พยศก็รีบก้าวขึ้นบันไดตรงไปหาเจ้านายหนุ่มในทันที พร้อมกับเอ่ยถาม ก่อนจะเดินมาถึงชั้นสองด้วยซ้ำไป
“เจ้านายมีเรื่องด่วนหรือเปล่าครับ แล้วทำไมสีหน้าดูไม่สู้ดีเลยล่ะครับ”
“เราอยากได้ยาคุม นายมีไหม”
“ยาคุม?”
พยศทวนคำ เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ ที่จู่ๆ เจ้านายหนุ่มก็ต้องการยาคุม ทั้งๆ ไม่เคยจำเป็นต้องใช้มาก่อน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเจ้านายของเขาไม่เคยลืมตัวในเรื่องเหล่านี้เลย
“ใช่ เราต้องการยาคุม ไปเอามาให้เราเดี๋ยวนี้” เมฆีออกคำสั่งเสียงห้วน มั่นใจว่าพยศต้องมียาเหล่านี้พวกติดตัวอย่างแน่นอน
“ได้ครับ เจ้านายรอสักครู่นะครับ”
พยศเข้าไปในห้องนอนของตนเองชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับกล่องยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน เอามายื่นให้กับเจ้านายหนึ่งกล่อง
“ใช้ยังไง” เมฆีรับกล่องยาคุมมาพลิกดู พลางสบถลั่นอย่างหัวเสีย “ให้ตายเถอะ พยศ เราไม่เคยลืมตัวแบบนี้มาก่อนเลย”
“นั่นนะสิครับ ผมก็แปลกใจเหมือนกันที่เจ้านายถามหายาคุม” พยศรับคำ ก่อนจะแนะนำวิธีการกินยาคุมที่อีกฝ่ายถืออยู่ในมือ
“เจ้านายให้เธอกินทีเดียวทั้งสองเม็ดเลยก็ได้ครับ”
“ได้ เราจะทำตามที่นายบอก”
เมฆีพยักหน้ารับ ทำท่าจะเดินกลับไปยังห้องนอนของตนเอง แต่ก็ถูกพยศเรียกไว้เสียก่อน
“เจ้านายครับ รอสักครู่ครับ”
“มีอะไร”
เมฆีเอ่ยถาม แต่พยศไม่ตอบ นอกจากเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง
พยศให้เจ้านายหนุ่มรอไม่เกินนาที ก็กลับมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง ขณะเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ “เจ้านายเอายาไปอีกกล่องดีกว่าครับ ผมคิดว่ากล่องเดียวคงไม่พอแน่ๆ ครับ”
“เห็นท่าจะจริงเหมือนที่นายพูด” เมฆีเอ่ยยิ้มๆ รับกล่องยาคุมอีกกล่องมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องนอนของตนเองอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง พร้อมกับน้ำดื่มและเม็ดยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินที่ถืออยู่ในมือ ไม่พูดพร่ำทำเพลง พอเดินไปถึงเตียงใหญ่ ก็เขย่าร่างบางเต็มแรง เพื่อให้หญิงสาวตื่นจากการหลับใหล
“สาวน้อย...ตื่น! ตื่นเดี๋ยวนี้”
ร่างบางระหงที่ปราศจากอาภรณ์ปกปิดร่างกาย สั่นคลอนตามแรงเขย่าอย่างไม่ปราณีปราศรัย ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นมองอย่างงุนงง ไม่ทันหายงัวเงีย จู่ๆ ก็ถูกบีบพวงแก้มให้เรียวปากอิ่มเผยอออกเล็กน้อย จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าถูกป้อนเม็ดยาบางอย่างเข้ามาในปากด้วย
“กลืนยาลงไป และก็ดื่มน้ำด้วย สาวน้อย”
เมฆีหยิบแก้วน้ำไปจ่อที่เรียวปากอิ่ม บังคับให้หญิงสาวดื่มน้ำไปจนเกือบหมดแล้ว ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน เดินไปเดินมา ยกมือเสยผมจนยุ่งเหยิงไปหมด
“บ้าฉิบ! ไม่น่าลืมตัวเลย”
แม้รู้สึกชอบสาวน้อยจากแดนหมีขาวมากเป็นพิเศษ แต่เขาก็ไม่อยากพลาดพลั้งทำหญิงสาวท้องในขณะที่เขายังไม่พร้อมจะมีเมีย!
ทางด้านของคนที่ถูกบังคับให้กินยาคุมกำเนิดโดยไม่รู้ตัว ค่อยๆ ยันกายผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง แล้วยกมือเล็กขึ้นคลึงขมับ เพราะถูกอาการปวดหัวเล่นงานอย่างหนัก ส่งให้น้ำเสียงที่ครางถามออกมานั้นแผ่วเบาแทบไม่พ้นลำคอ
“ปวดหัว...ฉันอยู่ที่ไหน...”
แม้จะฟังไม่รู้เรื่องว่าหญิงสาวพูดว่าอะไร เพราะหญิงสาวยังคงพูดออกมาเป็นภาษารัสเซีย แต่เมฆีก็พอจะดูออกว่าหญิงสาวกำลังปวดหัวอยู่ จึงทรุดตัวลงนั่งบนเตียงชิดกับร่างบางเปล่าเปลือย ที่ทำให้เขาใจสั่นได้ในทุกวินาที จากนั้นก็กดปลายนิ้วไปบนขมับ ค่อยๆ คลึงนิ้วไปมาอย่างช้าๆ ให้อาการปวดหัวของหญิงสาวทุเลาลง
และขณะปลายนิ้วยังคงคลึงขมับ ทำหน้าที่ของตนเองไปเรื่อยๆ เมฆีก็เอ่ยถามช้าๆ ให้หญิงสาวฟังคำถามของเขาชัดๆ ด้วย
“คุณพูดภาษาไทยได้ไหม”
หญิงสาวพยักหน้ารับ เอ่ยตอบเสียงแผ่วเบาแหบแห้ง “ค่ะ พูดได้ค่ะ”
“คุณชื่ออะไร ทำไมถึงไปอยู่ในร้านของไอ้จอนนี่ได้”
เจ้าของใบหน้างามนิ่วหน้า ไม่ใช่เพราะไม่เข้าใจในคำถาม แต่เธอจำไม่ได้ต่างหากเล่า ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และเธอเป็นใคร?
“ฉัน...ฉันไม่รู้”
“หมายความว่ายังไงไม่รู้”
เมฆีงุนงงกับคำตอบที่ได้รับ หยุดคลึงขมับให้กับหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “คุณกำลังจะบอกผมว่าคุณจำไม่ได้ว่าไปอยู่ที่ร้านของไอ้จอนนี่ยังไง ยังงั้นหรือ”
“ค่ะ...ฉันจำไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าคุณถามถึงเรื่องอะไร” หญิงสาวรับคำเสียงแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยเผยความหวาดหวั่นให้เห็นอย่างชัดเจน
ลางบอกเหตุยุ่งๆ กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เมฆีบอกตนเองเช่นนั้น ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แล้วคุณชื่ออะไร ผมจะได้เรียกคุณได้ถูก”
“ชื่อ...เอ่อ...ฉัน...ไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่าฉันคือใคร ฉันจำอะไรไม่ได้”
หยาดน้ำตาอุ่นร่วงรินมาตามพวงแก้มขาวซีด ทำเอาเมฆีตกใจ...หัวใจกระตกวูบไปกับหยาดน้ำตาใสๆ ของหญิงสาว
“คุณจำอะไรไม่ได้เลย”
เมฆีเอ่ยถามพร้อมกับเช็คคราบน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน จนเขานึกแปลกใจที่ตนเองมีปฏิกิริยาเช่นนี้กับหญิงสาวที่เพิ่งเจอหน้ากัน
แต่ยิ่งเช็ดคราบน้ำตามากเท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งร้องไห้มากเท่านั้น เพราะหวาดกลัวกับสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ในยามนี้
“ฉันจำอะไรไม่ได้ คุณ...คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร...ฉันชื่ออะไร มาจากไหน”
ร่างบางเปล่าเปลือยถลาเข้าไปใกล้ แทบจะเกยไปอยู่บนหน้าตักของเมฆี มือเล็กจับต้นแขนสีแทนทั้งสองบีบไว้แน่น ขณะถามเสียงสั่นเครือ
เจอคำถามนี้เข้า เมฆีถึงกับนิ่งขึงไปหลายอึดใจ หัวสมองทำงานอย่างหนัก ควรจะตอบหญิงสาวว่าอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เขารู้ว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่ทำให้เลือดในตัวของเขาอุ่นจนร้อนฉ่าในทุกวินาที ต้องหลุดมือไปแน่
“เอ่อ...คุณเป็นเมียของผมครับ”
ไม่ใช่แค่เพียงเจ้าของใบหน้างามเท่านั้นที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับคำตอบที่ได้ยิน เมฆีเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อยๆ ที่จู่ๆ หัวสมองก็สั่งการให้เขาตอบเช่นนั้น
“ฉัน...เป็นเมียคุณหรือคะ”
คนถามๆ ไม่เต็มเสียงนัก แต่คนตอบกลับตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่มีลังเล
“ใช่ครับ คุณเป็นเมียของผม”
“เราแต่งงานกันยังงั้นหรือคะ”
หญิงสาวเต็มไปด้วยความสงสัย หัวสมองลอยเคล้งคว้าง ราวกับถูกจับโยนไปกลางอากาศ นึกอะไรไม่ออกซักอย่าง