เจติยายืนหอบหายใจมองร่างที่ครางบ่นงึมงำอยู่บนที่นอนกว่าจะพาขึ้นมาถึงห้องได้ก็เล่นเอาเธอเหนื่อยหอบเหมือนกันเพราะคนที่เมาแล้วออกอาการซุกซนทั้งมือไม้และปากจมูกที่คอยแต่จะซุกไซ้เข้าหาเธอตลอดทาง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสงบลงแล้วร่างบางจึงได้เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่แล้วเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยก็ไม่ลืมที่จะเตรียมน้ำใส่กาละมังใบเล็กเพื่อไปเช็ดตัวให้คนเมาด้านนอก
เจติยาประคองกาละมังออกมาจากห้องน้ำ แต่ต้องเบิกตาอ้าปากค้างแทบร้องออกมาเมื่อมองไปเห็นคนที่คิดว่าหลับไปแล้วตอนนี้ร่างกายแทบเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเสื้อผ้ากระจายอยู่รอบตัว ภาพสาวสวยที่มีเพียงชั้นในสีขาวสองชิ้นปกปิดร่างกายกำลังนอนคู้เข่าหลับอยู่กลางเตียงเรียกเลือดในกายให้กระจายขึ้นสู่ใบหน้าสวยหวานของคนที่ต้องมาเจออย่างไม่ตั้งใจ
"ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะปรางถ้าเกิดไปเมาแล้วอยู่กับคนอื่นจะทำยังไงเนี่ย"
เจติยาทั้งตกใจและมีความรู้สึกห่วงหวงปะปนขึ้นมาในความรู้สึกอีกด้วย
ร่างบางเดินเข้าไปนั่งลงข้างคนหลับและแอบสำรวจอีกคนไปด้วย ปรางวรัญมีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าดีพอๆกับดาราหลายคนเลยล่ะ ผิวขาวที่ออกสีเรื่อแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ดูเนียนนุ่มน่าสัมผัส เจติยาบิดผ้าขนหนูผืนเล็กพอหมาดก่อนจะยื่นไปเช็ดใบหน้าอีกคนเบาๆ
อือ เสียงครางและขยับใบหน้าให้พ้นความเย็น นางเอกสาวยังคงไล้เช็ดไปตามลำคอและเนื้อตัวที่เกือบเปลือยของคนร่างสูง นี่ถ้าอีกคนไม่ได้เมาไร้สติแบบนี้เธอคงไม่กล้าทำแบบนี้หรอกแค่นี้ใบหน้าก็เห่อร้อนเพราะรู้สึกขัดเขินกับร่างตรงหน้าไม่น้อย
"หือ คราย หนาวๆ กอดหน่อย"
มือที่ไขว่คว้าหาความอุ่นสะเปะสะปะกวาดมาเจอกับคนที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พอดีปรางวรัญเหนี่ยวรั้งร่างนั้นเข้าหาทั้งที่สติตัวเองมึนเบลอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ แต่กลิ่นหอมที่ปลายจมูกรับรู้ทำให้อยากเอาใบหน้าเข้าไปซุกซบต้นตอของกลิ่นอันหอมเย็นนี่เหลือเกิน
อุ๊ย!
"ปราง ฮื้อ ทำไมแรงเยอะแบบนี้นี่ฮึ"
เจติยาที่ไม่คิดว่าคนเมาจะคว้าตัวเธอแล้วรั้งแรงจนล้มทับลงไปหาแล้วกอดรั้งเข้าหาตัวทั้งที่ตาไม่ยอมลืม
"อืมอุ่นจัง หอมด้วย"
แค่กอดยังไม่พอปากกับจมูกคมก็ขยับสูดดมกลิ่นหอมที่ลอยวนให้คนที่ถูกลวนลามอย่างไม่ทันตั้งตัวได้ขนลุกซู่เพราะสาบเสื้อคลุมอาบน้ำที่สวมอยู่ภายใต้นั้นเจติยายังไม่ได้สวมใส่อะไรและคนเมาละเมอมาซุกไซ้จนมันเปิดแยกจากกันแบบนี้ก็ทำเอาใจสั่นไปหมด
"ปราง นอนดีๆค่ะ"
"หือ อย่าดิ้นสิ จะกอดหนาว"
มันน่าตีจริงๆเลยไอ้ตอนแก้ผ้าทำไมไม่รู้จักหนาวฮึ
"หนาวก็จะห่มผ้าให้นี่ไง ปล่อยเจก่อนนะ"
เจติยาพยายามพูดใกล้หูคนที่กอดเธอแน่นแถมขาเรียวสวยยังพาดมาเกี่ยวเธอไว้อีกต่างหาก
"เจหนาย หือ"
ปรางวรัญที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นแต่หูกลับได้ยินเสียงหวานที่คุยอยู่ใกล้ๆให้พยายามเปิดตาที่หนักอึ้งขึ้นมอง ภาพพร่าเบลอของผู้หญิงสวยที่กำลังจ้องมองอยู่ทำให้เรียวปากอิ่มยกยิ้มก่อนมีเสียงหัวเราะน้อยๆตามมา
"น้ำฟ้า น้ำฟ้ามาอยู่นี่ได้ไงหึ"
เจติยาอดที่จะขำออกมาไม่ได้จู่ๆคนเมาก็ผงกศรีษะขึ้นมาปรือตามองเธอแล้วก็เอ่ยเรียกชื่อนางเอกละครที่เธอแสดงและก็เพิ่งจะปิดกล้องไปนั่นล่ะ
"รู้จักน้ำฟ้าด้วยเหรอคะปราง"
เจติยาแกล้งถามคนเมาที่ตอนนี้มองจ้องเธออยู่
"น้ำฟ้าจริงๆด้วยคุณมาอยู่ในห้องปรางได้ยังไง รู้จักชื่อเราด้วยเหรอ"
ปากพูดมือเรียวก็ยื่นไปลูบไล้ใบหน้าสวยที่ตนคิดว่าฝันไปที่จู่ๆนางเอกในละครก็มานอนให้กอดแบบนี้
เจติยาอมยิ้มขำคุยกับคนเมานี่ก็ตลกดีเหมือนกัน
"แล้วถ้าเป็นน้ำฟ้าจริงๆคุณจะทำอะไรคะปราง"
น้ำเสียงหวานและรอยยิ้มคล้ายยั่วยวนในทีทำให้คนที่สติไม่เต็มร้อยเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาให้คนมองชักหวั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว
"ทำอะไรงั้นเหรอ อยากทำเหมือนภาคินไงคะ"
อุ๊บ อื้อ
เจติยาที่ไม่คิดว่าคนเมาที่ตัวเองเอ่ยยั่วเล่นจะทำสิ่งนี้เมื่อริมฝีปากอุ่นที่พอพูดจบก็ฉกเข้ามาทาบทับปากเธอทันที ปรางวรัญที่คิดว่าตนเองนั้นฝันอยู่ก็รู้สึกนึกสนุกที่ในฝันมีนางเอกคนสวยมาพูดยั่วเย้าให้นึกอยากจะแกล้งอีกฝ่ายขึ้นมา แต่สิ่งที่ได้แตะต้องสัมผัสมันทำไมเหมือนจริงเหลือเกินปากนุ่มนิ่มที่เธอกำลังบดจูบมันนุ่มนิ่มเหมือนขนมเยลลี่จนอดใจไม่ไหวต้องใช้ลิ้นอุ่นลากเลียพร้อมกดเม้มดูดดึงอย่างชอบใจ
อื้อ เสียงอู้อี้ของคนใต้ร่างไม่ได้เรียกสติของคนที่กำลังตกอยู่ในอาการกึ่งฝันหวานแม้แต่น้อย ริมฝีปากอุ่นยังคงบดเคล้าความนุ่มนิ่มไม่พอมือเรียวยังลูบไล้ป่ายเปะป่ะตามร่างอุ่นนุ่มที่ตัวเองทาบทับไว้อีกต่างหาก
"อื้อ อ๊ะ ปรางหยุด ค่ะ"
เจติยาเบี่ยงหน้าออกพ้นการรุกรานของคนเมาที่แรงเยอะเหลือเกิน มือไม้ก็ยังกับหนวดปลาหมึก
"หื้อ น้ำฟ้าอย่าดิ้นสิ ปรางจะกินทำไมน้ำฟ้าตัวหอมจัง หืมฟอด"
จมูกโด่งระเรื่อยสูดดมหอมไปทั่วใบหน้าและลำคอขาวจนนางเอกสาวขนลุกขนชันใจเต้นโครมครามไปหมดนี่อีกฝ่ายรู้ตัวบ้างไหมว่าทำเธอหวาบหวิวปั่นป่วนไปหมดเนี่ย
"อ๊ะ ปราง!"
เจติยาสะดุ้งเจ็บแปล๊บที่ลำคอเมื่อคนแสนซนอยู่ดีๆก็ใช้ปากเม้มดูดดึงเนื้ออ่อนบริเวณนั้นอย่างแรง อยากจะผลักอีกคนให้หัวทิ่มจริงๆเลยป่านนี้จุดนั้นคงจะเป็นรอยแดงแน่ๆ
"ปรางคะ หยุดนะ เจไม่เล่นด้วยแล้ว"
มือบางพยายามรั้งคนที่คลุกเคล้าใบหน้าลงไปหาเนินอกอิ่มของเธอที่ตอนนี้สาบเสื้อคลุมแยกออกจากกันเพราะแรงขยับดิ้นเห็นไปถึงไหนๆแล้ว
"อ๊ะอื้อปะ ปราง"
ร่างบางสะดุ้งอีกครั้งพร้อมความรู้สึกเสียวซ่านเมื่อปากอุ่นร้อนของคนด้านบนเข้าครอบครองดูดกลืนยอดอกสีหวาน ความเสียววูบวาบปั่นป่วนหมุนวนลงสู่ช่องท้องแทบจะไร้เรี่ยวแรงห้ามปรามคนเมาแสนหื่นตอนนี้
"อืม อ๊ะ ปราง พอ หยุดนะคะ"
เจติยาบิดร่างมือก็ประคองรั้งใบหน้าสวยที่ดูดดื่มอยู่กับยอดถันของเธอให้อีกคนครางหืออย่างขัดใจ แม้ลึกๆในใจจะมีความรู้สึกที่ดีให้กับอีกคนไม่น้อยแต่เธอจะปล่อยให้อะไรมันเลยเถิดเพราะความไร้สติของอีกฝ่ายไม่ได้ สิ่งสำคัญควรจะถูกมอบให้กับคนที่รักกันจริงและไม่ใช่เพราะความเมาแบบนี้
"ฮื้อทำไมน้ำฟ้าดื้อจังคะหือ พี่ปรางแค่จะตีตราจองแค่นั้นเอง"
คนสติไม่เต็มร้อยก็ยังคงคิดว่าตัวเองอยู่ในฝันกับนางเอกละครคนสวยที่เธอบังเอิญได้ดูไปสองสามฉากเมื่อไม่นานนี่เองน้ำฟ้ากับนายพระเอกที่ชื่อภาคิน หึ วันนี้เธอจูบตีตราจองน้องน้ำฟ้าคนสวยตัดหน้านายพระเอกนั่นไว้แล้ว
เจติยาอยากจะทุบอีกคนจริงๆนี่ดูละครของเธอจนเก็บเอามาฝันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ก็อยากจะดีใจอยู่หรอกนะที่อีกคนจดจำเธอได้น่ะ แต่นี่มันเรื่องจริงนะแล้วดูผลงานที่อีกคนสร้างขึ้นสิมันเป็นรอยรักสามสี่รอยทั่วเนินอกเธอไหนจะรอยที่คอตอนถูกดูดแรงๆนั่นอีก อยากจะโกรธก็โกรธไม่ลงเพราะอีกฝ่ายทำไปเพราะไร้สติ
"จองแล้วรับผิดชอบหรือเปล่าปรางฮึ เห็นไหมว่าปรางทำรอยเต็มไปหมดเลยน่ะ"
คนหน้าหวานพูดประชดออกไปแม้จะเขินอายกับสภาพตัวเองตอนนี้ที่แทบจะเปลือยต่อหน้าอีกคนเพราะเสื้อคลุมหลุดลุ่ยด้วยฝีมือคนแอบหื่น นี่ถ้าไม่ใช่คนในความทรงจำที่รู้สึกดีด้วยนะคงโดนเธอตบหน้าแหกไปตั้งแต่ฉกจูบแรกของเธอไปแล้ว ส่วนคนก่อเหตุที่ตาเริ่มปรือขยับตัวจากซอกคอขาวขึ้นมองร่างบางตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆอย่างน่าหมั่นไส้ยิ่งนักสำหรับคนได้ยิน
"หือ ชัดเจนเลย รอยรักเต็มไปหมดเลย จุฟ น้องน้ำฟ้าไม่ต้องห่วงนะคะพี่ปรางจะรับผิดชอบน้องน้ำฟ้าแทนนายภาคินนั่น แต่น้องน้ำฟ้าอย่าให้ใครมาทำแบบพี่ปรางทำนะคะ พี่ปรางหวงจุฟ"
โอยย นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงใจเธอคงอ่อนยวบไปหมดแล้วล่ะเจติยาคิด พี่ปรางอย่างงั้นอย่างงี้ จูบแรกของเธอก็โดนคนเมาแสนหื่นนี่ฉกไปแบบไม่รู้ตัวฮึ่ย ถ้าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาจำอะไรไม่ได้เธอจะทุบให้น่วมเลยคอยดู
"ถ้างั้นพี่ปรางนอนนะคะ น้ำฟ้าง่วงแล้วนะ"
เมื่อคนไร้สติคิดว่าเธอเป็นน้ำฟ้านางเอกในละครเธอก็จะเล่นตามน้ำเพื่อเอาตัวรอดไปก่อนแล้วกันคืนนี้
"นอนๆค่ะ พี่ปรางก็ง่วงแล้ว จุฟ ฝันดีนะคะน้ำฟ้าที่รัก" คิกๆ
ริมฝีปากนุ่มแตะจูบที่เรียวปากบางเรื่ออย่างชอบใจก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกับฟุบหน้าลงกับอกนุ่มของคนใต้ร่างแขนเรียวโอบกอดกระชับอีกคนไว้อย่างกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีหายไปไหน
เจติยาทั้งเหนื่อยทั้งอึ้งกับการกระทำของคนเมา อยากจะรู้เหลือเกินถ้าในยามปกติจะจำสิ่งที่ตัวเองทำได้ไหม เธอเองก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันมัวแต่รบกับคนเมานี่เลยเที่ยงคืนมาแล้วทั้งเสียพลังงานไปกับคนที่กอดรัดเธอเป็นหมอนข้างนี่อีก ขอหลับเอาแรงก่อนแล้วกันพรุ่งนี้คงได้มีอะไรสะสางกับคนหื่นนี่อีกแน่หวังว่าคงไม่ตื่นมาปล้ำเธอกลางดึกอีกหรอกนะ ร่างบางมองคนที่กอดก่ายกันก่อนจะดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมเอื้อมหยิบรีโมทที่หัวเตียงปิดไฟลงเพียงไม่นานก็ผล็อยหลับตามกันไป
"ปองเดี๋ยวเอาปิ่นโตพวกกับข้าวที่จัดไว้ไปใส่รถด้วยนะฉันจะแวะเอาไปให้ยัยเจที่คอนโดด้วย"
"ครับคุณผู้หญิง"
"เอาวุ้นมะพร้าวอ่อนไปด้วยลูกแม่ทำไว้เมื่อวาน หนูเจทำงานเหนื่อยๆกินอะไรเย็นๆจะได้รู้สึกดี"
"ครับแม่ ให้กินมากๆไม่กลัวคุณหนูเจของแม่น้ำหนักขึ้นเหรอ"
ปองพลเอ่ยเย้ามารดาตัวเองที่รักเอ็นดูลูกเจ้านายเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
"มันจะอ้วนอะไรตาปอง แม่ไม่ได้ทำให้กินทุกวันที่ไหนกันล่ะ เดือนละครั้งยังไม่ถึงเลยนี่หนูเจโทรมาบอกว่าอาทิตย์นี้ไม่ได้กลับมานอนบ้านพอดีคุณผู้หญิงจะแวะไปหาแม่ก็เลยทำนี่แหล่ะ"
"คร้าบคุณแม่นม"
เมื่อหยอกเย้ามารดาเสร็จปองพลจึงได้นำปิ่นโตกับข้าวและกล่องวุ้นมะพร้าวอ่อนไปไว้ที่รถยนต์ ซึ่งวันนี้เขาต้องพาคุณผู้หญิงไปคุยธุระกับมูลนิธิที่จรินทร์พรเป็นหนึ่งในกรรมการจัดหาเงินทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้า
"ให้ผมช่วยถือขึ้นไปส่งหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง"
"ไม่เป็นไรจ๊ะไม่ได้หนักอะไร เธอไปหาร้านกาแฟนั่งรอก่อนก็แล้วกันนะเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันโทรตาม"
จรินทร์พรบอกกับหนุ่มรุ่นลูกที่เธอเห็นเป็นลูกหลานคนหนึ่งปองพลไม่ได้มีหน้าที่คอยขับรถให้คนในบ้าน แต่หากวันปกติเขาไปช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยของเจตรินลูกชายของเธอด้วย
"ครับคุณผู้หญิง"
เมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องที่ลูกสาวพักอยู่จรินทร์พรกดกริ่งเรียกลูกสาวแต่รอแล้วก็ยังเงียบกริบ
"สงสัยยังไม่ตื่นแน่เลยลูกคนนี้ถ้าไม่นอนบ้านอาหารเช้าตื่นมากินบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้"
ร่างบางในวัยห้าสิบกว่าที่ยังดูดีได้แต่บ่นให้คนเป็นลูกมือก็ควานหาคีย์การ์ดออกมาเสียบเข้ากับช่องล็อคเพื่อเปิดเข้าไปด้านในภายในห้องที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยให้คนเป็นแม่ยกยิ้มพอใจ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เจติยาได้รับจากเธอไปคือค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบรักสะอาด เมื่อนำสิ่งของไปวางไว้โต๊ะทานข้าวขนาดเล็กแล้วจึงได้เดินไปยังห้องนอนของคนเป็นลูกนี่มันจะสิบโมงอยู่แล้วลูกสาวยังนอนไม่ตื่นอีก เมื่อลองขยับลูกบิดแล้วรู้ว่าไม่ได้ล็อคเธอจึงได้เปิดเข้าไป
"อุ๊ย! ตาย!ตาเถร"
เสียงอุทานตกใจทำให้ร่างบางที่หลับอยู่รู้สึกตัว
"ยัยเจ นี่มันอะไรกันหึ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้พาใครมานอนค้างอ้างแรมด้วยแบบนี้ได้ยังไงกันแม่ไม่เคยสั่งสอนให้เราไม่รักนวลสงวนตัวนะ"
จรินทร์พรทั้งตกใจทั้งนึกโมโหลูกสาวและใครอีกคนที่เห็นเพียงด้านหลังเปลือยเปล่าซุกซบอยู่บนร่างลูกสาวคนสวยก็แทบอยากจะกรี๊ดออกมา
"คุณแม่! มายังไงคะเนี่ย โอ๊ะ เดี๋ยวๆค่ะใจเย็นเจอธิบายได้"
"แกต้องได้อธิบายแน่ ทำไมถึงพาใครมานอนด้วยแบบนี้ฮึ ปลุกขึ้นมาคุยกับแม่เลยนะ"
"อื้ออครายเสียงดังจัง คนจะนอน"
เสียงแหบงัวเงียโวยวายพร้อมกับซุกใบหน้าเข้ากับความนุ่มนิ่มของคนใต้ร่างแบบไม่รู้ชะตาตัวเองทำให้สองแม่ลูกได้แต่มองหน้ากัน เจติยาใบหน้าแดงเรื่อพลางส่งยิ้มแหยให้กับมารดาที่อ้าปากทำหน้าเหวอ
"คุณแม่ออกไปรอเจข้างนอกก่อนนะคะ เจขอจัดการกับเขาก่อน"
จรินทร์พรจำต้องพาตัวเองออกมาจากห้องนอนลูกสาว ให้ตายเถอะถึงจะรู้ว่าเจติยามีใจรักในสตรีเพศแต่ก็ไม่เคยเห็นลูกสาวจะคบใครหรือพาใครมาแนะนำให้รู้จักสักที หรือว่า..ผู้หญิงที่นอนกับลูกสาวคือคนที่เจติยาแสดงอาการท่าทางเหมือนว่าเจอคนที่ชอบเมื่อหลายวันก่อน
เจติยาพ่นลมหายใจออกมาเป็นเรื่องจนได้ แล้วนี่อีกคนทำไมถึงได้ตัวเปล่าเปลือยแบบนี้ โอ้ยเธออยากจะบ้าลำพังกอดซุกซบกันทั้งคืนมันก็ล่อแหลมต่อสายตาของคนที่บังเอิญมาพบเจอแล้วนะ นี่ปรางวรัญถอดชั้นในตัวเองออกตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าที่กอดรัดซบใบหน้าอยู่กับอกเธอซึ่งผ้าห่มที่มันหลุดร่นลงไปจนเห็นแผ่นหลังขาวของอีกคนไม่แปลกหรอกที่มารดาเธอจะโวยวายขนาดนั้นก็ภาพมันชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหนจริงๆ
"ปรางๆ ตื่นเดี๋ยวนี้ค่ะ"
"อื้อ อย่ากวนได้ไหมจะนอน"
"ปรางตื่นนี่มันไม่ใช่ที่บ้านคุณนะคะ"
คำว่าไม่ใช่บ้านคุณก็พอที่จะทำให้คนแฮ้งค์จากฤทธิ์ไวน์เมื่อคืนพยายามฝืนเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมามอง สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือความอุ่นนุ่มของใบหน้าที่ทาบทับอยู่สายตาพร่ามัวเริ่มเห็นภาพลางๆและชัดขึ้นเรื่อยๆ
"เฮ้ย! คะ คุณ!?"
เมื่อสายตาเห็นชัดแล้วว่าสิ่งที่ตนซุกซบอยู่มันคืออกอวบอิ่มของผู้หญิงก็ถึงกับทะลึ่งพรวดขึ้นมาแทบทันที และที่ทำเอาใบหน้าแดงเรื่อขึ้นมาก็เพราะสภาพตัวเองที่เปลือยเปล่าไม่ต่างจากคนที่กำลังดึงสาบเสื้อคลุมเข้าปิดบังร่างกาย แต่สายตาเธอก็ทันได้เห็นรอยแดงที่มันปรากฏบนหน้าอกขาวนั่น
"คุณ เกิดอะไรขึ้น ฉะ ฉันรังแกคุณเหรอ?"
เมื่อเริ่มตั้งสติได้ปรางวรัญเอ่ยถามอีกคนที่ตอนนี้ขยับลุกขึ้นพิงหัวเตียง ส่วนเธอก็ได้แต่ม้วนเอาผ้าห่มมาปิดร่างตัวเอง นี่เธอเมาแล้วถอดเสื้อผ้ายังไม่พอยังไปทำอะไรอีกคนจนหลักฐานมันโชว์หราขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อกี้เธอเห็นรอยรักที่เนินอกแต่ตอนนี้สายตาเธอเจอกับรอยแดงตรงต้นคอขาวนั่นมันชัดมากปรางวรัญกลืนน้ำลายลงคอนี่ผีหื่นกามที่ไหนมันเข้าสิงร่างเธอถึงได้ทำอะไรแบบนี้ลงไปได้
"คุณจำอะไรได้บ้างหรือเปล่าคะ?"
เจติยาเลือกที่จะย้อนถามคนที่ทำหน้าตาเหมือนกลืนยาขมเธอไม่ได้คาดหวังว่าคนเมาจะจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดหรอกอีกคนคงคิดว่ามันเป็นความฝันนั่นแหล่ะ