บทที่7

1148 Words
ทันทีที่กลับมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ เมฆีก็อุ้มร่างบางเกือบเปลือยตรงไปยังห้องนอน ท่อนเนื้อลำใหญ่ที่แข็งขึงชูชัน กอปรกับมีร่างบางหอมละมุนคอยไล่จูบไปทั่วลำคอและใบหน้าคมเข้ม ทำให้ชายหนุ่มก้าวเท้าไปยังห้องนอนได้อย่างยากลำบาก เตียงขนาดคิงไซส์ที่อยู่กลางห้อง ดูเหมือนจะอยู่ไกลนับร้อยเมตรจนแทบก้าวเท้าไปไม่ถึง เมฆีหายใจแรงในทุกครั้งที่หญิงสาวบดเบียดปทุมถันเข้ากับแผงอกแข็งแกร่ง มือเล็กนุ่มนิ่มที่ไต่แผ่นหลัง และพยายามถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออก ยิ่งส่งให้เลือดในกายทุกหยดแล่นพล่าน ร้อนฉ่าไปกับอารมณ์รักที่ถูกปลุกด้วยฝีมือของเธอ “ผมทนไมไหวแล้ว สาวน้อยช่างยั่ว ผมจะรักคุณเดี๋ยวนี้” เมฆีครางเสียงแหบลึกความอดทนเดินทางมาถึงที่สิ้นสุด ทันทีที่วางร่างอรชรบนเตียงนอนหนา ก็รีบปลดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรวดเร็ว ร่างใหญ่กำยำขึ้นทาบทับร่างบาง บดขยี้ริมฝีปากร้อนผ่าว กดจุมพิตดุดันดูดดื่มขบเม้มเรียวปากอิ่ม ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากดูดชิมควานหาน้ำหวานไม่รู้จักพอ ก่อนจะผละริมฝีปาก ลากลิ้นร้อนมาตามลาดไหล่ เข้าหาปทุมถันกลมกลึงน่ากิน แล้วครอบครองกระหวัดดูดชิมความหวานฉ่ำตรงยอดปทุมสีชมพูในทันที เจ้าของใบหน้างามแดงซ่านแอ่นเรือนร่างเข้าหาริมฝีปากร้อนรุ่ม มือเล็กกดศีรษะของอีกฝ่ายให้แนบชิดกับปทุมถัน ครางกระเส่าแทบไม่เป็นภาษา เร่งเร้าให้เมฆีปลดปล่อยเธอจากความทรมานอันแสนหวาน “ฉันทรมาน...ช่วยฉันด้วย...อย่ารออีกเลย...” เมฆีรีบทำตามคำกระซิบร้องขอของหญิงสาว เพราะเขาเองก็ถูกพิษไฟสวาทเล่นงานอย่างเต็มที่ ไม่อาจรอได้เช่นเดียวกัน ชายหนุ่มจับเรียวเท้ายาวให้แยกออกจากกัน แล้วค่อยดันแก่นกายแข็งขึงให้จมดิ่งเข้าสู่ความหวานฉ่ำที่รอรับอยู่แล้ว ทันทีที่ท่อนเนื้อลำใหญ่สัมผัสกับเยื่อบางๆ แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ต้องกัดฟันแน่น แช่แก่นกายอยู่นิ่งๆ เพื่อไม่ให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้ แก่นกายลำใหญ่ที่รุกรานเข้าสู่โพรงสวาท สร้างความเจ็บแปลบให้กับหญิงสาว จนต้องนิ่วหน้า หยาดน้ำตาเอ่อคลอเบ้าโดยไม่รู้ตัว “เจ็บนิดหนึ่งนะคนดี อีกสักครู่ก็ไม่เจ็บแล้ว” เมฆีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง เมื่อเห็นดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอเบ้า ก็รีบจุมพิตซับน้ำตา กระซิบปลอบเสียงอ่อนโยนทั้งๆ ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากรู้ว่าตนเองเป็นคนแรกที่ได้เข้าครอบครองหญิงสาว เมื่อเมฆีไม่ขยับกาย ยังคงกดแช่ความแข็งขึงอยู่กับโพรงสวาท ความเจ็บแปลบในก่อนหน้านี้ค่อยๆ จางหายไป ความวาบหวานกำซ่าน เริ่มเข้ามาแทนที่พร้อมกับการขยับโยกเคล้นคลึงอย่างช้าๆ จากชายหนุ่ม เมฆีเพิ่มจังหวะในการขยับกายโลดแล่นให้หนักหน่วงดุดัน ชายหนุ่มโจนจ้วงถอนแก่นกายลำใหญ่ออกจนเกือบพ้นจากโพรงสวาท จากนั้นก็กดโจนจ้วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า สูดปากคำรามลั่นด้วยความถูกใจ เมื่อหญิงสาวตอบรับท่วงทำนองเพลิงรักได้อย่างรุนแรงเร่าร้อนพอๆ กัน “วิเศษที่สุด คุณเก่งที่สุด สาวน้อย” ความคับแน่นของดอกไม้สวาทที่ตอดรัดแก่นกายลำใหญ่ทุกทิศทางขณะร่ายเพลิงสวาท ส่งให้เมฆีต้องครางเสียงกระเส่า ความเสียวซ่านซาซัดกระหน่ำรุนแรงจนเรือนกายสั่นสะเทิ้ม มือเล็กที่จิกแน่น แล้วรูดไปแผ่นหลังต่ำระเรื่อยเข้าหาสะโพกแข็งแกร่ง ก่อนจะบีบขย้ำตามอารมณ์รักที่พุ่งสูง ยิ่งทำให้เขากระสั่นซ่าน โลดแล่นโจนจ้วงเพลงสวาทหนักหน่วงดุดันมากกว่าเดิม หญิงสาวหวีดเสียงครางดังลั่น หายใจรัวเร็ว บิดกายเด้งสะโพกตอบรับทุกจังหวะการโรมรันรัก คลื่นความวาบหวาม เสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทุกหยดเลือด เรือนกายที่หล่อหลอมมาเพื่อเป็นของกันและกัน มอบความหฤหรรษ์หรรษาให้แก่กันอย่างถึงที่สุด เสียงครวญครางเพราะความสุขสมดังระงมทั่วห้อง เมื่อร่วมกันร่ายเพลงสวาท กระทั่งล่องลอยเข้าไปสัมผัสกับดวงดาวที่สุกสกาวเต็มท้องฟ้ากว้าง เมฆีนั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟากลางห้องนอนใหญ่ ดวงตาคมกริบทอดมองไปยังร่างบางระหงที่ยังคงนอนหลับลึก เพราะความอ่อนเพลียจากการโรมรันรักเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา “คุณเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงถูกไอ้จอนนี่หลอกไปขายได้” เมฆีพำพึมออกมา คำถามนี้วิ่งวนอยู่ในหัวสมองของเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ทว่าเขายังไม่มีโอกาสได้ถามหญิงสาวสักที แต่ไม่ว่าหญิงสาวจะเป็นใครมาจากไหน ตอนนี้เขายอมรับว่าติดใจในรสสวาทของเธอเป็นอย่างมาก ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาครางลั่นห้อง ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาอยากเมคเลิฟกับเธอเป็นครั้งที่สองและสามในชั่วเวลาแค่เพียงไม่กี่สิบนาที และเขาไม่เคยปล่อยให้เมล็ดพันธุ์หลั่งเข้าสู่ตัวผู้หญิงคนไหนมาก่อน เช่นเดียว กัน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เมฆีก็ลุกพรวดจากโซฟาพร้อมกับสบถลั่นห้อง “บ้าฉิบ! ลืมได้ยังไง” เมฆีกระแทกเท้าเดินออกจากห้องนอนอย่างรวดเร็ว ตรงไปหาลูกน้องคนสนิท เพื่อขอยาคุมกำเนิดจากอีกฝ่าย ที่มักจะมีติดตัวไว้เสมอ เพราะหงุดหงิดอารมณ์เสียกับการลืมตัวของตนเอง หลั่งเมล็ดพันธุ์เข้าสู่ตัวหญิงสาวจนหมดสิ้น ทั้งๆ ไม่เคยเป็นมาก่อน พอเดินมาถึงหน้าห้องของลูกน้องคนสนิท เมฆีก็ยกมือทุบลงไปบนประตูห้องรัวเร็วด้วยความใจร้อน พร้อมกับตะโกนเรียกพยศด้วย โครม...โครม... “พยศ นายอยู่ในห้องหรือเปล่า” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เมฆีก็ทุบประตูห้อง พร้อมกับตะโกนเรียกดังกว่าเดิม ตามอารมณ์โกรธที่กำลังปะทุเดือดในทุกนาที “ไอ้พยศ อยู่ไหน เปิดประตูเดี๋ยวนี้” เสียงทุบประตูห้อง กอปรกับเสียงตะโกนเรียกดังลั่น ทำให้คนที่กำลังนั่งจิบกาแฟพร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องอาหาร ต้องรีบโผล่หน้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นเจ้านายหนุ่มยืนอยู่หน้าห้องนอนของตนเอง ก็ตะโกนถามไปจากชั้นล่าง “เจ้านายครับ ผมอยู่นี่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” “มานี่ พยศ” เมฆีกวักมือเรียก ไม่อยากตะโกนบอกความต้องการของตนเองไปจากชั้นบน เพราะไม่อยากให้คนรับใช้คนอื่นๆ ได้ยินด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD