อยู่เล่นซะคนสวยป่วยเลย "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่ช่วยดิฉัน" บุษบาวรรณพูดขอบคุณ "เรียกพี่ตุลก็ได้ครับ พี่เป็นเพื่อนของไอ้ธรรพ์มัน" หมอตุลาพูดขึ้นและส่งยิ้มให้บุษบาวรรณด้วยจนอภิวัตรเห็นแล้วรู้สึกเขม่นเพื่อนขึ้นมาตงิดๆ "ไอ้หมอ เสร็จแล้วมึงจะกลับเลยก็ได้นะเห็นบอกว่าติดคนไข้อยู่ด้วยไม่ใช่เหรอไปเดี๋ยวกูเดินไปส่งที่รถ" อภิวัตรพูดกับเพื่อนเหมือนกับเป็นการไล่เพื่อนไปในตัวด้วย หมอตุลาจึงลุกขึ้นลาบุษบาวรรณและรู้ดีว่าเจ้าเพื่อนตัวดีของเขามันแอบหวงเมีย "พี่กลับก่อนนะครับน้องบุษ" หมอตุลาพูดลาบุษบาวรรณ "ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ" บุษบาวรรณไหว้ขอบคุณหมอตุลา เมื่อออกมาพ้นห้องนอนหมอตุลาก็พูดหยอกล้อกับเพื่อนทันที "ฉันก็เข้าใจนะไอ้ธรรพ์ว่าเมียแกสวยมากแต่แกก็ควรยับยั้งใจไว้บ้าง อะไรวะไปทำเขาเสียขนาดนั้นเล่นเสียเมียป่วยโหดไปไหมวะไอ้ธรรพ์" หมอตุลาพูดกับเพื่อนเพราะเห็นจากร่องรอยตามเนื้อตัวของบุษบาวรรณก็รู้ดีว่าผ่านอะไรมาเมื่อคืน "เออ ไม่ต้องเสือกเรื่องกูเลยเอาเป็นว่าขอบใจมึงมากนะเว้ย ไว้วันหลังกูเลี้ยงเหล้ามึงเป็นการตอบแทน" อภิวัตรคุยกับเพื่อน "เออ แล้วนี่จะแต่งกันเลยหรือเปล่าวะเนี่ย" หมอตุลาถาม "ก็อยากแต่งอยู่ แต่บุษยังเรียนไม่จบเลยเหลืออีกหนึ่งปี แม่กูคงไม่ยอมให้ลูกรักของเขาเรียนไม่จบหรอก" อภิวัตรบอกเพื่อนรักสีหน้าเป็นกังวลเพราะเขาเองก็กลัวว่าบุษบาวรรณจะท้องเหมือนกันเมื่อคืนเขาไม่ได้ป้องกันด้วย เมื่อหมอตุลากลับไปแล้วอภิวัตรก็เดินขึ้นเรือนกลับไปดูบุษบาวรรณที่ห้อง เห็นแม่อิ่มเอาข้าวต้มมาให้บุษบาวรรณ "กินอีกหน่อยสิคะคุณบุษ นี่แม่อิ่มทำสุดฝีมือเลยนะคะกินเสร็จจะได้ทานยาแล้วนอนพักผ่อน" แม่อิ่มคะยั้นคะยอให้บุษบาวรรณกินข้าวต้มเยอะๆ "บุษอิ่มแล้วค่ะ มันขมคอกินไม่ค่อยลงขอบคุณแม่อิ่มที่ดูแลบุษนะคะ" บุษบาวรรณพูดขอบคุณแม่อิ่ม "แม่อิ่มไปทำงานที่ค้างอยู่เถอะครับ เดี๋ยวผมดูแลบุษเองครับ" อภิวัตรบอกแม่อิ่มเมื่อพ้นร่างแม่อิ่มไปแล้วอภิวัตรก็หันมาพูดกับบุษบาวรรณและยกชามข้าวต้มขึ้นป้อนบุษบาวรรณ "มาเดี๋ยวพี่ป้อนต่อกินอีกหน่อยนะครับคนดี" อภิวัตรพูดเอาใจเมียสุดๆพร้อมกับป้อนข้าวต้มให้บุษบาวรรณด้วยแต่บุษบากลับนิ่งเฉยไม่ยอมพูดยอมจากับอภิวัตรเลยจนอภิวัตรวางชามข้าวต้มลงและพูดอย่างอ่อนใจ "บุษพี่ขอโทษในสิ่งที่พี่ทำลงไป แต่เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะและพี่ก็ยินดีจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เรากลับไปเราแต่งงานกันเลยก็ได้พี่สัญญาพี่จะรักและดูแลบุษตลอดไป นะบุษนะเรามาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกันนะครับพี่รักบุษนะ"อภิวัตรพูด "รักหรือคะ รักของพี่ธรรพ์เป็นแบบนี้เหรอพี่ธรรพ์ทำกับบุษแบบนี้แล้วมาบอกว่ารักบุษเหรอ เคยให้เกียรติเคยเชื่อใจบุษบ้างไหมคะเคยหรือเปล่า บุษบอกไปหลายรอบแล้วนะเรื่องตะวันบอกว่าเขาเป็นเพื่อนพี่ก็ยังหาเรื่องเอามันมาเป็นประเด็นเพื่อรังแกบุษ" บุษบาวรรณต่อว่าอภิวัตรและทำตาแดงๆจะร้องไห้ "พี่ขอโทษพี่ผิดไปแล้วแต่พี่รักบุษจริงๆนะรักมากด้วย เมื่อคืนเราได้กันก็ใช่ แต่ถ้าไม่ได้เมื่อคืนยังไงก็ต้องได้กันอยู่ดีนะบุษเพราะยังไงบุษก็ต้องเป็นเมียของพี่วันยังค่ำนะอย่าโกรธพี่เลยนะครับคนดี กินข้าวก่อนดีกว่านะมาเดี๋ยวพี่ป้อน" อภิวัตรพูด "พูดง่ายๆตลอด เห็นแก่ตัวเอาแต่ใจตลอดพี่ธรรพ์นิสัยไม่ดีเลยรู้ตัวหรือเปล่า"บุษบาวรรณว่าอภิวัตรด้วยความโมโห "รู้ พี่รู้ตัวบุษจะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้แต่บุษครับเราเป็นผัวเมียกันแล้วนะ ให้อภัยพี่เถอะพี่สัญญาจะทำตัวให้ดีขึ้นไม่ใช้อารมณ์เอาแต่ใจจะรับฟังเมียให้มากขึ้นนะเมียจ๋า นะครับนะกินข้าวก่อนนะคนดี" อภิวัตรพูดจาแบบใส่เกียร์ถอยยอมเมียทุกอย่าง "บุษอยากกลับบ้าน ถ้าบุษกินข้าวหมดพี่ธรรพ์จะพากลับบ้านไปหาคุณท่านใช่ไหมคะ" บุษบาวรรณถามอภิวัตรแต่แอบซ่อนเงื่อนไขเอาไว้ด้วย "ยังไม่กลับ พี่บอกพ่อกับแม่ไว้แล้วว่าจะอยู่อยุธยาห้าวันบุษก็ยังไม่เปิดเทอมนี่ครับอยู่กับพี่ต่อนะเมียจ๋าก็ถือว่าเราอยู่เพื่อศึกษากันและกันไงครับ" อภิวัตรพูดบอกเหตุผล "แล้วพี่ธรรพ์เอ่อ! จะ..." บุษบาวรรณถามด้วยความหวั่นวิตก "จะรังแกบุษอีกหรือเปล่านะเหรอ" อภิวัตรต่อให้ทำให้บุษบาหน้าแดงเป็นการตอบรับ "ไม่รังแกแน่นอนถ้าบุษยังไม่หาย แต่ถ้าหายแล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมดานะบุษ ผัวก็ต้องนอนกับเมียสิแต่ถ้าบุษไม่ยอมพี่จะไม่ฝืนใจ" อภิวัตรพูดพร้อมกับหัวเรา "พี่ธรรพ์พี่ชอบพูดย้ำๆว่าบุษเป็นเมียพี่ บุษเป็นของพี่แล้ว พี่ธรรพ์สัญญาได้ไหมคะว่าจากนี้ไปพี่จะมีบุษแค่คนเดียวห้ามพี่ธรรพ์นอกใจนอกกายบุษ" บุษบาวรรณพูดขึ้น  "ไม่ทันไรเลยนะสวมวิญญาณเมียขี้หึงผัวแล้ว พี่ไม่มีคนอื่นหรอกแต่บุษต้องรับพี่ให้ไหวด้วยนะ เพราะพี่ดุนะเหมือนเมื่อคืนน่ะบุษไหวหรือเปล่า" อภิวัตรพูดน้ำเสียงหยอกเย้าอารมณ์ดี "บ้า!... ลามก" บุษบาวรรณว่าอภิวัตรและก็เขินจนแก้มแดง "ลามกตรงไหนเอาเป็นว่าพี่สัญญาจะรักและดูแลบุษ จะรักบุษบาวรรณคนนี้แค่คนเดียวพอใจแล้วยัง ถ้าพอใจแล้วกินข้าวจะได้กินยาแล้วนอนพักผ่อนนะครับ" อภิวัตรพูดสรุปบุษบาวรรณจึงยอมกินข้าว กินยาและนอนหลับไป อภิวัตรเองเมื่อเก็บจานเรียบร้อยแล้วก็มาล้มตัวลงนอนกอดเมียไว้ด้วยตั้งใจว่าตื่นมาช่วงบ่ายจะโทรหาพี่ชายและพาบุษบาวรรณออกไปพายเรือรับลมยามบ่ายด้วยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD