การดูตัววันนี้คุณหนูมาเฟียอย่างคาร์เทียร์เลือกแต่งตัวเซ็กซี่ที่สุดในชีวิต ชุดเดรสรัดรูปเห็นสัดส่วนตึงเปรี๊ยะสีขาวเว้าลงเล็กน้อยจนเห็นเนินอกที่นูนขึ้นเป็นรูปทรงสวยงาม รองเท้าส้นสูงเพื่อเรียวขาที่ดูสวย ผมดัดลอนปล่อยสยาย ส่วนใบหน้าเน้นแต่งไปทางจัดจ้าน
ริมฝีปากเคลือบด้วยลิปนติกสีแดงสดฉีกยิ้มให้ว่าที่สามีซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
คืนนี้เธอเซ็กซี่และจัดจ้านไม่ใช่ตัวเอง หากแต่เขาคงเส้นคงวาเหมือนเดิม
รูปปั้นเดินได้…
“เมื่อคืนขอโทษที่ทำตัวเสียมารยาท พอดีว่าเมา” เธออายุน้อยกว่าคิระ แต่จงใจพูดกับเขาแบบไม่มีหางเสียงและใช้น้ำเสียงห้วนๆ ถ้าแม่รู้ตีปากเธอแน่
นี่ไม่ใช่ตัวตนของเธอ ตั้งใจสร้างอีกตัวตนขึ้นมาเพื่อทำให้คิระไม่ชอบและไม่ประทับใจจนอยากยกเลิกงานแต่ง
“ไม่เป็นไร”
“ชื่อคิระมีความหมายไหม”
มาเฟียหนุ่มไม่ตอบ ยกไวน์เลิศรสขึ้นมาจิบอย่างละเมียดละไม ความเฉยชาของอีกคนพานทำคนตัวเล็กรู้สึกหงุดหงิดตามไม่ใช่น้อย อีกทั้งการถามแล้วไม่ได้รับคำตอบกลับคนถามก็รู้สึกเสียหน้าเช่นกัน
“เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน?”
“…”
“ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?”
“…”
“ได้ข่าวว่าเคยเป็นข่าวกับผู้หญิงด้วย ถ้าเราแต่งงานกันแล้วและคุณยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นอยู่อีก ฉันไม่ยอมนะบอกเลย” หรือแผนการของเธอจะไม่เวิร์ก พยายามทำตัวให้ดูน่ารำคาญ ทว่าคิระกลับยังคงนิ่งเฉย ยกไวน์ขึ้นจิบอย่างใจเย็นทำราวกับเธอเป็นธาตุอากาศอย่างไรอย่างนั้น
“มันน่าหงุดหงิดนะเวลาถามอะไรไปแล้วไม่ได้รับการตอบกลับ”
สายตาเย็นชาปรายมามองคนที่กำลังนั่งบ่นอุบฝั่งตรงข้าม วางแก้วไวน์ลง ก่อนจะขยับริมฝีปากหยักได้รูปตอบอีกคน
“ต้องการคำตอบแบบไหน”
“คำตอบที่ตรงกับคำถาม”
“คำถามไร้สาระ”
คุณหนูมาเฟียถึงกับไปต่อไม่เป็นเมื่ออีกคนตอบกลับมาแบบนั้น แต่ก็เริ่มมองเห็นความคืบหน้าของแผนการที่ตัวเองเตรียมมา
คิระเริ่มรำคาญเธอแล้ว…
“ถามจริงๆนะ คุณอยากแต่งงานไหม”
“พูดตรงๆก็ไม่”
“ทำไมคุณไม่ลองไปคุยกับครอบครัวของคุณว่าไม่อยากแต่งงานกับฉัน ส่วนฉันก็จะไปคุยกับครอบครัวของฉัน งั้นเราเอาแบบนี้เลยไหม ต่างคนต่าง…”
“ถ้ามันง่ายอย่างที่เธอพูดมาก็ดี”
สีหน้าของคาร์เทียร์เริ่มหมดหวังเมื่อได้รับคำตอบแบบนั้นจากคิระ
“เราไม่ได้ชอบพอกันเลยสักนิด คนไม่ได้รักกันจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง”
“อยู่แบบไม่รัก”
แต่ละอย่างที่เขาพูดออกมาฟังดูเหมือนง่ายแต่ถ้าได้ทำจริงๆแล้วคงยาก คนสองคนไม่ได้มีความรู้สึกดีๆให้กันแต่ต้องมาแต่งงานและอยู่กินด้วยกัน มีแต่ความอึดอัดเปล่าๆ
พ่อเธอเคยบอกว่าสมัยพ่อแม่ของพ่อแต่งงานกันก็ไม่ได้เกิดจากความรัก พออยู่ด้วยกันนานไปความรักจึงก่อตัวในภายหลัง ถ้าทุกคู่ที่ไม่ได้รักกันแล้วไปรักกันหลังจากแต่งงานแล้วก็คงดี แต่ดูทรงคู่ของเธอคงจะ…
ไม่มีวันนั้น
เพราะคิระทั้งเย็นชาและไม่สนใจเธอ แสดงออกชัดเจนเลยด้วยซ้ำว่าไม่ได้คิดอะไรด้วย
ซ่า!
“ว๊าย!”
“ขะ…ขอโทษค่ะคุณผู้หญิง”
“ซุ่มซ่าม! ชุดฉันเปียกหมดแล้วเนี่ย” เธอดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วและต่อว่าพนักงานที่ทำน้ำหกใส่ด้วยความไม่พอใจ ส่วนพนักงานคนนั้นก็ก้มหน้าขอโทษขอโพยอย่างรู้สึกผิด
ตามแผนการที่เธอจัดเตรียมเอาไว้เป๊ะๆ
หากเป็นในชีวิตจริงเธอคงไม่กล้าวีนใส่ใคร อย่างมากแค่บอก ‘ไม่เป็นไร’ ให้จบแค่ตรงนั้น แต่นี่ต้องเล่นใหญ่ให้สมกับแผนการที่จัดเตรียมมา
“ขะ…ขอโทษจริงๆค่ะคุณผู้หญิง ขอโทษด้วยจริงๆ”
“น่าหงุดหงิดชะมัด! ไปให้พ้นหน้าฉัน”
“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งด้วยนะคะ”
เธอยังคงเล่นละครรับบทเป็นคุณหนูขี้วีน กระแทกตัวนั่งลงเก้าอี้ตัวเดิม แสดงสีหน้าไม่พอใจราวกับไม่พอใจจริงๆ สายตามองอากัปกิริยาของคิระ
เขานั่งจิบไวน์อย่างสบายใจเฉิบ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ที่เธอเล่นใหญ่เล่นโตไม่ได้มีผลอะไรกับเขาเลยเหรอ? เมื่อครู่คนมองเต็มห้องอาหารแต่เขากลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมานอกจากนั่งจิบไวน์ ฟังเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ
ทำราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แผนการที่ดูเหมือนจะสำเร็จ ทำไมตอนนี้ดูเหมือนกำลังพังลงไม่เป็นท่ามากกว่า
“เอ่อ… เมื่อกี้ขอโทษด้วยนะคะ”
“เรื่อง?”
“ที่โวยวายใส่พนักงานคนนั้น”
“เธออยากทำอะไรก็เชิญ เพราะว่าฉันไม่ได้สนใจเรื่องของเธอขนาดนั้น”
เสียงหน้าเธอดังเพล้งแรงมากเมื่อได้ฟังประโยคนั้นจากปากว่าที่สามีของตัวเอง หมายความว่าที่เล่นใหญ่เล่นโตก่อนหน้านี้ไร้ความหมายน่ะสิ?
ลงทุนดีลกับพนักงานขนาดนี้เพื่อทำให้คิระรำคาญกับนิสัยของตน ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือคำตอบที่ทำคนฟังอย่างเธอหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
“พูดตรงๆนะ ฉันว่าพวกเราเข้ากันไม่ได้หรอก จบทุกอย่างตั้งแต่ตอนนี้ก่อนอะไรๆมันจะสายเกินแก้หลังจากแต่งงานกันไปดีกว่า”
“…”
“คุณไม่ได้รักฉัน ฉันไม่ได้รักคุณ อีกอย่างฉันเด็กกว่าคุณมาก คุณเป็นพ่อฉันได้เลยนะ”
คราวนี้คิระดึงสายตากลับไปมองคาร์เทียร์ที่เพิ่งบอกว่าตนสามารถเป็นพ่อของเธอได้เลย
เธอกำลังด่าเขาว่า ‘แก่’ ทางอ้อมอยู่
“ลองคิดดีๆนะคุณคิระ”
“น่าสนใจ”
คาร์เทียร์คลี่ยิ้มอย่างมีความหวัง ทว่าต้องหุบยิ้มลงเพราะประโยคต่อมาของว่าที่สามี
“แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราแค่สองคน”
“ถ้าพวกเราไม่อยากแต่งงานกันผู้ใหญ่ก็ทำอะไรไม่ได้”
“ถ้ามันง่ายอย่างที่เธอพูดก็ดี” คิระเอาประโยคเดิมที่เคยตอบคาร์เทียร์ก่อนหน้านี้มาพูดอีกครั้ง
สัญญานี้มีมานานแล้ว ถ้าไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้น สองตระกูลต้องกลับไปบาดหมางกันอีกครั้งอย่างแน่นอน สิ่งที่คาร์เทียร์พูดมันเหมือนง่าย แต่ถ้าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นจริงก็คงยากที่จะรับมือ
“หมายความว่าคุณจะแต่งงานกับฉันเหรอ?”
“แต่งงานกับเธอคือหน้าที่”
ถึงจะไม่ได้มีความรู้สึกดีๆกับคิระ แต่ประโยคนั้นของเขาก็ทำคนฟังรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาได้เหมือนกัน ดีที่ไม่ได้รู้สึกอะไรประโยคนั้นเลยไม่มีผลต่อเธอเสียเท่าไร
“แปลว่าจะแต่งงานกับฉันสินะ” เธอนั่งแค่นยิ้มออกมา แผนการที่เตรียมมาพังลงไม่เป็นท่า คิระยืนยันจะแต่งงานกับเธอ กระทำของเธอก่อนหน้านี้ไม่ช่วยทำให้เขาเปลี่ยนใจได้เลย
แผนการล้มเหลว…
“ถ้าจะแต่งงานกับฉัน ผู้หญิงที่คุณคั่วอยู่ด้วยต้องไม่มี หวังว่าแค่นี้คุณจะทำให้ภรรยาอย่างฉันได้นะ” ถึงการแต่งงานไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เธอก็ขอรักษาหน้าและศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้ก่อน
หลังจากพี่คาร์มินบอกว่าคิระเคยมีข่าวกับผู้หญิงบ่อยๆ เธอก็ไปเสิร์ชอ่านข่าวของเขา แต่ละคนที่คิระเป็นข่าวด้วยดีกรีเป็นถึงนางแบบชื่อดังทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้เธอคงประเมินเขาต่ำเกินไปสินะ เห็นนิ่งๆแบบนี้ฟาดเรียบเหมือนกันนะพ่อคุณ
“ว่ายังไง แค่นี้คุณทำให้ฉันได้รึเปล่า” เห็นคิระไม่ตอบจึงถามขึ้นอีกครั้ง
“หลังแต่งงานค่อยว่ากันอีกที”
ตอบแบบนี้แสดงว่าไม่กล้ารับปากกับเธอสินะ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นผู้ชายเย็นชาแต่ที่ไหนได้… เสือผู้หญิงชัดๆ
เธอวางแขนทั้งสองบนโต๊ะอาหารพร้อมกับโน้มหน้าเข้าไปหาคิระเล็กน้อย ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มร้ายกาจ ก่อนที่ริมฝีปากสีระเรื่อจะขยับพูดบางอย่าง
“ฉันตรงสเปกคุณไหม?”
คิระพิศมองคาร์เทียร์ด้วยความเงียบ วันนี้หญิงสาวแต่งตัวค่อนข้างเซ็กซี่อย่างเปิดเผยและแต่งหน้าจัดจ้าน ไม่เหมือนคุณหนูมาเฟียคนเมื่อคืนที่ดูไปทางน่ารักปนเซ็กซี่นิดๆ แต่งหน้าเบาๆ
“เด็กเกินไป” ยกเว้นส่วนอื่นที่โตดึงดูดสายตาเขาไปมองหลายต่อหลายครั้งนั่นก็คือ… หน้าอก
“ทำใจเถอะค่ะ เพราะเด็กคนนี้กำลังจะเป็นเมียของคุณในอีกไม่ช้า” โดนว่า ‘เด็กเกินไป’ ทีไรควันออกหูทุกที เด็กแล้วไง เดี๋ยวก็โตไหม