บารมีพารวิมายังบ้านหลังใหญ่ของเขาที่อยู่เกือบถึงตัวเมือง เด็กรับใช้ในบ้านเดินมารับกระเป๋าของรวิไปถือไว้
“ไปจัดห้องนอนให้รวิอยู่ตรงข้ามห้องของฉัน ต่อไปรวิจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะหลานสาวของฉัน” บารมีพูดเสียงดังให้ได้ยินทั่วกัน
รวิยืนอึ้งเล็กน้อย ไม่เคยเห็นเพื่อนของพ่อในมุมนี้มาก่อน
“ต่อไปอาคือผู้ปกครองของรวิ รวิจะทำอะไร หรือไปที่ไหนต้องขออนุญาตอาก่อนทุกครั้ง อาจะไม่ตามใจรวิเพราะสงสาร อาไม่อยากให้รวิเสียนิสัย” บารมีบอกข้อตกลงกับรวิ รวิพยักหน้ารับทราบ
“รวิเข้าใจค่ะ”
“แล้วรวิมีหน้าที่อะไรบ้างคะ” รวิถามต่อ
“อาอยากให้รวิตั้งใจเรียนเป็นหลัก ตอนอยู่กับพ่อแม่รวิเคยทำหน้าที่อะไร อยู่นี่รวิก็ทำเหมือนเดิมแหละ” บารมีบอกรวิ แล้วให้เด็กรับใช้พาเดิมชมบ้าน
บ้านของบารมีเป็นบ้านขนาดใหญ่ มีเด็กรับใช้สามคน และมีหัวหน้าแม่บ้านที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นแม่อีกหนึ่งคน ทำหน้าที่เป็นแม่ครัว
มีลูกน้องผู้ติดตามอีกไม่น้อยกว่าห้าคนที่พักอยู่ห้องพักด้านหลัง และทำงานไปกลับที่บริษัทฯปล่อยเงินกู้อีกไม่ต่ำกว่าสิบคน
แม่ของบารมีประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อปีที่แล้ว ทำให้พ่อของเขาที่ทำใจไม่ได้ ตัดสินใจสละทางโลกหันหน้าเข้าหาธรรมะ วางมือจากวงการให้บารมีดูแลงานต่อทั้งหมด
บารมีให้แต๋วเด็กรับใช้ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับรวิเป็นคนพารวิไปเดินดูห้อง และให้พารวิไปแนะนำตัวกับคนที่เหลือ
รวิอาสาเป็นลูกมือทำกับข้าวช่วยป้าตุ่นหัวหน้าแม่บ้านที่เป็นแม่ของแต๋ว อาหารเย็นวันนี้บารมีจึงมีคนร่วมโต๊ะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
“พรุ่งนี้อาจะให้คนพาไปวัดนะ”
“รวิไปเองได้ค่ะ คนเอามอเตอร์ไซค์มาส่งแล้ว” รวิบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“ไปคนเดียว เดี๋ยวก็เจอพวกนั้นอีก”
“แต่..” รวิอ้าปากจะเถียงต่อ
“อย่าดื้อสิรวิ” บารมีปรามเสียงดุ
“ค่ะ” รวิรับคำ
บารมีตักกับข้าวให้รวิ ให้เธอหายเกร็งที่เขาดุ
“ทานเยอะๆ ผอมจนจะปลิวแล้วเราน่ะ” บารมีบอก
รวิยิ้มให้แล้วทานข้าวในจานจนเกือบหมด
รวิให้คนขับรถพาเธอเอาเถ้ากระดูกไปเก็บไว้ที่บ้านของพ่อแม่ และเก็บของที่เหลือบางส่วนกลับมาด้วย
พอถึงบ้านของบารมี รวิก็เอาของขึ้นไปเก็บแล้วลงมาช่วยป้าตุ่นในครัว
“มีอะไรให้รวิช่วยไหมคะป้าตุ่น” รวิถาม
“ไม่มีอะไรแล้วค่ะคุณหนู”
“ป้าอย่าเรียกรวิว่าคุณหนูสิคะ รวิไม่ชิน” รวิบอกป้าตุ่น
“งั้นป้าเรียกคุณรวิก็ได้ ถ้าไม่เรียกแบบนี้ คุณบารมีต้องดุพวกเราแน่” ป้าตุ่นบอก
“แล้วคุณรวิไม่ต้องลงมาช่วยป้าบ่อยๆ ก็ได้”
“ก็รวิไม่มีอะไรทำนี่ค่ะ อีกอย่างอาบารมีก็บอกให้รวิทำเหมือนอย่างที่เคยทำที่บ้าน ที่บ้านรวิก็ช่วยแม่ทำกับข้าวและทำงานบ้านอยู่บ่อยๆ” รวิบอกเหตุผลของเธอ
“งั้นคุณรวิมาช่วยป้าทำกับข้าว และยกของว่างไปเสิร์ฟคุณบารมีก็พอค่ะ งานบ้านปล่อยให้เด็กๆ ทำกันไป คุณรวิเอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่า ทำมากกว่านี้พวกนังแต๋วมันจะโดนดุซะเปล่า” ป้าตุ่นบอกรวิ
“ค่ะ ตามนั้นค่ะป้าตุ่น” รวิรับคำ
“ตอนนี้คุณบารมีมีแขก เดี๋ยวป้ารบกวนคุณรวิช่วยยกของว่างไปที่ห้องรับแขกกับนังแต๋วด้วยนะคะ” ป้าตุ่นบอกพร้อมเดินไปเรียกแต๋วมายกของว่างช่วยรวิคนละชุด
รวิและแต๋วยกของว่างไปเสิร์ฟที่โต๊ะ แขกของบารมีเป็นผู้หญิงสาวสวย หุ่นนางแบบ อายุน่าจะสามสิบต้นๆ แต่งหน้าจัด แต่งตัวรัดรูป กระโปรงสั้น โชว์หน้าอกหน้าใจ นั่งข้างกายบารมี
“เด็กรับใช้ใหม่เหรอคะ แนทไม่เคยเห็นหน้า” นทพร ถามขึ้นมา
นทพรเป็นลูกสาวของเฮียฮวด เจ้าพ่อเงินกู้นอกระบบที่พ่อของรวิไปกู้มา
“นี่รวิ หลานสาวของผม” บารมีแนะนำรวิให้นทพรรู้จัก
รวิยกมือไหว้นทพร นทพรรับไหว้ยิ้มให้ตามมารยาท แล้วรวิก็ขอตัวออกไปพร้อมกับเด็กรับใช้
“คนที่ผมจะใช้หนี้แทนพ่อของเขาให้พ่อคุณ” บารมีบอก
เหตุผลที่นทพรมาที่นี่ก็เพราะรู้จากลูกน้องว่าบารมีจะขอใช้หนี้แทน เลยหาข้ออ้างมาหาบารมี ผู้ชายที่นทพรอยากได้มาเป็นคนรัก
แต่บารมีไม่สนใจเธอเลย
“นี่เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ผมขอสัญญาเงินกู้คืนด้วย” บารมีบอกแล้วยื่นเช็คให้นทพร
นทพรรับเช็คมาแล้วเขียนรับเงินตามสัญญาคืนสัญญาต้นฉบับให้แก่บารมี
“เสร็จธุระแล้ว แนทอยากชวนคุณออกไปทานข้าวด้วยกัน ร้านอาหารในตัวเมือง ไปด้วยกันนะคะ”
“คงไม่ได้หรอกครับ ผมมีนัดแล้ว” บารมีออกตัว
เขารู้ทันนทพรที่อยากสานสัมพันธ์กับเขา เธอสวยถูกใจแต่เขาไม่อยากเป็นลูกเขยของเฮียฮวด ที่มักจะชวนบารมีทำธุรกิจกู้เงินแบบผิดกฎหมายและเอารัดเอาเปรียบคนอยู่เสมอ
นทพรกลับไปด้วยท่าทีที่ไม่พอใจเหมือนทุกครั้ง
บารมีครองตัวเป็นโสดตั้งแต่ผิดหวังจากรักครั้งแรก ตอนนั้นบารมีจะเข้าไปสารภาพรักกับคนางค์ แต่ทวีที่เป็นเพื่อนสนิทเข้าไปสารภาพก่อนโดยไม่รู้ว่าบารมีเองก็มีใจให้คนางค์
คนางค์ที่ตอนแรกเหมือนจะมีใจให้บารมี ก็เลือกที่จะตกลงคบกับทวี บารมีจึงยอมถอยให้เพื่อน จนทวีเลิกกับคนางค์ไปคบกับแม่ของรวิ บารมีก็ไม่ได้เจอคนางค์อีกเลย
บารมีมีผู้หญิงเข้าหาอยู่เรื่อยๆ แต่ทุกคนก็เป็นแค่คู่ขากัน บารมีไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าของ เพราะทุกคนเข้าหาเขาก็เพราะเงินและผลประโยชน์ทั้งนั้น ไม่มีใครจริงใจกับเขาสักคน
ไม่มีใครเหมาะที่จะได้รับความรักจากเขาเหมือนคนางค์
*****************************
หนึ่งเดือนผ่านไปรวิปรับตัวได้ดีกับบ้านของบารมี ลูกน้องบารมีรับส่งรวิไปเรียนทุกครั้ง รวิอยู่ในสายตาของบารมีอยู่ตลอด อยู่บ้านก็เข้าครัวช่วยป้าตุ่นอยู่เสมอ
รวิมีฝีมือทำอาหารที่อยู่ในเกณฑ์ดี หน้าที่ของรวิหลักๆ จึงเป็นทำอาหารช่วยป้าตุ่น และหัดทำของว่างให้บารมีชิมอยู่บ่อยๆ
รวิคุ้นเคยกับการที่มีผู้หญิงของบารมีเข้าออกที่บ้านไปแล้ว
ทุกครั้งที่บารมีจะพาผู้หญิงมานอนบ้าน เขาจะกลับดึกเป็นพิเศษ และให้ลูกน้องไปส่งผู้หญิงเหล่านั้นเมื่อเสร็จกิจ
รวิเคยออกมาหานมดื่มอยู่บ่อยๆ เวลาอ่านหนังสือดึกๆ แล้วพบกับผู้หญิงของบารมีเดินออกมาจากห้องนอน แทบจะทุกครั้ง แต่บารมีไม่เคยเดินออกมาส่ง
เหมือนอย่างวันนี้รวิก็เจอผู้หญิงคนล่าสุด คนนี้ไม่เคยเห็นหน้า น่าจะมาใหม่
‘อาบารมีใช้ผู้หญิงเปลืองชะมัด’ รวิคิด แล้วเดินไปอุ่นนมที่เตาไมโครเวฟในครัว เดินออกมาก็พบกับบารมีที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม
“ยังไม่นอนเหรอ เราน่ะ” บารมีถามรวิที่ถือถาดนมและขนมในมือ
“รวิอ่านหนังสือเตรียมสอบค่ะ สัปดาห์หน้าก็จะสอบแล้ว” รวิตอบอาหนุ่ม หน้าแดง เขินที่เขาเปลือยท่อนบน
“คิดไว้รึยังว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหน” บารมีถาม
“รวิว่าจะไม่เรียนมหาวิทยาลัยค่ะ รวิอยากเรียนสายอาชีพ เรียน คหกรรม รวิคิดว่าเรียนจบไวกว่าและมีทักษะทำงานได้เลย” รวิก้มหน้าตอบด้วยความเขิน
บารมีเดินเข้ามาตรงหน้ารวิ เชยคางขึ้น พินิจใบหน้างามนั้น
“ไม่สบายรึเปล่าหน้าแดงๆ” บารมีถามด้วยความเป็นห่วง
“คือ...” รวิกระอึกกระอัก
“เดี๋ยวอาหายาให้กิน”
“รวิสบายดีค่ะ แค่ไม่คุ้นที่เห็นอาบารมีถอดเสื้อ” รวิพูดแล้วก้มหน้าเดินผ่านบารมีไป
บารมีก้มดูตัวเองแล้วส่ายหน้ายิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
“เด็กน้อยเอ๊ย!”
*****************************
เช้าวันรุ่งขึ้นบนโต๊ะอาหาร บารมีมองดูรวิที่ตักข้าวต้มกินแล้วลอบมองเขาบ่อยเหมือนมีอะไรจะพูด
“รวิ” บารมีเรียกชื่อเธอ
“คะ?”
“อยากพูดอะไรกับอารึเปล่า”
“คือเมื่อวานรวิได้รับเช็คจากบริษัทฯประกันแล้ว คือ รวิอยากให้อาบารมีพารวิไปขึ้นเงิน แล้ว...แล้วรวิอยากได้บ้านคืน” รวิพูดออกมาเสียงเบา
“เงินเท่าไหร่” บารมีถามเสียงเรียบ
“สี่แสนค่ะ” รวิตอบ
“ติดจำนองกับอาไว้ สามแสนสองหมื่น เงินเฮียฮวดอีกสี่หมื่น เงินที่บ่อนส่งคนมาทวงอีกหนึ่งแสนหกหมื่น รวมๆ ก็ ห้าแสนสองหมื่น” บารมีพูดแล้วมองหน้ารวิ
“รวิเอามาคืนอาสองแสน อีกสองแสนอาจะเก็บไว้ให้รวิเรียน จะใช้เมื่อไหร่ค่อยมาเบิกเอา เรียนจบทำงานเมื่อไหร่ค่อยหาเงินมาซื้อบ้านคืนจากอา”
“แต่สัญญาจะหมดเดือนหน้าแล้วนี่คะ”
“จะหมดตอนไหนไม่สำคัญ อาไม่เอาบ้านของรวิไปขายต่อหรอก อาจะรอขายให้รวิในราคาเดิม เท่าตอนนี้เลย อาสัญญา” บารมีให้สัญญา
รวิยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“ขอบคุณนะคะ”
“อย่ารีบร้อนเกินไป อาไม่โกงรวิหรอก” บารมีพูดยิ้มๆ
“รวิแค่อยากได้บ้านคืน ไม่ได้กลัวอาจะโกง” รวิตอบ
บารมีลูบหัวรวิอย่างเอ็นดู
“รีบกินจะได้โตไวๆ”
“รวิโตเป็นสาวแล้วนะคะ นี่มีหนุ่มมาจีบแล้วด้วย” รวิเผลอพูดออกไป บารมีทำหน้าดุ
“อย่าเพิ่งมีแฟนนะรวิ ถึงอาไม่ใช่พ่อ แต่อาก็ต้องเตือนในฐานะผู้ปกครอง การมีความรักในวัยเรียนมันไม่ยั่งยืนหรอก”
“ค่ะ อา” รวิตอบอย่างเชื่อฟัง
“ห้ามมีแฟนจนกว่าจะเรียนจบ” บารมีย้ำอีกรอบด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ รวิทราบแล้วค่ะ อาดุกว่าพ่อรวิอีก ใครจะกล้าขัดคำสั่งละคะ” รวิพูด ทำเสียงน่ารัก จนบารมีอดยิ้มให้ไม่ได้
*****************************