บทที่2
ห้าวันต่อมา..
“พาย?”
เสียงเรียกของแพรพรรณพี่สาว ทำให้แพรพายหยุดชะงัก เธอหันไปมองเห็นพี่สาวนั่งกินอาหารเช้าอยู่ในห้องนั่งเล่น
“ค่ะพี่พรรณ” แพรพายชะงักไม่กล้าหันไปมอง เธอขานรับพี่สาวเสียงเบา
“มานี่สิ” แพรพรรณกวักมือเรียกน้องสาว
“พี่พรรณมีอะไรคะ” แพรพายเข้าไปหาพี่สาว
“นั่งสิ” แพรพรรณพยักหน้าให้น้องสาวนั่ง
“ค่ะ” แพรพายนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามพี่สาว
“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมระยะนี้พายชอบหลบหน้าพี่จัง”
แพรพรรณถาม สายตาคู่งามก็มองหน้าน้องสาวอย่างสงสัย
“เปล่าค่ะ” แพรพายปฏิเสธ พร้อมทั้งก้มหน้าไม่กล้ามองสบตาของพี่สาว
“ทำไมชอบโกหกพี่จังนะ พี่รู้นะว่าเธอไม่สบาย เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าตานี่ซีดตั้งแต่เช้าเลย” แพรพรรณยื่นขนมกับน้ำส้มให้น้อง
“พายปวดท้องประจำเดือนนะคะ” แพรพายส่ายหน้า ไม่ยอมกิน และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ถึงพี่สาวจะไม่ค่อยเชื่อ แต่เธอก็ต้องโกหก
“งั้นนั่งอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่ไปหายาแก้ปวดมาให้กิน”
แพรพรรณจะลุก แต่ก็นั่งลงเหมือนเดิมเมื่อแพรพายร้องเรียกไว้
“พี่พรรณไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวพายจัดการเอง”
แพรพายเรียกและจับมือพี่สาวที่มีอายุห่างกันเจ็ดปีไว้
“พายเป็นอะไร ทำไมมือเย็นอย่างนี้” แพรพรรณถามน้องสาว มือก็ลูบหลังมือของน้องเบาๆ
“พี่พรรณ พายตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าพายจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ”
แพรพายดึงมือออกจากมือพี่สาว กำมือไว้แน่นเมื่อรู้สึกสั่นเล็กน้อย
“อ้าว ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าไม่อยากไปไกลบ้านไง” แพรพรรณมองน้องสาวอย่างสงสัย
“พายอยากไปเปิดหูเปิดตาบ้างค่ะ ไหน ๆ ก็สอบได้แล้ว”
แพรพายยิ้มให้พี่สาว อยากบอกพี่สาวเหลือเกินว่าที่เธอไปไกลบ้าน เพราะไม่อยากเห็นหน้าเขาคนนั้น
และช่วงเวลาที่สองพี่น้องคุยกันยังไม่ทันรู้เรื่องนั้น พ่อก็เดินเข้ามา
“อ้าวพรรณ พาย ทำไมวันนี้ตื่นเช้ากันจังล่ะ” วัลลภทำหน้าแปลกใจ เพราะปรกติลูกๆจะตื่นสายมากในเวลาหยุดเรียน วันเสาร์อย่างนี้
“คุณแม่ไม่ได้บอกคุณพ่อเหรอคะ ว่าเช้านี้พรรณนัดกับเหนือไว้ว่าจะไปพบปะเพื่อนสมัยเรียนมัธยมกันน่ะค่ะ”
แพรพรรณบอกพ่อ พลางหันมองหาแม่ที่กำลังเดินเข้ามาหาทุกคน
“สงสัยพ่อลืมนะ” วัลลภบอกลูกสาว ซึ่งแม่ของลูกสาวสองคนก็พูดขึ้นว่า
“งั้นลูกก็รีบไปสิ ป่านนี้ตาเหนือคงรอแย่แล้ว” อรอุมาที่เดินลงมาได้ยินพอดีก็เอ่ยบอกลูกสาวคนโต
“ค่ะ งั้นพรรณไปก่อนนะคะ เดี๋ยวเหนือจะรอนาน”
ช่วงเวลาที่แพรพรรณกำลังจะลุกขึ้นนั้น ก็มีเสียงของชายหนุ่มข้างบ้านพูดขึ้นว่า
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”
“อ้าวตาเหนือ มาเงียบๆ นี่น้าไม่เห็นได้ยินเสียงรถเลย”
อรอุมาถามพลอยให้ทุกคนหันไปมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในบ้าน
“ผมกระโดดข้ามรั้วข้างบ้านมาครับ” แสงเหนือยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง แล้วเดินไปเกาะพนักเก้าอี้ที่แพรพายนั่งอยู่
“ตายแล้วตาเหนือ ทำไมทำตัวเหมือนเด็กอย่างนี้นะ แล้วนี่เป็นอะไรมั่งไหมเนี่ย” อรอุมาแกล้งตำหนิชายหนุ่ม
ซึ่งแสงเหนือเป็นลูกชายของเจ้าของไร่ที่เป็นเพื่อนรักสามีของเธอ และเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันมาก มากจนลูกๆของเธอและครอบครัวนั้นเข้าออกในบ้านของกันได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
“ผมไม่เป็นไรครับ แต่คนที่น้าอรน่าจะเป็นห่วงน่าจะเป็นคนนี้นะครับ ดูสินั่งหน้าซีดเชียว” แสงเหนือคุยกับทุกคน แต่สายตากรุ้มกริ่มกับก้มมองเด็กสาวแรกแย้ม ที่เขาเพิ่งเจาะไข่แดงไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ด้านแพรพายทำหน้าเลิ่กลั่ก เมื่อสายตาของทุกคนหันมามองเธอ
“เอ่อ พายของตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ”
“พาย เดี๋ยวสิ” แสงเหนือโน้มตัวให้ผู้ใหญ่ทั้งสอง แล้วเดินอ้อมไปดักหน้าแม่สาวน้อยก่อนที่เธอจะหนีเขาขึ้นไปบนห้อง
“พี่เหนือ” แพรพายชะงัก หยุดเดินแล้วหันไปมองพ่อแม่และพี่สาว
“ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันเป็นไงมั่ง ไม่สบายเหรอ ไหนดูสิตัวร้อนไหม” แสงเหนือทำหน้าตาเป็นห่วงเป็นใย แล้วยื่นมือเข้าไปแตะแก้มขาวซีด
“พายไม่ได้เป็นอะไร ถอยไปค่ะ”
แพรพายผลักมือใหญ่ที่เคยได้จับแล้วมีความสุข แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เพราะมือนี้ได้ทำร้ายเธอจนไม่เหลืออะไรแล้ว
“โอ๊ย! นี่เธอตีพี่เหรอ” แสงเหนือร้องโอ๊ย แล้วแกล้งล้มจนก้นกระแทกพื้น
เสียงร้องโอ๊ย ทำให้ทุกคนเข้าไปดู ซึ่งเป็นแพรพรรณเองที่เข้าไปประคองให้แสงเหนือลุกขึ้น
“ยัยพาย ไปทำร้ายพี่เขาทำไมลูก” อรอุมาดุลูกสาวคนเล็ก
“นั่นสิ นี่ยัยพาย เธอเป็นบ้าอะไรถึงทำร้ายเหนือเขาน่ะ”
ด้านแพรพรรณก็ตำหนิน้องสาวเสียงดังก่อนจะเข้าไปพยุงแสงเหนือ
“พะ พายเปล่านะคะ” แพรพายปฏิเสธเสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้าด้วยเจ็บปวด มองหน้าพี่ชายข้างบ้าน แล้วมองแม่กับพี่สาวด้วยสายตาร้าวรานที่มองว่าเธอเป็นคนร้าย ทั้งที่คนร้ายตัวจริงคือนั้นที่แกล้งเจ็บปวดต่างหาก
“เป็นอะไรลูก” สีหน้าร้าวรานของลูกสาวคนเล็กทำให้วัลลภถาม พร้อมยื่นมือลูบหัวของลูกสาว
“เปล่าค่ะพ่อ พายไม่ได้ทำอะไรนะคะ” แพรพายบอกพ่อเสียงสั่นเครือ ซึ่งในเวลานี้หัวใจของเธออึดอัดจะแตกตายอยู่แล้ว
ด้านแสงเหนือยังไม่สำนึก เขาสบตาน้องน้อยยักคิ้วให้เธอ แล้วพูดว่า
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ อย่าไปว่าพายเลยครับ”
“พายขอตัวก่อนนะคะ” แพรพายสะบัดหน้าหนีเช็ดน้ำตา และเมื่อบอกทุกคนแล้วเธอรีบวิ่งหนีขึ้นห้องไป
เมื่อเห็นน้องวิ่งขึ้นบันได แสงเหนือรีบดันแขนของแพรพรรณออก แล้วตะโกนให้น้องได้ยินว่า
“พายชอบน้ำผลไม้ที่พี่ทำให้ดื่มไหม ถ้าชอบเดี๋ยวพี่ทำมาให้ดื่มอีกนะ”
ปัง! คำตอบเป็นเสียงปิดประตูดัง ปัง!!
“น้ำอะไรคะเหนือ” แพรพรรณถามเพื่อนที่มีอายุเท่ากัน แต่สายตากลับมองน้องสาววิ่งขึ้นบันได ซึ่งเหมือนน้องเธอกำลังหนีอะไรบางอย่าง
เมื่อไม่มีสาวน้อย ความสนุกของแสงเหนือก็หายไป ซึ่งแสงเหนือก็หน้าขรึมบอกแพรพรรณว่า
“น้ำแอปเปิลนะ เธออยากกินไหมล่ะ”
“น้ำแอปเปิลเหรอ อยากกินซิ ” แพรพรรณพยักหน้ารับรู้
“ถ้าอยากกินก็ไปกันได้แล้ว ป่านนี้พวกเพื่อนคงรอเราอยู่ที่บ้าน ไอ้กันตะแล้ว”
เขาชวนแพรพรรณ แต่สายตาเข้มก็แอบเหลือบขึ้นมองชั้นบน จำได้ว่าอาทิตย์ก่อนได้อุ้มยัยน้องน้อยขึ้นไปนอนบนห้อง
ด้านแพรพรรณทำเสียงอื้อบอกแสงเหนือ แล้วหันไปบอกพ่อแม่ว่า
“พ่อคะแม่คะ พรรณไปก่อนนะคะ”
“ไปเถอะลูก” อรอุมาพยักหน้าให้ลูกสาวคนโต ทั้งที่เดินไปยืนเกาะหัวบันไดมองขึ้นไปชั้นบน
“ผมไปก่อนนะครับลุงลพ น้าอร”
แสงเหนือเหลือบตามองชั้นบนพลางยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง
“ลุงฝากยัยพรรณด้วยนะเหนือ และก็อย่ากลับดึกกันมากนะ”
ซึ่งเป็นวัลลภเองที่เดินไปส่งลูกสาวคนโตที่หน้าประตู
“ครับ”
แสงเหนือขานรับ พลางจับมือแพรพรรณพาเดินลอดรั้วข้างบ้านไปยังบ้านของตัวเอง เพื่อที่จะขับรถไปบ้านเพื่อน..