ตอนที่2

3014 Words
    เจติยายืนหอบหายใจมองร่างที่ครางบ่นงึมงำอยู่บนที่นอนกว่าจะพาขึ้นมาถึงห้องได้ก็เล่นเอาเธอเหนื่อยหอบเหมือนกันเพราะคนที่เมาแล้วออกอาการซุกซนทั้งมือไม้และปากจมูกที่คอยแต่จะซุกไซ้เข้าหาเธอตลอดทาง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสงบลงแล้วร่างบางจึงได้เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่แล้วเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยก็ไม่ลืมที่จะเตรียมน้ำใส่กาละมังใบเล็กเพื่อไปเช็ดตัวให้คนเมาด้านนอก เจติยาประคองกาละมังออกมาจากห้องน้ำ แต่ต้องเบิกตาอ้าปากค้างแทบร้องออกมาเมื่อมองไปเห็นคนที่คิดว่าหลับไปแล้วตอนนี้ร่างกายแทบเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเสื้อผ้ากระจายอยู่รอบตัว ภาพสาวสวยที่มีเพียงชั้นในสีขาวสองชิ้นปกปิดร่างกายกำลังนอนคู้เข่าหลับอยู่กลางเตียงเรียกเลือดในกายให้กระจายขึ้นสู่ใบหน้าสวยหวานของคนที่ต้องมาเจออย่างไม่ตั้งใจ "ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะปรางถ้าเกิดไปเมาแล้วอยู่กับคนอื่นจะทำยังไงเนี่ย" เจติยาทั้งตกใจและมีความรู้สึกห่วงหวงปะปนขึ้นมาในความรู้สึกอีกด้วย ร่างบางเดินเข้าไปนั่งลงข้างคนหลับและแอบสำรวจอีกคนไปด้วย ปรางวรัญมีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าดีพอๆกับดาราหลายคนเลยล่ะ ผิวขาวที่ออกสีเรื่อแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ดูเนียนนุ่มน่าสัมผัส เจติยาบิดผ้าขนหนูผืนเล็กพอหมาดก่อนจะยื่นไปเช็ดใบหน้าอีกคนเบาๆ อือ เสียงครางและขยับใบหน้าให้พ้นความเย็น นางเอกสาวยังคงไล้เช็ดไปตามลำคอและเนื้อตัวที่เกือบเปลือยของคนร่างสูง นี่ถ้าอีกคนไม่ได้เมาไร้สติแบบนี้เธอคงไม่กล้าทำแบบนี้หรอกแค่นี้ใบหน้าก็เห่อร้อนเพราะรู้สึกขัดเขินกับร่างตรงหน้าไม่น้อย "หือ คราย หนาวๆ กอดหน่อย"  มือที่ไขว่คว้าหาความอุ่นสะเปะสะปะกวาดมาเจอกับคนที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พอดีปรางวรัญเหนี่ยวรั้งร่างนั้นเข้าหาทั้งที่สติตัวเองมึนเบลอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ แต่กลิ่นหอมที่ปลายจมูกรับรู้ทำให้อยากเอาใบหน้าเข้าไปซุกซบต้นตอของกลิ่นอันหอมเย็นนี่เหลือเกิน อุ๊ย!  "ปราง ฮื้อ ทำไมแรงเยอะแบบนี้นี่ฮึ" เจติยาที่ไม่คิดว่าคนเมาจะคว้าตัวเธอแล้วรั้งแรงจนล้มทับลงไปหาแล้วกอดรั้งเข้าหาตัวทั้งที่ตาไม่ยอมลืม "อืมอุ่นจัง หอมด้วย" แค่กอดยังไม่พอปากกับจมูกคมก็ขยับสูดดมกลิ่นหอมที่ลอยวนให้คนที่ถูกลวนลามอย่างไม่ทันตั้งตัวได้ขนลุกซู่เพราะสาบเสื้อคลุมอาบน้ำที่สวมอยู่ภายใต้นั้นเจติยายังไม่ได้สวมใส่อะไรและคนเมาละเมอมาซุกไซ้จนมันเปิดแยกจากกันแบบนี้ก็ทำเอาใจสั่นไปหมด "ปราง นอนดีๆค่ะ" "หือ อย่าดิ้นสิ จะกอดหนาว" มันน่าตีจริงๆเลยไอ้ตอนแก้ผ้าทำไมไม่รู้จักหนาวฮึ "หนาวก็จะห่มผ้าให้นี่ไง ปล่อยเจก่อนนะ" เจติยาพยายามพูดใกล้หูคนที่กอดเธอแน่นแถมขาเรียวสวยยังพาดมาเกี่ยวเธอไว้อีกต่างหาก "เจหนาย หือ" ปรางวรัญที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นแต่หูกลับได้ยินเสียงหวานที่คุยอยู่ใกล้ๆให้พยายามเปิดตาที่หนักอึ้งขึ้นมอง ภาพพร่าเบลอของผู้หญิงสวยที่กำลังจ้องมองอยู่ทำให้เรียวปากอิ่มยกยิ้มก่อนมีเสียงหัวเราะน้อยๆตามมา "น้ำฟ้า น้ำฟ้ามาอยู่นี่ได้ไงหึ" เจติยาอดที่จะขำออกมาไม่ได้จู่ๆคนเมาก็ผงกศรีษะขึ้นมาปรือตามองเธอแล้วก็เอ่ยเรียกชื่อนางเอกละครที่เธอแสดงและก็เพิ่งจะปิดกล้องไปนั่นล่ะ "รู้จักน้ำฟ้าด้วยเหรอคะปราง" เจติยาแกล้งถามคนเมาที่ตอนนี้มองจ้องเธออยู่ "น้ำฟ้าจริงๆด้วยคุณมาอยู่ในห้องปรางได้ยังไง รู้จักชื่อเราด้วยเหรอ" ปากพูดมือเรียวก็ยื่นไปลูบไล้ใบหน้าสวยที่ตนคิดว่าฝันไปที่จู่ๆนางเอกในละครก็มานอนให้กอดแบบนี้  เจติยาอมยิ้มขำคุยกับคนเมานี่ก็ตลกดีเหมือนกัน "แล้วถ้าเป็นน้ำฟ้าจริงๆคุณจะทำอะไรคะปราง" น้ำเสียงหวานและรอยยิ้มคล้ายยั่วยวนในทีทำให้คนที่สติไม่เต็มร้อยเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาให้คนมองชักหวั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว "ทำอะไรงั้นเหรอ อยากทำเหมือนภาคินไงคะ" อุ๊บ อื้อ เจติยาที่ไม่คิดว่าคนเมาที่ตัวเองเอ่ยยั่วเล่นจะทำสิ่งนี้เมื่อริมฝีปากอุ่นที่พอพูดจบก็ฉกเข้ามาทาบทับปากเธอทันที ปรางวรัญที่คิดว่าตนเองนั้นฝันอยู่ก็รู้สึกนึกสนุกที่ในฝันมีนางเอกคนสวยมาพูดยั่วเย้าให้นึกอยากจะแกล้งอีกฝ่ายขึ้นมา แต่สิ่งที่ได้แตะต้องสัมผัสมันทำไมเหมือนจริงเหลือเกินปากนุ่มนิ่มที่เธอกำลังบดจูบมันนุ่มนิ่มเหมือนขนมเยลลี่จนอดใจไม่ไหวต้องใช้ลิ้นอุ่นลากเลียพร้อมกดเม้มดูดดึงอย่างชอบใจ อื้อ เสียงอู้อี้ของคนใต้ร่างไม่ได้เรียกสติของคนที่กำลังตกอยู่ในอาการกึ่งฝันหวานแม้แต่น้อย ริมฝีปากอุ่นยังคงบดเคล้าความนุ่มนิ่มไม่พอมือเรียวยังลูบไล้ป่ายเปะป่ะตามร่างอุ่นนุ่มที่ตัวเองทาบทับไว้อีกต่างหาก  "อื้อ อ๊ะ ปรางหยุด ค่ะ" เจติยาเบี่ยงหน้าออกพ้นการรุกรานของคนเมาที่แรงเยอะเหลือเกิน มือไม้ก็ยังกับหนวดปลาหมึก "หื้อ น้ำฟ้าอย่าดิ้นสิ ปรางจะกินทำไมน้ำฟ้าตัวหอมจัง หืมฟอด" จมูกโด่งระเรื่อยสูดดมหอมไปทั่วใบหน้าและลำคอขาวจนนางเอกสาวขนลุกขนชันใจเต้นโครมครามไปหมดนี่อีกฝ่ายรู้ตัวบ้างไหมว่าทำเธอหวาบหวิวปั่นป่วนไปหมดเนี่ย "อ๊ะ ปราง!" เจติยาสะดุ้งเจ็บแปล๊บที่ลำคอเมื่อคนแสนซนอยู่ดีๆก็ใช้ปากเม้มดูดดึงเนื้ออ่อนบริเวณนั้นอย่างแรง อยากจะผลักอีกคนให้หัวทิ่มจริงๆเลยป่านนี้จุดนั้นคงจะเป็นรอยแดงแน่ๆ "ปรางคะ หยุดนะ เจไม่เล่นด้วยแล้ว" มือบางพยายามรั้งคนที่คลุกเคล้าใบหน้าลงไปหาเนินอกอิ่มของเธอที่ตอนนี้สาบเสื้อคลุมแยกออกจากกันเพราะแรงขยับดิ้นเห็นไปถึงไหนๆแล้ว "อ๊ะอื้อปะ ปราง" ร่างบางสะดุ้งอีกครั้งพร้อมความรู้สึกเสียวซ่านเมื่อปากอุ่นร้อนของคนด้านบนเข้าครอบครองดูดกลืนยอดอกสีหวาน ความเสียววูบวาบปั่นป่วนหมุนวนลงสู่ช่องท้องแทบจะไร้เรี่ยวแรงห้ามปรามคนเมาแสนหื่นตอนนี้ "อืม อ๊ะ ปราง พอ หยุดนะคะ" เจติยาบิดร่างมือก็ประคองรั้งใบหน้าสวยที่ดูดดื่มอยู่กับยอดถันของเธอให้อีกคนครางหืออย่างขัดใจ แม้ลึกๆในใจจะมีความรู้สึกที่ดีให้กับอีกคนไม่น้อยแต่เธอจะปล่อยให้อะไรมันเลยเถิดเพราะความไร้สติของอีกฝ่ายไม่ได้ สิ่งสำคัญควรจะถูกมอบให้กับคนที่รักกันจริงและไม่ใช่เพราะความเมาแบบนี้ "ฮื้อทำไมน้ำฟ้าดื้อจังคะหือ พี่ปรางแค่จะตีตราจองแค่นั้นเอง" คนสติไม่เต็มร้อยก็ยังคงคิดว่าตัวเองอยู่ในฝันกับนางเอกละครคนสวยที่เธอบังเอิญได้ดูไปสองสามฉากเมื่อไม่นานนี่เองน้ำฟ้ากับนายพระเอกที่ชื่อภาคิน หึ วันนี้เธอจูบตีตราจองน้องน้ำฟ้าคนสวยตัดหน้านายพระเอกนั่นไว้แล้ว เจติยาอยากจะทุบอีกคนจริงๆนี่ดูละครของเธอจนเก็บเอามาฝันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ก็อยากจะดีใจอยู่หรอกนะที่อีกคนจดจำเธอได้น่ะ แต่นี่มันเรื่องจริงนะแล้วดูผลงานที่อีกคนสร้างขึ้นสิมันเป็นรอยรักสามสี่รอยทั่วเนินอกเธอไหนจะรอยที่คอตอนถูกดูดแรงๆนั่นอีก อยากจะโกรธก็โกรธไม่ลงเพราะอีกฝ่ายทำไปเพราะไร้สติ "จองแล้วรับผิดชอบหรือเปล่าปรางฮึ เห็นไหมว่าปรางทำรอยเต็มไปหมดเลยน่ะ" คนหน้าหวานพูดประชดออกไปแม้จะเขินอายกับสภาพตัวเองตอนนี้ที่แทบจะเปลือยต่อหน้าอีกคนเพราะเสื้อคลุมหลุดลุ่ยด้วยฝีมือคนแอบหื่น นี่ถ้าไม่ใช่คนในความทรงจำที่รู้สึกดีด้วยนะคงโดนเธอตบหน้าแหกไปตั้งแต่ฉกจูบแรกของเธอไปแล้ว ส่วนคนก่อเหตุที่ตาเริ่มปรือขยับตัวจากซอกคอขาวขึ้นมองร่างบางตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆอย่างน่าหมั่นไส้ยิ่งนักสำหรับคนได้ยิน "หือ ชัดเจนเลย รอยรักเต็มไปหมดเลย จุฟ น้องน้ำฟ้าไม่ต้องห่วงนะคะพี่ปรางจะรับผิดชอบน้องน้ำฟ้าแทนนายภาคินนั่น แต่น้องน้ำฟ้าอย่าให้ใครมาทำแบบพี่ปรางทำนะคะ พี่ปรางหวงจุฟ" โอยย นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงใจเธอคงอ่อนยวบไปหมดแล้วล่ะเจติยาคิด พี่ปรางอย่างงั้นอย่างงี้ จูบแรกของเธอก็โดนคนเมาแสนหื่นนี่ฉกไปแบบไม่รู้ตัวฮึ่ย ถ้าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาจำอะไรไม่ได้เธอจะทุบให้น่วมเลยคอยดู "ถ้างั้นพี่ปรางนอนนะคะ น้ำฟ้าง่วงแล้วนะ" เมื่อคนไร้สติคิดว่าเธอเป็นน้ำฟ้านางเอกในละครเธอก็จะเล่นตามน้ำเพื่อเอาตัวรอดไปก่อนแล้วกันคืนนี้ "นอนๆค่ะ พี่ปรางก็ง่วงแล้ว จุฟ ฝันดีนะคะน้ำฟ้าที่รัก" คิกๆ ริมฝีปากนุ่มแตะจูบที่เรียวปากบางเรื่ออย่างชอบใจก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกับฟุบหน้าลงกับอกนุ่มของคนใต้ร่างแขนเรียวโอบกอดกระชับอีกคนไว้อย่างกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีหายไปไหน เจติยาทั้งเหนื่อยทั้งอึ้งกับการกระทำของคนเมา อยากจะรู้เหลือเกินถ้าในยามปกติจะจำสิ่งที่ตัวเองทำได้ไหม เธอเองก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันมัวแต่รบกับคนเมานี่เลยเที่ยงคืนมาแล้วทั้งเสียพลังงานไปกับคนที่กอดรัดเธอเป็นหมอนข้างนี่อีก ขอหลับเอาแรงก่อนแล้วกันพรุ่งนี้คงได้มีอะไรสะสางกับคนหื่นนี่อีกแน่หวังว่าคงไม่ตื่นมาปล้ำเธอกลางดึกอีกหรอกนะ ร่างบางมองคนที่กอดก่ายกันก่อนจะดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมเอื้อมหยิบรีโมทที่หัวเตียงปิดไฟลงเพียงไม่นานก็ผล็อยหลับตามกันไป "ปองเดี๋ยวเอาปิ่นโตพวกกับข้าวที่จัดไว้ไปใส่รถด้วยนะฉันจะแวะเอาไปให้ยัยเจที่คอนโดด้วย" "ครับคุณผู้หญิง" "เอาวุ้นมะพร้าวอ่อนไปด้วยลูกแม่ทำไว้เมื่อวาน หนูเจทำงานเหนื่อยๆกินอะไรเย็นๆจะได้รู้สึกดี" "ครับแม่ ให้กินมากๆไม่กลัวคุณหนูเจของแม่น้ำหนักขึ้นเหรอ" ปองพลเอ่ยเย้ามารดาตัวเองที่รักเอ็นดูลูกเจ้านายเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก "มันจะอ้วนอะไรตาปอง แม่ไม่ได้ทำให้กินทุกวันที่ไหนกันล่ะ เดือนละครั้งยังไม่ถึงเลยนี่หนูเจโทรมาบอกว่าอาทิตย์นี้ไม่ได้กลับมานอนบ้านพอดีคุณผู้หญิงจะแวะไปหาแม่ก็เลยทำนี่แหล่ะ" "คร้าบคุณแม่นม" เมื่อหยอกเย้ามารดาเสร็จปองพลจึงได้นำปิ่นโตกับข้าวและกล่องวุ้นมะพร้าวอ่อนไปไว้ที่รถยนต์ ซึ่งวันนี้เขาต้องพาคุณผู้หญิงไปคุยธุระกับมูลนิธิที่จรินทร์พรเป็นหนึ่งในกรรมการจัดหาเงินทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้า "ให้ผมช่วยถือขึ้นไปส่งหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง" "ไม่เป็นไรจ๊ะไม่ได้หนักอะไร เธอไปหาร้านกาแฟนั่งรอก่อนก็แล้วกันนะเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันโทรตาม" จรินทร์พรบอกกับหนุ่มรุ่นลูกที่เธอเห็นเป็นลูกหลานคนหนึ่งปองพลไม่ได้มีหน้าที่คอยขับรถให้คนในบ้าน แต่หากวันปกติเขาไปช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยของเจตรินลูกชายของเธอด้วย "ครับคุณผู้หญิง" เมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องที่ลูกสาวพักอยู่จรินทร์พรกดกริ่งเรียกลูกสาวแต่รอแล้วก็ยังเงียบกริบ "สงสัยยังไม่ตื่นแน่เลยลูกคนนี้ถ้าไม่นอนบ้านอาหารเช้าตื่นมากินบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้" ร่างบางในวัยห้าสิบกว่าที่ยังดูดีได้แต่บ่นให้คนเป็นลูกมือก็ควานหาคีย์การ์ดออกมาเสียบเข้ากับช่องล็อคเพื่อเปิดเข้าไปด้านในภายในห้องที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยให้คนเป็นแม่ยกยิ้มพอใจ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เจติยาได้รับจากเธอไปคือค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบรักสะอาด เมื่อนำสิ่งของไปวางไว้โต๊ะทานข้าวขนาดเล็กแล้วจึงได้เดินไปยังห้องนอนของคนเป็นลูกนี่มันจะสิบโมงอยู่แล้วลูกสาวยังนอนไม่ตื่นอีก เมื่อลองขยับลูกบิดแล้วรู้ว่าไม่ได้ล็อคเธอจึงได้เปิดเข้าไป "อุ๊ย! ตาย!ตาเถร" เสียงอุทานตกใจทำให้ร่างบางที่หลับอยู่รู้สึกตัว "ยัยเจ นี่มันอะไรกันหึ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้พาใครมานอนค้างอ้างแรมด้วยแบบนี้ได้ยังไงกันแม่ไม่เคยสั่งสอนให้เราไม่รักนวลสงวนตัวนะ" จรินทร์พรทั้งตกใจทั้งนึกโมโหลูกสาวและใครอีกคนที่เห็นเพียงด้านหลังเปลือยเปล่าซุกซบอยู่บนร่างลูกสาวคนสวยก็แทบอยากจะกรี๊ดออกมา "คุณแม่! มายังไงคะเนี่ย โอ๊ะ เดี๋ยวๆค่ะใจเย็นเจอธิบายได้" "แกต้องได้อธิบายแน่ ทำไมถึงพาใครมานอนด้วยแบบนี้ฮึ ปลุกขึ้นมาคุยกับแม่เลยนะ" "อื้ออครายเสียงดังจัง คนจะนอน" เสียงแหบงัวเงียโวยวายพร้อมกับซุกใบหน้าเข้ากับความนุ่มนิ่มของคนใต้ร่างแบบไม่รู้ชะตาตัวเองทำให้สองแม่ลูกได้แต่มองหน้ากัน เจติยาใบหน้าแดงเรื่อพลางส่งยิ้มแหยให้กับมารดาที่อ้าปากทำหน้าเหวอ "คุณแม่ออกไปรอเจข้างนอกก่อนนะคะ เจขอจัดการกับเขาก่อน" จรินทร์พรจำต้องพาตัวเองออกมาจากห้องนอนลูกสาว ให้ตายเถอะถึงจะรู้ว่าเจติยามีใจรักในสตรีเพศแต่ก็ไม่เคยเห็นลูกสาวจะคบใครหรือพาใครมาแนะนำให้รู้จักสักที  หรือว่า..ผู้หญิงที่นอนกับลูกสาวคือคนที่เจติยาแสดงอาการท่าทางเหมือนว่าเจอคนที่ชอบเมื่อหลายวันก่อน  เจติยาพ่นลมหายใจออกมาเป็นเรื่องจนได้ แล้วนี่อีกคนทำไมถึงได้ตัวเปล่าเปลือยแบบนี้ โอ้ยเธออยากจะบ้าลำพังกอดซุกซบกันทั้งคืนมันก็ล่อแหลมต่อสายตาของคนที่บังเอิญมาพบเจอแล้วนะ นี่ปรางวรัญถอดชั้นในตัวเองออกตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าที่กอดรัดซบใบหน้าอยู่กับอกเธอซึ่งผ้าห่มที่มันหลุดร่นลงไปจนเห็นแผ่นหลังขาวของอีกคนไม่แปลกหรอกที่มารดาเธอจะโวยวายขนาดนั้นก็ภาพมันชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหนจริงๆ "ปรางๆ ตื่นเดี๋ยวนี้ค่ะ" "อื้อ อย่ากวนได้ไหมจะนอน" "ปรางตื่นนี่มันไม่ใช่ที่บ้านคุณนะคะ" คำว่าไม่ใช่บ้านคุณก็พอที่จะทำให้คนแฮ้งค์จากฤทธิ์ไวน์เมื่อคืนพยายามฝืนเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมามอง สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือความอุ่นนุ่มของใบหน้าที่ทาบทับอยู่สายตาพร่ามัวเริ่มเห็นภาพลางๆและชัดขึ้นเรื่อยๆ "เฮ้ย! คะ คุณ!?" เมื่อสายตาเห็นชัดแล้วว่าสิ่งที่ตนซุกซบอยู่มันคืออกอวบอิ่มของผู้หญิงก็ถึงกับทะลึ่งพรวดขึ้นมาแทบทันที และที่ทำเอาใบหน้าแดงเรื่อขึ้นมาก็เพราะสภาพตัวเองที่เปลือยเปล่าไม่ต่างจากคนที่กำลังดึงสาบเสื้อคลุมเข้าปิดบังร่างกาย แต่สายตาเธอก็ทันได้เห็นรอยแดงที่มันปรากฏบนหน้าอกขาวนั่น "คุณ เกิดอะไรขึ้น ฉะ ฉันรังแกคุณเหรอ?" เมื่อเริ่มตั้งสติได้ปรางวรัญเอ่ยถามอีกคนที่ตอนนี้ขยับลุกขึ้นพิงหัวเตียง ส่วนเธอก็ได้แต่ม้วนเอาผ้าห่มมาปิดร่างตัวเอง นี่เธอเมาแล้วถอดเสื้อผ้ายังไม่พอยังไปทำอะไรอีกคนจนหลักฐานมันโชว์หราขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อกี้เธอเห็นรอยรักที่เนินอกแต่ตอนนี้สายตาเธอเจอกับรอยแดงตรงต้นคอขาวนั่นมันชัดมากปรางวรัญกลืนน้ำลายลงคอนี่ผีหื่นกามที่ไหนมันเข้าสิงร่างเธอถึงได้ทำอะไรแบบนี้ลงไปได้ "คุณจำอะไรได้บ้างหรือเปล่าคะ?" เจติยาเลือกที่จะย้อนถามคนที่ทำหน้าตาเหมือนกลืนยาขมเธอไม่ได้คาดหวังว่าคนเมาจะจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดหรอกอีกคนคงคิดว่ามันเป็นความฝันนั่นแหล่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD