บทที่ 5 เตรียมตัวไปเจียงซู

1516 Words
จ้าวเจียวหลินหลังจากฝันถึงเรื่องเดิมๆ เธอก็ไม่ได้หลับอีกเลย เช้ามาจึงได้อาบน้ำแต่งตัวลงมาด้านล่างของคฤหาสน์ เพื่อขอให้พี่ชายช่วยบางเรื่อง “พี่ใหญ่สุดหล่อของน้อง ตื่นเช้าเหมือนกันนะเนี่ย” จ้าวเจียวหลินเมื่ออยู่ต่อหน้าครอบครัวเธอเป็นเพียงสาวน้อยไร้พิษสง เป็นเด็กสาวน่ารักคนหนึ่งเท่านั้น มีแต่คนสนิทของเธอที่รู้ว่าตัวตนจริงๆ ของเธอนั้นเป็นใคร “ว่ายังไง ตัวแสบ มีเรื่องอะไรบอกมาตรงๆ พูดแบบนี้พี่ขนลุก” จ้าวหมิงเย่วพูดด้วยรอยยิ้ม น้องสาวพูดเสียงหวานแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรให้เขาช่วยแน่ๆ “คือว่าน้องอยากไปมณฑลเจียงซูสักพัก ครั้งนี้ไม่ได้ไปเที่ยว อยากลองไปใช้ชีวิตแบบชาวบ้านดูสักครั้ง พี่ใหญ่สุดหล่อของน้องช่วยได้ไหม และอย่าถามว่าทำไมไม่บอกพ่อเอง เหอะๆ ๆ พี่คิดว่าพ่อจะยอมให้ลูกสาวที่แสนจะน่ารักคนนี้ไปไหมล่ะ และน้องไม่ได้ไปคนเดียว สหายของน้องไปด้วย” จ้าวเจียวหลินพูดดักคอพี่ชาย ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยไปมณฑลเจียงซู ที่นั่นเธอเองก็มีเครือข่ายอยู่เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เธอต้องการไปในฐานะชาวบ้าน และไม่รู้ว่าจะต้องไปนานแค่ไหน จึงเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจากพี่ชาย คนของเธอมีทั้งคนด้านมืดและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดหกปีที่ผ่านมาเธอเลี้ยงคนไม่น้อย แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงยังต้องเกรงใจนายน้อยหยางหรือคุณชายหยาง ที่ทุกคนไม่เคยเห็นหน้า นอกจากคนสนิทอย่างอาเหมยที่ทำงานแทน นายน้อยหยางเป็นคนเดียวที่สามารถค้าขายอาวุธให้กับรัฐได้ แม้แต่พ่อของเธอจ้าวหยางเฟยยังต้องการที่อยากจะพบตัว เพราะหลายๆ ครั้งที่ท่านนายพลเจอกับปัญหา ก็จะมีนายน้อยหยางที่มือเข้ามาช่วยทุกครั้ง ครั้งแรกที่จ้าวเจียวหลินได้ยินพ่อและพี่ชายพูดถึงนายน้อยหยางผู้ทรงอิทธิพลที่ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นมาก่อนเธออดขำและอดขอโทษในใจไม่ได้ ทั้งสองคนอยากเจอตัวมาก เพราะหลายครั้งที่ทั้งสองคนเกิดปัญหา เขามักจะได้รับความช่วยเหลือเสมอ ทำให้พ่อลูกตระกูลจ้าวสำนึกในบุญคุณของนายน้อยหยาง แต่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าคนที่อยากจะเจอนั้นกลับกลายเป็นคนใกล้ชิดพวกเขาที่สุด “น้องสาวสุดน่ารักของพี่ น้องหลงตัวเองไปไหม มีอย่างที่ไหนชมตัวเองก็เป็น” จ้าวหมิงเย่วส่ายหัวให้กับความมึนและความหลงตัวเองของเธอ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี น้องน้อยของเขาก็น่ารักเสมอ ก่อนหน้านี้อาจจะเอาแต่ใจไปบ้างแต่หกปีที่ผ่านมาน้องสาวของเขากลายเป็นเด็กที่รู้ความและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น “พี่หมิงหมิงไม่ต้องห่วงเสี่ยวหลินหรอก ฉันจะช่วยดูแลให้เอง วางใจได้เลย” อาเหมยเดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้ม วันนี้หลินหลินนัดกับเธอว่าจะออกไปดูงานและขออนุญาตเพื่อที่จะไปมณฑลเจียงซู เธอจึงรีบออกจากคฤหาสน์ของตัวเองมาแต่เช้า จ้าวหมิงเย่วได้ยินเสียงอาเหมยยายตัวแสบเขารีบหลบมาอยู่หลังน้องสาว มีอย่างที่ไหนสหายรุ่นพี่ของน้องมาทีไรแกล้งเขาจนไม่เหลือคราบท่านผู้พันเลยทุกที “ฮ่าๆ ๆ พี่ใหญ่ พี่เหมยมาทีไร ทำไมพี่ต้องมาหลบขนาดนี้ พี่เหมยออกจะสวย และน่ารัก” หลินหลินหัวเราะตัวงอ สองคนนี้เจอกันทีไรเธอเองต้องเป็นกรรมการห้ามทัพทุกที มีครั้งหนึ่งอยู่ๆ พี่เหมยเอาจิ้งจกมาจากไหนไม่รู้มาโยนใส่พี่ชายเธอ เล่นเอาท่านผู้พันร้องจนสาวแตก “พี่หมิงหมิงไม่ต้องกลัว วันนี้ฉันมาดี นี่มีเหล้าและบุหรี่มาฝากด้วย ยี่ห้อนายน้อยหยางเลยนะ ของหายากนะเนี่ย” อาเหมยหยิบเหล้าออกมาให้สองขวดและบุหรี่อีกห้าซอง ทุกอย่างที่หลินหลินเอาออกมาจากมิติเพื่อที่จะขาย เธอทำการเปลี่ยนยี่ห้อมาเป็นของนายน้อยหยางทุกอย่าง จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครสงสัย จ้าวหมิงเย่วมองอย่างไม่ไว้ใจ แต่พอเห็นของที่อาเหมยเอาออกมาเขาก็ยิ้มแก้มปริ จากนั้นจึงได้เดินออกมาจากหลังของน้องสาว “ตกลง นี่คือการติดสินบนใช่ไหม พี่จะคุยกับพ่อและแม่ให้ แล้วนี่จะออกไปไหนกัน เป็นผู้หญิงอยู่ติดบ้านบ้าง เห็นออกจากบ้านทุกวัน อาเหมยเองก็มารับทุกเช้า” จ้าวหมิงเย่วพูดจบรีบเดินออกไปพร้อมของฝาก หากช้ากว่านี้คงจะโดนยึดของคืนแน่ๆ เมื่อทั้งสองสาวออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลจ้าวก็กลับมาที่คฤหาสน์ของอาเหมย และเป็นที่ทำงานของทั้งสองคน “เสี่ยวหลินแน่ในจะว่าพี่หยางของเธออยู่หมู่บ้านแห่งนั้น เราส่งคนเข้าไปดูแล้วไม่ใช่เหรอ แต่ไม่เห็นมี แล้วครั้งนี้มั่นใจได้ยังไงว่าจะเจอ” อาเหมยถามอย่างไม่เข้าใจ บอกข้อมูลมาแค่พี่หยางกับแม่หยาง มันไม่ง่ายเลยนะที่ตามหาคนสองคนด้วยข้อมูลแค่นี้ หกปีแล้วที่ยังหาไม่เจอ “ไม่รู้ ความรู้สึกมันบอกว่าต้องไปอีกครั้ง พี่เหมย พี่ส่งคนไปขอจัดสรรที่ดินแล้วสร้างบ้านไว้ด้วย เรายังพอมีเวลา แต่ว่าวันนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าถึงได้เข้าไปรับแต่เช้าแบบนี้” “ไม่มี แค่คิดว่าต้องเข้าไปคุยกับคุณลุงด้วยตัวเองเลยรีบไป ไม่คิดว่าพี่ใหญ่ของเธอจะเห็นแก่สินบนที่เอาไปให้จนไปคุยกับคุณลุงคุณป้าให้เองแบบนั้น จริงสิ ฉันได้ข่าวของใครอีกคนแล้วนะ” จ้าวเจียวหลินหันมองหน้าเพื่อนสนิทไม่วางตา “อืม ศัตรูคู่แค้นของเธอนั่นล่ะ กู้เจียฉิง แต่คนของเราบอกว่ามันยังไม่มีเมีย” อาเหมยมองดูเพื่อนสนิทที่เธอรักเหมือนน้องสาว หลินหลินเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง อาจจะเพราะเรื่องนี้ด้วยจึงทำให้เธอข้ามมิติมาพร้อมกัน “ใจเย็นเสี่ยวหลิน ตอนนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น ตามเดิมคืออีกครึ่งปีเธอจะแต่งงานกับมันไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เธอไม่ต้องตกใจเธอไม่ใช่หลินหลินคนเดิมแล้ว” อาเหมยลูบหลังน้องสาว เธอรู้ดีว่าเสี่ยวหลินแค้นชายที่ชื่อกู้เจียฉิงขนาดไหน “มันทำอะไรตอนนี้” จ้าวเจียวหลินพูดเสียงดุดัน “มีคนส่งมันมาให้แฝงตัวเข้ามาตีสนิทกับตระกูลจ้าว แต่คนของเรายังไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร เพราะคำสั่งนั้น มาเป็นทอดๆ คนในเงามืดฉลาดไม่น้อย” “นี่คงเป็นข้อแลกเปลี่ยนสั่งให้ล้มตระกูลจ้าว แลกกับทรัพย์สินของตระกูลจ้าวทั้งหมด อย่างที่พี่บอกว่าคนคนนั้นฉลาดไม่น้อยที่ไม่เผยตัวเองออกมา แต่มีคำสั่งมาเป็นทอดๆ อีกที” อย่างน้อยๆ กลับมาชาตินี้เธอไม่ได้โง่และลุ่มหลงในความรักที่กู้เจียฉิงมอบให้แบบจอมปลอมเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอได้สร้างอำนาจและอิทธิพลเพื่อไว้สู้กับคนคนนั้น อย่างน้อยๆ ตอนนี้รู้แล้วว่ากู้เจียฉิงทำแบบนั้นเพราะได้รับคำสั่งมา “อ้อ อีกเรื่องเรื่องนี้สำคัญมาก มีคนขอพบนายน้อยหยางเพื่อจะสั่งซื้ออาวุธล็อตใหญ่ น่าจะคนมีอิทธิพลพอตัว แต่เขาไม่ได้ใช้ในประเทศนะจะส่งออกต่างประเทศ เธอว่ายังไง” อาเหมยคุยเรื่องงานต่อ เธอไม่อยากให้เสี่ยวหลินจมอยู่กับความแค้นมาก คนเราจะแก้แค้นมันต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะครั้งนี้มันเดิมพันด้วยตระกูลจ้าวและชีวิตของทุกคน “ให้คนของเราสืบมาว่าคนที่ต้องการซื้อเป็นใคร การส่งอาวุธออกนอกประเทศตอนนี้ไม่ง่าย มีการตรวจเข้มขึ้นกว่าเดิมมาก ฉันไม่อยากจะเสี่ยง อีกทั้งถ้าซื้อแล้วขนออกไปได้ก็ดีไป แต่ถ้าเอามาเล่นงานกันเองฉันว่ามันไม่คุ้ม” จ้าวเจียวหลินมองว่าถึงแม้ว่าขายอาวุธจะได้เงินดี แต่ความเสี่ยงที่คนซื้อจะโกหกมันก็มีมากเหมือนกัน อีกไม่นานพ่อและพี่ชายจะไปทำภารกิจเท่าที่เธอจำได้จากชาติก่อน เธอกลัวว่าคนซื้อจะเอาไปถล่มทีมของพ่อและพี่ชายเธอนะสิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD